เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 435-436
ตอนที่ 435 เสียงคำราม
การต่อสู้กับสัตว์ปีกคราวนี้มันมิเหมือนกับผึ้งแคระที่บุกจู่โจมพวกเขาโดยตรงพวกมันมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือยึดเมืองและเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่ขวางหน้า การบุกโจมตีของมันจึงมิได้ซับซ้อนไม่หลบเลี่ยงใช้จำนวนพุ่งเข้าใส่เพียงอย่างเดียว
แต่ทว่าต่างกับค้างคาวปีกเหล็กพวกมันมิได้ต้องการยึดครองพื้นที่แต่อย่างใดสิ่งที่พวกมันต้องการคือโจมตีเข้าใส่ผู้บุกรุกรังของพวกมัน
ยิ่งกว่านั้นในจำนวนนั้นยังมีค้างคาวระดับหกเป็นกลุ่มแรกที่มุดออกมาจากปากถ้ำเบิกทางให้แก่เหล่าค้างคาวระดับสี่ที่ติดตามมาไม่ห่างกันนัก
ค้างคาวระดับหกที่มีสติปัญญาสูงนี้เองคอยส่งเสียงคล้ายสัญญาณให้แก่พักพวกของมันอีกด้วย
เมื่อพวกมันออกมาได้ล้วนบินสะเปะสะปะไม่รวมกลุ่มกันเป็นฝูง มันแตกแยกกระจัดกระจายออกไปคนละทิศทางทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นสำหรับผู้บุกรุก
ส่วนเหล่าทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมแม้จะเก่งกาจเพียงใดพวกเขาก็มิสามารถโจมตีพวกมันจากระยะที่ถูกเว้นห่างได้
แม้แต่ธนูยังมิสามารถเอื้อมถึงร่างของค้างคาวมีหรือทีมที่มีทักษะฝีมือหลักเน้นการโจมตีในระยะประชิดจะสามารถเอื้อมถึงพวกมัน
พวกเขาทำได้เพียงรอคอยจังหวะให้ค้างคาวเหล่านี้เล็งพวกมันเป็นเป้าหมายและพุ่งดิ่งลงมาให้พวกมันจัดการในระยะใกล้แทน ซึ่งนั่นนับว่าอันตรายยิ่งนัก
ทีมต่อสู้ทั้งสองทีมนี้เนื่องจากยืนประจำจุดเตรียมตัวทำงานที่ตนได้รับมอบหมาย พวกเขาจึงมิได้ตระเตรียมอาวุธของตนเองอย่างเพียบพร้อมมากนัก มีเพียงดาบสั้นที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
โล่เหล็กที่ได้นำมาออกด้วยนั้นถูกรวบรวมเก็บไว้เป็นที่ทางเพื่อมิให้เกะกะในขณะที่พวกเขากำลังทำงานกันอยู่ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีโล่เหล็กอยู่ในครอบครอง
นั่นเท่ากับว่าคนส่วนใหญ่มีเพียงอาวุธที่ใช้สำหรับโจมตีเท่านั้น ไม่สามารถป้องกันได้ พวกเขาต้องพึ่งฝีมือของตนเองในการหลบหลีกเอาชีวิตรอดจากการโจมตีที่รวดเร็วของค้างคาวปีกเหล็กให้จงได้
นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของฝูงค้างคาวยังมิใช่จำนวนทั้งหมดของพวกมัน
ดูคร่าวๆแล้วจำนวนค้างคาวพวกนี้มีเพียงร้อยถึงสองร้อยตัวเท่านั้นเอง
แต่จำนวนเพียงแค่นี้สามารถทำให้ชายฉกรรจ์เกือบสองร้อยคนตกอยู่ในความโกลาหลกลายเป็นฝ่ายที่ถูกล่าเสียเอง
มิอยากคิดหากค้างคาวที่หมดที่หลงเหลืออยู่ภายในถ้ำหลุดออกมาจนหมดพวกเขาคงไม่สามารถต้านเอาไว้ได้อีกเป็นแน่
ว๊ากกกก~
ฮู่มม~
ทันใดนั้นเองมีเสียงดังก้องกังวาลระเบิดขึ้นมา ระเบิดกระแสลมกรรโชกพัดต้นไม้ใบหญ้าทั่วบริเวณแนบลู่ลงกับพื้นดิน
มันมาจากชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณใจกลางสนามรบ สิ้นเสียงของมันค้างคาวสองตัวที่อยู่ใกล้ต้นตอของเสียงนั้นมากที่สุดดิ่งลงโหม่งพื้นตกตายลงไปทันทีทันควัน
เหล่าชายฉกรรจ์มองไปยังที่มาของเสียงที่ส่งออกมาทันที
พบเจอเข้าหลิวเจี่ยผู้นำทีมก่อสร้างที่ยืนตัวตรงเชิดอกสีหน้าแสดงออกถึงความพึงพอใจ มันใช้ทักษะราชสีห์คำราม!
ตอนที่ 436 เดือด
จากการใช้ทักษะราชสีห์คำรามของมัน มิค่อยแสดงผลออกมาได้ดีเท่าใดนัก
ผลลัพธ์ห่างชั้นกับหลินหยางลิบลับ
ค้างคาวที่อยู่ไกลห่างออกไปหน่อยพวกมันเพียงชะงักชะงันชั่วครู่เท่านั้นเพียงเสี้ยววิก็กลับมาโบยบินต่อไปราวกับมิมีสิ่งใดเกิดขึ้นไม่ได้รับผลกระทบมากนักเท่าใด
แต่ทั้งนี้การใช้ทักษะดังกล่าวของหลิวเจี่ยมิได้มีจุดประสงค์เพื่อโจมตีค้างคาวปีกเหล็กแต่เดิม เป้าหมายหลักในการใช้ทักษะดังกล่าวเพื่อต้องการดึงดูดความสนใจจากชายฉกรรจ์นับร้อยคนนี้ต่างหาก
ข้างกายหลิวเจี่ยมีเทียนหนิงเจี้ยนยืนอยู่ ไม่สนใจเลือดกำลังที่ยังมิหยุดไหลมันสูดหายใจลึกเข้าไปเต็มปอดจนทรวงอกพองออกมา
“นี่พวกแกมัวทำอะไรกันอยู่!!” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนสุดเสียงจนเสียงแหบแห้งเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอปูดโปน
“กำลังสู้อยู่เนี่ยไม่เห็นไง” หลิวไห่กล่าวขึ้นตอบกลับ
ตอนนี้มันเปลือยท่อนบนอยู่ ยามมันกัดแกว่งอาวุธเม็ดเหงื่อจึงผุดขึ้นมาบนร่างกายของมันทำให้กล้ามเนื้อมันวาวขึ้นสดุดตา
แต่มันเป็นภาพที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่สำหรับเหล่าพลทหารที่กำลังต่อสู้เคียงคู่ไปกับมัน
แทนที่จะเห็นภาพชายร่างสูงสองเมตรเปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อมัดโต สู้ให้พวกมันมองภาพสตรีที่ใส่เสื้อผ้าเต็มยศเสียดีกว่า
ขณะที่พูดคุยโต้ตอบกันอยู่นั้นการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไปมิสามารถหยุดมือได้ ค้างคาวปีกเหล็กพุ่งดิ่งโจมตีลงมาจากความสูงเมื่อโจมตีพลาดเป้าพวกมันก็วกกลับขึ้นไปบนจุดเดิม
ตอนนี้หอคอยที่พวกเขาสร้างขึ้นดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลยเพราะค้างคาวเหล่านี้ก็มิใช่โง่เง่าเมื่อมันทราบว่าหอคอยไม้ดังกล่าวสามารถโจมตีพวกมันได้จึงมิมีค้างคาวตัวใดเข้าใกล้ในระยะโจมตี
*ปึด*
หลังจากได้ยินคำตอบกลับที่ดูเหมือนจะไม่ผ่านการคัดกรองจากสมองของหลิวไห่แล้ว บนหน้าผากของเทียนหนิงเจี้ยนปรากฏเส้นเลือดนูนขึ้นมา ตอนนี้มันกำลังโกรธจัดเป็นฟืนเป็นไฟ
“ไม่ใช่โว้ย ทำไมพวกเอ็งไม่ทำตามแผนที่ได้วางเอาไว้ ฆ่ามันแบบนี้เมื่อไหร่พวกมันจะหมดละว่ะ!” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนพร้อมอารมณ์เดือดดาลของมัน
มันอยากจะผ่าสมองของไอพวกโง่เง่าเหล่านี้ดูสักคราว่าภายในนั้นมีสมองอยู่จริงหรือไม่ แต่บางทีคงจะเป็นขี้เลื่อยเสียส่วนใหญ่..
….
พวกมันแสดงสีหน้าเหมือนกับพึ่งระลึกได้ว่าตนเองมีภารกิจให้ต้องกระทำตามแผนที่ได้วางเอาไว้
พวกมันล้วนหมกมุ่นอยู่กับศัตรูเบื้องหน้าจนมิได้สนใจสิ่งรอบข้าง
พวกมันมัวแต่จัดการกับศัตรูจนหลงลืมไปว่าพวกมันได้วางแผนรับมือกับค้างคาวเหล่านี้เอาไว้แล้วเหลือเพียงการดำเนินตามแผนที่มันได้รับคำสั่งมาเท่านั้น
“กลับไปประจำจุดเดิมซะ!” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนออกคำสั่ง
“ทีมก่อสร้างแบ่งครึ่งหนึ่งใช้ธนูและหน้าไม้ อีกครึ่งใช้อาวุธระยะใกล้ไม่ว่าจะหอก ดาบ ขวานหรือค้อนแล้วแต่ที่ตนเองถนัดเข้าประกบคู่กับทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมหนึ่งต่อหนึ่งคอยคุ้มกันพวกมันจากค้างคาวปีกเหล็ก” เทียนหนิงเจี้ยนมิร่ำไร
มันตะโกนออกอย่างต่อเนื่องควบคุมกองทัพที่อยู่ไม่เป็นที่สะเปะสะปะนี้ด้วยตัวมันเอง
“รออะไรอยู่ ไปทำหน้าที่ของตนสิวะ” เทียนหนิงเจี้ยนตะโกนโหวกแหวกตอนนี้อารมณ์ของมันเดือดปุดๆแล้ว