เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 513-514
ตอนที่ 513 ป่าเถื่อน
น่าเสียดายสิ่งที่ชายทั้งห้าสามารถรวบรวมมาได้ มีเพียงโครงกระดูกและเสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยเท่านั้น มิมีของมีคมเช่นดาบหรือหอกหรือแม้กระทั่งโล่โลหะสำหรับป้องกันการโจมตีเลย
ชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมก้มหน้าแสดงอาการเสียใจเล็กน้อย
คนที่เข้าร่วมรบกับพวกมันหรือก็คือสมาชิกเมืองทาสมิได้รวมอยู่ในจำนวนคนกลุ่มใหม่ทั้งสิบที่ติดตามมาสมทบ ดูแล้วหากมิใช่เพราะอัปโชคคลาดกันมิพบตัวก็คงไม่เหลือลมหายใจอยู่ให้เสาะหาแล้วเป็นแน่ ความหวังริบหรี่ที่พวกมันมีจึงพังทลายลงไป
สำหรับเหล่าสมาชิกทาสจากเมืองของชายผู้มีระดับสี่นี้ หลินหยางก็หวังจะพบเจอตัวของพวกมันนำมาเข้าร่วมการต่อสู้อยู่เช่นกัน ถึงพวกมันจะขลาดเขลาจนถูกขายทอดตลาด แต่พวกมันมีสิ่งที่เมืองผู้เริ่มต้นมิมีนั่นก็คือประสบการณ์
ช่างน่าเสียดายยิ่งนักจากจำนวนคนทั้งห้าสิบคนนี้มีเพียงไม่กี่รายที่มีฝีมือการต่อสู้ติดตัวและประสบการณ์การต่อสู้จริง ส่วนใหญ่เป็นเพียงสมาชิกจากเมืองผู้เริ่มต้นที่พึ่งมาถึงและโชคร้ายถูกโจมตีเปิดศึกจากค้างคาวปีกเหล็กเป็นกลุ่มแรก จึงถูกจับตัวมาเสียก่อนที่พวกมันจะได้รับรู้เรื่องราวทางโลกนี้เสียอีก
มองไปยังโครงกระดูกขาวบริสุทธิ์สวยงาม และน่าเศร้าเสียใจในเวลาเดียวกัน
หลินหยางมิรอช้าตรงเข้าไปบิดข้อต่อท่อนแขนจากโครงกระดูกขาดออกจากกันทันที
เขาบิดส่วนข้อมือที่ต่อติดกันและนำกระดูกมือนั้นทิ้งไปเสีย ตอนนี้ในมือของเขาเหลือเพียงกระดูกท่อนยาวตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือของมนุษย์ เขายกเข่าของตนขึ้นพลางง้างท่อนกระดูกขึ้นสูงกระแทกเข้ากับต้นขาของตนอย่างแรง
แกร๊กก~
ส่งผลให้กระดูกชิ้นเมื่อครู่แตกหักออกจากกันเป็นสองท่อน ส่วนปลายที่แตกออกนั้นมันมิได้ราบเรียบไปเสียทั้งหมดมีบางจุดที่มีความแหลมคมจากการแตกหักในแนวเฉียงคล้ายกับฟันฉลาม
เหมาะสำหรับการจ้วงแทงคล้ายกับหอกที่มีขนาดสั้นไม่ถึงหนึ่งฟุต จากท่อนกระดูกไร้พิษภัยกลายเป็นอาวุธมีคมในที่สุด
ฟึบ~
หลินหยางลองใช้งานมันโดยการควงแทงกระดูกท่อนแหลมทั้งสองออกไปตรงหน้า สร้างเสียงแหวกอากาศอันน่ากลัว
หากเป้าหมายของเขามิใช่ชั้นบรรยากาศอันว่างเปล่าแต่เป็นร่างมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อละก็ บัดนี้ร่างของมันคงมีบาดแผลสองรูกลวงโบ๋อยู่บนร่างกายแล้วเป็นแน่
‘เอาไป’ หลินหยางยื่นกระดูกแหลมคมทั้งสองท่อนให้แก่เต๋อหลงและหลี่จิ้ง
พวกมันทั้งสองยื่นแขนออกมารับสิ่งของด้วยมือที่สั่นเทา มิใช่เพียงพวกมันสองคนเท่านั้น ผู้คนรอบข้างที่จ้องมองการกระทำของหลินหยางก็มีปฏิกิริยามิต่างกันมากเท่าใด
พวกมันล้วนแต่มีอาการอึ้งกับการกระทำอันบ้าคลั่งของหลินหยาง
มันมิเคยนึกฝันว่าหลินหยางจะใช้กระดูกมนุษย์ผู้ซึ่งเป็นเผ่าพันธ์เดียวกันที่พึ่งสิ้นชีวิตไปได้มินานสักเท่าใด นำโครงกระดูกของร่างผู้เสียชีวิตที่น่าสงสารมาทำเป็นอาวุธกลายเป็นสิ่งของเสียนี่
มันช่างเป็นภาพน่าสยดสยอง ป่าเถื่อน ไร้ศีลธรรมยิ่งนัก
ตอนที่ 514 อาวุธสยอง
หลังจากส่งมอบกระดูกปลายแหลมให้แก่หลี่จิ้งและเต๋อหลง
หลินหยางก้มลงไปง่วนอยู่กับร่างโครงกระดูกครู่หนึ่ง
พรืดด~
จู่ๆก็เกิดเสียงบางอย่างที่น่าหวาดกลัวดังขึ้นมาพร้อมกับหลินหยางที่ลุกยืนขึ้น เมื่อพวกมันทั้งห้าสิบชีวิตเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม ล้วนแล้วแต่มีสีหน้าผะอืดผะอมครื่นไส้อาเจียน
เพราะสิ่งที่อยู่ในมือทั้งสองข้างของหลินหยางนั่นก็คือกระดูกสันหลังของมนุษย์ทั้งแถบ ทั้งยังมีเศษเนื้อและเลือดเกาะอยู่ตั้งแต่หัวจรดปลาย!
ฟุบบ~
แหมะ~
หลินหยางตวัดกระดูกสันหลังในมือเป็นแนวเฉียงด้วยความเร็วสูงสุด เลือดและเศษเนื้อที่ติดอยู่กับกระดูกแผงนั้นหลุดกระจายลงไปติดอยู่บนพื้นถ้ำจนสิ้น
วูบบ~
เขาลองกวัดแกว่งมันไปมาซ้ายขวา ไม่นานมุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น เพราะกระดูกสันหลังของมนุษย์นี่มันมีน้ำหนักเบามือเสียยิ่งกว่าดาบและหอกที่ทำจากเหล็กกล้าทั้งดุ้นเสียอีก
แถมระยะโจมตีหวังผลยังมีความยาวเทียบเคียงได้กับดาบยาวเลยทีเดียว และด้วยที่มันเป็นข้อกระดูกที่ต่อติดกันเป็นข้อฉะนั้นความยืดหยุ่นของมันจึงมีมากกว่าอาวุธที่ทำจากเหล็ก
หากเทียบแล้วมันคงคล้ายคลึงกับแส้เหมาะสำหรับการตวัดฟาดเสียมากกว่า การใช้งานก็มิได้ยากเย็นจนเกินไป ข้อเสียของมันก็คือมันไร้ความคมไม่เหมาะสำหรับการสร้างบาดแผลให้คู่ต่อสู้
ความทนทานของมันก็มิสามารถเทียบเคียงได้กับเหล็ก อีกประการคือการจับถือที่มิสะดวกมือเท่าใดหากมันมีด้ามจับดั่งเช่นดาบละก็คงจะเป็นอาวุธที่ร้ายกาจเลยทีเดียว
หากเทียบกันตามตรงแล้วถึงอย่างไรท่อนกระดูกมันก็มิใช่คู่มือของอาวุธที่ทรงพลังอย่างดาบได้อยู่ดี
แต่สำหรับตอนนี้มันคือทางเลือกดีที่สุดที่พอจะหาได้จากสถานที่อันอยู่ห่างไกลความเจริญนี้
‘หืม มีอะไรกัน?’ หลินหยางพึ่งรู้สึกตัวว่าตนเป็นที่สนใจของคนทั้งกลุ่มที่จ้องมองเขาเป็นตาเดียว
อ้อก~
แหวะะ~
หลังจากเห็นภาพดังกล่าวสตรีนางหนึ่งมิสามารถทนรับภาพที่เห็นได้ เธอหันตัวออกไปด้านข้างพร้อมกับอาเจียนออกมาชุดใหญ่ มิใช่เพียงเธอเท่านั้นชายชาตรีบางคนก็ทนมิไหวเช่นกัน…
หลินหยางมิได้สนใจเหตุการณ์เหล่านี้ เขาก้มลงไปจัดการกับโครงกระดูกเบื้องหน้าต่อไปอย่างไม่ลดละ
‘รออะไรอยู่ แยกส่วนกระดูกทั้งหมดมาสร้างเป็นอาวุธให้แก่ตนเองซะ’ หลินหยางมิสนใจศีลธรรมเพราะมันมิช่วยให้เขารอดชีวิตไปได้
ตอนนี้เขาต้องพึ่งแต่ตนเองเท่านั้น
ในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้กระดูกทุกส่วนล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ เขาก้มลงไปเลาะกระดูกออกทีละชิ้น ทีละชิ้น
มิช้าชายผู้มีระดับสี่ก็ทำตามหลินหยางโดยการเลาะกระดูกจากโครงออกมาเช่นกัน
ตอนนี้กลายเป็นว่าคนกว่าครึ่งร้อยบิดหนังหักกระดูกส่งต่อกันไปเป็นทอดๆ จากโครงกระดูกรูปร่างมนุษย์ทั้งสองร่างตอนนี้มิเหลือร่องรอยว่ามันเคยเป็นสิ่งมีชีวิตมาก่อน
กระดูกทุกส่วนตั้งแต่กระโหลกจรดปลายเท้าล้วนกระจัดกระจายอยู่ในมือของใครสักคนหนึ่งจากคนทั้งห้าสิบคนนั่นเอง