เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 469-470
ตอนที่ 469 สิ้นชีวี
ยิ่งชายคนนี้กล่าวมากความขึ้นเท่าใด ความคิดที่มิสมควรมีอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้เขาอยากจะรีบวิ่งออกไปยืนกลางแจ้งจ้องมองพระอาทิตย์ให้เต็มให้ทั้งสองตายิ่ง
‘เจ้าตัวนั้นที่ว่า มันคืออะไรหรอ’ หลินหยางกล่าวถาม
ตอนนี้เขาต้องรับรู้สภาพแวดล้อมที่อยู่ปัจจุบันเสียก่อน รวมถึงจุดประสงค์ที่ตัวเขายังมิได้ตกตายไปด้วย
ซึ่งตามปกติแล้วสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายในยามที่ต่อสู้และศัตรูของมันพลาดท่าเสียทีหมดหนทางหนีไร้การป้องกัน
แน่นอนสัตว์ประหลาดเหล่านั้นคงไม่รีรอที่จะลุมเข้ามาขย้ำคอหอยของเขาให้ขาดวิ่นในพริบตา
แต่ตอนนี้มิใช่เพียงเขาจะมีชีวิตอยู่เท่านั้น ยังมีผู้รอดชีวิตอีกคนกำลังอยู่ดีมีสุขสนทนากับเขาอยู่ด้วย รวมถึงเสียงร้องก่อนที่จะได้พบกับชายคนนี้ นั่นแสดงว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกนอกจากมัน
‘เจ้าตัวนั้นงั้นหรือ…มันคือสัตว์ประหลาด!’ ชายคนนั้นกล่าวใบหน้าหม่นหมอง
‘สัตว์ประหลาดที่มิสมควรมีอยู่ในโลกนี้ มันเพียงตัวเดียวก็เพียงพอจะทำลายเมืองนับสิบเมืองได้อย่างง่ายดาย เพราะงั้นเอ็งมิต้องคิดหาทางรอดหรอก แค่ภาวนาให้มันมิเลือกเป็นรายต่อไป หรือบางทีให้มันเลือกก่อนก็ดีเหมือนกันจะได้หลุดพ้นจากความสิ้นหวังนี้เสียที…’ ชายคนนั้นกล่าว
ส่วนท้ายของคำกล่าวมันนั้นเบาบางจนแทบมิได้ยิน
‘ทำลายเมืองได้ด้วยตัวเดียว…’ หลินหยางคิดภาพตาม
บัดนี้ภาพที่วาดฝันเอาไว้คงเป็นสัตว์ประหลาดตัวยักษ์คล้ายคลึงกับนางพญามดไฟขนาดมหึมาหรือบางทีอาจจะมีขนาดใหญ่กว่าก็เป็นได้
สัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตเช่นนั้นภายในถ้ำค้างคาวแห่งนี้เขาเองก็ยังมิเคยพบเห็นแต่อย่างใด แต่หากคิดตามลำดับขั้นแล้วมันคงจะเป็นผู้นำของเหล่าค้างคาวมิใช่หรือ?
นั่นมิเท่ากับว่าตอนนี้เขาอยู่ส่วนลึกภายในถ้ำค้างคาว?
แต่ว่าครั้งนึงเขาเคยเข้ามาสำรวจส่วนในสุดของถ้ำแห่งนี้แล้วกับเจียวซิ่นมนุษย์หมาป่าหนุ่ม ในครานั้นพวกเขาเดินทางอย่างราบรื่นจนสุดเส้นทางก็พบพานเพียงแต่ถ้ำที่ใหญ่โตโอ่อ่าคล้ายคลึงกับรังนางพญามดเท่านั้น
หากมันมีสัตว์ประหลาดตัวยักษ์อาศัยอยู่จริงตามที่มันเล่าละก็คงมิต้องรอให้พวกเขาได้ก้าวเดินจนกลับออกไป เพียงแค่ชำเลืองสายตามองก็คงจะพบเห็นตัวของมันแล้ว
“ออกไป! อย่ามาเข้า..” จู่ก็มีเสียงสตรีนางหนึ่งตะโกนขึ้นมากลบความเงียบงันดังสะท้อนกึกก้องไปมาจนแสบแก้วหู
“อย่าาา!!” เสียงของสตรีนางนั้นตะโกนโหวกเหวกไม่หยุด ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาล้มลุกคลุกคลาน ซึ่งต้นตอของเสียงนั้นก็มาจากตัวเธอนั่นแล คล้ายกับเธอกำลังหนีจากบางอย่างที่กำลังคุกคามชีวิตของเธออยู่
กรี๊ดดด~
‘หือ? เกิดอะไรขึ้น’ หลินหยางกล่าวถามอย่างตกใจ เสียงที่ได้ยินนั้นช่างน่าเวทนาสงสารยิ่งนัก เธอกรีดร้องจนสุดเสียงราวกับว่าใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตน
‘ม-มันเริ่มอีกแล้ว’ ชายคนนั้นกล่าวด้วยใบหน้าแตกตื่นกระวนกระวาย หากหลินหยางมองเห็นมันตอนนี้จะพบว่ามันนอนคว่ำอยู่กับพื้นพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างกุมศรีษะของตนเอาไว้ ร่างกายของมันสั่นงันงก ดูแล้วมันคงหวาดกลัวยิ่งนัก
ฟึบบ~
ฉั๊วะ~
มีเสียงเกิดขึ้นมาบางเบา เป็นเสียงที่ตัวเขานั้นคุ้นเคยยิ่งนัก มันคล้ายกับตอนที่เขากวัดแกว่งดาบสั้นหรือดาบยาวฟันใส่สิ่งมีชีวิต
อ่อกก~
สตรีนางนั้นส่งเสียงเฮือกสุดท้ายออกมาบางเบาก่อนจะเงียบหายไปไม่มีสิ่งใดหลุดออกมาจากปากของเธออีก เธอตายแล้ว!
ตอนที่ 470 อาหาร(ตอนต้น)
‘!’ หลินหยางตกใจกับเสียงที่ได้ ด้วยการที่เขามิสามารถมองเห็นได้จึงมิทราบถึงสาเหตุและต้นตอ ไม่เห็นกระทั่งสตรีคนดังกล่าวหรือแม้แต่สิ่งที่ปลิดชีพของเธอไป
‘น-นี้เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น’ หลินหยางกล่าวถาม
‘ม-มันฆ่าเธอไปแล้ว’ ชายคนนั้นกล่าวตอบน้ำเสียงของมันสั่นเครือบ่งบอกถึงความหวาดกลัวที่มันมีต่อสิ่งนั้น
‘เจ้าตัวนั้นหรือ?’ หลินหยางกล่าวถามถึงตัวที่มันกล่าวขึ้นมาก่อนหน้านี้
‘ช-ใช่ เหวออมันกำลังกิน..’ ชายคนนั้นกล่าวรีบหดหัวกลับซุกพื้นทันที
‘…’ เห็นเช่นนี้หลินหยางมิทราบจะพูดสิ่งใดต่อ ชายคนนี้มันขี้ขลาดตาขาวเสียจริง เกิดมาเขายังมิเคยพบเห็นใครที่ตัวสั่นอย่างรุนแรงเพราะความหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อน มือของเขาที่สัมผัสมันเองยังถึงขั้นสั่นไปตามร่างกายของมันเสียด้วยซ้ำ..
เหวออ~
มีเสียงร้องหลงจากชายคนนึงดังขึ้นมาแว่วๆ ตามมาด้วยเสียงการเคลื่อนที่ เสียงดังกล่าวมุ่งตรงมาทางหลินหยางอย่างรวดเร็ว ทั้งล้มลุกคลุกคลานอย่างทุลักทุเล
พรืดด~
ก่อนที่มันจะเข้ามาถึงร่างของมันได้ไถลไปกับพื้นเลยจุดที่พวกเขาอยู่ไปเล็กน้อย
ฮือออ~
จู่ๆมันก็ปล่อยโฮออกมา ร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังด้วยความหวาดกลัว
‘อะไรน่ะ?’ หลินหยางยังตกอยู่ในความสับสนงงงวย เขาเพียงแต่ได้ยินเสียงมิได้เห็นภาพดังกล่าวด้วยตนเอง
‘เจ้าบ้าแกอยากตายรึไง!’ ชายผู้อยู่ข้างกายหลินหยางตะคอกใส่มันทันทีใบหน้าของมันแสดงออกถึงความเดือดดาล
‘…’ มันนึกขึ้นได้หยุดร้องไห้ลงโดยพลันใช้มือทั้งสองข้างประกบแนบแน่นปิดปากของตนไว้เงียบสนิท
‘มีอะไรกัน’ หลินหยางกล่าวถาม ตอนนี้เขายังประติดประต่อเรื่องราวมิได้
‘เจ้าโง่นี่จะพาเราซวยกันเสียหมด’ ชายคนนั้นกล่าว ตอนนี้มันกลับสู่สภาพปกติแล้วมิได้ตัวสั่นงันงกดังเก่า
มันผงกหัวขึ้นเล็กน้อยมองมายังหลินหยางด้วยความสงสัย เพราะอุปนิสัยของมนุษย์แล้วหากเกิดความกลัวในสถานที่ที่ไร้ทางหนีเช่นนี้ละก็พวกเขาจะหมอบคว่ำหน้าลงกับพื้น
แต่หลินหยางกลับนอนหงายมิได้สั่นกลัวเหมือนคนอื่นๆ เขาเหมือนคนกำลังนอนพักผ่อนหย่อนใจเสียมากกว่า ช่างมิเหมาะกับสถานที่ปัจจุบันเอาเสียเลย
‘ก-ก็เจ้าปีศาจนั่นนะสิ…’ ชายคนนั้นเล่ารายละเอียดให้แก่หลินหยางฟัง
เมื่อครู่นี้สตรีผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นเธออยู่ใกล้กับมันเพียงแค่เอื้อม โชคดียิ่งนักที่สัตว์ประหลาดมิได้เลือกมันเป็นเป้าหมายจึงสามารถรอดชีวิตมาได้หวุดหวิด พื้นที่ระหว่างมันและเหยื่อนั้นอยู่ห่างกันมิมาก
มันจึงเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้าปีศาจนั้นกระทั่งตัดแขนของเธอออกมา โจมตีใส่ร่างกายของเหยื่อจนเป็นแผลเหวอะหวะน่าสยดสยอง
ซ้ำร้ายสตรีผู้น่าสงสารกลับยังมีชีวิตอยู่ค่อยๆรับรู้ความเจ็บปวดที่มันเป็นผู้มอบให้ กระทั่งกัดกินร่างกายของเธออย่างช้าๆ ท้ายสุดแล้วกว่าเธอจะสิ้นชีวีก็ยามที่สิ่งมีชีวิตตนนั้นบั่นคอเธอขาดออกจากกัน