เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 603-604
บทที่ 603 ไฉ่หนิงชวน 1
เงี่ยนอีหลิงเป็นเพื่อนแม่และตระกูลเงินไปยังอาคารที่ดูแปลกตาในเป่ยจิง
อาคารนี้ถูกซ่อนอยู่ในตรอกของเป่ยจิง ยิ่งไปกว่านี้ เจ้าของอาคารหลังนี้ยังมีตัวตนและสถานะที่พิเศษในสังคมอีกด้วย
หากตระกูลเจียนมาเอง พวกเขาจะไม่สามารถเข้าประตูอาคารนี้ได้
แต่ทว่าตระกูลเวินมีเส้นสายในพื้นที่นี้ ดังนั้นเวินน่วนและเงี่ยนอีหลิงจึงสามารถเข้าไปในอาคารนี้ได้ในวันนี้
แน่นอนว่าเป็นเฉิงมีแผนที่จะชวนน้องสาวและหลานสาวมาร่วมสนุกกันอยู่แล้ว
เขายิ้มให้เป็นนวนและเจียนอีหลิง ถ้าสนใจชิ้นไหนก็บอกมานะ ฉันจะซื้อให้
เวินเฉิงใจกว้างมากเมื่อเป็นเรื่องของน้องสาวและหลานสาว เขายินดีอย่างยิ่งที่จะใช้จ่ายเงินให้กับพวกเธอ
จากนั้นเป็นนวนก็มองไปที่ไช่ชิงเยว่และเวินรั่ว วันนี้ไปชิงเยว่และเวินรั่วก็มาด้วย หลังจากหยุดครู่หนึ่งเธอก็พูดว่า อย่ากังวลเรื่องของเราเลย พี่ควรซื้อของให้ภรรยาและลูกถ้าฉันอยากจะซื้ออะไรซักอย่างฉันก็มีเงินของสามีอยู่แล้ว
ในครอบครัวเงี่ยนเวินน่วนมีหน้าที่ดูแลเงินทองของครอบครัว
แต่ทว่า เงี่ยนชูฉิงนั้นจะรับผิดชอบเรื่องเงินทองของบริษัท
พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการใช้เงินของเด็กเลย
เมื่อได้ยินดังนั้นไปชิงเยว่ก็ต้องฝืนยิ้มขึ้นบนใบหน้า
ทําไมสามีจึงเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากกว่า? ทําไมไม่ดูแลครอบครัวของตัวเอง? ช่างน่าหงุดหงิดที่เขาทําแบบนี้
เมื่อทั้งห้าคนมาถึงอาคาร สถานที่นั้นดูว่างเปล่าเหลือเกิน เมื่อมองเผินๆ ดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่ในอาคารไม่มากนัก
อาคารที่ดูแปลกตานี้มีแผ่นโลหะแขวนอยู่เหนือประตู ป้ายนี้มีสีน้ํามันลอกออก มีคําว่าไฉ่หนิงชวนติดอยู่บน
จากนั้นก็มีลุงวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าเรียบง่ายก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตู เขาถือกล้องยาสูบไว้ในมือ
ลุงผู้นี้ดูเข้ากับตัวอาคาร พวกเขาให้บรรยากาศที่ล้าสมัยมาก ดูราวกับว่าพวกเขาเป็นคนของอีกทศวรรษในอดีต
เวินเฉิงเดินเข้าไปคุยกับลุงวัยกลางคน สวัสดี วันนี้เป็นงิ้วเรื่องอะไร? ติงจุนซาน หรือหัวฟางเฉา?
ลุงคนนั้นเหลือบตามองที่เป็นเฉิง จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงสูบกล้องยาสูบ
ติงจุนซาน ชายคนนั้นตอบ
ตกลง เราจะเข้าไปดูงิ้วกัน
จากนั้นเป็นเฉิงก็เข้าไปในอาคารพร้อมกันกับครอบครัว
มีผู้ชายสองสามคนเฝ้าอยู่หลังประตู แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้หยุดเวินเฉิงและครอบครัวไม่ให้เข้าไป
นี่เป็นเพราะเป็นเฉิงได้พูดคํารหัส เมื่อเขาพูดถูกต้อง เขาก็สามารถเข้าไปในอาคารได้
เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ภายในตัวอาคารก็คล้ายกับภายนอก ตัวอาคารให้ความรู้สึกดั้งเดิมและล้าสมัย
ราวกับว่าพวกเขาย้อนเวลากลับไปสู่ยุคประวัติศาสตร์จีน
แต่ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นเพียงแวบแรกเท่านั้น เมื่อมองอีกครั้ง จะสังเกตเห็นว่ามีอุปกรณ์เฝ้าระวังและกล้องตรวจ จับอยู่ทุกมุมห้อง นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปด้านในแล้ว หญิงสาวสวมชุดกี่เพ้าคนหนึ่งก็นําทางไป
ภายในอาคารคล้ายกับโรงน้ําชาโบราณ
มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ตรงกลางของชั้นล่างสุด
มีที่นั่งมากมายในชั้นล่างสุด แต่ที่ชั้นสองจะมีห้องส่วนตัวหลายห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นเวทีได้จากห้องส่วนตัวทุกห้อง
เวินเฉิงและครอบครัวตามหญิงสาวไปยังห้องที่จองไว้
เช่นเดียวกัน ห้องนี้ก็ให้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน มีโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบโบราณอยู่กลางห้องโต๊ะสามารถจุคนได้อย่างน้อยแปดคน
จากนั้นเดินเฉิงก็ยิ้มให้หญิงสี่คนที่อยู่ข้างเขา อีกสักครู่จะมีของนําขึ้นไปบนเวที บางอย่างที่นี่จะเป็นของปลอมแต่ว่าพวกเธอต้องตัดสินโดยใช้สายตา มันค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกันมันคล้ายกับการพนันหินหยก
พนันหินหยก* เป็นการประมูลหินจากแหล่งหยก แล้วทําการผ่าหินออกมาดูว่ามีหยกอยู่ข้างในนั้นหรือไม่ตาดีได้ตาร้ายเสีย
มันค่อนข้างคล้ายกับการประมูลทั่วไป แต่ไม่ว่ายังไง มันก็ไม่เหมือนกันไปเสียทีเดียว
ราคาของรายการเหล่านี้มักจะถูกกว่าปกติ เนื่องจากไม่มีการรับประกันว่าสินค้าเหล่านี้เป็นของแท้
ดังนั้นจึงคล้ายกับการพนัน
ตระกูลเวินรู้ว่าน้ําในวงการของโบราณนั้นลึกแค่ไหน
แต่ไม่ว่ายังไง ครอบครัวของพวกเขาก็มีประวัติอันยาวนานในเรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ด้วยเหตุนี้เป็นเฉิงจึงประเมินได้ไม่ผิดพลาด
เงินเฉิงมองน้องสาวก่อนจะพูดว่า เฮ้ วันนี้เรามาแข่งกัน
เวินเฉิงและเป็นนวนโตมาด้วยกัน ทั้งสองคนมีความสามารถมากมายในการประเมินโบราณวัตถุและภาพวาดของแท้
บทที่ 604 ไฉ่หนิงชวน 2
เวินเฉิงเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าน้องสาวเขาเป็นคนที่ประเมินของเก่าในตระกูลได้ดีที่สุด เขาคิดอย่างนี้มาโดยตลอด
แต่ถึงกระนั้นเป็นนวนก็ไม่เคยสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโบราณวัตถุเลย หลังจากที่เธอแต่งงานแล้วเธอก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูแลครอบครัว
เป็นนวนตอบเบาๆว่า ฉันไม่สามารถเอาชนะพี่ได้หรอก อย่าแข่งกันเลย
แต่ไม่ว่ายังไง เวินเฉิงปฏิเสธที่จะยอมรับ ไม่หรอก เราก็แค่เดาราคาของสินค้า มันก็เป็นเพียงแค่เพื่อความสนุกสนานนอกจากนี้ ถ้าฉันทํากําไรจากของในวันนี้ เธอก็จะได้รับส่วนแบ่งกําไรด้วย
เงินเฉิงตระหนักถึงความสามารถของน้องสาวในด้านนี้ เขารู้ว่าบางครั้งเขาก็ทําผิดพลาดได้แต่ว่าน้องสาวเขาไม่เคยผิดมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเขาจึงหวังว่าเธอจะสามารถให้คําแนะนําแก่เขาได้ในวันนี้
ถ้าเขาจะเพียงแค่พาน้องสาวและหลานสาวมาด้วย เป็นเฉิงก็กังวลว่าภรรยาและลูกสาวจะคิดมากในเรื่องนี้เขาจึงพาครอบครัวมาด้วย
อา ก็ได้ถ้างั้น เป็นนวนตอบเบาๆ
ในเวลาแบบนี้ ไปชิงเยว่ไม่ได้มีส่วนร่วมเลย
ตระกูลเงินมีพรสวรรค์ในด้านดังกล่าว แต่ไปชิงเยว่ไม่มี
เธอเป็นเหมือนคนนอก
นอกจากนี้นี่ยังเป็นครั้งแรกของไปชิงเยวที่ได้มายังไฉ่หนิงชวน
ก่อนหน้านี้ไปชิงเยว่ขอให้สามีพาเธอมาด้วย แต่ไม่ว่ายังไง เวินเฉิงก็ได้ปฏิเสธมาโดยตลอด
เขาบอกว่ามีข้อห้ามมากมายว่าใครบ้างที่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ผู้ที่มายังสถานที่แห่งนี้เป็นประจําล้วนแต่เป็นคนที่เขาไม่สามารถล่วงเกินได้ การล่วงเกินใครสักคนที่นี่จะส่งผลเสียมากมายเวินเฉิงยังบอกอีกด้วยว่าเขามาที่นี่ก็เพื่อทําธุรกิจเท่านั้น
แต่ทว่า เป็นเฉิงกลับพาเวินน่วนและเขียนอีหลิงมาที่นี่ เขาไม่ได้พูดถ้อยคําเหล่านั้นกับพวกเธอ
เวินรั่วไม่ได้พูดอะไร ในทางกลับกันเธอก้มหน้าลง เธอไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นสีหน้าเธอ
เจียนอีหลิงก็เงียบมากเช่นเดียวกัน เธอจิบน้ําชาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจที่แห่งนี้
สักพักก็มีเสียงฆ้องดังขึ้น จากนั้นชายที่สวมชุดดั้งเดิมก็เดินขึ้นไปบนเวที เขาใช้เสาไม้แขวนโคม
เริ่มแล้ว เวินเฉิงพูดกับคนรอบข้างในห้องส่วนตัว นี่เป็นสัญญาณว่าการประมูลกําลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
รายการแรกปรากฏขึ้นบนเวที
มันเป็นแจกันลายครามสีน้ําเงินขาว
หากมีผู้สนใจ พวกเขาสามารถยกป้ายและให้สัญญาณกับผู้ตัดสินได้ จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถตรวจสอบสิ่งของอย่างใกล้ชิดได้
น้องคิดว่าไง
เวินน่วนหันกลับมาถามเงี่ยนอีหลิง อีหลิง ลองเดาราคาแจกันนี้สิ สองพันเจี้ยนอีหลิงตอบ
ไม่ใช่สองหมื่นหยวนแต่แค่เพียงสองพันหยวน
เจียนอีหลิงไม่ค่อยสนใจกับของบนเวทีเท่าไหร่นัก
อีหลิง นี่คือแจกันกระเบื้องเคลือบสีน้ําเงินสีขาวของราชวงศ์ชิง ไช่ชิงเยว่เตือนเจี้ยนอีหลิงจากด้านข้าง
ของปลอมเงี่ยนอีหลิงตอบ
ฮ่าๆๆๆ เวินเฉิงหัวเราะเมื่อได้ยินคําพูดของเจียนอีหลิง
เขาไม่ได้หัวเราะเยาะหลานสาว แต่เขาเห็นด้วยกับคําพูดของหลานสาว
ความคิดเห็นของอีหลังคล้ายกับของฉันมาก เวินเฉิงกล่าว
เวินน่วนยิ้มเช่นเดียวกัน ใช่ ฉันก็เห็นด้วยเหมือนกัน นี่เป็นของปลอมอย่างแน่นอน แต่ถึงยังไง ฝีมือก็ยังถือว่าดีมากคนที่ทําของนี้สมควรได้รับสองพันหยวน
เมื่อได้ยินแบบนี้ใบหน้าของไปชิงเยว่ก็มีดหม่นเธอรู้สึกว่าเธอถูกล้อเลียน
แต่เธอยังไม่ได้ลงไปดูแจกันเลย เธอมั่นใจในเรื่องนี้แค่ไหน ใช่ชิงเยวถาม
อา…เธอคงไม่เข้าใจหรอก เป็นเฉิงตอบ เขาจะอธิบายเรื่องนี้กับคนธรรมดาได้ยังไง?
เขาสามารถพูดได้ว่าสีของแจกันไม่ถูกต้อง หรือบางทีการประทับตราบนแจกันทําได้ไม่ดี แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับของปลอมอื่น
ดังนั้นการตัดสินสินค้าดังกล่าวจึงมาจากประสบการณ์และความรู้ เป็นการยากที่จะอธิบายด้วยคําพูดสองสามคําถ้ามันง่ายทุกคนก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญโบราณวัตถุ
เมื่อได้ยินแบบนี้ ไปชิงเยว่ก็รู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปอีก
ต้องขอบอกว่า พอเห็นเว็บนั้นเอานิยายผมไปลงแบบนั้น ผมรู้สึกวิกฤติขึ้นมาในทันที รู้สึกว่าเขาทําแบบนั้นได้โหดร้ายมาก ไม่สงสารผู้แปลแม้สักคน เอานิยายของคนอื่นที่แปลอย่างลําบากมาหลายเดือนหรือหลายปีไปลงชุบมือเปิบเพื่อเอาเงินค่าโฆษณาเข้ากระเป๋าตัวเอง
แต่ยังไง ผมก็จะลองแข็งใจ กลับนํามาลงที่นี่วันละสองตอนนะครับ หวังว่าเพื่อนนักอ่านทุกท่านจะให้การสนับสนุนกันต่อไปอย่างน้อยก็พอให้อยู่รอดจนเรื่องนี้จบนะครับ ขอบคุณครับ