เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1005 จี้หยกปลา
หยางโปเงยหน้าขึ้นก็เห็นโจวซินและเสวียนจงยืนอยู่ตรงหน้า แต่คนที่เอ่ยปากพูดคือเสวียนจง !
เฉาหยวนเต๋อยืนอยู่หน้าหยางโป นิ่งเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหยางโปด้วยความสงสัย เขานัดกับคนอื่นไว้แล้วเหรอ ?
เสวียนจงเดินเข้ามา ดูเหมือนว่าเพราะมีคนอื่นอยู่ในงานด้วย เขาจึงไม่ได้เรียกหยางโปว่า ” ศิษย์พี่ ” เขายิ้มและพูดว่า ” คุณหยาง ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ ! ”
หยางโปพยักหน้า ” พวกคุณมากันเช้าจริงๆ หยางหลางล่ะอยู่ไหน ? ”
“ คุณหยางหลางกลับบ้านไปแล้ว พวกเราคงให้เขาอยู่ด้วยตลอดไม่ได้ ” เสวียนจงกล่าว
หยางโปพยักหน้าและกำลังจะเดินจากไป แต่โจวซินแทบจะทนรอไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไปว่า
” เหยียนหรูหยูล่ะ ? คุณเหยียนไปไหนแล้ว ? ”
“ คุณเหยียนไปแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหนเหมือนกัน ? ” หยางโปตอบ
โจวซินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า ” เป็นไปได้ยังไง ? คุณคงไม่ซ่อน
คุณเหยียนไว้หรอกนะ ? หยางโป คุณไม่อยากให้คุณเหยียนเจอกับผมใช่ไหม ! ”
หยางโปอดที่จะขมวดคิ้วมองไปที่โจวซินไม่ได้ เขาขี้เกียจที่จะอธิบายให้ลูกท่านหลานเธอที่ไม่รู้จักคิดแยกแยะฟัง แต่ฮัวชิงหยุนจับมือเขาไว้แน่น เขาจึงต้องอธิบายไปว่า ” คุณเหยียนไปแล้วจริงๆ ผมไม่จำเป็นต้องโกหกคุณ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่คุณเหยียนเลือกมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม คุณคิดว่าผมไม่อยากให้เธอพบกับคุณหรือไง ? มันจะเป็นไปได้เหรอ ? ”
โจวซินจ้องหน้าหยางโปด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
เขาและเสวียนจงไล่ตามมาจากจินหลิงหลายวันแล้วกลับไม่ได้อะไรมาเลย
ขนาดตอนนี้เหยียนหรูหยูไปไหนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ นี่มันน่าอับอายจริงๆ !
เสวียนจงดึงโจวซินไว้ ทำได้เพียงหันไปพูดกับหยางโปว่า ” คุณหยาง เอาอย่างนี้ดีไหม คุณเข้าไปก่อน พวกเราจะรออยู่ที่นี่กันอีกสักครู่ ”
หยางโปพยักหน้า ” ตกลง ! ”
หยางโปเดินเข้าไป เฉาหยวนเต๋อก็มองมาด้วยความสงสัย “ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”
“ ไม่มีอะไร ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา ! ” หยางโปพูด
เฉาหยวนเต๋อเหลือบมองและพยักหน้าให้เล็กน้อย “ ถ้ามีเรื่องอะไร บอกฉันได้นะ ! ”
หยางโปยิ้มและตอบกลับไปว่า ” ไม่ต้องกังวล ”
ทั้งสองเดินเข้าไปในงาน ที่นี่ออกแบบตกแต่งเหมือนตลาดนัดมากกว่า ในห้องประชุมขนาดใหญ่ วางข้าวของเหมือนตลาดการเกษตร บนพรมมีของเล่นนานาชนิดวางตั้งอยู่ ดูเก่าแก่มาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นของปลอม !
เฉาหยวนเต๋อเอามือไขว่หลัง มองสำรวจดูด้วยความสนใจ ทำอย่างกับว่าสนใจวัตถุที่นี่มาก
ทางด้านหยางโปเดินพาฮัวชิงหยุนไปช้าๆ เขามองดูดาบและอาวุธทุกชนิดตรงหน้า มีกำไลเงินและจี้หยกมากมาย มีแม้กระทั่งของชิ้นหนึ่งที่ดูเหมือนห่วงวัชระ
ครั้งแรกที่ฮัวชิงหยุนพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เธอมองดูวัตถุที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ อดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม “ พวกเข็มทิศ เครื่องรางของขลัง และหยกยู่อี้พวกนี้ ข้างนอกก็มีขายกันอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งยังราคาไม่แพงด้วย กับที่ขายในโรงแรมใหญ่ที่นี่มันแตกต่างกันยังไง ? ”
หยางโปยังไม่ทันตอบ เจ้าของแผงลอยที่นั่งตรงหน้าพวกเขา ก็ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ ของในนี้ต่างกันมาก ทำไมคุณถึงเปรียบเทียบอาวุธวิเศษของเรากับสิ่งของที่น่าขยะแขยงข้างนอกพวกนั้นได้ ? สาวน้อย ผมเตือนคุณด้วยความใจดีนะ จะกินอะไรสะเปะสะปะก็กินได้ แต่จะมาพูดจาไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้ ! ”
หยางโปขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเจ้าของแผงลอยดูจะอายุหกสิบเจ็ดสิบปี
หนวดเคราสีขาวเป็นพุ่มใหญ่ อาศัยที่ตนมีอายุมากและทำเป็นผู้อาวุโส เที่ยวดูถูกคนอื่นแสร้งทำเป็นว่าบ้าและโง่เขลา เสแสร้งทำเป็นนักพรตอาวุโส แต่นักพรตอาวุโสที่แท้จริงแล้ว จะมาตั้งแผงลอยอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?
ชายชราพูดเสียงดังขึ้น จึงดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง ทำให้ทุกคนต่างหันมามอง
“ ทำไมพูดแบบนี้ ? พูดแบบนี้ได้ยังไง ! ” เจ้าของแผงลอยข้างๆพูดโต้ตอบตามมาทันที
หยางโปก็พูดอย่างโกรธเคืองออกมาทันที “ เกี่ยวอะไรกับคุณ ? คุณตะคอกเสียงดังหาอะไร ? ”
เมื่อชายชราเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเขาที่พูดแทนเขาถูกหยางโปตวาดใส่ ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “ พ่อหนุ่มน้อย ต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตัว คุณทำแบบนี้ช้าเร็วจะต้องเสียใจ ! ”.ไอรีนโนเวล.
หยางโปชายตามองไปที่ชายชราและชี้ไปที่หยกยู่อี้ที่วางอยู่บนแผงตรงหน้าเขาและพูดขึ้นว่า
“ ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรคืออาวุธวิเศษ แต่ผมรู้แน่ชัดว่าหยกยู่อี้ชิ้นนี้ทำมาจากแก้ว ห่วงวัชระวงนี้ก็ทำมาจากเหล็กเช่นกัน สำหรับจี้หยกก็เป็นหยกหนานหยาง ”
ชายชราชักสีหน้าใส่ “ พูดจามั่วไม่มีมูลความจริง ! ”
หยางโปจ้องหน้าชายชรา โดยที่ไม่พูดอะไรต่ออีก แต่ชายชรากลับไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียว เป็นเพราะหยางโปอยู่กับของปลอมพวกนี้มานานมาก ดูแค่แวบเดียวก็ดูออกทันที ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคใดๆเลย !
เจ้าของแผงลอยก้มหน้า ไม่กล้าเอ่ยปากพูด
เฉาหยวนเต๋อเดินกลับมาห้ามหยางโปและพลางเอ่ยพูดขึ้นมาว่า ” นายจะไปถือสาพวกเขาทำไม ? พวกเราไปที่อื่นกันเถอะ ไปเร็ว ทำไมฉันรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เหมือนการจัดแสดงวัตถุโบราณ แต่ดูเหมือนการจัดแสดงอาวุธวิเศษมากกว่า ”
หยางโปกลับไม่ได้บอกเขาไปว่า อันที่จริงนี่คืองานจัดแสดงอาวุธวิเศษ
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปด้านหน้า ฮัวชิงหยุนรู้สึกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หยางโปกวาดตามองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าอะไรคือของจริงอะไรคือของปลอม มีเพียงเฉาหยวนเต๋อเท่านั้นที่จะมองดูอย่างจริงจัง
ห้องประชุมใหญ่มาก ร้านแผงขายของหลายร้านรอบด้านของชายชราได้ยินสิ่งที่หยางโปพูดทั้งหมด และรู้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นตอนที่เขายืนอยู่ตรงหน้า ทุกคนจึงดูไม่ค่อยจะต้อนรับสักเท่าไหร่
หยางโปก็ไม่ได้เก็บมากลุ้มใจ เขาบังเอิญเห็นของมีค่าถึงได้หยุดดู แต่มีไม่มากที่จะให้เขาหยิบขึ้นมาดูได้
ไม่นาน หยางโปก็หยุดเดินอีกครั้ง เขาหยิบจี้หยกปลาชิ้นหนึ่งขึ้นมา มองการแกะสลักของจี้หยกปลาแล้ว น่าจะเป็นของสมัยราชวงศ์ชิงยุคกลาง เป็นโบราณวัตถุชิ้นแรกที่หยางโปได้เห็น สิ่งที่สำคัญคือเขาสามารถสัมผัสพลังจากจี้หยกปลาได้จางๆ พลังแบบนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์
หยางโปนำจี้หยกปลาส่งให้ฮัวชิงหยุน ” ชอบไหม ? ”
ฮัวชิงหยุนมองก็เห็นว่าเส้นแกะสลักของจี้หยกปลานั้นชัดเจนและเป็นธรรมชาติ ทั่วทั้งตัวปลาดูเหมือนมีชีวิตอยู่จริงๆ สีหน้ามีความสุขไม่น้อย แต่เธอก็ค่อนข้างที่จะลังเลใจ “ มันจะแพงเกินไปหรือเปล่า ? ”
หยางโปโบกมือและไปต่อรองราคาจี้หยกปลากับเจ้าของ หยางโปเป็นมือโปรในเรื่องต่อรองราคา ไม่นาน ก็ต่อรองราคาจนลดลงมาได้ในราคาสามพันหยวนจากห้าหมื่นหยวน
เฉาหยวนเต๋อเพิ่งจะสังเกตเห็นเหตุการณ์ทางด้านนี้ เขามองไปที่จี้หยกปลา ” จี้หยกปลาชิ้นนี้แกะสลักได้ไม่เลว แต่วัตถุโบราณระดับนี้ไม่น่าจะดึงดูดความสนใจของนายมาได้นะ ? ”
หยางโปหัวเราะ “ ผมชอบ ก็เอาแต่ใจแบบนี้แหละ ! ”
เฉาหยวนเต๋อทำตาโต “ นายมีเงิน นายก็ถลุงเงินได้สินะ ! ”
หยางโปหัวเราะออกมา และไล่ตามไปอธิบาย “ ผมซื้อมันเพราะผมรู้สึกสบายเมื่อสัมผัสจี้หยกชิ้นนั้น ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย ”
“ นายก็คุยโวไปสิ ! ” เฉาหยวนเต๋อไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
หยางโปยิ้ม แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก
โบราณวัตถุในงานเป็นของปลอมซะส่วนใหญ่ สำหรับอาวุธวิเศษในตำนานที่เล่าลือกันมานั้นก็พบเห็นได้ยาก หยางโปและเฉาหยวนเต๋อเดินเข้าไปข้างใน เลือกหยิบของวัตถุโบราณออกมามากมาย เฉาหยวนเต๋อดูตื่นเต้นมาก แต่หยางโปกลับไม่ได้มีความคิดเห็นมากมายนัก
ไม่นาน ก็เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ชิ้นหนึ่งออกมาอีกครั้ง หลังจากชื่นชมดู หยางโปถึงได้พบว่า พวกเขาเดินมาตั้งแต่ต้นงานจนถึงท้ายงานแล้ว ในงานมีแผงขายของอยู่มากมาย แต่ทั้งสองกลับเลือกซื้อของกันได้เพียงไม่กี่ชิ้น และเลือกของกันอย่างค่อนข้างที่จะเข้มงวดกันมากๆ