เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 633
ตอนที่ 633 ข้อมูล
หลินหยางมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของมัน เขายกดาบสั้นในมือขวาขึ้นในระดับลําตัว การตระเตรียมรับมือของเขาในครานี้มิใช่เพื่อการโจมตีหวังผล แต่เป็นเพื่อสกัดกั้นมิให้คู่ต่อสู้ได้แตะเนื้อต้องตัวของเขาโดยการใช้ดาบสั้นโจมตีดักทางเอาไว้นั่นเอง
เหตุที่เขาแนบกําแพงฝั่งซ้ายใช้มือขวาข้างถนัดพร้อมกับดาบสั้นรับมือกับค้างคาวตัวจิ๋วแทนที่จะใช้ต่อกรกับแวมไพร์ปีศาจที่มีความสําคัญมากกว่า นั่นก็เพราะว่าร่างกายทางซีกขวาของเขานี้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากกว่าหากเทียบกับร่างกายทางซีกซ้าย ที่มีทั้งบาดแผลตรงช่วงเอวและนิ้วชี้และกลางที่หักได้รับความเสียหายบนมือซ้าย
แม้จะทราบหัวใจสําคัญของการเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งสองแล้วก็ตามแต่อย่างไรสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็ยังเป็นค้างคาวตัวจิ๋วที่ถูกบงการด้วยแวมไพร์ปีศาจอยู่ดี
“หือ?” หลินหยางส่งเสียงแห่งความสงสัยเมื่อเขาเห็นดวงตาคู่กลมโตของแวมไพร์ปีศาจขยับไปมาและเป็นช่างประจวบเหมาะกับช่วงเวลาเดียวกันกับค้างคาวตัวจิ๋วที่เคลื่อนไหวไปตามจุดเพ่งมองของมันพอดิบพอดี ซึ่งการกระทําของมันย่อมไม่สามารถรอดพ้นสายตาของหลินหยางที่กําลังจับจ้องอยู่
การที่แวมไพร์ปีศาจเบือนสายตาหนีออกจากคู่ต่อสู้ทั้งที่ระยะห่างระหว่างมนุษย์หนุ่มและตัว มันก็มิสามารถเรียกได้เต็มปากว่าปลอดภัย ด้วยเหตุนี้หากเป็นตามปกติแล้วไม่ว่าใครก็ล้วนต้องจ้องมองศัตรูของตนมิปล่อยให้คาดสายตาอย่างแน่นอน แต่เจ้าแวมไพร์ปีศาจที่ห่างกับหลินหยางเพียงเอื้อมมือตนนี้กลับมองผ่านตัวเขาไปยังร่างของค้างคาวตัวจิ๋ว
ราวกับรู้ตัวแวมไพร์ปีศาจหันมองสบตากับชายหนุ่มเมื่อจู่ๆมันก็รู้สึกถึงสายตาที่ราวกับกําลังถูกสายตาที่สามารถมองทะลุไปจิตวิญญาณจ้องมองอยู่
ขณะที่แวมไพร์ปีศาจกําลังไขว้เขว ค้างคาวตัวจิ๋วชะงักการเคลื่อนที่อย่างกระทันหันชั่วครู่ ปีกทั้งสองข้างของมันหยุดกระพือค้างอยู่กับที่ส่งผลให้ร่างของมันลดระดับต่ําลงตามแรงโน้มถ่วง แต่ก็เป็นเวลาเพียงไม่นานเท่านั้นก่อนที่มันจะกลับมาขยับตัวอีกครั้ง
มุมปากหลินหยางมีรอยยิ้มยกขึ้นทันที หลังจากการวิเคาะห์มาทั้งหมดดูจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่คิด ข้อมูลที่ได้รวบรวมมากลั่นกรองเป็นข้อสันนิษฐานที่ถูกต้อง
ตอนนี้เขาได้รับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับคู่ต่อสู้นายบ่าวสองตนนี้เพิ่มขึ้น เขาพอจะเข้าใจการทํางานของค้างคาวตัวจิ๋วที่ตอบสนองจากดวงตาของแวมไพร์ปีศาจบ้างแล้ว ดูเหมือนมันจะใช้ดวงตาเพื่อกําหนดจุดหมายปลายทางให้แก่ค้างคาวตัวจิ๋ว
หากหลินหยางมองย้อนกลับไปในการต่อสู้ที่เขามิได้สังเกตุเห็น จะพบว่าทุกคราครั้งเมื่อค้างคาวตัวจ้อยเริ่มเร่งเครื่องเต็มกําลังเพื่อโจมตีชายหนุ่มมักมาจากการตอบสนองต่อดวงตาของผู้เป็นนายของมันที่จ้องมองจุดที่ต้องโจมตี ส่วนเวลานอกเหนือจากการโจมตีนั้นเมื่อไม่ถูกควบคุมโดยแวมไพร์ปีศาจเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วก็จักตีปีกในอากาศอย่างคงที่
และนั่นก็มีผลพวงสืบเนื่องต่อมาจากการเคลื่อนที่อันพิศวงของพวกมันเช่นกัน นั่นคือการหลบหลีกการโจมตีอย่างน่าอัศจรรย์ของค้างคาวตัวจิ๋ว!
ไม่ว่าหลินหยางจะโจมตีใส่ค้างคาวตัวจิ๋วไปกครามันก็ล้วนหลบเลี่ยงการโจมตีของชายหนุ่มได้ อย่างเฉียดฉิวแทบทุกครั้ง แม้แต่มุมอับสายตาบนล่างซ้ายขวาก็ล้วนไม่มีผล นั่นก็เป็นเพราะว่ามีสายตากลมโตคู่ใหญ่กําลังมองดูการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มอยู่ด้านหลังนั่นเอง ทุกคราที่ชายหนุ่มตั้งท่าเตรียมโจมตีนั้นล้วนถูกมองออกและคาดเดาการโจมตีอย่างง่ายดายจากแวมไพร์ปีศาจ
เมื่อชายหนุ่มใช้การโจมตีที่พลิกแพลงเปลี่ยนวิถีการโจมตีกลางคันอย่างฉับพลันโดยที่เป็นมุมอับสายตาของค้างคาวตัวจิ๋ว แต่ก็ยังหนีไม่พ้นสายตาของแวมไพร์ปีศาจที่มองเห็นทุกการกระทํา ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจากด้านหลัง
ยิ่งมันอยู่วงนอกของการต่อสู้ทําให้มันสามารถมองเห็นภาพรวมได้กว้างมากขึ้น ฉะนั้นไม่ว่าชายหนุ่มจะโจมตีไปในทิศทางใดก็ล้วนแต่เปล่าประโยชน์
แต่ก็มิใช่ว่ามันสามารถมองเห็นทุกอย่าง ดังเช่นการตายของค้างคาวตัวจิ๋วตัวแรกที่ตกตายไปอย่างง่ายดายโดยเงื้อมมือของคู่ต่อสู้ ซึ่งตอนนั้นหลินหยางถอยร่นเข้าใช้แผ่นหลังประชิดกับตัวของแวมไพร์ปีศาจ ด้วยเหตุนี้เองทําให้ร่างกายของชายหนุ่มบดบังการมองเห็นของมันทําให้มันสามารถล่วงรู้การกระทําของของมนุษย์ตัวน้อยว่าจักใช้การโจมตีแบบใด จึงไม่สามารถตัดสินใจ ควบคุมบังคับเปลี่ยนวิถีการบินของค้างคาวตัวจิ๋วและปล่อยมันพุ่งเข้าชนเป็นเส้นตรง ผลลัพธ์ของมันจึงตามมาด้วยการสูญเสียองครักษ์อันมีค่าของมันไปอย่างน่าเสียดายเลยทีเดียว
ตอนนี้ความกดดันและวิตกกังวลในจิตใจหลินหยางหายไปเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งต่างจากสิบนาทีก่อนหน้าที่ใคร่ครวญเสาะหาวิธีการรับมือเผด็จศึกคู่ต่อสู้อย่างยากลําบาก การควบคุมร่างของแวมไพร์ปีศาจที่มีต่อค้างคาวตัวจิ๋วมิได้ซับซ้อนอันใดเลย ค้างคาวตัวจิ๋วก็เปรียบเสมือนเครื่องบินไร้คนขับ ส่วนแวมไพร์ปีศาจก็คือผู้ควบคุมบังคับการเคลื่อนไหวของมันนั่นเอง
แล้วถ้าหากเครื่องบินลํานี้สูญเสียผู้ที่คอยชี้จุดบอกตําแหน่งให้แก่มันไปล่ะ?
หลังจากสบสายแก่หลินหยางชั่วครู่แวมไพร์ปีศาจดึงสายตากลับมองไปยังผนังถ้ําฝั่งซ้าย ซึ่งความคิดของมันก็เข้าใจได้ไม่ยาก มันกําลังสั่งการให้ค้างคาวตัวจิ๋วบินเรียบกับผนังถ้ําเข้าโจมตีคู่ต่อ
วินาทีต่อมาค้างคาวตัวจิ๋วที่เตรียมพร้อมประจําตําแหน่งอยู่เป็นที่เรียบร้อยกระพือปีกที่ลมรุนแรงหนึ่งคราดันร่างของมันไปด้านหน้าก่อนจะลดปีกของตนแนบลําตัวเพื่อลดแรงต้านทานของอากาศ
เมื่อเห็นเช่นนี้หลินหยางมิได้วิตกกังวลกลับกันมุมปากของเขายังยกยิ้มขึ้นอย่างผ่อนคลาย เขาคลายมือที่จับด้ามดาบมิให้แน่นเกินไป อนึ่งการโจมตีของหลินหยางที่กําลังจะเกิดในตอนนี้มิได้ หมายสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรู จุดประสงค์หลักเพียงแค่สกัดกั้นมิให้มันเข้าถึงตัวของเขาได้
เพื่อการนั้นชายหนุ่มจึงคลายมือออกมิเกร็งกําลังเพิ่มความคล่องตัวขึ้นเล็กน้อย เมื่อค้างคาวตัวจิ๋วเข้ามาในระยะโจมตีของตนชายหนุ่มจึงแทงดาบออกไปเป็นเส้นตรงอย่างเรียบง่าย
ฟุบ
ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่คิด ค้างคาวตัวจิ๋วกางปีกซ้ายของมันออกเพียงหนึ่งข้างพร้อมกับเบี่ยงตัวลงทางด้านขวาส่งผลให้ร่างของมันบินเฉียงต่ําลงไปทางขวาหลบการโจมตีของชายหนุ่มไปอย่างไม่ยากเย็นนัก
ฟุป
เมื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของคู่ต่อสู้ไปเป็นที่เรียบร้อย ค้างคาวตัวจิ๋วจึงกางปีกขวาของมันขึ้นขนานกับปีกซ้ายสร้างการทรงตัวให้คงที่เป็นระนาบเดียวกัน พร้อมกับกระพือปีกเพื่อเร่งความเร็วทดแทนความเร็วที่ตกลงจากการหลบหลีก ตอนนี้มันอยู่ห่างจากหลินหยางมีถึงหนึ่งศอกในระดับความสูงช่วงเอวของชายหนุ่ม
หลินหยางเปลี่ยนวิถีการโจมตีจากการแทงที่พลาดเป้า จากปลายแหลมของดาบที่ชี้ตรง เปลี่ยนมาเป็นแนวขวางหันส่วนคมเข้าหาตน เสี้ยววินาทีต่อมาตัวดาบถูกดึงเข้าหาค้างคาวตัวจิ๋วจากด้านบนข้างหลังเฉียงต่ําลงมาเรื่อยๆ เมื่อคํานวนจากความเร็วของดาบสั้นและค้างคาวตัวจิ๋ว จุดที่ทั้งสองจะปะทะกันจะอยู่บริเวณด้านหน้าของหน้าท้องหลินหยางราวหนึ่งคืบ แต่การปะทะกันของทั้งสองคือการที่ตัวดาบสั้นศรีษะของค้างคาวตัวจิ๋ว!
แน่นอนจากสายตาของแวมไพร์ปีศาจมันก็ย่อมมองเห็นการเคลื่อนไหวของดาบสั้นในมือหลินหยางเช่นกัน
แวมไพร์ปีศาจส่งเสียงแหลม จากน้ําเสียงของมันให้ความรู้สึกคล้ายกับว่ามันกําลังหัวเราะเยาะอยู่ก็มิปาน มันคิดว่ามนุษย์ตรงหน้ายังมิทราบถึงความสามารถของตน หมายใช้ดาบสั้นแทงใส่ร่างของค้างคาวตัวจิ๋วเมื่อพลาดเป้าจึงใช้การโจมตีต่อเนื่องจากด้านหลังที่เป็นมุมอับเพื่อโจมตีค้างคาวตัวจิ๋วเพื่อปิดบัญชี
ดาบสั้นเข้าใกล้ค้างคาวตัวจิ๋วมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนค้างคาวตัวจิ๋วก็เข้าใกล้หลินหยางเช่นกัน
พรึ๊บ
เมื่อดาบสั้นจวนเจียนใกล้ถึงร่างของค้างคาวตัวจิ๋วมันหยุดชะงักอย่างฉับพลันด้วยการ สยายปีกต้านกระแสลม ซึ่งเป็นผลพวงจากการควบคุมของแวมไพร์ปีศาจนั้นแล
ฟุบ
การหยุดชั่วพริบตาของมันทําให้ดาบสั้นในมือหลินหยางฟาดฟันผ่านอากาศว่างเปล่าไปโดยไม่แตะถูกเนื้อต้องตัวของคู่ต่อสู้แม้แต่ปลายขน
แม้จะพลาดไปแต่มือของหลินหยางหาได้หยุดไม่ เขาฟันดาบสั้นฟันไปข้างหน้าจากซ้ายไปสู่ขวาในทางท่าปกติ
ค้างคาวตัวจิ๋วมันหมุนกายกลับหลังกระพือปีกบินทิ้งระยะห่างจากหลินหยางออกไปทันที
ทว่า…แม้การโจมตีของตนจะพลาดติดต่อกันถึงสามครา แต่ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่