เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 467-468
ตอนที่ 467 โล่งอก
ชายคนนี้เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แม้ต้นเสียงจะอยู่ใกล้หูห่างกันคงมิถึงสองถึงสามเมตร แต่ทว่าจนถึงบัดนี้หลินหยางก็ยังมิเห็นตัวตนของมันเลยเสียด้วยซ้ำ
แม้แต่พื้นที่เขานอนอยู่นี้ก็ยังมองมิเห็น มิทราบสถานที่แห่งนี้มันอยู่จุดใดในโลก มันทำให้เขาอดสงสัยมิได้เสียจริง
ตามจริงมันมิสมควรมืดมิดเกินไปเช่นนี้ แม้หากเป็นกลางคืนก็สมควรต้องมีแสงจันทร์สอดส่องลงมาบ้าง
แต่เท่าที่เขาจำได้ช่วงเวลาที่เขาเผชิญหน้ากับกลุ่มค้างคาวอยู่ในช่วงเช้าของวันเสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งเขาหมดสติไปแม้จะไม่ทราบระยะเวลาที่หมดสติอันแน่นอน
แต่บวกลบคงมิเกินยามบ่ายไปมากเท่าใด ทำให้สถานที่ปัจจุบันแปลกประหลาดน่าสงสัยมากยิ่งขึ้นนับทวีคูณ
“ที่นี่ที่ไหนหรอ” หลินหยางกล่าวถาม
‘เงียบไว้’ เสียงที่ตอบกลับมามิได้ไขข้อข้องให้แก่หลินหยาง มันกลับบอกให้เขาเงียบเชียบลงเสียนี่
ครืดด~
ชายคนนั้นคืบคลานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
‘เมืองนายอยู่ไหน?’ ชายคนนั้นกระซิบกระซาบกล่าวกับหลินหยาง
นี่ทำเขาให้ตกใจแทบสะดุ้ง เพราะเสียงกระซิบดังกล่าวนั้นมันใกล้กับเขามากยิ่งนัก
ตัวเขาและมันห่างกันมิถึงหนึ่งศอกเสียด้วยซ้ำ แต่เขายังมิเห็นตัวมันดังเคย นี่มันยิ่งแปลกประหลาดเสียจริง
‘มิใช่ว่า…’ หลินหยางครุ่นคิดพลางตกใจรีบฝืนยกแขนที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาลูบคลำใบหน้าของตนก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาคิดว่าตนเองจะตาบอดแล้วเสียอีก แท้จริงแล้วกับเป็นสถานที่แห่งนี้ต่างหากที่มันไร้แสงเดือดแสงตะวันสอดส่อง
หากคิดดูแล้วมันมืดมิดเสียยิ่งกว่าภายในถ้ำค้างคาวปีกเหล็กยิ่งนักเพราะแม้จะไร้แสงอาทิตย์เขาก็ยังสามารถจะมองเห็นได้ในระยะหนึ่งถึงสองเมตร
แม้จะไม่แจ่มชัดมากก็ตามที แต่ตอนนี้เพียงแค่ครึ่งเมตรเขาก็ยังมิสามารถจดจ่อมองเห็นสิ่งใดได้เลย
‘..’ หลินหยางมิทราบจะบอกมันเช่นไรดี เพราะเขาเองก็มิทราบเช่นกันว่าสถานที่ตั้งของเมืองตนนั้นอยู่จุดใดในโลก
‘แล้วเมืองคุณล่ะ?’ หลินหยางตั้งคำถามกลับไปแทน
‘เมืองข้าอยู่เยื้องไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของถ้ำนี้แปดกิโล’ ชายคนนั้นกล่าวตอบ
‘ถ้ำ!?’ หลินหยางตกใจ
‘ถ้ำไหน’ เขารีบกล่าวถามทันที
‘อะไรกันนี่เจ้าไม่รู้หรอกหรือ?’ ชายคนนั้นกล่าว
‘ฮ่าๆ มีคนโชคร้ายยิ่งกว่าข้าอีกหรือนี่ เจ้านี่ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าถูกค้างคาวจับมา’ มันกล่าวต่อพลางหัวเราะบางเบา
‘ถ้ำค้างคาว’ หลินหยางคิดได้ทันที จากคำตอบของมันแสดงว่าตอนนี้เขาก็ยังคงติดอยู่ภายในถ้ำค้างคาว และสถานที่ที่มืดมิดแห่งนี้เองก็คงเป็นส่วนหนึ่งภายในถ้ำค้างคาวเป็นแน่
‘อ๊ะ! คุณบาดเจ็บหรือเปล่า?’ หลินหยางกล่าวถามราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้
‘เปล่าข้าไม่ได้บาดเจ็บ’ ชายคนนั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงดูเป็นมิตร
‘งั้นคุณช่วยพาผมออกไปจากถ้ำนี้หน่อยได้ไหม?’ หลินหยางกล่าวจุดประสงค์ออกมาด้วยความคาดหวัง หากชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บละก็คงมิมีประโยชน์ที่จะให้มันช่วยเหลือเขาแต่อย่างใด
‘…’ มันเงียบเสียงไปไร้คำพูดตอบกลับ
บางทีมันอาจจะนึกดีใจอยู่ที่หลินหยางกล่าวถามสุขภาพมันด้วยความเป็นห่วง แต่ไฉนกลับกลายเป็นว่าหลินหยางกลับต้องการให้มันเป็นพาหนะแบกร่างเขากลับออกไปเสียนี่…
ตอนที่ 468 มืดบอด
‘เอ็งนี่ไม่ดูสถานการณ์เลยนะ ไม่ต้องหวังว่าจะให้ข้าพาเจ้าออกไป เพียงลำพังข้าคนเดียวยังมิรู้ว่าจะกลับออกไปได้หรือเปล่า’ ชายคนนั้นกล่าว
‘ตอนนี้พวกเราทำได้แค่นับเวลาถอยหลังภาวนาให้รายต่อไปมิใช่ตนเท่านั้น ถึงแม้สุดท้ายแล้วเราก็ต้องตายอยู่ดีก็เถิด’ มันกล่าวต่อน้ำเสียงของมันหม่นหมองลงเล็กน้อย
‘รายต่อไปอะไรหรอ?’ หลินหยางกล่าวถาม
‘ก็เจ้านั่นไง’ ชายคนนั้นกล่าวพลางเบ้ปากชี้ไปยังทางนึง
‘หืม? อะไรหรอ’ หลินหยางกล่าวถามด้วยความสงสัย
เขามองไปตามที่มันชี้เป้า เขาก็เห็นเพียงแต่ความมืดมิดมิสิ้นสุดเท่านั้น มิพบสิ่งใดเลยแม้แต่เพียงนิด
‘นี่เอ็งไม่เห็นไอ้ตัวนั่นหรือไง’ ชายคนนั้นเอ่ยด้วยความสงสัย มันค่อยๆยื่นแขนเข้ามาหาหลินหยางอย่างช้าๆและแล้ว…
‘!?’ หลินหยางสะดุ้งตกใจกับสิ่งแปลกปลอมบางอย่างที่สัมผัสใบหน้าของตน แต่ตัวเขาบัดนี้ทำได้เพียงแสดงอาการบ่งบอกความรู้สึกเท่านั้น มิหลีกหนีขยับตัวหลบจากสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวได้
‘นี่เอ็งตาบอดหรอกหรือ?’ ชายคนนั้นกล่าวน้ำเสียงของมันแฝงไปด้วยความแปลกใจ
สิ่งที่ลูบคลำใบหน้าหลินหยางอยู่นั้นก็คือมือของชายคนนี้นั่นเอง มันกำลังลูบไล้ดวงตาของเขาทั้งสองข้างสลับไปมาด้วยความฉงน มันใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เบิกเปลือกตาหลินหยางจนอ้ากว้าง เขาทำได้เพียงแค่นอนนิ่งให้มันทำตามใจเท่านั้นมิสามารถขยับตัวได้
‘โธ่ ชีวิตเอ็งนี่ช่างน่ารันทดเสียจริง ตาบอดยังมิพอ ต้องมาตายทั้งที่ยังมิรู้ความอีก’ ชายคนนั้นดึงมือกลับถอนหายใจ
คล้ายกับว่าแสดงออกถึงความสงสารอาทรแก่หลินหยางที่ถูกค้างคาวปีกเหล็กจับตัวมาโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสียด้วยซ้ำ
‘หือ? ใครตาบอด ผมไม่ได้ตาบอด!’ หลินหยางกล่าว ยามที่ชายคนดังกล่าวยื่นมือมาอยู่เหนือดวงตาของเขานั้น
เขาก็ยังสามารถมองเห็นมือของมันได้ แม้จะเลือนลางก็เถิด แต่นั่นก็เพียงพอที่จะยืนยันว่าเขายังมิได้ดวงตามืดบอดไปแต่อย่างใด
‘โถๆๆ’ ชายคนนั้นมิสืบสาวว่าความต่อมันส่งเสียงเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนมันจะคิดว่าหลินหยางมิยอมรับความพิกลพิการของตนจึงปฏิเสธเสียงแข็ง ทำให้มันอดรู้สึกสงสารมากกว่าเดิมมิได้
‘…’ นั่นทำให้หลินหยางแทบพูดมิออกเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อครู่ชายคนนี้บอกว่า ‘ไอ้ตัวนั่น’ ทำให้เขาเกิดความฉงนสงสัยขึ้นมา เจ้าตัวนั้นที่มันกล่าวถึงคือสิ่งใด? หากคิดไตร่ตรองดูแล้วเขาก็ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืดมิด แม้แต่ตัวของชายคนนี้เขายังมองมิเห็นเสียด้วยซ้ำ
หรือว่าการมองเห็นของมันจะดีมากกว่าเขางั้นหรือ? นั่นเป็นไปไม่ได้ที่มันจะสามารถมองได้กว้างไกลกว่าตัวเขา
นอกเสียจากว่ามันจะมีทักษะที่เพิ่มการมองเห็นอันแปลกประหลาดจนทำให้มันมองเห็นในที่มืดได้อย่างชัดเจน หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าดวงตาของตัวเขาเองนั้นมีปัญหาอะไรบางอย่างจึงทำให้มิสามารถมองเห็นได้ตามปกติได้…