เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 561-562
ตอนที่ 561 ปีศาจแวมไพร์(ตอนห้า)
“ขอทางหน่อยครับ” หลินหยางกล่าววาจากับผู้คนเบื้องหน้าที่ลุมล้อมกายเขาอยู่
พวกมันที่ตกเป็นเป้าหมายอันกีดขวางเส้นทางหลินหยางอยู่นี้แม้จะพึ่งผ่านสถานการณ์ที่ต้องเบียดเสียดแออัดกันมาครานึงจากชายผมยาวผู้ไม่ยอมเปิดเส้นทางให้ แต่กระนั้นพวกมันก็ยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวให้เห็นเมื่อหลินหยางขอให้มันเบี่ยงตัวให้เช่นเคย
แต่พวกมันก็มิได้ขัดขืนหรือสร้างความลำบาก พร้อมใจกันเบี่ยงตัวเปิดทางแต่โดยดี
หลินหยางยิ้มขึ้นมุมปากมองไปยังทางที่เปิดออกทันที ครานี้มันง่ายดายยิ่งนักเขามิจำเป็นต้องมุดผ่านทีละคนอีกแล้ว แบบนี้ใช้เวลาไม่นานก็คงไปถึงแนวหน้าอย่างแน่นอน
ก่อนจะจากไปนั้นเขามิลืมที่จะใช้ทักษะอันสำคัญยิ่งของตนในการตรวจสอบสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างทักษะดวงตาเหยี่ยว ทั้งพลังและการป้องกันที่ชายผมยาวรายนี้ครอบครองอยู่เป็นปริศนาอันต้องไขให้กระจ่าง หากมิเช่นนั้นมันคงคาใจเขาไปอีกนานเลยทีเดียว
หลินหยางปรายตามองมันหนึ่งคราพร้อมกับรวบรวมสมาธิเพ่งไปที่ฝ่ายตรงข้ามหมายจะใช้ทักษะดังกล่าวเพื่อล่วงรู้ข้อมูลจากชายผมยาวผู้มีพละกำลังมหาศาลเหนือคณานับนี้
กึก~
ทันใดนั้นเองก่อนที่ตัวเขาจะได้กระทำตามที่หวังนั้น จู่ๆก็มีเสียงแปลกประหลาดขึ้นมาจากด้านข้างของเขา เป็นอันให้การใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวหยุดชะงักลง
เสียงดังกล่าวมันมาจากชายผู้มีผมยาวรายนี้ซึ่งเป็นเป้าหมายของทักษะดวงตาเหยี่ยวนั่นแล หลินหยางเหลือบปรายตามองมันก็พบว่ามันมิได้มีสิ่งใดผิดปกติจากตอนแรก
มันยังคงยืนนิ่งจ้องมองมายังเขาโดยที่มีเส้นผมยาวปิดบังใบหน้าและดวงตา มันช่างเป็นภาพที่ดูน่าหลอกหลอนยิ่งนัก
อ๊ากกก~
เสี้ยววินาทีต่อมาก็มีเสียงตะโกนแหกปากร้องดังจนแสบแก้วหูดังขึ้นมา มันมิใช่เสียงที่มาจากการปะทะกันของแนวหน้า ต้นตอของเสียงนั้นดังขึ้นมาจากชายผู้หนึ่งที่อยู่ห่างจากตัวเขาไม่ถึงครึ่งเมตร!
เรียกได้ว่าตัวของเขาและต้นตอผู้ส่งเสียงแทบจะติดกันเลยทีเดียว ชายผู้นี้ยืนเยื้องไปทางด้านซ้ายของหลินหยางซึ่งมันอยู่แถวหน้าของเขา โดยตัวมันยืนอยู่ตรงหน้าของชายผมยาวผู้มีกำลังวังชามหาศาลพอดิบพอดี
เขาเคยพบชายผู้นี้มาแล้วครั้งนึงจากรวบรวมกำลังพลในส่วนลึกของถ้ำ และมันเป็นที่น่าจดจำยากที่จะลืมอยู่ไม่น้อยเนื่องจากเป็นมันนี่แล ผู้ที่บ่ายเบี่ยงหลบซ่อนในยามที่หลินหยางคัดเลือกผู้คนที่มีค่าสถานะสูงกว่าคนปกติ
ตัวมันที่มีค่าสถานะพลังมากกว่าคนธรรมดาแต่กลับแอบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มของคนสามัญมิยินยอมพร้อมใจก้าวออกมาข้างหน้าตามความต้องการของเขา นั่นจึงเป็นเหตุให้เขาสามารถจดจำมันได้อย่างรวดเร็ว
ตัวมันยิ่งสะดุดโดดเด่นมากขึ้นในยามที่หลินหยางติดอยู่กลางวงล้อมและช่วงชุลมุนจากการออกแรงผลักดันของชายหลายสิบชีวิต
เหตุที่มันเป็นจุดสนใจของหลินหยางนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะเสียงของมันนั่นแล ตั้งแต่เริ่มจนจบชายผู้นี้ล้วนพ่นคำด่าสารพัดแถมเสียงมันก็มิใช่เบาๆเสียด้วย
ตอนที่ 562 ปีศาจแวมไพร์(ตอนหก)
ทั้งเมื่อจบเหตุการณ์วุ่นวายไปแล้ว มันก็ยังมิหยุดพล่าม ยังคงด่าทอสนุกปาก ไม่ทราบมันเก็บกดมาเนิ่นนานหรืออย่างไร จึงระบายความอัดอั้นใส่ชายผมยาวตรงหน้าของมันไม่หยุดหย่อน
‘!?’ มิใช่เพียงหลินหยางเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่คนรอบข้างเขาก็พร้อมใจสะดุ้งตัวโก่ง พวกมันก็แตกตื่นกับเสียงร้องดังเช่นกัน
หลินหยางอยู่ใกล้พวกมันทั้งสองแทบจะบดกันเป็นเนื้อเดียว เขาจึงสามารถเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจนมากกว่าใครอื่น
พบว่าบนบริเวณเส้นผมส่วนที่ปกปิดใบหน้าของชายผมยาวรายนี้อยู่ มีคราบของเหลวเหนียวหนืดค่อยๆไหลลงอย่างช้าๆ
‘หือ?’ หลินหยางเงยหน้ามองขึ้นไปยังเพดานถ้ำด้านบน เนื่องเพราะคิดว่าสิ่งที่เกาะอยู่บนเส้นผมชายตรงหน้าคือน้ำที่สั่งสมจากความชื้นอันเกาะอยู่ชั่วไปภายในถ้ำ แต่แล้วเขาก็ต้องตัดความคิดนั้นทิ้งไป
เพราะถึงความชื้นจะมีมากกว่านี้อีกสองเท่ามันก็ไม่สามารถเกาะรวมกลุ่มกันจนเกินเป็นของเหลวที่มีปริมาณมากเท่าที่อยู่บนศรีษะของชายผมยาวได้ กะจากสายตาแล้วมันมีขนาดราวๆนิ้วหัวแม่มือเลยทีเดียว
หลินหยางมองด้วยความฉงนสงสัยถึงของเหลวที่ติดอยู่บนเส้นผมของชายผมยาว สีสันของมันออกจะขุ่นมัวเล็กน้อยและมีสีเขียวจางๆ หลังเพ่งสายตามองมันในระยะใกล้ก็พบว่ามันมีบางอย่างคล้ายกับฟองอากาศผสมปนเปอยู่ภายใน
‘น้ำลาย?’ หลินหยางคิด เขาพยายามเปรียบเทียบของเหลวที่เกาะอยู่บนเส้นผมของชายตรงหน้าหาความคล้ายคลึงกันกับมวลของเหลวที่เขาเคยผ่านตา
แต่สิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับมันมากที่สุดก็คงจะเป็นน้ำลายนั่นแล ซึ่งหากคำนวนจากทิศทางแล้วคงมิใช่เพราะชายผมยาวลายนี้เอาน้ำลายมาป้ายศรีษะของตนเองแน่ๆ ฉะนั้นจะเป็นของเสียของใครไปมิได้นอกจากชายผู้แหกปากร้องซึ่งอยู่ตรงหน้าของชายผมยาวนั่นเอง
ชายผมยาวที่แต่เดิมหันศรีษะมาทางหลินหยางคล้ายกับจ้องมองเขาผ่านเล็ดรอดเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าไม่เบี่ยงหนีไปไหนมานานนม แต่ตอนมันค่อยๆขยับเคลื่อนหัวของตนหมุนกลับไปตั้งตรงอย่างช้าๆอย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก
ชายผมยาวเปลี่ยนเป้าหมายสายตามองไปยังชายตรงหน้าตน มันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ความสูงของพวกมันทั้งสองเมื่อยืนเทียบกันแล้วมิได้เหลื่อมล้ำกันมากนัก ทำให้ใบหน้าของพวกมันทั้งคู่เผชิญห่างกันไม่ถึงหนึ่งคืบ และสีหน้าที่แสดงออกของพวกมันทั้งสองแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว!
มองไปยังชายขี้ขลาดผู้ส่งเสียงร้องใบหน้าของมันซีดขาวเป็นไก่ต้มราวกับกำลังเห็นผีกลางวันแสกๆ
ส่วนชายผมยาวพวกเขามิสามารถเห็นใบหน้าส่วนใหญ่ของมันได้เนื่องจากเส้นผมยาวสลวยของมันปิดบังไปมากกว่าครึ่ง แต่สิ่งที่สามารถบ่งบอกอารมณ์ของมันที่แตกต่างจากชายอีกคนก็คือปาก มุมปากทั้งสองข้างของมันยกสูงขึ้นจากเดิมเสมือนกับว่ามันกำลังยิ้มอยู่!
“เป็นอะไรของเอ็งว่ะ” ชายที่อยู่ติดกับมันตวาดเสียงดังโทษฐานที่มันทำให้เขาหัวใจแทบวาย
“ช-ช่วยด้วย!” ชายผู้ส่งเสียงร้องมันมิได้ตอบกลับแต่อย่างใด กลับเอ่ยปากขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างน่าเวทนา