เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 617
ตอนที่ 617 รุกเต็มกําลัง
แม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีสวนกลับโดยไม่ทันได้คาดคิด ทว่าหลินหยางหาได้แตกตื่นตกใจไม่ ลมหายใจของเขาคงที่ไม่ช้าเร็ว ตั้งแต่ที่เขาเริ่มเป็นฝ่ายรุก เขาก็ละทิ้งความคิดเกี่ยวกับการป้องกันและหลบหลีกไปจนสิ้นทั้งยังคิดวิธีรับมือกับคู่ต่อสู้ตัวน้อยไว้หลายรูปแบบ สําหรับการโจมดีในแนวราบเช่นนี้ไม่ต่างจากการโจมตีปกติไม่มีความหลากหลาย และหลินหยางก็คิดวิธีรับมือกับการโจมตีดังกล่าวเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยถึงแม้ท่วงท่าที่อยู่ในปัจจุบันจะมีเป็นอย่างคิด แต่สําหรับการโจมตีธรรมดาของศัตรูแล้วก็มิได้แปลกใหม่เช่นกัน
หลินหยางเค่นเสียงหนึ่งคราพร้อมกับกระชากมือขวาของตนกลับเป็นช่วงเวลาเดียวกับร่างของค้างคาวตัวจอยที่พุ่งเข้าหาตน ความเร็วของค้างคาวตัวน้อยช่างน่าอันตรายอย่างยิ่ง แต่หากเทียบกันแล้วมันยังช้ากว่าแขนขวาของหลินหยางหนึ่งขั้น ตอนนี้ดาบสั้นในมือขวาของหลินหยางอยู่ในจุดเดียวกันกับร่างของค้างคาวตัวจิ๋วในระดับความสูงราวหนึ่งฟุตเหนือร่างของมัน
หลินหยางคลายมือหนึ่งคราพร้อมกับเปลี่ยนมุมตาบสั้นในมือชี้ส่วนปลายที่หักออกไปยังร่างของค้างคาวตัวน้อยด้านล่าง เมื่อท่วงทําเข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อยหลินหยางไม่รอช้ารวบรวมเรี่ยวแรงสูงสุดกดดาบสั้นมุ่งตรงเข้าหาร่างค้างคาวตัวจิ๋วจากทางด้านบนของมัน
คึด~
ก้อนเนื้อแวมไพร์ที่มองเห็นทุกการกระทําของหลินหยางและลูกสมุนของคน มันกระตุกร่างกายเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลินหยางมิได้ถึงดาบของตนกลับมาเพื่อวางแผนตั้งรับหรือหลบหลีกการโจมตีเมื่อการโจมตีครั้งแรกผิดพลาด แต่กลายเป็นว่าชายหนุ่มหมายจะใช้การโจมตีต่อเนื่องโดยใช้อาวุธเล่มเดิมเปลี่ยนมุมองศาโจมตีในลูกสมุนของตนจากมุมสูง เมื่อวิเคาะห์ความเร็วการเคลื่อนที่ของทั้งสองตนดูแล้วดาบสั้นภายในมือมนุษย์หนุ่มที่คืบเข้าหาจากด้านบนศรีษะค้างคาวตัวน้อยนั้นมีความเร็วมากกว่าหนึ่งช่วงขั้น ก่อนที่ลูกสมุนของมันจะถึงเป้าหมายคงถูกดาบเล่มนี้เสียบร่างจนทะลุก่อนเป็นแน่แท้
ดวงตาคู่ยักษ์ของมันจ้องเขม็งไปยังร่างของลูกสมุนของตน
พรึ่บ~
ช่วงเวลาเดียวกันค้างคาวตัวจิ๋วกางปีกที่มีขนาดเกินลําตัวของคนด้านอากาศท้าลม เมื่อปีกของมันสยายออกแน่นอนความเร็วของมันถูกสติลงแทบจะเหลือศูนย์ การเคลื่อนไหวของมันชะงักค้างกลางอากาศ
ฟวับ~
พร้อกกันนั้นเองพื้นอากาศว่างเปล่าห่างออกไปด้านหน้าของค้างคาวตัวน้อยราวหนึ่งฟุต มีบางอย่างแหวกผ่านตรงจุดนั้นจากด้านบนสู่มุมล่างอย่างรวดเร็วจนแทบมิสามารถมองตามได้ทัน มันคือมือขวาของหลินหยางที่แทงดาบสั้นวืดพลาดเป้านั่นเอง
“!?” หลินหยางแปลกใจกับการหยุดกระทันหันของค้างคาวตัวนี้ยิ่ง ทั้งที่คิดว่าการโจมตีของตนย่อมประสบความสําเร็จอย่างมั่นใจเต็มสิบส่วน แต่กลายเป็นว่าคู่ต่อสู้ของตนกลับหลบเลี่ยงการปะทะไปได้อีกคราราวกับว่ามันมีดวงตาหลังสามารถมองเห็นดาบสั้นที่กําลังเคลื่อนเข้าหาร่างของตนจากมุมอับสายตาของตนได้อย่างไงอย่างงั้น
แม้การโจมตีจะพลาดไปโดยไม่คาดคิด แต่ชายหนุ่มไม่หยุดมือไว้เพียงแค่นั้น เขาเปลี่ยนวิธีจับดาบด้ามใหม่อีกครั้งโดยชี้ปลายดาบไปตรงข้างหน้าของตนพร้อมกับแทงตาบพุ่งเข้าหาเป้าหมาย
พึ่บ~
ค้างคาวตัวจ้อยสิหน้าเรียบเฉยมันปล่อยร่างของตนตกตามแรงโน้มถ่วงหันกายกลับหลังพร้อมกับตีปีกหนีจากการโจมตีต่อเนื่องของชายหนุ่มอย่างง่ายดาย
หลินหยางขมวดคิ้วแน่นดึงมือกลับอย่างเสียดาย การโจมตีทั้งสามครั้งของตนพลาดเป้าในเวลาไล่เลี่ยกันติดๆอย่างน่าผิดหวัง สําหรับการโจมตีแรกยังพอเข้าใจได้เพราะศัตรูตัวน้อยของเขาเห็นการเคลื่อนไหวส่วนนึ่งมันจึงสามารถหลบหลีกการโจมตีก่อนที่จะถึงตัว แต่ทว่าการโจมตีต่อมานี้มันไม่สมควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะการโจมตีดังกล่าวเป็นการจู่โจมจากมุมสูงซึ่งเป็นมุมอับสายตาอย่างแน่นอนและการที่มันหลบโดยหยุดชะงักกลางอากาศนี้มิทราบเป็นเพราะความคิดการตัดสินใจของเจ้าตัวหรือโชคช่วยกันแน่ หากมันหลบโดยการเบี่ยงซ้ายขวาหรือลดระดับความสูงมันย่อมไม่สามารถดาบสั้นที่ถูกบังคับด้วยมือขวาของหลินหยางที่มีความเร็วมากกว่าอย่างแน่นอน
“ฟู่วว” ก้อนเนื้อแวมไพร์ด้านหลังหลินหยางเปิดปากกว้างพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่คล้ายกับว่ามันผ่อนคลายลงหลังจากผ่านเหตุการณ์ลุ้นระทึกมาหยกๆ
ลมหายใจของมันพ่นรดแผ่นหลังของหลินหยางราวกับลมกรรโชกร้อนผ่าว ตั้งแต่ค้างคาวตัวจิ๋วโผล่มาเจ้าก้อนเนื้อแวมไพร์ด้านหลังของหลินหยางก็ถูกลดคุณค่าลงไปนับแต่นั้น เขาแทบมิให้ความสนใจแก่มันเลยไม่ว่ามันจะขยับตัว เปลี่ยนสีหน้า หรือหัวเราะเยาะอันใด การถอนหายใจเฮือกใหญ่ของมันเองก็มิได้อยู่ในความสนใจของเขาเช่นกัน
ชายหนุ่มขยับตัวเบียงไปด้านขวาเล็กน้อยใกล้กับผนังถ้ำ เขาควงตาบในมือผ่อนคลายกล้ามเนื้อของตนตอนนี้มือของเขามีแต่เม็ดเหงื่อเกาะอยู่จนเหนียวเหนอะ บนด้ามดาบเองก็ถูกเหงื่อของเขาอาบชโลมทําให้การจับถือไม่สบายมือเช่นกัน เขาขจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้โดยการถูเสียดสีมันไปกับเสื้อผ้าของตนเพียงชั่วครู่ก่อนจะบบมือจับด้ามดาบมั่นหันส่วนคมเป็นแนวขวางซึ่งเหมาะสําหรับการฟัน
มือซ้ายของเขากําหมัดแนบลําตัวพร้อมกับบางอย่างในมือถูกบีบแน่นมีของเหลวสีแดงไหลหยดลงตามข้อแขน
ฟรึบ~
เท้าของเขาออกแรงดีตพื้นส่งร่างตนพุ่งไปข้างหน้าออกตัวเพิ่มความเร็วในระยะเวลาอันสั้น ศรีษะลดระดับต่ำลงลดแรงต้านทานของลมที่ปะทะร่างกาย
ก้อนเนื้อแวมไพร์ที่พึ่งผ่อนคลายได้มินาน เมื่อเห็นชายหนุ่มมีทีท่าหมายบุกตะลุยมันจึงกลับมาใช้สายตาคู่โตจ้องเขม็งมองร่างลูกสมุนตัวน้อยของตนอีกครั้ง
ค้างคาวตัวจิ๋วไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของหลินหยาง หากมองดูดวงตาคู่เล็กที่ประดับอยู่บนใบหน้าขนาดย่อส่วนของมันจะพบว่ามันแทบไม่กระพริบหรือมองตามการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ตนเลยด้วยซ้ำ มันจ้องตรงไปข้างหน้าไม่หันซ้ายหรือขวาราวกับมันเป็นเครื่องจักรไม่มีชีวิต เมื่อมันถูกสายตาของผู้เป็นนายตาจ้องมองพลันสยายปีกกว้างกระพือตอากาศด้านหน้าถอยตัวไปด้านหลังทิ้งระยะจากเดิมราวครึ่งเมตร
แต่การตีปีกถอยหลังของมันแน่นอนไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปตามกลไกธรรมชาติของสัตว์ปีก ตัวมันจึงทุลักทุเลเล็กน้อย กลับกันหลินหยางที่เป็นฝ่ายพุ่งตัวไปข้างหน้าย่อมมีความเร็วมากกว่าเพียงพริบตาชายหนุ่มก็เข้ามาถึงระยะโจมตีของตนเป็นที่เรียบร้อย
พรึ่บ~
ทว่าดาบสั้นในมือขวาหาได้ถูกฟันออกไปไม่กลับกลายเป็นแขนซ้ายที่ขยับคืบไปข้างหน้าเข้าหาร่างของค้างคาวตัวจิ๋ว เมื่อมือซ้ายของเขาเข้าใกล้จนระยะห่างเพียงหนึ่งคืบจากร่างของศัตรูจึงผ่อนแรงภายในมือพร้อมกับปล่อยสิ่งของบางอย่างเป็นแผ่นขนาดใหญ่กว่าลําตัวของค้างคาวตัวจิ๋ว มันมีขนาดกว้างและยาวกว่าฝ่ามือของหลินหยางเล็กน้อย แต่มันน่าแปลกนักที่มันถูกกําเอาไว้ในมือของชายหนุ่มจนมิดมิเล็ดรอดออกมาให้เห็น
ก้อนเนื้อแวมไพร์ตกใจชั่วครู่ที่เห็นสิ่งแปลกปลอมถูกโยนใส่ร่างลูกสมุนของตน ก่อนจะผ่อนลมหายใจกลับเป็นปกติไม่เดือดเนื้อร้อนตัวเมื่อมันเห็นของปริศนาชัดแจ้งเต็มตา มันคือชายเสื้อของมนุษย์หนุ่มน้อยผู้นี้นั่นเอง
ขายเสื้อที่ถูกปีกเหลีกของค้างคาวตัวจิ๋วกรีตผ่านจนแหว่งในยามที่มันโจมตีช่วงเอวของหลินหยางและชายหนุ่มก็ดึงมันขาดออกในที่สุดและใช้เศษผ้าชิ้นดังกล่าวทาบทับกดเอาไว้บนบาดแผลของตนเพื่อหมายจะห้ามเลือดและเช็ดคราบเลือดที่ถูกฤทธิ์จากทักษะโลหิตคลั่งมิให้มันไหลลงไปกัดกร่อนผิวหนังด้านล่างซึ่งมันก็ได้ผลอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นี่คือสาเหตุที่ทําให้เศษผ้าชิ้นนี้มีสีสันแดงสดเพราะถูกย้อมด้วยเลือดสดใหม่ทั้งผืน
ยามที่ก้อนเนื้อแวมไพร์เห็นมือซ้ายขลุกขลิกกําหมัดแน่นของหลินหยางกําลังพุ่งเข้าหาร่างสมุนของตนนั้นมุมปากของมันยังยกยิ้มย่อง มันคิดว่าชายหนุ่มหมายจะใช้มือเปล่าโจมตีใส่ลูกสมุนของตนอย่างโง่งม แต่เมื่อซ้ายของเขาคลายออกส่งสิ่งแปลกปลอมลอยละลิ่วเข้าหาร่างลูกสมุนตัวน้อยมันจึงแตกตื่นตกใจอย่างยิ่ง นึกคิดไปเองว่าสิ่งนั้นอาจเป็นการลอบโจมตีของมนุษย์หนุ่มผู้มากเล่ห์เพทุบายอย่างที่เคยใช้แผนสกปรกลอบทําร้ายมันหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงเศษผ้าผืนหนึ่งที่มันคุ้นเคยอย่างที่ร่างจําแลงคล้ายมนุษย์ของมันก่อนหน้านี้เองก็ได้สวมใส่เช่นกัน ทําให้มันหมดความกังวลไปในที่สุดพร้อมกับหัวเราะร่าในใจเยาะเย้ยชายหนุ่มที่กระทําการอันโง่เขลาไร้สาระ