เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 65-66
ตอนที่ 65 หวงฮั่น(ตอนต้น)
ณ โพรงกระรอก
“นี่ พวกเราไปหาที่อื่นกันเถอะ เส้นทางอีกมากเรายังมิได้สำรวจข้าว่ามันจะต้องมีแหล่งอาหารจุดอื่นอีกแน่ๆ”
“ไอ้โง่ อาหารของพวกเราไม่เพียงพอให้ทำเช่นนั้นหรอก”
“ต-แต่เราไม่ก็ไม่ควรจะทำร้ายพวกเขานะ พวกเขาไม่ผิดอะไรสักหน่อย”
“ถึงเราจะเจอแหล่งอาหารจุดใหม่จริงแล้วเจ้าไม่คิดเหรอว่ามันจะมีสัตว์ประหลาดแบบไอ้ยักษ์ตัวเขียวนั่นเฝ้าอยู่” ชายฉกรรจ์เผ่ามนุษย์ผู้มาจากเมืองน้องใหม่ที่จับมือเป็นพันธมิตรต่างก็ส่งเสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายขณะที่ยังชี้คมหอกง้างคมดาบล้อมมนุษย์หมาป่าผู้เฝ้ายามกักขังพวกมันเอาไว้
“เงียบ!! เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดว่าจะถอยได้อีกเหรอ แล้วเจ้าคิดว่าไอ้พวกมนุษย์หมาป่านี้มันจะไม่กลับไปฟ้องนายของมันหรือไง? ถึงแม้มันจะไม่รายงานเรื่องนี้ให้เมืองมันทราบ แล้วพวกเจ้าจะยอมอดตายงั้นเหรอ?” ชายคนหนึ่งตวาดลั่นหยุดความโกลาหล มันผู้นี้มีนามว่าหวงฮั่นผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้นำที่ซึ่งบัดนี้ได้เลื่อนตนเองขึ้นมาแทนอดีตผุ้นำคนเก่าที่พลาดท่าสิ้นชีวีไปเมื่อวานด้วยน้ำมือของออร์ค
หลายคนที่แสดงความเห็นต่างก่อนหน้านี้ต่างก็ก้มหน้าก้มตาไม่โต้เถียงอีก ก็อย่างที่หวงฮั่นกล่าวไปหากพวกมันไม่ยึดแหล่งอาหารจุดนี้พวกมันก็คงต้องอดตายเป็นแน่
“พวกเราย้อนกลับไปไม่ได้แล้วมีแต่จะต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น ข้าได้ส่งคนไปสืบมาแล้วว่าเมืองของพวกมันตั้งอยู่ไกลจากที่นี่มากกว่าสิบกิโลเมตร ต่อให้พวกมันรู้ตัวรุดหน้ามาที่นี่ก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง” หวงฮั่นสาธยายแสดงความเป็นผู้นำ อันที่จริงตั้งแต่เมื่อวานที่พวกมันพ่ายแพ้ให้แก่ออร์คก้ใช่ว่าจะหนีเตลิดกลับเมืองโดยพลัน เหตุการณ์ที่หลินหยางและพวกเข้าจู่โจมออร์คถัดจากนั้นพวกมันเองก็ซุ่มดูอยู่ห่างๆรอฉกฉวยโอกาศเช่นกันทว่าน่าเสียดายที่มันไม่มีโอกาศนั้น
——————————————————————————————————————–
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น
“กระรอกมันออกมาจากตรงไหนกัน” มนุษย์หมาป่ารายหนึ่งกล่าวถามขณะที่มันกำลังมุดร่างท่อนบนเข้าไปด้านในโพรงไม้ด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ฮ่าๆ เจ้าแพ้ข้าแล้ว”
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้ามิควรวางตรงนั้น” มิมีใครสนอกสนใจมนุษย์หมาป่าขี้สงสัยเลย ตอนนี้มนุษย์หมาป่าเฝ้ายามทั้งหลายต่างก็นั่งจับกลุ่มมุงดูการเล่นหมากล้อมที่กลายเป็นการละเล่นที่นิยมภายในเมืองหลินหยาง โดยเฉพาะเผ่ามนุษย์หมาป่าที่กำลังติดหนึบกันเลยล่ะ
“เฮ้อ อยากจะแพ้สักครั้งจังเลย” เจียวฮั่นมนุษย์หมาป่าหนุ่มหัวหน้าทีมจู่โจมที่หนึ่งกล่าวอย่างอวดดีหลังจากที่ตนพึ่งกำชัยชนะ
“หืม?” ทว่า…มันมิได้ดื่มด่ำกับชัยชนะนานนัก สายตาของมันพลันตรวจพบการเคลื่อนไหวของคนจำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือกำลังตรงปรี่เข้ามาหา ซึ่งดูแล้วพวกมันย่อมมิได้มาด้วยเจตนาดีอย่างแน่นอน
“เจียวหุยไป” เจียวฮั่นกล่าวพลางลุกขึ้นชักดาบออกจากฝักใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย
“เจ้าพุดอะไรนะ ข้าไม่ได้ยิน” มนุษย์หมาป่านามเจียวหุยส่งเสียงอุดอู้มันคือมนุษย์หมาป่าขี้สงสัยที่ตอนนี้กำลังพยายามสุดแรงมุดเข้าไปในโพรงไม้
“รีบไป!!” เจียวฮั่นส่งเสียงตะคอกหนึ่งคราวก่อนที่มันจะนำทีมทีมจู่โจมที่หนึ่งที่เหลือเดินเข้ามาประจัญหน้ากันกลุ่มผู้ต้องสงสัย
“!?” เจียวหุยที่ผลุบออกมาจากโพรงกระรอกมีสีหน้าตื่นตกใจยิ่งก่อนที่สายตาของมันจะตรวจพบช่องโหว่ที่เจียวฮั่นและพรรคพวกได้กันเอาไว้ มันไม่รอช้าวิ่งอย่างร้อนลนเลี่ยงสายตาของหมู่มวลมนุษย์ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว เจียวหุยก็วิ่งเตลิดไปไกลลับ
“พวกเจ้ากลับมาทำไมอีก” เจียวฮั่นตะโกนลั่น มันแน่ชัดว่าจดจำได้ว่าผู้มาเยือนคือกองกำลังเมื่อวานนี้
“เราก็มาทวงของพวกเราคืนน่ะสิ” ตอนนั้นเองหวงฮั่นผู้นำของกลุ่มแทรกตัวออกมายืนประจัญหน้ากล่าวด้วยใบหน้ายียวนกวนประสาท
“ของพวกเจ้า? หน้าไม่อายยิ่งเจ้าเอาสิทธิ์อะไรมาอ้างตนเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ เห็นชัดว่าเป็นพวกข้าที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเลือดปราบออร์คและยึดที่นี่มาได้” กลุ่มมนุษย์หมาป่าไม่พอใจยิ่งนักตวาดกลับ
“แล้วไง? ก็จริงที่พวกแกแย่งที่นี่มาจากออร์ค แต่แล้วมันจะมีปัญหาอะไรถ้าพวกข้าจะแย่งที่นี่ไปจากแก ถ้าไม่อยากกลายเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้นี้ก็ถอยไปซะไอ้พวกสัตว์ประหลาด” กลุ่มผู้บุกรุกก็ใช่ว่าจะน้อยเถียงกลับทุกคำ
“แน่จริงก็เข้ามาสิวะ” มนุษย์หมาป่ามิยอมแพ้ตอกคืนทุกประโยคจนเกิดสงครามวาจาขนาดย่อมๆ
“ไม่ต้องพูดมาก ในเมื่อไม่รักชีวิตงั้นก็ตายอยู่ที่นี่แหละ ฆ่ามัน!!!” หวงฮั่นลั่นวาจาพร้อมชักดาบชี้ไปที่กลุ่มมนุษย์หมาป่า
เฮฮ~~
ทันใดนั้นเองเสียงโฮ่ร้องก้องกังวาลพร้อมกับฝูงชนร่วมสามสิบชีวิตถืออาวุธครบมือวิ่งสุดแรงเกิดตรงปรี่มาหาพวกมันจากด้านหลัง
ตอนที่ 66 หวงฮั่น(ตอนปลาย)
“เหวอ พวกมันมาจากไหนเนี้ย” ชายรายหนึ่งตะโกนอย่างลุกลี้ลุกลน
“พวกนั้นมันพวกที่สู้กับออร์คเมื่อวานนี้” ชายอีกคนเสริม
“พวกเราตายแน่” สถานการณ์นี้อยุ่นอกเหนือความคาดหมายส่งผลให้พวกมันต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล
“อย่าตื่นตกใจ พวกมันมีแค่สามสิบกว่าคนเท่านั้น ยังไงพวกเราก็ได้เปรียบ” หวงฮั่นกล่าวเพื่อสงบสติอารมณ์กำลังพลของมัน
หลินหยางมาครานี้เขาไม่ได้นำคนมาด้วยมากมายนักมีเพียงทีมก่อสร้างและทีมระยะใกล้ไม่กี่คนเท่านั้น เขาไม่คิดว่าเจ้าพวกนี้จะมีความกล้ามากถึงขนาดนี้ พวกมันกลัวออร์คแต่กลับไม่กลัวพวกเขาที่ฆ่าออร์คตนนั้น
“กำลังเสริมมาแล้ว!!” มนุษย์หมาป่าที่ตกอยู่ในวงล้อมตะโกนกร้าวดีใจจนออกนอกหน้าขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“หน่วยจู่โจมตีฝ่าออกมา” หลินหยางตะโกนพร้อมกันนั้นอาศัยจังหวะที่ศัตรูยังมิทันตั้งตัวเค้นพละกำลังจับด้ามดาบด้วยสองมือแทงลงบนพื้นพร้อมด้วยทักษะที่พึ่งได้รับมาใหม่ล่าสุด….สบั้นพสุธา!!
ตู้มมม!!
ราวกับเกิดแผ่นดินไหว ผืนดินโอนเอนชั่วครู่เบื้องหน้าหลินหยางในรูปทรงกรวยปรากฏเข็มดินห้าแท่งแทงเข้าใส่กลุ่มเป้าหมาย
อ้ากกก~~
ผู้เคาะห์ร้ายที่ตกเป็นเป้าหมายของหลินหยางร้องออกมาอย่างเจ็บปว
ส่วนทางด้านผู้ใช้ทักษะนั้นบัดนี้มันหยุดอยู่กับที่ปล่อยให้ทีมของตนวิ่งรุดหน้าไปไกล ชายหนุ่มท้าวแขนกับเข่าทั้งสองข้างหายใจเหนื่อยหอบเป็นผลมาจากการใช้ทักษะระดับสูงและผลลัพธุ์ที่ได้รับดูจะไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย จากเข็มดินที่ปรากฏทั้งห้าเล่มมีเพียงสามในห้าเท่านั้นที่สร้างความเสียหายให้เป้าหมายแถมความเสียหายที่พวกมันได้รับยังไม่รุนแรงพอจะเรียกว่าบาดเจ็บสาหัสด้วยซ้ำ
“ใครขัดขืนฆ่าให้หมด!” มันลั่นวาจารีบฝืนวิ่งตามพวกพ้องที่บัดนี้กรูกันเข้าไปหาศัตรูปะทะกับกองกำลังอีกฝ่ายอย่างบ้าระห่ำ
การโจมตีด้วยทักษะสะบั้นพสุธาของหลินหยางแม้มันจะมิสร้างความเสียหายให้ฝ่ายตรงข้ามแต่มันก็สร้างความโกลาหลอย่างใหญ่หลวงให้แก่ขบวนทัพของหวงฮั่นและตอนนี้หวงฮั่นก็แสดงใบหน้าตกใหญ่เดินถอยหลังพยายามประมวลผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉุกลหุก
“อย่าแตกแถว ไม่ต้องไปกลัวพวกมัน ยังไงคนของเราก็ยังเยอะกว่า!!” หวงฮั่นรวบรวมสติสั่งการลูกสมุน
คำสั่งของหวงฮั่นดูจะมีผลกับขวัญกำลัง พวกมันมองภาพรวมและเห็นว่ากองกำลังของฝ่ายตนนั้นมีมากกว่านับสามเท่า ทั้งหมดจึงกำดาบเข้าปะทะกับอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ส่วนหวงฮั่นที่ออกคำสั่งบัญชาการทัพกลับแอบอยู่ด้านหลังมิได้เข้าไปโรมรันฟันแทงช่วยเป็นกำลังรบ ยืนผิงหลังกับต้นไม้มองดูการต่อสุ้ด้วยร่างกายสั่นเทาเห็นได้ชัดว่ามันมิค่อยสันทัดการต่อสู้สักเท่าไหร่
“!?” และตอนนั้นเองดวงตาของมันตรวจพบบุคคลสำคัญของอีกฝ่าย นั่นก็คือหลินหยางที่ตอนนี้กำลังพัวพันอยู่กับชายฉกรรจ์สองคนที่รุมล้อมมันทั้งซ้ายและขวา
หวงฮั่นแสยะยิ้มมุมปากก่อนที่มันจะจับด้ามดาบมั่นค่อยๆย่องแทรกซึมเข้าไปในสมรภุมิจนกระทั่งเข้ามาใกล้เป้าหมายจากด้านหลัง
‘ตายซะเถอะ!!!’ สองมือผสานยกดาบยาวคู่ใจเหนือศรีษะพร้อมฟันลงเป็นเส้นทางเข้าใส่กบาลของเป้าหมายอย่างบรรจง!!
ฉึบบ~~
ทว่า…ภาพชายหนุ่มในสายตาของมันแปรเปลี่ยนกระบวนท่าฉับถือดาบด้วยมือเดียวยืดกางออกจนสุดพลันหมุนกายรอบวงกลมและหยุดลงก่อนที่ศรีษะของชายฉกรรจ์ทั้งสองคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของชายหนุ่มก่อนหน้านี้หลุดออกจากบ่าตกลงบนพื้นก่อนจะตามไปด้วยร่างของพวกมันฟุ่บลงตามไปติดๆ
เห็นภาพเช่นนี้ในระยะเผาขนดวงตาของมันเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดร่างกายอ่อนระทวยโรยแรงคมดาบที่หมายลอบโจมตีเป้าหมายชะงักค้างกลางอากาศมือสองข้างไร้พละกำลังกัดกุมด้ามดาบปล่อยดาบคู่ใจหลุดมือก่อนที่ร่างของมันจะหงายนั่งจ้ำเบ้าลงบนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาวเป็นก้มต้มแสดงถึงความหวาดกลัวจับจิตร่างกายสั่นงันงกมองภาพชายหนุ่มเบื้องหน้าราวกับปีศาจ
ด้วยความหวาดกลัวของมันนี้เองจึงเป็นเหตุให้หวงฮั่นหลบการเหวี่ยงดาบของหลินหยางได้อย่างหวุดหวิดคมดาบเฉียดคอหอยของมันไปไม่ถึงคืบ หากมันยังรั้นโจมตีต่อชะตากรรมของมันคงลงเอยแบบเดียวกันกับลูกสมุนถูกบั่นคอดับวิญญาณมิทันได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด!!