เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 577-578
ตอนที่ 577 ถอยกลับ
การให้ชายหนุ่มวัยเพียงยี่สิบต้นๆขึ้นมาสั่งการเช่นนี้ มิใช่ความคิดที่ดีเลย หากมีทางเลือกพวกมันก็คงเลือกชายแก่ๆสักคนที่มีวุฒิภาวะมากประสบการณ์ชีวิตอย่างแน่นอน หากมันมีทางเลือกหนะ…
และแน่นอนพวกมันทั้งหมดไม่ทราบความแข็งแกร่งของชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้นำของพวกมันเลย เหตุนึงก็เพราะผู้นำของพวกมันมิเคยแสดงความสามารถเช่นกัน
แต่การรวมคนกว่าครึ่งร้อยไว้ด้วยกันทั้งพวกมันทุกคนแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์อันดีแก่กันเลยด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นแปลกหน้ากันทั้งสิ้น หากไม่มีใครสักคนออกคำสั่งสร้างเป้าหมายเป็นจุดเดียว คนที่ถูกรวมมาอย่างลวกๆครั้งนี้คงอยู่ได้ไม่นานนักก็แตกแยกเป็นเสี่ยงๆเพราะไร้ความสามัคคีเป็นแน่
ฉะนั้นในเมื่อหลินหยางเป็นผู้ริเริ่มความคิดรวบรวมสร้างกำลังพลนี้ขึ้นมา ชายหนุ่มจึงกลายเป็นผู้นำไปโดยปริยายไม่มีใครคัดค้านหรือเสนอตนเองเข้าแทนที่
แม้จะมีบางคนตะขิดตะขวางใจอยู่บ้างที่ต้องทำตามคำสั่งของชายหนุ่ม แต่กลับกันคนส่วนใหญ่ทำตามคำสั่งแต่โดยดีไม่รีรอ
ส่วนหลังของกลุ่มคนที่ยืนล้อมรอบชายผมยาวอยู่ค่อยๆก้าวเท้าถอยไปด้านหลังอย่างช้าๆ
สำหรับคนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ถอยหลังแนบผนังถ้ำ ส่วนคนที่ล้อมอยู่ในส่วนหน้าสุดเองก็ขยับเคลื่อนต่อแถวเรียงคิวขยับไปด้านข้างติดผนังถ้ำเช่นกัน
พวกมันเรียงตัวกันไปเป็นทอดๆ เหล่าชายฉกรรจ์ล้วนเว้นระยะห่างจากจุดกึ่งกลางของถ้ำปล่อยให้ชายเพียงคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่ไม่ไหวติงนิ่งเฉย
บัดนี้ชายผมยาวยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าชายฉกรรจ์ที่พร้อมใจกันกระจายตัวออกเพื่อล้อมกรอบมันเอาไว้
ตอนนี้พื้นที่ภายในทางเดินของถ้ำที่เคยแออัดกลับมิเป็นดังเก่าแล้ว ระยะห่างของแต่ละคนถูกเว้นช่วงออกมาจากเดิมแม้จะไม่กว้างพอให้ขยับตัวอย่างอิสระแต่ก็มิต้องอัดแน่นกันจนเป็นปลากระป๋อง
มีเพียงค่อนไปทางแนวหน้าเท่านั้นที่ยังคงแออัดอยู่เช่นเดิมเพราะพวกเขายังคงปะทะกับกลุ่มของค้างคาวปีกเหล็กอยู่ สำหรับส่วนหลังนั้นตั้งแต่แถวหลังสุดบัดนี้พวกมันขยายตัวยืดแถวเพิ่มออกไป หากเทียบกับตอนแรกระยะของแถวในตอนนี้คงจะมากกว่าเดิมเกือบสองเท่า
เหตุที่่ทำให้พวกมันจำต้องเพิ่มระยะห่างของแต่ละคนและยืดความยาวของแถวออกไปเช่นนี้สืบเนื่องมาจากข้อความที่พวกมันพึ่งได้รับมานั่นเอง การกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติมิจำเป็นต้องออกคำสั่งเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่คำว่า’ปีศาจ’ทำให้พวกมันขนลุกรีบผละตัวออกจากจุดเดิมแล้ว
หลินหยางมิได้ได้เคลื่อนตัวถอยไปกับคนอื่นๆ เขายืนอยู่ไม่ห่างจากแวมไพร์ปีศาจตนนี้มากนัก ระยะระหว่างเขาและมันห่างกันมิถึงหนึ่งเมตร หน้าของเขาหันไปทางปากถ้ำ ซึ่งตอนนี้เจ้าแวมไพร์เองก็หันไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เขาเห็นด้านหลังและด้านข้างของมันเท่านั้น
ดาบสั้นในมือข้างขวายกสูงขึ้นมาขวางลำตัวตั้งท่าเตรียมสำหรับเข้าต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
ตอนที่ 578 จดจ่อ
หลินหยางกำลังรอดูท่าทีของแวมไพร์ตนนี้คุมเชิงสถานการณ์เอาไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์มิคาดฝัน
เขายังคงสงสัยถึงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของแวมไพร์ตนนี้ทั้งเส้นผมที่ยาวเฟื้อยจนผิดหูผิดตา หากเป็นคนธรรมกว่าที่เส้นผมจะสามารถยาวได้เท่ากับมันคงใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับแวมไพร์ปีศาจมันใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ!
และหลังจากข้ามผ่านประตูสวรรค์มา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใดร่างกายพวกเขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกเลย อย่าว่าแต่เส้นผม แม้แต่หนวดเคราก็มิงอกเงย
เดิมทีเขาเองก็คิดว่าสิ่งมีชิวิตอื่นอย่างเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหลายเองก็คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไปเมื่อเจ้าเขียวทั้งเจ็ดที่ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นไข่จนเติบใหญ่ตัวโตเกือบจะเท่าตัวเขาแล้ว
แต่ใครจะคิดละว่าเจ้าแวมไพร์ตนนี้สามารถงอกผมของตนได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น นี่จึงเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงที่ตัวเขามิได้เอะใจถึงแปรเปลี่ยนไปของมัน
ด้วยเหตุนี้ หากมันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มิคุ้นตาได้อีก มันก็มิใช่เรื่องยากเลยที่จะปรับตัวกลายเป็นคนแปลกหน้าที่พวกเขาไม่เคยพบ และลดความระมัดระวัง หากปล่อยมันคลาดสายตาไปและมันเป็นอย่างที่เขาคิดจริง คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมันจะเข้าไปปะปนอยู่กับฝูงชนด้วยรูปลักษณ์ใหม่
หากมันเกิดขึ้นจริงต้องเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน ฉะนั้นดวงตาของหลินหยางทั้งสองข้างจึงจ้องเขม็งมองไปยังแวมไพร์ปีศาจไม่ลดละ ถึงจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าแวมไพร์ตรงหน้าสามารถเปลี่ยนใบหน้าหรือร่างกายและใช้แผนการเข้าไปปะปนกับหมู่ชนหรือไม่
แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่เขาย่อมไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
ตึก~
ระหว่างที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จู่ๆร่างของแวมไพร์ตรงหน้าก็มีการเคลื่อนไหว มันก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าวไปในทิศทางปากทางเข้าถ้ำ และก็หยุดลงด้วยการเคลื่อนที่เพียงก้าวเดียว
ศรีษะของมันที่นิ่งค้างในองศาเดิมมาเป็นเวลานานในที่สุดก็หมุนคอเปลี่ยนทิศเฉกเช่นเดียวกัน มันโง้มลำคอลงต่ำจ้องมองไปยังพื้นถ้ำ
ใบหน้าของมันยังน่าขยะแขยงเช่นเดิมด้วยภาพอันน่าสยดสยองราวกับถูกตัดแบ่งออกเป็นสี่ฉีกของมันนั่นแล ขาทั้งสองข้างของมันค่อยๆย่อลงอย่างช้าๆจนเกือบติดพื้น มือทั้งสองข้างเอื้อมไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าพลางขุดคุ้ยบางอย่างอยู่บนพื้นถ้ำ
แควกก~
ไม่ช้าก็มีเสียงคล้ายกับการฉีกขาดของบางอย่างดังขึ้นมาจากเบื้องหน้าของแวมไพร์ปีศาจ พร้อมกับในมือของมันที่กำลังถือบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยไปกว่ามือที่มันใช้จับเลยทีเดียว
แหมะ~
ของเหลวบางอย่างสาดกระเซ็นในแนวนอน ของเหลวเหล่านั้นกระทบเข้ากับร่างกายของเหล่าชายฉกรรจ์ที่ยืนล้อมรอบมันอยู่ส่งผลให้พวกมันแตกตื่นตกใจอย่างยิ่ง เพราะพวกมันคิดว่านี่อาจเป็นการโจมตีจากแวมไพร์ตนนี้
แต่แล้วไม่นานพวกมันก็ผ่อนคลายลงเมื่อร่างกายของพวกมันมิได้รู้สึกเจ็บแสบปวดร้อนใดๆเลย
ชายคนนึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นี่อะไร?” ชายคนนั้นใช้มือสัมพัสกับของเหลวที่เปรอะเลอะเทอะบนเสื้อของมัน ยามที่มันสัมผัมลงไปของเหลวนั้นก็เกาะเปื้อนติดมือมันเช่นกัน มันโง้มศรีษะถ่างตาฝ่าความมืดดูสิ่งที่ติดอยู่บนมือมันใกล้ๆ….
“ล-เลือด!!!”