เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 489-490
ตอนที่ 489 ท้าวความ(ตอนสี่)
โชคดียิ่งนักที่สวรรค์มิได้กลั่นแกล้งพวกมันเพราะฝูงสัตว์ประหลาดที่พวกมันโรมรันต่อสู้ด้วยครานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่มีเพียงระดับหนึ่ง
หากเป็นสัตว์ประหลาดระดับสูงละก็พวกมันคงตกตายไปจนสิ้นตั้งแต่บัดนั้นแล้ว
ด้วยการเข้าไปจู่โจมพวกมันโดยมิได้คิดคำนึงถึงความเป็นจริงของพวกมันนี้ กลับมีผู้ตกตายลงด้วยการโจมตีของสัตว์ประหลาดระดับต่ำนั้นไปถึงสามชีวิตเลยทีเดียว
เนื่องจากร่างกายที่แทบจะมิต่างจากซากศพเดินได้ของพวกมัน
ทำให้มิมีเรี่ยวแรงเหลือหลอให้กวัดแกว่งท่อนไม้ทุบตี แม้แต่สัตว์ระดับต่ำก็มิสามารถต่อกรได้และการสูญเสียพักพวกไปสามชีวิตมิได้ทำให้ความรู้สึกของพวกมันแปรเปลี่ยนไปจากเดิมเลย พวกมันยังต่อสู้แลกชีวิตอย่างบ้าคลั่งกับสัตว์ประหลาดทั้งกลุ่ม
เมื่อการต่อสู้จบลง เหล่าชายฉกรรจ์ที่เหลือรอดอยู่เพียงห้าชีวิตนั้นกลับดีอกดีใจยกใหญ่เมื่อเห็นเหรียญสีดำที่พวกมันใฝ่ฝันต้องการครอบครองตกอยู่ข้างกายสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด
ทั้งที่ร่างไร้วิญญาณของพวกพ้องก็นอนอยู่ไม่ห่างจากจุดนั้นมากนัก แต่เหรียญสีดำดังกล่าวกลับมีน้ำหนักความสำคัญมากกว่าสหายร่วมเป็นตายเสียอีก…
แล้วสิ่งแรกที่พวกมันทำคือรวบรวมเหรียญสีดำดังกล่าวนำไปแลกหาอาหารกับเมืองเก่าแก่ที่รู้คุณค่าของเงินตรา
อิทธิพลของเหรียญดำเหรียญเล็กๆนี้ทำให้พวกมันหลงระเริงไปกับอำนาจเงินอย่างฉุดไม่ขึ้น
พวกมันใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือยซื้อทุกสิ่งอย่างที่ต้องการ ใช้เหรียญเงินกว่าครึ่งพันเพื่อซื้อทาสชายหญิงสร้างกองกำลังก่อตั้งเมืองใหม่
หลังจากที่ตกเป็นเมืองร้างอันเลวร้ายมาเนิ่นนานก็ถือกำเนิดเมืองใหม่อันเจริญรุ่งเรือง ใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญใจไม่ร้อนรน
หากมันทราบคุณค่าของเงินตราตั้งแต่แรกเริ่ม มันคงมิกระทำการโง่เง่าอย่างบุกโจมตีเมืองที่ใหญ่โตกว่ามันเพื่อแย่งชิงสตรีเพียงหนึ่งสอง
เมื่อเวลาผ่านไปอาหารที่ใช้เงินแลกมานั้นเริ่มหมดมิพอแจกจ่ายให้แก่พลเมือง
เงินที่ได้มาจากการปราบปรามสิ่งมีชีวิตที่พบเจอโดยบังเอิญในครานั้นเริ่มร่อยหรอหมดไป
แต่ตอนนี้พวกมันมิจำเป็นต้องอดอยากอีกแล้วเพราะมีแหล่งขุมทรัพย์สักแห่งในโลกที่รอคอยให้มันไปกอบโกยอยู่
ทว่าพวกมันยังมิเคยพบเจอถ้ำขุมทรัพย์ที่ใฝ่ฝันหาเลยสักครา เงินที่หามาได้นั้นล้วนแล้วแต่ได้มาจากเหล่าสัตว์ประหลาดที่เกาะกลุ่มเดินทางกันมุ่งหน้าไปโจมตียังเมืองสักแห่ง
ซึ่งส่วนใหญ่เป้าหมายของสัตว์ประหลาดเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นเมืองใหม่แรกเริ่ม จึงเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานที่มีระดับต่ำเท่านั้น เงินที่ได้มาแต่ละคราจึงมิได้มากมายเท่าใดนัก
แต่การการต่อสู้นอกจากสัตว์ประหลาดระดับต่ำ พลเมืองที่เป็นอดีตทาสก็แทบมิสามารถทำอันตรายสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้เลย
เนื่องจากเหล่าพลเมืองที่ถูกเงินซื้อตัวมาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนขลาดเขลาที่ถูกขายทอดตลาดโดยพักพวกของมันเอง
มิต้องไถ่ถามถึงการต่อสู้แม้จะเดินออกจากเมืองพวกมันยังคิดอยู่หลายตลบ
ตอนที่ 490 ท้าวความ(ตอนห้า)
นับวันยิ่งขัดสน หากอยู่ต่อไปโดยมิทำอะไรสักวันอาหารและเงินของพวกมันก็ต้องหมดลงอยู่ดี และคงไม่พ้นกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเป็นแน่แท้
มันจึงเกณฑ์คนทั้งหมดออกไปเสาะหาสัตว์เดรัจฉานเพื่อต้องการของตอบแทนยามเข่นฆ่า เมื่อพบกลุ่มสัตว์ประหลาดพวกมันไม่รีรอที่จะบุกโจมตีโดยไม่สนกำลังของฝ่ายตน การต่อสู้แต่ละครานั้นพลเมืองของฝ่ายมันจะลดลงทุกครั้ง ห้า สิบ ยี่สิบคนบ้าง เนื่องจากเหล่าทาสที่ใช้เงินซื้อมาไร้ประสบการณ์ต่อสู้
เมื่อได้รับเหรียญสีดำตอบแทนจากการปลิดชีพสัตว์เดรัจฉาน มันก็เอาเงินเหล่านั้นไปแลกเปลี่ยนเป็นทาสกลุ่มใหม่เพื่อนำมาร่วมรบร่วมอาศัยและอาหารเพื่อนำมาเลี้ยงปากท้อง เป็นเช่นนี้วนเวียนซ้ำไปมา
เมื่อเมืองของพวกมันขยายใหญ่เติบโตขึ้นจึงมีบ้างเป็นบางคราที่ตกเป็นเป้าสายตาจากเมืองระแวกรอบข้าง
เมื่อใดที่ถึงจุดแตกหัก ตัวมันจะนำเงินจำนวนหนึ่งเพื่อไปจ้างวานแก่เหล่านักฆ่าและทหารรับจ้างเพื่อมาปกป้องเมืองพวกมัน โดยผู้ที่ถูกซื้อด้วยเงินมาเพื่อต่อสู้แทนผู้เป็นนายจากจำนวเงินนเพียงหนึ่งร้อยเหรียญก็สามารถได้นักสู้ฝีมือดีซึ่งมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่ระดับสี่และห้าเป็นจำนวนถึงสิบคนเลยทีเดียว
พวกมันทำงานที่ได้รับโดยไม่ห่วงชีวิตเข่นฆ่าศัตรูของผู้เป็นนายโดยไม่สนความตายของตนเพื่อต้องการเงินเพียงสิบเหรียญต่อคนเท่านั้น
ตั้งแต่ที่พวกมันมั่งคั่งร่ำรวยจับจ่ายใช้สอยสบายมือเสพติดจากอำนาจของเงินตราใช้ชีวิตเยี่ยงเศรษฐี เหล่าชายชาติทหารทั้งห้าแทบมิได้ก้าวเท้าออกจากเมืองอีกเลย พวกมันมักใช้ลูกสมุนของตนออกไปจัดการกับเหล่าสัตว์ประหลาดเป็นตัวตายตัวแทนที่ หาของมีค่ามาให้ทุกครั้งเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ระดับของพวกมันจึงมิได้เติบใหญ่เลยแม้เพียงนิด จะมีบ้างเป็นครั้งคราวที่นึกเบื่อหน่ายต้องการเข้าร่วมสมรภูมิบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงการต่อสู้เล็กๆน้อยๆอยู่แนวหลังเท่านั้น
หลังจากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายพวกมันจึงมิคิดฝันจะเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยงกับความอันตรายอีก
ชีวิตประจำวันของพวกมันนอกจากกินดื่มอย่างอิ่มหนำสำราญและคลุกเคล้ากับอิสตรีที่มันใช้เงินจำนวนไม่น้อยแลกซื้อมาเพื่อบำเรอกามอารมณ์นั้นก็แทบมิได้ทำสิ่งอื่นใดเลย
ประชากรภายในเมืองของพวกมันนั้นมีสัดส่วนที่แปลกไปสักเล็กน้อย ซึ่งมีบุรุษเพศอยู่ทั้งสิ้นสามสิบนายรวมถึงตัวพวกมันทั้งห้าและที่เหลือนั้นล้วนเป็นอิสตรีที่มีช่วงอายุตั้งแต่สิบขวบไปจนถึงสามสิบปี
เงินที่ได้มาส่วนใหญ่ก็หมดลงไปกับพวกเธอเหล่านี้นี่เอง เนื่องจากราคาของเพศชายและหญิงนั้นแตกต่างห่างกันจนเทียบมิติด
โดยทาสเพศชายที่อยู่ในช่วงวัยฉกรรจ์เหมาะสำหรับเป็นการสู้รบสร้างกองกำลังนั้นมีราคาอยู่ที่สิบห้าเหรียญต่อคน
ส่วนช่วงอายุสิบถึงสิบห้าปีและห้าสิบปีขึ้นไปนั้นมีราคาอยู่ที่สิบเหรียญต่อคน ซึ่งสมรรถภาพของพวกมันก็พอเหมาะสมกับราคาที่ถูกลงมา เพราะมิเหมาะกับการต่อสู้มากนัก
แต่ถึงอย่างไรทั้งช่วงอายุที่แตกต่างกันนี้ก็มีบางอย่างที่เหมือนกันอย่างกับแกะ นั่นคือพวกมันขี้ขลาดตาขาวหวาดกลัวการต่อสู้ ถึงแม้จะอยู่ในวัยฉกรรจ์ที่่ร่างกายเพรียบพร้อมก็ตามที
ส่วนสตรีนั้นราคาของพวกเธอมากกว่าบุรุษเพศยิ่ง ช่วงอายุสิบถึงสามสิบปีมีราคาอยู่ที่สามสิบเหรียญเลยทีเดียวและสตรีบางคนหากมีหน้าสละสวยดูดีขึ้นมาบ้างก็มีราคาตั้งต้นอยู่ที่ห้าสิบเหรียญต่อคน!
เกณฑ์กำหนดราคาของอิสตรีส่วนใหญ่วัดจากหน้าตา ผิวพรรณและรูปร่างเป็นหลักเนื่องผู้ที่ออกเงินซื้อตัวของพวกเธอไปนั้น มิได้ต้องการให้พวกเธอถือดาบจับอาวุธ แต่พวกมันต้องการตัวเธอไปดับตันหาบำเรอกามต่างหาก หนึ่งในนั้นก็คือชายชาติทหารทั้งห้านายนั่นเอง