เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 443-444
ตอนที่ 443 ผสมผสาน
ฉึกก~
ฉึบ~
“เร็วเข้า!” หลิวไห่และมนุษย์อีกคนก้าวขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนกองค้างคาวกองนี้ เพื่อเพิ่มระยะโจมตีของตนให้สามารถปกป้องร่างของมนุษย์หมาป่าทั้งสองตนได้อย่างปลอดภัย
ส่วนขาอีกข้างของพวกเขายังคงเหยียบยึดติดอยู่บนมุมตาข่ายทั้งสองด้านมิเปิดช่องว่างให้มอนสเตอร์ภายในหลุดออกมาได้
ฮึบ~
ย๊ากก~
มนุษย์หมาป่าสองตนตะเบ็งเสียงออกแรงดันส่งมุมบนของตาข่ายแนบไปบนพื้นแทรกผ่านกองค้างคาว
พวกมันออกแรงสุดฤทธิ์เพื่อทำภารกิจให้จบลงโดยไวที่สุด ใช้เวลามินานมุมตาข่ายทั้งสองด้านก็ถูกส่งข้ามฝากมาจากอีกฝั่ง
ตอนนี้ค้างคาวนับร้อยจึงถูกห่อหุ้มด้วยเถาวัลย์ทั้งผืนอย่างแท้จริงพวกมันเบียดเสียดแออัดกันจนเป็นก้อนกลม บางตัวก็ถูกปีกของพวกพ้องของตนทิ่มแทงเสียชีวิตอย่างน่าสลด
“ไป!” หลิวไห่ตะโกนก้องพร้อมกับเก็บดาบลงทันควันใช้สองมือประกบส่วนบนและล่าง
มนุษย์อีกหนึ่งภายในกลุ่มมิรอช้ามันทำตามโดยพลันยึดตาข่ายทั้งแผงทบกันแนบมิดชิดมิเหลือช่องว่างให้แทรกเข้าไปได้อีก
พวกมันทั้งสองลากตาข่ายทั้งแผงเดินต้วมเตี้ยมออกไปจากถ้ำอย่างช้าๆ โดยมีมนุษย์หมาป่าสองตนถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
เนื่องจากหลิวไห่และมนุษย์อีกคนนั้นจำเป็นต้องใช้พละกำลังมหาศาลในการลากตาข่ายที่มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งตัน
พวกมันจึงทุ่มเทใช้กำลังทั้งหมดเพื่อเคลื่อนย้าย
ด้วยเหตุนี้หากมิมีคนคอยคุ้มกันหลังให้นั่นเท่ากับว่าพวกเขาเปิดช่องว่างให้ศัตรูเข้าโจมตีได้อย่างง่ายดาย และผู้ที่คอยระวังหลังให้นั้นคือหมาป่าทั้งสองตนนั่นเอง
ตอนนี้มนุษย์หมาป่าทั้งสองถือดาบสั้นในมือ พวกมันทั้งสี่คนนั้นสลับสับเปลี่ยนกันไปมาผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสองเผ่าพันธุ์ นับว่าเป็นคู่ที่สร้างสรรค์มาเพื่อกันและกันโดยแท้
พวกมันทั้งสองฟาดฟันอาวุธในมือบนอากาศด้านหน้าเป็นพัลวันพลางถอยล่นกลับอย่างเชื่องช้า ด้วยความรวดเร็วที่มันมีนั้นด้อยกว่าหลินหยางเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมรบจึงมิใช่ปัญหาสำหรับค้างคาวฝูงใหญ่ที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ลดละ
ค้างคาวที่หมายจะโจมตีบุกฝ่าเข้ามานั้นล้วนหยุดชะงักมิสามารถไปต่อได้ เพราะมนุษย์ทั้งสองฟันดาบมั่วซั่วบนอากาศไปมา ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แม้บางคราจะมีช่องโหว่จากการฟันดาบมั่วๆของทั้งสองนี้
แต่ค้างคาวปีกเหล็กก็มิกล้าเสี่ยงบินฝ่าคมดาบเข้าไปหาพวกเขา จะมีก็เพียงแต่บางตัวที่โง่เง่าเกินแกงเท่านั้นที่บินสุ่มมิรู้เหนือรู้ใต้ส่งร่างของตนฝ่าดงดาบมรณะ
แคว๊กก~
ครืดดด~
เสียงที่ส่งออกมาจากการกระทำของผู้บุกรุกทั้งสี่ดังขึ้นมา
มันเป็นเสียงร้องโหยหวนของค้างคาวที่ถูกพันธนาการอยู่ภายในถูกเสียดสีไปกับพื้นถ้ำ
มีค้างคาวค่อยๆตกตายลงไปหลังจากถูกบดขยี้โดยพักพวกของตนทับถมจนร่างกายเละเทะ
ตอนนี้ส่วนร่างของตาข่ายผืนนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือดทั้งสดใหม่และแห้งกรังผสมปนเปกันอยู่
มันมาจากเลือดสดๆของค้างคาวปีกเหล็กที่ร่างกายแหลกสลายและเลือดของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีอยู่ก่อนแล้วจนถึงนี้ผิวของทะเลเลือดเริ่มแข็งตัวบ้างแล้ว
ตอนที่ 444 เสียง
หลิวไห่และมนุษย์อีกคนทำการเคลื่อนย้ายแผงตาข่ายมุ่งหน้าสู่ทางออกอย่างราบรื่นมิมีสิ่งใดกีดขวาง
จะมีก็เพียงน้ำหนักที่มากกว่าหนึ่งตันทำให้การเดินทางของพวกมันช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลาน แม้จะห่างจากปากถ้ำมิถึงสิบเมตรก็ตามที
ตอนนี้พวกมันเข้าใกล้ทางออกมากขึ้นเรื่อยๆอีกเพียงมิกี่ก้าวเท่านั้นก็จะสามารถกลับออกไปได้อย่างลุล่วงปลอดภัยไร้บาดแผล นับว่าการทำงานของพวกมันทั้งสี่สำเร็จได้อย่างงดงามเลยทีเดียว
ตุบ~
‘หือ?’ มนุษย์หนึ่งนายที่ประกบคู่กับหลิวไห่ส่งเสียงแห่งความประหลาดใจบางเบา
พลางหันศรีษะไปมองแผงตาข่ายด้านหลังของตนด้วยความฉงน เพราะบัดนี้มันมิสามารถลากตาข่ายทั้งผืนไปได้ราวกับสิ่งที่มันกำลังออกแรงดึงอยู่นั้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเกือบสองเท่า
มิต่างจากหินก้อนใหญ่ที่ปักหลักอยู่มานับร้อยปีจนเชื่อมติดกับผืนดินไปแล้ว
“!?” ทันใดนั้นเองมันล่วงรู้สาเหตุที่ทำให้ตาข่ายทั้งผืนหนักขึ้นทันที เพราะหลิวไห่ยืนนิ่งอยู่กับที่มิขยับเคลื่อนที่
ส่วนมุมที่หลิวไห่เป็นผู้จับลากดึงนั้นหย่อนยานลง นั่นแสดงว่ามันมิได้ออกแรงเพื่อดึงตาข่ายผืนนี้เลย!
“หลิวไห่!! เอ็งหยุดทำไม?” มนุษย์คนนั้นตวาดหลินไห่เสียงดัง
ทางออกของพวกมันอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้นมิกี่ย่างก้าวก็สามารถกลับออกไปนั่งจิบน้ำชาสบายใจเชิบแล้ว
“ข้าว่าพวกเราทำไม่ถูกว่ะ พวกเราควรไปช่วยพี่หยางก่อนมิใช่หรือ?” หลิวไห่กล่าวถามด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว
ในตอนที่เริ่มทำตามแผนตั้งแต่เริ่มเข้าถ้ำมานั้น แม้จะพยายามไม่คิดถึงมากเท่าใด
แต่ความคิดแปลกประหลาดยิ่งถาโถมเข้ามามากกว่าเดิมกวนใจมันซ้ำไปมาจนสติมิอยู่กับเนื้อกับตัว
“นี่แกโง่หรือไง พี่หยางบอกแล้วมิใช่หรือว่ามีแผน แล้วแกเองก็เป็นประชากรดั้งเดิมของเมืองพี่หยางมิใช่หรือไง? ถ้ามีคนเสียชีวิตมันก็ต้องแจ้งเตือนแกแล้ว นั่นแสดงว่าตอนนี้พี่หยางยังมีชีวิตรอดปลอดภัยอยู่” ชายคนนั้นกล่าว
‘!’ หลิวไห่ยืนมองมันด้วยตกใจ
“ม-มีอะไร?” ชายคนนั้นมองตอบด้วยความฉงนแปลกใจกับสายตาของหลิวไห่ที่มองมันด้วยใบหน้าตื่นตกใจราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ
“ไม่คิดว่าเอ็งจะฉลาดขนาดนี้ ทำข้าตกใจเลยนะเนี้ยฮ่าๆๆ” หลิวไห่หัวเราะร่า
ตอนนี้มันสบายใจลงแล้ว
เป็นดั่งที่มนุษย์คนนี้กล่าวขึ้นมา
มันเองก็เป็นสมาชิกดั้งเดิมของเมืองหลินหยาง
หากหลินหยางตกตายลงไปจริงแน่นอนย่อมมีเสียงหวานใสแจ้งเตือนให้แก่มันเป็นแน่ เพราะทุกคราที่มีคนเสียชีวิตนั้นไม่มีเลยสักครั้งที่จะมิได้ยินเสียงแจ้งเตือน
แต่ทว่าจนถึงบัดนี้มันยังมิได้ยินเสียงดังกล่าวเลยเพียงนิด เท่ากับว่ามันสามารถยืนยันปัดความคิดแย่ๆที่เคยคิดฟุ้งซ่านไปหมดสิ้น เพราะตอนนี้หลินหยางยังคงมีชีวิตอยู่นั่นเอง
ปึดด~
มีเส้นเลือดปูดขึ้นบนกล้ามแขนทั้งสองและหน้าผากของมนุษย์คนนั้น
นั่นเท่ากับว่าเจ้านี่กำลังบอกว่าตลอดมานี้มันโง่งั้นหรือ?
หากเป็นเทียนหนิงเจี้ยนผู้ใช้มันสมองในการทำงานว่ามันเช่นนี้คงไม่กระดากปากอันใด
ทว่าเมื่อมันมาจากปากของหลิวไห่ที่สมองมีแต่กล้ามเนื้อ ยามได้ฟังมันมิรื่นหูกับคำชมนี้เลยกลับทำให้อารมณ์ของมันยิ่งเดือดแทบปะทุ อยากจะเข้าไปฟัดกับเจ้าสมองกล้ามนี่สักครา…