เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 527-528
ตอนที่ 527 ถึงเวลา
ตอนนี้นับว่ากระดูกมนุษย์แทบทุกชิ้นไม่ถูกปล่อยทิ้งไร้โยชน์อีกต่อไป นอกเหนือจากหัวกระโหลกและกระดูกชิ้นเล็กที่ไม่สามารถใช้สอยใดๆได้ กระดูกชิ้นอื่นล้วนสามารถนำมาสร้างเป็นอาวุธ ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่ขาดเหลือสิ่งใดอีกต่อไป
มีเพียงจิตใจที่ยังไม่มั่นคงของเหล่าคนทั้งห้าสิบเท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็เถิดหลินหยางมิสามารถปลุกปั่นเปลี่ยนนิสัยสันดานพวกมันได้ในเวลาอันสั้น
ดั่งเช่นทีมก่อสร้างแรกเริ่มเดิมทีพวกมันก็ขลาดเขลามิต้องการเอาตนเองไปเสี่ยงต่อสู้นอกรั้วกำแพงเมือง จึงเลือกการใช้แรงงานอยู่ในเมืองอย่างปลอดภัย
แต่หลินหยางเองก็คอยให้พวกมันติดตามออกไปสู้รบบ้างเป็นครั้งคราวจึงเปลี่ยนนิสัยและจิตใจพวกมันให้กล้าแข็งขึ้นมาบ้าง ถึงจะไม่เท่าทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมก็เถิด
ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาเพิ่มขวัญกำลังใจการต่อสู้ ชี้แนะวิธีการเอาตัวรอดให้แก่พวกมันแล้ว บัดนี้อาวุธก็เพรียบพร้อมฉะนั้นเขามิรีรอสิ่งใดต่อไป
ไม่มีการวางแผนใช้กลยุทธ์ใดๆทั้งสิ้นสำหรับภารกิจการหลบหนีออกจากถ้ำโดยนำคนกว่าห้าสิบคนนี้ติดตามไปด้วย
สำหรับตอนนี้ไม่ว่าจะมีแผนหรือไม่ก็คงไม่ต่างกันเพราะสถานที่แห่งนี้ไม่มีที่ให้หลบซ่อนไร้จุดกำบัง เป็นเพียงพื้นที่โล่งกว้างที่มีกำแพงล้อมรอบและมีทางออกเพียงจุดเดียวและนั่นคือจุดปะทะ
หากเป็นที่แคบอย่างเส้นทางเดินภายในถ้ำเขาอาจจะจัดเตรียมกำลังวางกำลังคนเป็นจุดเพื่อให้เหมาะสมกับการปะทะให้มีประสิทธิภาพ
แต่สำหรับตอนนี้…แผนการใดๆย่อมไม่มี
ศัตรูตัวเล็กกระจ้อยร่อยเพียงหนึ่งปะทะกับคู่ต่อสู้มากถึงห้าสิบคน แม้ไม่มีแผนการที่รัดกุมก็มิใช่ปัญหา
สำหรับคนอื่นแล้วหลินหยางมิทราบว่าจะรอดหรือไม่แต่สำหรับตัวเขานั้นมิใช่เรื่องยากให้ขบคิด แม้แผนการจะล้มเหลวแต่ตนย่อมไม่สิ้นชีวี
เขาเคยต่อสู้กับมันมาแล้วและครานั้นหากนับการตามจริงตัวเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายชนะมันโดยทักษะราชสีห์คำรามชั้นเลิศ แต่เพราะสถานการณ์เป็นจัยให้แก่ค้างคาวตัวจ้อยเพราะเขาเสียกำลังไปมากจากการรบราฆ่าฟันกับค้างคาวระดับต่ำอย่างหนัก
หลังจากใช้ทักษะพิชิตชัยมันไปแล้วตัวเขาจึงหมดสติส่งผลให้ตัวเขาปราชัยอย่างน่าผิดหวัง
แต่เขาเองก็ได้ประโยชน์จากการพลาดท่าครานั้นด้วยเช่นกัน ถึงจะไม่สามารถตรวจสอบมันได้ด้วยทักษะตาเหยี่ยว ไม่รับรู้สถานะที่แน่ชัดของมัน
แต่อย่างน้อยก็ทราบว่าทักษะราชสีห์คำรามของเขาสามารถทำให้มันหมดสติได้อย่างแน่นอน ถึงจะไม่ทราบว่ามันได้รับผลของทักษะนานเท่าใดก็เถิด
ตอนนี้เหตุการณ์แบบนั้นจะมิเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากการหมดสติเป็นเวลานานทำให้ตนได้พักผ่อนมาอย่างเพียงพอแล้วสำหรับการใช้ทักษะระดับสูง
หลินหยางมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าตนเองจะสามารถพิชิตเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วและหนีรอดออกไปได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับแวมไพร์ระดับมากกว่าสี่สิบตนนั้นเขาไม่มีความคิดจะประมือกับมัน
‘พวกคุณพร้อมหรือยัง?’ หลินหยางกล่าวเสียงทุ้ม
‘ฮึ่ม!’ กลุ่มคนกว่าหาสิบชีวิตทั้งชายและหญิงส่งเสียงในลำคอจับอาวุธของตัวเองมั่น
เลือดในกายเดือดพล่านอย่างมิเคยเป็นมาก่อน บัดนี้พวกมันพร้อมปะทะเต็มที่เพื่อจุดประสงค์เดียวกันนั่นคือหลบหนี!
ตอนที่ 528 เงียบ
‘ดี! เดินตามคนข้างหน้าอย่าเว้นระยะห่าง’ หลินหยางก้าวเดินแนบกับแพงพร้อมกับชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมเดินขนาบซ้ายขวา ด้านหลังของพวกมันตามมาด้วยชายฉกรรจ์ทั้งยี่สิบคนผู้เลื่อนระดับขึ้นจากขั้นเริ่มต้น
แถวด้านในซึ่งติดกับผนังถ้ำนั้นคือเหล่าผู้มีสถานะด้านความเร็วทั้งห้าคนเรียงกันลงไปและตามมาด้วยชายอีกห้านายผู้มีสถานะพลัง
ส่วนแถวด้านนอกซึ่งเสี่ยงอันตรายมากที่สุดล้วนประจำการด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ผู้มีพลังกายโดดเด่นทั้งสิบคน
ขนวบทัพที่จัดขึ้นอย่างฉุกละหุกนี้เป็นเพียงการจัดขนวบแถวสองแถวโดยนำทีมด้วยผู้ที่มีระดับสูงเรียงตามลงไปจนถึงช่วงกลางซึ่งเป็นคนธรรมดาที่มีเพียงระดับหนึ่งไม่มีพละกำลังหรือความเร็วน่าหวือหวา
พวกเขาเดินเรียงกันราวกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนที่และพร้อมรับมือกับสถานการณ์อันมิคาดฟันมิให้เกะกะขวางทางกันสะเปะสะปะ
พวกเขาเดินเรียบกำแพงไปเรื่อยๆตอนนี้ก็ใกล้ถึงจุดกึ่งกลางของถ้ำแล้วอีกไม่กี่สิบก้าวก็ถึงจุดทางออก และต้องปะทะกับเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วแล้ว
‘ผมว่ามันแปลกๆนะ’ จู่ๆชายผู้มีระดับสี่ก็กล่าวขึ้นมาบางเบา
‘หืม? อะไรแปลก’ หลินหยางถามด้วยความสงสัยพลางก้าวเท้าย่ำเดินต่อไป
‘ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรที่มาจากเจ้าปีศาจนั่นเลย’ มันกล่าว
‘ จะว่าไปผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเช่นกัน’ ชายร่างท้วมกล่าวเสริม
‘…’ หลินหยางครุ่นคิดราวกับพึ่งนึกได้
เป็นดั่งที่ชายผู้มีระดับสายรายนี้บอกมา
ตั้งแต่พวกเขาพบเจอมันอย่างมิทันตั้งตัวและถอยมาอย่างฉับพลันมาตั้งหลักรวบรวมกำลังพลได้มากกว่าห้าสิบคน ทั้งยังรวมกลุ่มกันผลิตอาวุธสำหรับต่อสู้
แน่นอนการรวมกลุ่มของคนกว่าครึ่งร้อยย่อมสร้างเสียงไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งเสียงการเคลื่อนที่ขยับตัวและการผลิตอาวุธ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเก็บเสียงให้เงียบมากมายเพียงใดแต่มันต้องย่อมมีเสียงเล็ดรอดออกไปบ้างไม่มากก็น้อย
น่าแปลกทั้งที่พวกเขาก็มิได้เงียบสงัดมากนักกลับไม่เป็นที่ดึงดูดเป็นเป้าหมายแก่เจ้าแวมไพร์ปีศาจแต่อย่างใด
ยิ่งกว่านั้นในช่วงเวลาดังกล่าวร่วมกว่าหนึ่งถึงสองชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มรวมพลมานี้ เขายังไม่ได้ยินเสียงแห่งความเจ็บปวดหรือหวาดกลัวของเหล่าเหยื่อของแวมไพร์ตนนี้เลย
‘รึว่ามันอิ่มแล้ว? หรือเป็นเราเองที่มิได้สังเกตุ?’ หลินหยางใช้ความคิดในหัวของตนพยายามหักล้างกันไปมา
แต่ท้ายสุดแล้วพวกเขายังมิได้ทำความคุ้นเคยกับแวมไพร์ตนนี้ดีพอ ไม่ทราบทั้งอุปนิสัยการทานของมัน
หลินหยางจดจำได้เพียงแต่ว่าตั้งแต่ฟื้นตื่นคืนสติมาจากการหมดสติก็มักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนทรมานจากเหล่าเหยื่อของแวมไพร์ปีศาจเรื่อยมา
‘ช่างมัน ให้ความสนใจไปที่ภารกิจตรงหน้าก็พอ’ หลินหยางกล่าวกับชายผู้มีระดับสี่
ตอนนี้เขาไม่สนใจแวมไพร์ปีศาจตนนั้นแล้ว
ความตั้งใจเดิมของตนก็มิได้หมายมั่นจะปะทะกับมันเป็นทุนเดิม
ฉะนั้นหากมันอิ่มเอมกับอาหารแล้วดั่งที่เขาคิดยิ่งเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง
ตอนนี้คงทำได้แต่ภาวนามิให้มันควานหาตัวพวกเขาพบเสียก่อนที่จะได้เริ่มการหลบหนี