เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 621
ด้วยความเคยชินตั้งแต่เริ่มปะทะกับค้างคาวตัวจิ๋วมา หลินหยางมิเคยใช้ออกด้วยแขนซ้ายของตนในการโจมตีเลยแม้สักครากอปรกับในสายตาของค้างคาวตัวจิ๋วนี้มนุษย์หนุ่มตรงหน้ามีอาวุธอยู่ในมือขวาเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ทําให้ค้างคาวตัวจ้อยมิได้ให้ความสนใจร่างกายทางซีกซ้า ยของมนุษย์หนุ่มมหวาดระแวงการโจมตีจากด้านนี้เลย
ตัวอย่างที่เด่นชัดยืนยันความคิดของหลินหยางก็คือการที่เขาใช้มือซ้ายเอื้อมเข้าหาค้างคาวตัวจิ๋วและโยนเศษผ้าเปื้อนเลือดของตนปกคลุมมันก่อนหน้านี้ ยามนั้นมือซ้ายของเขาห่างจากร่างของมันมีถึงคืบเสียด้วยซ้ําโดยที่ค้างคาวตัวจิ๋วไม่มีท่าที่หลบเลี่ยงใดๆหากตอนนั้นเขาใช้มือซ้ายโจมตีไปซึ่งๆหน้าบางทีอาจสามารถจัดการมันได้เสียด้วยซ้ํา
“คู!?” จู่ๆก้อนเนื้อแวมไพร์ที่นาบติดอยู่กับแผ่นหลังของหลินหยางก็ส่งเสียงร้องทุ่มต่ํา เสียงที่มันส่งออกมาครานี้หาใช่เสียงร้องแห่งความสุขเมื่อครู่ไม่ น้ําเสียงแฝงไปด้วยความร้อนลน ร่างกายสั่นขึ้นลงจนผนังถ้ําซ้ายขวาสั่นครืน ใบหน้าแสดงออกถึงความสงสัยแฝงอยู่ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ตั้งแต่ที่หลินหยางกระโจนตัวเข้ามาอัดประกบกับมัน ร่างของชายหนุ่มอยู่กึ่งกลางลําตัวของมันพอดิบพอดีโดยที่ชายหนุ่มเองก็มิได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะจุดที่เขาอยู่มันคือกึ่งกลางของถ้ําโดยเว้นระยะห่างระหว่างผนังถ้ําทั้งสองฟากเอาไว้เพื่อเหลือพื้นที่ให้ใช้สอยในยามวิกฤตจําเป็น
ด้วยการเรียงลําดับจุดยืนของทั้งสามชีวิตแล้ว ก้อนเนื้อแวมไพร์ตัวยักษ์อยู่ด้านหลังสุด โดยมีหลินหยางคั่นกลางและค้างคาวตัวจิ๋วที่จวนเจียนถึงตัวหลินหยางอย่างยิ่ง ด้วยขนาดตัวของค้างคาวตัวจิ๋วนั้นก็ตามชื่อเรียกขานของมัน มันมีขนาดตัวเล็กสุดในสามชีวิตที่เผชิญหน้ากันอยู่ ด้วยเหตุนี้ทําให้ร่างกายของหลินหยางบังร่างของค้างคาวตัวจิ๋วจนมิดไม่เห็นแม้แต่เงาเลยทีเดียวหากมองมาจากสายของแวมไพร์ตัวอ้วน
ทว่าหลินหยางที่ยืนอยู่จุดกึ่งกลางนั้นก็เป็นเรื่องปกติสุขมิได้ผิดแปลกอันใด ไฉนก้อนเนื้อแวมไพร์ตัวอ้วนกลมตนนี้กลับมีทีท่าผิดปกติไปจากเดิมกันเล่า? หรือเพราะมันอารมณ์เสียที่หลินหยางบดบังทัศนวิสัยทําให้ไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้กันระหว่างทั้งสองได้? อารมณ์อันแปรปวนของมันยังคงเป็นปริศนาเฉกเช่นเคย เพราะหลินหยางมิได้ให้ความสนใจแวมไพร์ตนนี้แม้เพียงนิดเขาแทบไม่เหลือบสายตาไปมองมันเลยด้วยซ้ํา มีบ้างที่หวาดระแวงว่ามันอาจใช้ปากขนาดกว้างเกือบ เมตรของมันกัดเขาจากด้านหลัง
ช่วงเวลาเดียวกันเมื่อแวมไพร์ตัวยักษ์แสดงอาการผิดปกติ ค้างคาวตัวจิ๋วเองก็ชะงักค้างไปชั่วครู่ร่างกายลอยละลิ่วมุ่งตรงหน้าหลินหยางแต่ระดับความสูงของมันตกลงเล็กน้อยเนื่องจากปีกทั้งสองข้างขาดการควบคุมหดผ่นกลับเข้าหากาย แต่เป็นช่วงเวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนที่ปีกของมันจะกลับมาเหยียดตรงดังเดิม ทว่าร่างกายของมันส่ายไปมาไม่สมดุลมันจําต้องหมุนตัวหันศรีษะมาทางหลินหยางเล็กน้อยก่อนจะตีปีกหนึ่งคราให้ระดับความสูงตามต้องการและหันตัวกลับใช้ส่วนปีกของตนยืนออกมารับหน้าเตรียมปะทะเช่นเดิม
การหยุดชะงักขณะที่กําลังจะปะทะเช่นนี้นับว่ามีผลเสียมากกว่าดี ช่วงเวลาของการเผชิญหน้ากันระหว่างคู่ต่อสู้ที่ใช้ความว่องไวเป็นแกนหลัก เพียงพลั้งเผลอแค่เสี้ยววิก็อาจหมายถึงจุดจบได้ความผิดพลาดที่ตั้งใจหรือมิตั้งใจของค้างคาวตัวจิ๋วย่อมไม่สามารถหลบเลี่ยงดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวเวหาจากหลินหยางที่มองเห็นทุกอณูการเคลื่อนไหวของมันได้
ด้วยระยะที่พอเหมาะพอเจาะและความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ราวกับฟ้าประทาน มือขวาของเขาจ้วงแทงดาบสั้นจากข้างเอวลงในมุมต่ําเพียงครึ่งทางก่อนถึงเป้าหมายเขาได้หมุนหันใบดาบพร้อมเงื่อขึ้นในมุมสูง
การโจมตีดังกล่าวเป็นการแทงลงล่างและม้วนขึ้นบน ซึ่งหากเทียบระดับความสูงของเป้าหมายและดาบสั้นแล้ว แรกเริ่มตัวดาบนั้นอยู่ในระดับความสูงเดียวกัน แต่เมื่อชายหนุ่มแทงต่ําลงทําให้ตัวดาบสั้นอยู่ในระดับต่ํากว่าค้างคาวตัวจิ๋วและแน่นอนมันอยู่นอกระดับสายตาของค้างคาวตัวนี้ซึ่งหากเป็นสิ่งมีชีวิตทั่วไปแล้วนี่จึงเป็นมุมอับสายตาที่คู่ต่อสู้ไม่สามารถมองเห็น ถึงแม้จะไม่สามารถเหมารวมค้างคาวตัวน้อยที่แปลกประหลาดราวกับมีตาทิพย์ตนนี้ก็เถิด แต่การฟันหรือแทงใส่มันตรงๆก็มิได้เช่นกันเพราะหลินหยางไม่คิดว่าเหล็กแผ่นบางที่มีส่วนคมส่วนแหลมอย่างดาบสั้นนี้จะสามารถปะทะกับปีกเหล็กของค้างคาวตัวจิ๋วที่เคยกระแทกใส่โล่เหล็กหลายสิบกิโลกรัมจนเกิดรอยยุบได้
เมื่อระยะจวนเจียนใกล้ถึงตัวศัตรูเต็มที่หลินหยางจึงหงายดาบส่งปลายแหลมแทงขึ้นเข้าหาจุดโจมตี โดยจุดที่เป็นเป้าหมายของดาบสั้นเล่มนี้ก็คือลําตัวส่วนล่างของค้างคาวตัวจิ๋ว!
การแทงครั้งนี้กระชับและรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่มันก็ช้ามากเช่นกันหากเทียบกับความเร็วของพวกเขาทั้งคู่ การโจมตีนี้ยังมีเพียงครึ่งเดียวของความเร็วสูงสุดที่ชายหนุ่มทําได้เพียงเท่านั้น
ปลายดาบเงื่อขึ้นโดยตอนนี้คมแหลมชี้ขึ้นในบริเวณศรีษะของค้างคาวตัวจ้อยซึ่งทั้งสองเองก็เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องค้างคาวตัวจิ๋วเองก็พุ่งมาข้างหน้าเพื่อทําการโจมตี ทําให้ปลายแหลมของดาบสั้นและตัวค้างคาววิ่งสวนทางกัน โดยจุดตกกระทบจริงแล้วอยู่ที่ส่วนหน้าท้องของค้างคาวตัวนี้ในอีกไม่ถึงหนึ่งวินาที
มือซ้ายของหลินหยางกําควบแน่นจนเล็บของตนจิกลงบนฝ่ามือมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยแต่ชายหนุ่มหาได้สนใจหรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อของตนลงไม่กลับกันเขายิ่งบีบแน่นเกร็งกําลังจนถึงขีดสุด เพราะในอีกไม่ถึงหนึ่งวินาทีข้างหน้านี้หมัดซ้ายของตนจะได้ออกโรงโจมตีศัตรูที่เผลอแล้ว!
ตามการคาดการณ์ของเขาแล้วค้างคาวตัวจิ๋วตนนี้ย่อมสามารถหลบดาบสั้นในมือของตนได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกล่าวถึงความเร็วปัจจุบันที่ด้อยสมรรถภาพลงเกือบครึ่ง แม้กระหน่ําแทงด้วยความเร็วสูงสุดก็ยังไม่แน่ว่าจะถูกตัวคู่ต่อสู้เสียด้วยซ้ํา หลินหยางจึงมิได้ฝากความคาดหวังไว้กับการโจมตีนี้แม้แต่น้อย มันเป็นเพียงตัวหลอกเพื่อให้ตัวหลักได้ออกโรงเท่านั้น
“คู่!” ก้อนเนื้อแวมไพร์จ้องมองแผ่นหลังมนุษย์หนุ่มเบื้องหน้าพร้อมกับร้องเสียงหลงซึ่งตามปกติแล้วน้ําเสียงของมันต่ําเตี้ยเรี่ยดินราวกับภูติผีจนน่าขนลุก แต่ตอนนี้มันแหกปากร้องเสียงแหลมจนแสบแก้วหูผิดกับภาพลักษณ์ของตนพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทาเป็นเจ้าเข้าเด้งไปมาราวกับลูกบอล ส่งผลให้พื้นดินบริเวณที่หลินหยางอยู่คล้ายกับเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆ
หลินหยางขมวดคิ้วเล็ก ผืนดินที่สั่นสะเทือนอยู่นี้ทําให้การเล็งเป้าหมายคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นเป้าหมายของปลายแหลมยังเคลื่อนเข้าหาลําตัวของค้างคาวตัวจิ๋วอ
ห้า สี่ สาม…สองเซนติเมตร
เมื่อปลายแหลมของตัวดาบห่างจากลําตัวของค้างคาวตัวจิ๋วมถึงสองเซนติเมตร แขนซ้ายของเขาจึงได้เวลาออกโรงโชว์สักยภาพของตัวมันแล้วเพราะอีกเพียงไม่ถึงอึดใจเดียวเจ้าค้างคาวตรงหน้าย่อมเบียงตัวไปซ้ายขวาหรือบนล่างเพื่อหลบปลายแหลมของดาบอย่างแน่นอนและช่วงจังหวะ ที่มันหลบการโจมตีจากดาบสั้นนั้นจะเป็นเวลาเดียวกันกับหมัดซ้ายกระแทกใส่ร่างศัตรู!
หมัดซ้ายที่ขนาบข้างลําตัวเกร็งกําลังมานานนมพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงจากมุมต่ําขึ้นสูงเช่นเดียวกันกับการโจมตีจากดาบสั้นในมือขวา
หลินหยางเบิกดวงตากว้างเพ่งเขม็งจดจ่อมองร่างค้างคาวตัวจิ๋วดูการเคลื่อนไหวโดยรวมว่ามันจะหลบไปในทิศทางใด เพื่อเตรียมเป้าหมายหมัดซ้ายที่เข้ามาเสริมทัพ
ฉั๊วะะ
ทว่ากลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเมื่อจู่ๆการโจมตีที่มิได้หวังผลด้วยดาบสั้นที่ไม่ควรมีเสียงใดเกิดขึ้นตามมาจากการกระซวกแทงอากาศอันว่างเปล่า
หมัดซ้ายที่เริ่มออกตัวเตรียมต่อยคู่ต่อสู้ถูกหยุดชะงักไว้กลางคัน เมื่อมือขวาได้รับความรู้สึกคล้ายรสสัมผัสที่คุ้นเคยใกล้ชิดยิ่ง…ดาบสั้นในมือเขาจึงตัดผ่านบางอย่าง
มันจะเป็นอื่นใดได้หรือนอกจากร่างของค้างคาวตัวจิ๋ว!!
มิผิดดาบในมือของตนแทงทะลุร่างค้างคาวตัวจิ๋วตั้งแต่บริเวณกลางลําตัวข้างใต้ส่งส่วนปลายดาบหักที่สภาพไม่ค่อยน่าดูชมทะลุออกกลางหลังของค้างคาวตัวจิ๋วและด้วยความเร็วการเคลื่อนที่ของเจ้าค้างคาวตัวกระจ้อยมันจึงมิสามารถเบรคได้อย่างกระทันหันส่งผลให้ร่างของมันที่ยังพุ่งไปต่อแม้จะถูกเสียบครึ่งลําตัวพร้อมกับถูกส่วนคมของตัวดาบกรีดเฉือนผ่านจนสุดลําตัวอย่างง่ายดายแทบจะไร้แรงเสียดทาน!