เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 677
เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 677 หน่วยสอดแนม
“เดี๋ยว!” ตอนนั้นเองจู่ๆผู้นําหน่วยของพวกมันก็ตะเบ็งเสียงดังตั้งท่าเตรียมต่อสู้อย่างฉับพลัน
” หัวหน้า ท่านเป็นอะไรไป”
“ท-ท่าน คงมิใช่ว่า…ท่านกลัวหมา!!”
” ฮ่าๆๆ” เหล่าสมาชิกทีมหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน
“เจ้าบ้า! พวกเจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน!” ผู้นํากลุ่มตอบกลับด้วยคําถาม
ผู้นํากลุ่มมิรอคําตอบ มันควักเอามีดเล่มจิ๋วขนาดยาวหนึ่งคืบออกมาจากช่วงเอวของตนปาออกไปยังตําแหน่งศรีษะของสุนัขป่าสีเงิน
มีดสั้นเล่มนั้นถูกปาออกไปด้วยความเร็วไม่ด้อยไปกว่าลูกธนูที่ถูกยิงจากเผ่าเอลฟ์ ไม่ถึงหนึ่งวินาทีมันก็ไปปรากฏอยู่ต่อหน้าสัตว์สี่ขา ด้วยความฉับไวถึงเพียงนี้มันช่างยากจะหลบเลี่ยง หากมันเป็นสุนัขปาธรรมดา
แครั้ง
ก่อนที่คมมีดจะปักเข้ากลางศรีษะของหมาป่าตนนั้น จู่ๆก็มีหมาป่าสีเงินอีกตนโผล่ขึ้นมาจากที่ใดมิทราบใช้ปากของมันงับมีดสั้นเล่มนั้นเอาไว้จนอยู่หมัด
กร็วบ
หมาป่าตนใหม่ขบฟันขย่ํามีดสั้นแตกละเอียด แสดงอานุภาพของฟันบนและล่างที่แข็งแรง แม้กระทั่งเหล็กก็มิอาจเทียบเคียง
กรร
มีเสียงขู่คํารามมาจากด้านหลังของหมาป่าตัวก่อนหน้า ไม่นานนักผู้เป็นเจ้าของเสียงก็ปรากฏกาย มันคือหมาป่าสีเงินอีกตัวหนึ่ง ทั้งสามตัวหลบซ่อนในความมืดหลังต้นไม้ใหญ่ปิดบังร่างกายเผยให้เห็นเพียงศรีษะ
สัตว์อสูรสามตน!” หนึ่งในสมาชิกเค่นเสียง
ในปาอสูรแห่งนี้แม้จะมีสัตว์ป่าธรรมดาอาศัยร่วมอยู่ด้วย แต่มันก็มิได้มีจํานวนมากขนาดที่จะพบเห็นได้ง่ายดายเช่นนี้ เหล่าสมาชิกหน่วยสอดแนมที่เก้าในสิบเป็นคนหนุ่มสาวด้อยประสบการณ์จึงพลาดท่าให้กับภาพลวง เมื่อพบเห็นสุนัขสีเงินจึงถูกภาพลักษณ์ของมันลวงหลอกอย่างง่ายดาย
พวกมันเกือบจะหลงลืมไปแล้วว่าจุดที่อยู่ใกล้กับทางออกฝั่งแดนอสูรอย่างยิ่ง ซึ่งตรงจุดนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบกับสัตว์ปาธรรมดาทั่วไป
“หากมีโอกาศให้รีบหนีไปซะ” ผู้นําหน่วยกล่าวกับสมาชิก
“เดี๋ยวก่อน ดูจากขนาดของมันแล้วดูท่าคงจะเป็นสัตว์อสูรที่พึ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นานนัก แค่เพียงอสูรสุนัขวัยเยาว์สามตัว หากพวกเราร่วมมือกันต้องกําจัดพวกมันได้แน่!” หนึ่งในสมาชิกกล่าว
“ใช่แล้วท่านหัวหน้า พวกเราสมควรฆ่ามันเสียก่อนที่จะได้เติบใหญ่และเป็นภัยต่อเผ่าปีศาจในอนาคต!” สมาชิกที่เหลือกล่าวเสริม
ผู้นําหน่วยมิตอบคํา มันดึงสิ่งประดิษฐ์ทรงกระบอกออกมาจากอกเสื้อ เมื่อนํารูปลักษณ์ของมันเปรียบเทียบกับสิ่งประดิษฐ์ที่เด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนใช้เพื่อช่วยเหลือองค์หญิงแล้วมิผิด มันคือเครื่องมือสําหรับเรียกกําลังเสริม
มันชี้ปลายกระบอกขึ้นสู่บนท้องฟ้าพร้อมกับปลดปล่อยลูกไฟสีเขียวพุ่งตะหง่านตรงสู่ผืนนภาส่องแสงสว่างวาบชําระล้างความมืดมลายหายจนสิ้น
สภาพแวดล้อมรอบบริเวณถูกเปิดเผยสู่สายตาของหน่วยสอดแนมทั้งสิบให้เห็นกระจ่างชัดเต็มตา แม้กระทั่งศัตรูสี่ขาทั้งสามตัวแท้จริงแล้วมันมีเพียงหนึ่งชีวิต!
ศรีษะทั้งสามของหมาป่าสีเงินเชื่อมต่อกับลําตัวเพียงหนึ่งเดียว
แต่แล้วยังไงเล่า? ถึงจะมีสามหัวแต่ขนาดร่างกายของมันก็ยังนับว่าเล็กมากอยู่ดีเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรที่โตเต็มวัย เมื่อเปรียบกับสุนัขทั่วไปบางที่อาจพอสูสี ฉะนั้นหากคิดว่ามันเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งมันจะมีพิษสงอันใดให้หวั่นเกรง?
“หือ?” หัวหน้าหน่วยฉุกคิดบางอย่างเมื่อสัญญาณไฟถูกจุดขึ้นเหนือศรีษะ ข้อสงสัยในจิตใจถูกไขกระจ่างในทันที ปรากฏการณ์แปลกประหลาดบนท้องฟ้าที่มันเห็นจากระยะไกลเมื่อครู่ แท้จริงแล้วก็มาจากสัญญาณขอความช่วยเหลือของกลุ่มอื่นนี่เอง
“ฆ่ามัน!” หนึ่งในสมาชิกไม่รอการอนุมัติจากผู้นํา มันให้สัญญาณเริ่มจู่โจมคู่ต่อสู้โดยพละการทันที
สมาชิกสามรายปลีกตัวถอยหลังพรางกายกับความมืด ส่วนที่เหลืออีกหกชีวิตจัดตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบสามในหกใช้กรงเล็บที่ติดอยู่บนหลังมือทั้งสองข้างกางกว้างยืนแนวหน้า อีกสามกระโดดปืนขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ตัวพร้อมกับเตรียมอาวุธขว้างอย่างมีดสั้น
นี่เป็นกลยุทธ์สําหรับการเผชิญหน้ากับศัตรูที่พวกมันได้ฝึกซ้อมกันมานับสิบนับร้อยครั้ง
เป็นการผสานกําลังจัดแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน มีทั้งแนวรับ ฝ่ายโจมตีสนับสนุน และกลุ่มสุดท้ายที่พรางตัวกับความมืดคือแนวจู่โจม!
ห่างจากตําแหน่งของหมาป่าสีเงินราวหนึ่งเมตร มีร่างของสมาชิกที่ทําการพรางตัวกําลังคืบคลานเข้าใกล้เป้าหมายอย่างเชื่องช้า ทักษะการอําพรางกายของพวกมันทั้งสามยังไม่ค่อยแนบเนียนนัก บางครายังสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหว บางการเคลื่อนไหวยังมีเสียงบางเบา แต่เมื่อผนวกกับความมืดก็แทบจะเป็นไปได้ยากที่จะตรวจพบพวกมัน
แต่มิใช่กับสัตว์อสูรสายพันธุ์สุนัข!
ประสาทรับรู้ของมันดีเลิศและดวงตาของมันสามารถมองเห็นได้ในความมืด!
ฟิ้ว
กระนั้นการโจมตีสนับสนุนจากระยะไกลมิได้จัดตั้งเพื่อประดับขบวนรบเท่านั้น สามสมาชิกรับหน้าที่พวกมันปามีดสั้นที่มีความเร็วไม่ด้อยกว่าลูกธนูมุ่งตรงไปยังศัตรู มีดสั้นเล่มจิ๋วทั้งสามเล่มถูกเล็งเป้าหมายเป็นบริเวณร่างกายซีกซ้ายซึ่งรวมถึงศรีษะหนึ่งในสามของหมาป่าสีเงิน
เจ้าหมาป่าแน่นอนย่อมไม่สามารถป้องกันมีดทั้งสามเล่มได้อย่างพร้อมเพรียง ทําให้มันตัดสินใจใช้วิธีการหลบเบี่ยงตัวไปอีกฝั่ง ซึ่งการกระทําของมันกลับเข้าทางผู้โจมตีที่มิได้มีเจตนาเพื่อหวังผลอยู่เป็นทุนเดิม แต่เพื่อสร้างจังหวะให้แก่สมาชิกทีมที่เหลือต่างหาก
วูบ
เมื่อมันหลบไปฝั่งขวาก็ต้องเผชิญกับสามสมาชิกที่พรางตัวรอคอยอยู่ พวกมันกระจายตัวมาจากสามทิศทางใช้กรงเล็บโจมตีจากทุกมุมบอด
หมาปาขนเงินที่เสียสมดุลย่อมไม่อยู่รั้งตั้งรับมันพุ่งไปข้างหน้าหลบการโจมตีที่ล้อมตลบตน แต่ทุกกระบวนการล้วนอยู่ในความคาดหมายทั้งสิ้น เมื่อมันหลบจากการโจมตีทั้งสองส่วนก็มีการโจมตีหลักรอคอยมันอยู่ นั่นคือแนวรับทั้งสามนายที่บรรจงแทงกรงเล็บเป็นเส้นตรง
ฟวับ
เจ้าหมาป่าเอนตัวหลบการกรงเล็บทั้งสามได้อย่างหวุดหวิดแต่มันก็ต้องเสียการทรงตัวเช่นกัน ขณะที่มันยังมิทันได้ตั้งตัวดีเต็มที
นิ้ว
ฝ่ายโจมตีสนับสนุนไม่ปล่อยให้โอกาศหลุดมือปามีดสั้นสามเล่มโจมตีใส่หมาปาสีเงินที่เสียสูญผลปรากฏว่ามีดสั้นสองในสามพลาดเปาจากการหลบหลีกของเจ้าหมาป่า แต่เล่มสุดท้าย…ปักเข้ากลางลําตัวของมันมิดด้าม!
ฉีบ
ศรีษะหนึ่งในสามของมันคาบด้ามจับดึงตัวมีดออกมาจากลําตัวโยนทิ้งข้างกาย มีดเล่มน้อยที่มีความยาวมถึงคืบย่อมไม่สามารถสร้างความเสียให้หนักให้แก่หมาปาสีเงินได้ บนบาดแผลมีเลือดไหลซึมออกมาเพียงเล็กน้อยไม่มากมาย หากมองดูให้ดีจะพบว่าบาดแผลของมันกําลังสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาห่อหุ้มทดแทนกล้ามเนื้อที่เสียหายด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งมันคงจะหายเป็นปลิดทิ้งในอีกไม่กี่นาที
“ฮ่าๆๆ” มีเสียงหัวร่อดังขึ้นจากแนวหน้าสามรายผู้ประจัญหน้าเป็นแกนกลางของกลยุทธ์
นั่นเพราะตอนนี้เจ้าหมาป่าตัวน้อยได้เข้ามาอยู่กลางวงล้อมของพวกมันเป็นที่เรียบร้อย ด้านห ลังประกบด้วยสามสมาชิกที่พรางตัวเข้าโอบล้อม ด้านหน้าเผชิญกับแนวหน้าทั้งสาม และสมาชิกอี กสามนายที่กระจายตัวอยู่บนต้นไม้คนละทิศเตรียมโจมตีสนับสนุน
เรียกได้ว่าพวกมันปิดหนทางหนีของหมาป่าสีเงินปิดประตูล้อมกรอบเป็นที่เรียบร้อย การโจมตีผสานของพวกมันทั้งเก้าคน แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ในสถานการณ์จริง แต่มันก็มีผลลัพธ์ที่งดงามอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้ยังมิรวมถึงหัวหน้าหน่วยสอดแนมผู้มากประสบการณ์ที่ยังมิร่วมลงสนามด้วยอีกราย
โบร่วววว
หมาปาสีเงินสามหัวที่หมดสิ้นหนทาง จู่ๆมันก็ทําเรื่องไม่คาดฝันผิดแปลกจากสัตว์อสูรทั่วไป ทั้งสามศรีษะของมันแหงนขึ้นฟ้าคู่ร้องประสานยาวนาน เสียงของมันกังวาลไปทั่วสารทิศทั่วทั้งผืนป่า