เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 671
ตอนที่ 671 จิตวิญญาณเทพอสูร
“อันเอ๋อร์ เล่าเหตุการณ์ที่เจ้าไปเจอมาในวันนี้” ผู้เป็นบิดากล่าวกับลูกสาวของตน
เด็กสาวบอกเล่าเรื่องราวอย่างสนุกสนานตั้งแต่เข้าไปในป่ารกทุกรายละเอียดล้วนไม่ตกหล่นสัตว์ปาตัวใดที่ผ่านตา พืชพันธ์ดอกไม้ที่เคยเชยชม จนถึงจุดจบของเรื่องราวเมื่อกลับมาถึงเมืองแห่งนี้อย่างปลอดภัย
“เจ้ารู้ความผิดของตนหรือไม่” ผู้เป็นบิดากล่าว
เด็กสาวใบหน้าหม่นหมองลงฉับพลันผงกหัวอย่างเชื่องช้า
“เช่นนั้นข้าจะลงโทษกักบริเวณเจ้า เจ้าต้องร่ําเรียนวิชาแพทย์จากเทพโอสถและอ่านตําราภายในหอโอสถทั้งหมดเป็นเวลาหนึ่งเดือน ห้ามมิให้ผู้ใดเยี่ยมเยือน ห้ามพบปะกับบุคคลภายนอก เจ้ายอมรับหรือไม่?” บิดากล่าว
” ท่านพ่อ!!” องค์ชายรองสีหน้าแตกตื่น
ตึง
ทันใดนั้นเองเด็กชายตัวน้อยผู้เป็นสหายร่วมเดินทางกับสาวน้อยทั้งสองตนคุกเข่าลงบนพื้น
“พวกข้ายินดีรับโทษแทนอันอัน” เด็กชายทั้งสองกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
“อี้เอ๋อร์ เอ้อเอ๋อร์ พวกเจ้าตัดสินใจได้ดีที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ถูกเวลาฉะนั้นข้าจะ ไม่เอาผิดพวกเจ้า” บิดาเด็กสาวกล่าว แท้จริงแล้วมันทราบถึงอุปนิสัยของบุตรสาวของตนและเด็กชายตัวน้อยทั้งสองดี เด็กชายทั้งสองเป็นดั่งบิดาของมันที่มีความเข้มงวดแก่ตนเองสูงทั้งยังรัก ษากฎเกณฑ์อย่างยิ่ง ฉะนั้นการเดินทางเข้าไปยังปารกทึบนี้ย่อมมิใช่ความคิดที่เกิดจากเด็กชาย งสองอย่างแน่นอน
“ว่าไงอันเอ๋อร์เจ้ายอมรับหรือไม่?” บิดากล่าวต่อ
เด็กสาวหน้ามุ่ยผงกหัวยอบรับโทษแต่โดยดี
“ดี! เมื่อครบกําหนดข้าจะทดสอบเจ้าด้วยตนเอง” ผู้เป็นบิดากล่าวกับบุตรสาว มุมปากของมันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยมันพยายามอย่างยิ่งที่จะมแสดงอารมณ์ต่อหน้าบุตรสาวของตน
“นําตัวองค์หญิงไปยังหอโอสถ!” มันสั่งการบริวาร
เหล่าทหารองค์รักษ์ส่วนที่ยืนเรียงรายส่วนหนึ่งปลีกตัวออกจากแถวคุ้มกันเด็กสาวมุ่งตรงสู่หอโอสถตามคําบัญชา ท่าทีที่เหล่าองค์รักษ์ปฏิบัติต่อเด็กสาวแสดงถึงความเคารพไม่น้อยไปกว่าผู้เป็นบิดาของนางเลย
หลังจากเด็กสาวเดินคอตกออกจากห้องโถงใหญ่ไปไม่นาน
ภายในห้องโถงเกิดเสียงระเบิดหัวเราะดังสนั่น
“เจ้าทําให้ข้าผู้เฒ่าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ นับถือ นับถือ” ชายชราเปร่งวาจาด้วยสีหน้า ตื่นเต้นยินดี
“พี่ใหญ่ แผนการของท่านช่างแยบยลนัก” ชายวัยกลางคนกล่าวเสริม
“หากมิได้พวกท่านช่วยเหลือคงมิสําเร็จเช่นนี้” บิดาของเด็กสาวกล่าว
“อี้เอ๋อร์ เอ้อเอ๋อร์ ลําบากพวกเจ้าแล้ว” มันกล่าวต่อ
“หากเป็นประโยชน์ต่อองค์หญิงพวกข้าแม้บุกน้ําลุยไฟก็มบ่ายเบี่ยง” เด็กชายทั้งสองตอบกลับ
” ท่านพ่อ! นี่มันเรื่องอะไรกัน” องค์ชายรองผู้มิรู้เรื่องราวกล่าวถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่น้องสาวสุดรักของตนถูกกักบริเวณ ด้วยคําสั่งของบิดามันแม้แต่จะแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนก็มิสามารถไปได้นั่นแสดงว่ามันจะมิได้เห็นหน้าเด็กสาวเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม!
” ข้าทําเพื่ออันเอ๋อร์และอนาคตของเผ่า ปีศาจ” เรา” บิดาของมันกล่าว
“เจ้าคงจะรู้อยู่แล้ว อันเอ๋อร์นั้นเกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณแห่งปัญญาหนึ่งในสามสิ่งตกทอดของเทพอสูร พลัง ชีวิตและปัญญา จิตวิญญาณแห่งพลังทําให้ผู้ครอบครองมีพลังอํานาจเหนือกว่าผู้ใดในภพภูมิ จิตวิญญาณแห่งชีวิตทําให้ผู้ถือครองมีชีวิตอมตะไร้สิ้นอายุขัยมแก่มิดับสูญคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ส่วนจิตวิญญาณแห่งปัญญาทําให้ผู้ถือครองเข้าใจทุกสรรพสิ่งถึงแก่นแท้”มันกล่าว
” สามสิ่ง? มิใช่มีเพียงแค่จิตวิญญาณแห่งปัญญางั้นหรือ?” องค์ชายรองตอบกลับเสียงอึกอัก
“นั่นเพราะสองในสามจิตวิญญาณแห่งเทพอสูรนั้นมิได้ถูกครอบครองโดยเราเหล่าปีศาจจิตวิญญาณแห่งพลังถูกครอบครองโดย…ราชาอสูรเจี้ยนคัง ผู้ปกครองทิศใต้แดนปีศาจ ส่วนจิตวิญญาณแห่งชีวิตผู้ที่ได้ถือครองคือ…มหาเทพเซิงหัว เทพสูงสุดผู้ปกครองแห่งสวรรค์”
“นั่นคือเรื่องราวเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ส่วนจิตวิญญาณแห่งปัญญาไม่มีบันทึกใดที่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนถึงตัวผู้ครอบครอง บางตํารากล่าวไว้ว่ามันหายสาบสูญไปพร้อมกับเทพอสูรในอดีตกาลและไม่เคยมีผู้ใดเคยได้ถือครอง บางบันทึกกล่าวว่าสิ่งที่เทพอสูรทิ้งไว้มีเพียงจิตวิญญาณแห่งพลังและชีวิตเท่านั้น”
“หึหึ… ผู้จดบันทึกเหล่านั้นช่างโง่งมนัก ในจารึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ปีศาจที่ตกทอดรุ่นสู่รุ่นถูกกักเก็บไว้ในอาณาเขตต้องห้ามที่มีเพียงจักพรรดิปีศาจในปัจจุบันเท่านั้นที่สามารถอ่านได้ในจารึกระบุไว้ว่าจักพรรดิปีศาจพระองค์แรกผู้สถาปนาดินแดนปีศาจเป็นผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งปัญญาและเป็นองค์แรกและองค์เดียวในโลกหล้าที่สามารถครอบครองปัญญาของเทพอสูร!”
” ข้อมูลตามจารึกของเราสอดคล้องกับหลายเหตุการณ์ในตอนนั้นอย่างยิ่ง ในยุคการปกครองของจักพรรดิองค์แรกนั้นเผ่าปีศาจถือเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าแม้แต่เผ่าอสูรและเทพก็มิอาจเทียบเคียงทว่าเมื่อจักพรรดิองค์แรกเข้าสู่การนิทรานิรันดร์เผ่าปีศาจก็ตกต่ําเรื่อยมา
” แต่เทพอสูรยังมิทอดทิ้งพวกเรา! จิตวิญญาณแห่งปัญญาที่หายสาบสูญไปกว่าหมื่นปีในที่สุดก็กลับมายังเผ่าปีศาจอีกครั้งและผู้ที่ได้ครอบครองมันก็คือบุตรสาวของข้า!” มันกล่าวด้วยใบหน้าแดงทั้งตื่นเต้นทั้งยินดี
“มันคือเรื่องเมื่อสิบสี่ปีก่อน วันที่อันเอ๋อร์ถือกําเนิดยามเสียงร้องแรกของนางดังก้องไปทั่วทั้งแดนดิน สัตว์นับหมื่นส่งเสียงร้องประสานร่วมแสดงความยินดี เป็นเวลากว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนที่ท้องนภาไร้เมฆบดบังดวงดาวทอประกายกระจ่างชัด ตะวันสุกสกาว จันทร์ทราเต็มดวงไม่เลือนหายเดิมที่ข้าคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นของธรรมชาติ แต่เมื่อข้านึกถึงจารึกในอาณาเขตต้องห้ามก็ทราบว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นสัญญาณการถือกําเนิดของผู้ครอบครองหนึ่งในจิตเทพอสูร!!”
” เมื่อผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งพลังถือกําเนิดผืนดินสะเทือนผืนฟ้าถล่มเกิดลมพายุสายฟ้าฟาดฝนกระหน่ําเจ็ดวันคืน เมื่อจิตวิญญาณแห่งชีวิตปรากฏผืนปาขานรับเติบโตเขียวขจีสิ่งมีชีวิตทั่วหล้าหายจากอาการเจ็บปวยเป็นปลิดทิ้ง แม้แต่คนชราไม้ใกล้ฝั่งยังกลับมากระปรี้กระเปร่าราวกับวัยหนุ่มไม่ต่างจากได้รับพรศักดิ์สิทธิ์” ผู้เป็นบิดาเล่าเหตุการณ์เกินจิตนาการในวันวานมันแทบควบคุมอารมณ์ความตื่นเต้นมิอยู่
“แม้แต่เผ่าอสูรและเทพก็มิสามารถเทียบเคียง! จักพรรดิองค์แรกเก่งกาจถึงเพียงนั้น!” องค์ชายรองยิ่งรับฟังเรื่องราวยิ่งมายิ่งตื่นตระหนก เผ่าเทพในปัจจุบันเกรียงไกรไปทั่วทั้งสามภพ
ส่วนเผ่าอสูรนั้นปัจจุบันอาศัยอยู่ในทางตอนใต้ของดินแดนปีศาจเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าปีศาจที่อยู่ทางเหนือ แดนปีศาจแห่งนี้จึงแบ่งออกเป็นสองฝักฝ่ายเหนือใต้ เป็นที่ทราบโดยทั่วในแดนปีศาจว่าเผ่าสัตว์อสูรนั้นเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เล็กๆที่มีประชากรเพียงหยิบมือบางทีอาจจะพันหรือหมื่นตนกลับกันเผ่าปีศาจนั้นเป็นเผ่าขนาดใหญ่มีเลือดเนื้อเชื้อไขแผ่ขยายอยู่ทั่วหล้านับไม่ถ้วนบางทีอาจจะมีถึงพันหรือหมื่นล้านชีวิต!
แต่โลกปีศาจกลับถูกแบ่งออกเป็นสองซีกโดยมีพื้นที่เท่าเทียมกันโดยถูกกั้นโดยปาอสูรพื้นที่ส่วนเหนือถูกปกครองโดยเผ่าปีศาจและทิศใต้ถูกปกครองโดยเผ่าสัตว์อสูร ทั้งสองเผ่าปะทะกันเรื่อยมานับพันนับหมื่นปี
เหตุใดทั้งที่มีกําลังพลมากกว่านับแสนนับล้านเท่าจึงยังมิสามารถมีชัยเหนือไปกว่าสัตว์อสูรที่มีเพียงหยิบมือนั่นหรือ?
นั่นเพราะราชาอสูรเจี้ยนคัง!
แม้ไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของราชาอสูรตนนี้ในอดีตกาล แต่ในปัจจุบันความแข็งแกร่งของมันเพียงลําพังเทียบเคียงได้กับนักสู้เผ่าปีศาจทั้งมวล!
แล้วบิดาของมันพึ่งกล่าวว่าจักพรรดิองค์แรกกลับเก่งกาจเหนือกว่าราชาอสูร!
“มิผิด! จักพรรดิองค์แรกสามารถนําพาเผ่าปีศาจขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์ทั้งมวล” บิดาของมันกล่าว
“เพราะจิตวิญญาณแห่งปัญญางั้นหรือ?” องค์ชายรองกล่าวด้วยใจระทึก
“ถูกแล้ว! สําหรับเจ้าคิดว่าดวงจิตใดของเทพอสูรที่มีค่ามากที่สุด?” บิดาของมันย้อนถาม
“อืมห์…” องค์ชายรองใช้สมองครุ่นคิด
“พลัง? หากมีพลังมากมเท่ากับแข็งแกร่งที่สุดแล้วหรือ? ผลลัพธ์ตอนนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของราชาอสูร…ไม่สิ จิตวิญญาณแห่งชีวิตก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ชีวิตอมตะไม่มีวันดับสูญแม้จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่เก่งกาจแค่ไหนอย่างใดก็ไม่มีวันพ่ายแพ้แน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เผ่าเทพมีอํานาจเป็นหนึ่งในทั้งสามเผ่าพันธุ์” องค์ชายรองตอบหลังกลั่นกรองผ่านมันสมองเค้นความคิด