เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 491-492
ตอนที่ 491 ท้าวความ(ตอนหก)
เศรษฐกิจของเมืองแห่งนี้มีขึ้นลงไม่แน่นอน
พวกมันทำเช่นนี้อยู่เรื่อยมา ซ่องสุมกองกำลังใช้เงินทองที่หามาได้ซื้อทาสอย่างต่อเนื่อง ทั้งเผ่ามนุษย์และครึ่งคนครึ่งสัตว์ จนกระทั่งเมืองของมันมีประชากรมากถึงหนึ่งร้อยชีวิตคละเผ่าพันธ์
หากคราใดที่การต่อสู้กับสัตว์ประหลาดไม่ยากเย็นมากนักไม่สูญเสียกำลังพลมากมาย ก็นับว่าพวกมันได้กำไรสำหรับการต่อสู้ในครานั้น
แต่ทว่ายิ่งเวลาผ่านพ้นไปนานเท่าใด กลุ่มสัตว์เดรัจฉานมักจะมีระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หากสัตว์กลุ่มใดที่มีระดับต่ำจะถูกทดแทนด้วยจำนวนที่มากหลายร้อยตัว
มันมาจากระยะเวลาที่ถือกำเนิดขึ้นมาของเมืองผู้เริ่มต้น
หากอยู่ในช่วงเริ่มแรกของกำหนดเวลาจากสามเดือนที่ครบกำหนดเวลาของเมืองผู้เริ่มต้น ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนแรกมักจะมีกลุ่มสัตว์ประหลาดเดินแถวเรียงรายกันถี่ยิบและพวกมันล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ระดับต่ำที่สามารถจัดการได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่เมื่อล่วงเลยเข้าช่วงสองถึงสามเดือนสัตว์ประหลาดที่พบเจอนั้นล้วนแล้วแต่พัฒนากลายเป็นระดับสูงให้พอเหมาะพอเจาะกับช่วงเวลาที่เมืองผู้เริ่มต้นได้เติบโต
ในช่วงนั้นเมืองของพวกมันแทบจะมิได้ออกไปสู้รบปรบมือหาสิ่งมีชีวิตตัวใดมาฆ่าฟันเลยเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่พวกมันมิสามารถรับความเสี่ยงได้ไหว
หากพลเมืองล้มตายไปมากเกินไป การที่ได้รับเงินตอบแทนกลับมาอาจไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปก็เป็นได้ รวมถึงประสบการณ์ของเหล่าทาสที่ผันตัวมาเป็นนักสู้ตัวตายแทนของพวกมันที่หาสิ่งใดมาทดแทนมิได้นั่นเอง
พวกมันอยู่อาศัยอย่างสุขสบายอิ่มหนำสำราญมาได้กว่าหกเดือนแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่งกลุ่มสัตว์ประหลาดที่แต่เดิมมีมากมายนั้นเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อันเป็นผลพวงมาจากการที่เมืองในระแวกใกล้เคียงเริ่มทำตามกระกระทำของพวกมันนั่นเอง
มีหลากหลายเมืองที่จับตาดูการเคลื่อนไหวพวกมันมาอย่างช้านาน
บางเมืองที่เห็นความผิดปกติของระบอบการปกครองของเมืองพวกมัน ที่มีพลเมืองคนใหม่เข้ามาสับเปลี่ยนอยู่เรื่อยมา เมื่อพวกมันทราบถึงแหล่งซื้อขายเงินทองและวิธีการเสาะหา มีหรือจะมิทำตาม
เมืองที่ห่างออกไปเริ่มสนใจวิธีการเดียวกันส่งผลให้การกระทำดังกล่าวส่งต่อไปเป็นทอดๆ เส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบตลอดมาเริ่มขลุขละมากขึ้น เมื่อกลุ่มมอนสเตอร์เริ่มถูกแย่งชิงไปจากเงื้อมมือ
การแย่งชิงกลุ่มสัตว์ประหลาดเริ่มรุนแรงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
แรกเริ่มเดิมทีแค่เพียงแยกกระจายกันเสาะหากลุ่มมอนสเตอร์และจัดการไปก็เท่านั้น
แต่เมื่อเวลาเลื่อนไหลผ่านไปขบวนทัพของสัตว์ประหลาดเริ่มไม่พอต่อความต้องการของเมืองต่างๆที่แก่งแย่งชิงดี พวกมันเริ่มใช้เล่ห์กลมากเพทุบาย บ้างก็ส่งคนไปป้วนเปี้ยนในขณะที่เมืองอื่นกำลังปะทะกับฝูงสัตว์ประหลาด
บางเมืองถึงขั้นเข้าไปแย่งชิงขณะที่พวกมันกำลังจะมีชัยเหนือสัตว์เดรัจฉานฆ่าพลเมืองของมันไปพร้อมกับสัตว์ประหลาดทั้งหมด
บางเมืองที่มีผู้นำอัดโหดเหี้ยมถึงขั้นดักปล้นฆ่าคนของมันขณะที่กลับจากการต่อสู้กับสัตว์เดรัจฉาน
สุดท้ายมันเริ่มทนความรุนแรงของการแข่งขันมิไหวอีกต่อไป
ตอนที่ 492 ท้าวความ(ตอนเจ็ด)
ในเมื่อเมืองของมันมีกำลังพลมากถึงเพียงนี้มันจึงมีความคิดบางอย่างนั่นคือต้องการกลับไปยังเมืองดั้งเดิมของตนเองเพื่ออยู่อาศัยเพราะอย่างหนึ่งที่ตัวมันเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายสายพันธ์อันเป็นศัตรูตามธรรมชาติกับพวกมันมักจะเข้าโจมตีเมืองของพวกมันบ้างเป็นครั้งคราว
ซึ่งในแต่ละครั้งนั้นจะการแจ้งเตือนจากเสียงหวานใสดังขึ้นในหัว แต่สิ่งที่ตามมากลับมีความว่างเปล่าเพราะศัตรูที่มุ่งหน้ามาโจมตีนั้นมิใช่เมืองร้างปัจจุบันที่มันอาศัยอยู่ แต่เป็นเมืองดั้งเดิมต่างหาก
เมื่อกลับไปอยู่ยังเมืองเดิมพวกมันมิต้องเหน็ดเหนื่อยออกไปตามหาศัตรูอีกต่อไป เพียงแค่นั่งจิบน้ำชาอย่างสำราญ สัตว์ประหลาดทั้งหลายก็จะกรูกันเข้ามาประเคนเงินตราให้แก่พวกมันด้วยตนเอง
และพวกมันเองก็เป็นประชากรดั้งเดิมที่ผ่านประตูสวรรค์มาโผล่ยังสถานที่แห่งนี้กว่าหกเดือนแล้ว สัตว์ประหลาดปีศาจนรกที่มาโจมตีเมืองของพวกมันนั้นต้องมีระดับเพิ่มสูงกว่าที่พบเจอเป็นแน่
แม้จะมีความเสี่ยงแต่มันมิอยากจะคิดถึงเงินที่ได้จากการปลิดชีวิตเจ้าสัตว์ประหลาดเหล่านั้นว่าจะมากมายกองเป็นภูเขาเลยหรือไม่?
มันมิได้หวาดกลัวสิ่งมีชีวิตระดับสูงเลยแม้แต่น้อย ในหัวคิดเพียงแต่เรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยเท่านั้น ถึงอย่างไรก็มิใช่ตัวมันและสหายที่กระโจนเข้าร่วมการต่อสู้ แต่เป็นเหล่าทาสบริวารต่างหาก
ทั้งนี้ยังสามารถหลบหลีกความวุ่นวายของเมืองรอบๆที่แก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่กันอย่างดุเดือดเผ็ดมัน
มันไม่กล้าเสี่ยงพอที่จะเข้าไปร่วมการแย่งชิงฝูงมอนสเตอร์โดยต้องแลกมาด้วยความไม่มั่นคงของเมืองตนเอง สู้หนีไปอยู่อย่างสงบคอยเก็บเกี่ยวอยู่อย่างสุขสบายมิดีกว่าหรือ?
ถึงแม้เมืองเก่าของพวกมันจะอยู่ใกล้เคียงกับเมืองของหลินหยางผู้เปิดอริเก่าแก่ก็ตามที
แต่พวกมันมิได้มีความคิดแก้แค้นเรื่องในอดีต เพราะตัวมันทั้งห้าบัดนี้แปรเปลี่ยนไปเป็นอื่นแล้ว
ตอนนี้ชีวิตของพวกมันราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง อิ่มนำสำราญคลุกเคล้านารีชั่วชีวิต นั่นคือสิ่งที่บุรุษมากหน้าหลายตาต่างเฝ้าฝันอิจฉาริษยา
คิดเช่นนี้พวกมันจึงโยกย้ายกำลังพลทั้งหมดออกเดินทางในรุ่งสางมุ่งตรงกลับสู่เมืองของตนเองโดยพร้อมเพรียง
ใช้เวลากี่วันคืนมิทราบแต่ระยะทางนั้นเริ่มใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆมิห่างไกล มันเริ่มจดจำทัศนียภาพเก่าก่อนได้
จนกระทั่งก่อนที่จะกลับถึงเมืองของตนอีกไม่ใกล้ไม่ไกล พวกมันก็พบเจอเข้ากับถ้ำแห่งหนึ่งที่มีเศษซากร่างมนุษย์นอนตายกลาดเกลื่อนไปทั่วแดน รวมถึงมีร่างค้างคาวนับร้อยกระจัดกระจายยั้วเยี้ยะ
ชายชาติทหารทั้งห้ามีรอยยิ้มแสยะยกขึ้นบนมุมปาก นี่เป็นคราแรกที่พวกมันพบเจอถ้ำที่ยังไม่ถูกกวาดล้าง!
พวกมันที่คลั่งไคล้ในอำนาจเงินตรา หากได้จัดการล้างบางถ้ำสักแห่ง มันก็จักสามารถนำเงินทองที่ได้มานำไปแลกตัวสร้างกองกำลังที่ใหญ่โตขึ้นได้เรื่อยๆ มีหรือมันจะปล่อยให้ถ้ำดังกล่าวว่างเปล่านานเกินไป
มันเกรงว่าหากเสียเวลาเดินทางกลับเมืองและมาใหม่ในวันพรุ่ง ถ้ำแห่งนี้คงจะยุบหายสลายถูกเมืองอื่นคาบไปกินเสียก่อน
Click to Hide Advanced Floating Content