เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 575-576
ตอนที่ 575 ปีศาจแวมไพร์(ตอนสิบเก้า)
แต่ความจริงอย่างใดก็คือความจริง มันไม่สามารถเปลี่ยนแปรงไปเพียงแค่ใช้ความคิดของเขาได้
ฉะนั้นเพื่อเป็นการยืนยันให้เห็นประจักษ์เขาจึงตัดสินใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวเพื่อตรวจชายตรงหน้า
แวมไพร์(ชั้นต่ำ) ระดับ 45
พลังโจมตี ???
พลังป้องกัน ???
ความเร็ว ???
พลังวิญญาณ ???
คำอธิบาย : ???
คำเตือน : ???
‘เนื่องจากระดับของเป้าหมาย สูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’
กึด~
มีเสียงบางเบาเล็ดรอดออกมาจากปากหลินหยาง มันเกิดจากที่ตัวเขากัดขบฟันแน่นเสียดสีกันจนเกิดเสียงขึ้นมา
เป็นดั่งที่เขาคาดคิดจริงๆ ศัตรูตัวฉกาจที่ไม่อยากพบเจอที่สุด พยายามใช้มากวิธีเพื่อหลบหนีจากมัน แต่กลับกลายเป็นว่าบัดนี้ตัวตนดังกล่าวปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา อยู่ตรงส่วนกลางของกลุ่ม!!
ภาพลักษณ์ของมันเปลี่ยนไปจนทำให้เขาที่เคยเห็นมันมาครั้งนี้มิได้ฉุกคิดถึงตัวตนที่แท้จริงของมัน หากจะว่าไปแล้วร่างกายโดยรวมของแวมไพร์ตนนี้ก็ไม่ต่างจากมนุษย์ครึ่งสัตว์ที่มีอยู่ถมเถและเห็นได้ทั่วไป
การจะแยกแยะมันได้หากมิใช่เพราะเคยเห็นมันมาแล้วหนึ่งครารวมถึงเจ้าปีศาจตนนี้ฉีกหน้าของตนออกเป็นสี่แฉกจนสามารถบ่งบอกได้ว่ามันมิใช่มนุษย์และเสริมด้วยทักษะการตรวจสอบอย่างดวงตาเหยี่ยว เขาก็คงไม่คิดว่าราชาแห่งถ้ำค้างคาวเช่นมันจะมาอยู่กลางวงล้อมของหมู่มวลมนุษย์เช่นนี้
สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดก็คือเส้นผมของมันยาวเฟื้อยจนปิดบังใบหน้าเกือบมิดชิด ซึ่งแตกต่างจากครั้งแรกที่เขาพบเจอซึ่งในครานั้นเขาได้เห็นใบหน้าของมันอย่างชัดเจน
‘หือ!?’ ทันใดนั้นเองร่างของหลินหยางแข็งค้างดวงตาเบิกโพรงอยู่ชั่วขณะเนื่องจากการใช้ทักษะตรวจสอบเมื่อครู่มีบางสิ่งผิดปกติไปจากเดิม
เขาเร่งใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวอีกคราเพื่อยืนยันบางอย่างให้แน่ใจ ทว่าผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมไม่แตกต่างไปจากเมื่อครู่
ซึ่งหากเป็นปกติแล้วก็คงไม่มีสิ่งใดน่าแปลกใจไปกว่าการที่มีศัตรูโผล่มากลางวงล้อมเช่นนี้ ถ้าหากระดับของมันไม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียง สิบสี่สามเพิ่มพูนขึ้นจนถึงระดับสี่สิบห้า!!!
“บัดซบ!” หลินหยางลอบสบถด้วยความคับแค้น
ระดับของแวมไพร์ชั้นต่ำตนนี้ในก่อนหน้าที่เขาพบมันโดยมิได้คาดหมายนั้นมีระดับสูงถึงสี่สิบสาม ซึ่งมันเป็นศัตรูที่มีระดับสูงที่สุดที่เขาเคยเจอ
ด้วยระดับที่มากถึงสี่สิบสามก็นับว่าเป็นปัญหายิ่งนัก เขาจึงหาวิธีการเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมันโดยใช้วิธีการอันขี้ขลาดหลบหนีเจ้าสิ่งมีชีวิตตนนี้
แต่ตอนนี้มันกลับมีระดับเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมถึงสองระดับ!!
หลินหยางขมวดคิ้วเคร่งเครียด
เหตุใดระดับของมันจึงเพิ่มขึ้น? หรือว่าสัตว์ประหลาด ปีศาจเหล่าเดรัจฉานที่โจมตีไล่ล่ามนุษย์เหล่านี้สามารถเลื่อนระดับของตนเองได้?
หากเป็นดั่งที่เขาคิดจริง นี่มันไม่ยิ่งแย่ไปใหญ่หรอกหรือ?
ตอนที่ 576 ปีศาจแวมไพร์(ตอนจบ)
‘เอายังไงดี’
‘จัดการมันเลยไหม?’
มีเสียงซุบซิบขึ้นจากชายฉกรรจ์ที่อยู่ใกล้เขา ตอนนี้เหล่าชายฉกรรจ์ส่งสายตากันราวกับว่าพวกมันใช้ดวงตาพูดคุยกันปรึกษาหารือถึงการจัดการปัญหา
‘ฮึ่ม’ หลินหยางส่งเสียงในลำคอ สำหรับตอนนี้เรื่องระดับที่เพิ่มขึ้นของแวมไพร์ปีศาจตนนี้ยังคงเป็นปริศนา และเขาก็คงไม่สามารถหาคำตอบนั้นได้ในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นออกไปจากถ้ำแห่งนี้ได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างหาก
ซึ่งดูเหมือนว่าบัดนี้ชายฉกรรจ์ทั้งหลายกำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
“ถอยไปซะ พวกนายไม่ใช่คู่มือของมัน” หลินหยางกล่าว ใบหน้าของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมา แน่นอนไม่ใช่เพราะการระบายความร้อนของร่างกาย แต่เป็นความกดดันที่กำลังเผชิญอยู่ต่างหาก
“ไอ้หนุ่ม เอ็งรู้หรอว่ามันเป็นตัวอะไร?” ชายคนหนึ่งกระซิบกล่าวถาม
“มันคือสิ่งมีชีวิตที่พวกนายเรียกว่า ‘ปีศาจ’ นั่นแหละ” หลินหยางกล่าวเสียงเย็นเยียบ
“!?” หลังจากสิ้นคำกล่าวของหลินหยาง ชายฉกรรจ์ทั้งหลายล้วนมีปฏิกิริยามิแตกต่างกัน พวกมันล้วนแตกตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน และแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ชายฉกรรจ์ที่อยู่ที่นี่ล้วนทราบถึงตัวตนของปีศาจที่พวกมันหวาดกลัว
น่าแปลกอยู่ไม่น้อยที่พวกมันล้วนหวาดกลัวเพียงแค่ได้ยินคำว่าปีศาจทั้งที่พวกมันไม่ทราบรายละเอียดของสิ่งมีชีวิตตนนั้นเลย ไม่รู้ทั้งระดับและความแข็งแกร่งที่แท้จริงของศัตรู แต่เพียงแค่ได้ยินสมญานามของมันก็เพียงพอจะทำให้พวกมันขนลุกขนชันมีใบหน้าแตกตื่นได้
หากดูภาพรวมของชายผมยาวรายนี้แล้ว มันมิได้มีส่วนใดบนร่างกายที่แตกต่างไปจากเผ่ามนุษย์ครึ่งสัตว์เลยด้วยซ้ำ หากหลินหยางไม่มีทักษะดวงตาเหยี่ยวที่สามารถล่วงรู้สถานะที่แท้จริงของมันได้ เขาก็คงไม่ตีค่าให้ราคากับชายผมยาวรายนี้มากนัก
เสมือนคราแรกที่เขาได้พบกับมัน ในครานั้นเขามิได้คิดเอะใจใดๆเลยว่าสิ่งที่เขาพบมันคือสิ่งมีชีวิตระดับสูง หากชายร่างท้วมและชายผู้มีระดับสี่มิแตกตื่นบอกเขาถึงตัวตนของมันละก็ เขาก็คงคิดว่ามันเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ภาพลักษณ์ของมันสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้พบเห็นจริงๆ
แล้วเหตุใดภาพลักษณ์อันปกติธรรมดาสามัญเยี่ยงนี้จึงทำให้ชายฉกรรจ์เหล่านี้หวาดกลัวจนหน้าซีดตัวสั่นได้? หากหน้าตาของมันดุดันดูโหดร้าย ไม่เหมือนมนุษย์มนาก็ว่าไปอย่าง
“นายรู้ได้ยังไง?” มีชายคนนึงกล่าวถามด้วยข้อสงสัยถึงผลลัพธ์ที่หลินหยางสามารถล่วงรู้ถึงตัวตนศัตรู
“เรื่องนั้นไม่สำคัญ ตอนนี้บอกให้คนด้านหลังถอยทัพกลับไปยังส่วนลึกสุดของถ้ำ สำหรับกลุ่มคนแถวหน้าให้พวกมันรีบถอนทัพโดยไว” หลินหยางกล่าววาจาเสียงดังฟังชัด
เหล่าชายฉกรรจ์เบนสายตามองหลินหยางที่กล่าววาจาราวกับเป็นแม่ทัพ เมื่อมันมองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่นานก็สามารถจดจำใบหน้าและภาพลักษณ์ของชายหนุ่มได้ เขาก็คือผู้นำที่เป็นผู้รวบรวมพวกมันทั้งห้าสิบคนเข้าร่วมกันนั่นแล