เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1040 ข้อคิดเห็น
เดิมทีผู้กำกับเฉินเป็นคนถือตัว คิดว่าลัวย่าวหัวเป็นเพียงบุคคลตัวเล็กๆ แต่เมื่อได้ยินว่าเขาเป็นเจ้าของโรงประมูล ก็รีบหยิบแก้วเหล้าขึ้นแล้วพูดว่า ” มามา เรามาดื่มด้วยกันสักแก้ว ! ”
ลัวย่าวหัวและผู้กำกับเฉินดื่มด้วยกันแก้วหนึ่ง แต่แค่พริบตาเดียวก็กลายเป็นพี่น้องกันไปทันที
หวังลั่วตันรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “ ไหนว่า จินหลิงชุนเป็นบริษัทของอาจารย์หยางไม่ใช่หรือไง ? ”
“ บริษัทนั้นเป็นของพวกเขาสองคน ! ” กุ้ยหลงจิ่วแนะนำ “ ผมขอแนะนำหยางโปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เขาไม่ได้มีโรงประมูลแค่ร้านเดียว ยังมีร้านเครื่องประดับหยกอีกร้าน ที่ขายหยก อาจมีร้านในภาคใต้มากกว่า ช่วงนี้เขามาขยายธุรกิจที่เมืองภาพยนตร์ ต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับการสั่งทำโบราณวัตถุในการถ่ายทำภาพยนตร์ พวกคุณคนไหนพอมีช่องทาง สามารถแนะนำให้ได้นะ ! ”
หยางโปอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วโป้งให้กุ้ยหลงจิ่ว เขากำลังกังวลว่าจะแนะนำตัวเองยังไง และจะพูดถึงจุดประสงค์ของเขาออกมายังไง คิดไม่ถึงว่า กุ้ยหลงจิ่วจะช่วยพูดให้เขา
สาวสวยอีกคนหนึ่งกลับทำหน้าเย็นชาและไม่พูดอะไร เมื่อได้ยินฐานะของหยางโป ก็อดไม่ได้ที่จะชายตามองมาทางเขา เมื่อเห็นว่าเขาหน้าตาธรรมดาและดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษสักเท่าไร
ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า ” ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเครื่องประกับหยก เป็นร้านที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหยางเฉิงใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ ใช่ ร้านนั้นแหละ เพราะสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหยางเฉิง ดังนั้นที่นั่นจึงมีสาขามากกว่า ”
“ ธุรกิจของอารย์หยางใหญ่โตขนาดนั้นแล้ว ทำไมยังสนใจมาทำธุรกิจขนาดเล็กที่เมืองภาพยนตร์อีก เท่าที่ฉันรู้มา ทุกปีมีจำนวนละครที่แต่งตัวด้วยชุดโบราณอยู่บางส่วน แต่ไม่ใช่ละครทุกเรื่องที่ต้องการสั่งทำเครื่องแต่งกาย มีบางส่วนที่มีทุนค่อนข้างน้อย บางทีอาจจะไม่สามารถจ่ายส่วนนี้ได้เลยด้วยซ้ำ ” สาวสวยกล่าว
หยางโปตกตะลึงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เขามาที่เมืองภาพยนตร์อย่างตื่นเต้น ทุกคนต่างมาสนับสนุนงานของเขา แม้กระทั่งเขาพูดอะไร ทุกคนต่างก็ช่วย ไม่มีใครเคยเตือนเขาถึงปัญหาจุดนี้ พอเขาได้ฟังอีกฝ่าย ก็นิ่งอึ้งไปทันที
เมื่อเห็นหยางโปเป็นแบบนี้ ลัวย่าวหัวรีบพูดขัดขึ้นมา “ ทำไมถึงไม่มีล่ะ ? เท่าที่ผมรู้มา ทุกปีจะมีการสั่งทำของไม่น้อยเลย เพียงพอสำหรับร้านเล็กๆให้อยู่รอดได้แน่ ”
เมื่อหยางโปได้ฟังคำพูดนี้ ก็แทบอยากจะอาเจียนเป็นเลือด ที่แท้ผ่านมาก็นานมาก แต่มีแค่เขาเพียงคนเดียวที่ไม่ค่อยเข้าใจปัญหานี้ แม้แต่ลัวย่าวหัวก็ยังรู้ถึงปัญหานี้ดี !
หวังลั่วตันดูเหมือนจะเห็นบางอย่างผิดปกติบนโต๊ะ เธอรีบคว้าตัวหวงเชิงอี้ไว้ โดยไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรอีก
หยางโปหันกลับมามองหน้ากุ้ยหลงจิ่ว “ อาจารย์กุ้ย ผมเชื่อคุณแล้วล่ะ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทำการศึกษาตลาดเลย คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ร้านค้าเล็กๆของผมจะทำกำไรได้ ? ”
กุ้ยหลงจิ่วถูกเขาถามจนพูดอะไรไม่ออก เขาลังเลเล็กน้อย ” อันนี้ ผมขอแนะนำให้คุณหาข้อมูลก่อนดีกว่า ก่อนที่ตัดสินใจ ”
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันมองไปที่หวงเชิงอี้ เขาไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายปากตรงกับใจ ทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก
หยางโปชูแก้วเหล้าขึ้น “ ขอบคุณนะสาวน้อย เป็นคำพูดที่ปลุกให้คนตื่นจากความฝันได้จริงๆ
ตอนแรกผมคิดว่ามีความหวังมากที่จะได้กำไรกลับมาภายในปีนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าธุรกิจนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไร ” Aileen-novel
หวงเชิงอี้มองหยางโปอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายลำบากในเรื่องเล็กน้อย ” แล้วคุณจะทำไงต่อ
ไป ? ”
หยางโปส่ายหน้า ” ผมไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีอะไรในตอนนี้ ”
ผู้กำกับเฉินนั่งลงข้างๆ หันมามองหน้าหยางโป จู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกว่าทั้งโต๊ะดูเหมือนจะเห็น
หยางโปเป็นจุดศูนย์กลาง ทางลัวย่าวหัวไม่ต้องไปพูดถึงเลย แม้แต่กุ้ยหลงจิ่วก็เหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้นทุกคนก็ดูเหมือน จะให้ความใส่ใจกับธุรกิจของหยางโปมาก ธุรกิจของเขาดีขนาดนั้นเชียวเหรอ ?
หลังครุ่นคิดอยู่ได้สักพักผู้กำกับเฉินจึงสะกิดแขนของผู้กำกับหม่ามา “ ชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนเป็นลูกชายเศรษฐีเลยนะว่าไหม ? ”
“ เป็นลูกชายเศรษฐีที่มีชื่อเสียงสมกับความสามารถจริงๆ อีกทั้งยังมีภูมิหลังที่ลึกมากอีกด้วย ”
ผู้กำกับหม่าพูดอย่างตรงไปตรงมา
ผู้กำกับหม่าเองก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน หากหยางโปไม่ได้มีภูมิหลังที่ลึก เขาก็ไม่มาถ่ายทำรายการที่นี่หรอก และนับประสาอะไรจะให้หยางโปทำการโฆษณาอย่างโจ่งแจ้งในรายการอีก เรื่องนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนะสิ
เมื่อหยางโปเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไร ก็อดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้ “ ต้องขอบคุณทุกท่านสำหรับช่วงเวลานี้ ถ้าธุรกิจของผมขาดทุนงั้นก็ช่างมันเถอะ กลับไปผมจะลองคิดดูอีกครั้ง ว่าควรจะทำยังไงดี ! ”
พอพูดจบ หยางโปก็ชูแก้วเหล้าขึ้น ” ผมขอดื่มหมดแก้วแสดงความเคารก่อน ! ”
หวังลั่วตันนั่งลงข้างๆ ยกแก้วขึ้นจิบ “ คุณสั่งทำโบราณวัตถุ หลักๆแล้วทำเครื่องลายครามใช่ไหม ?หรือภาพวาด ? หรือของอย่างอื่น ? ”
หยางโปยิ้ม “ ได้หมด คุณหวังจะช่วยผมงั้นเหรอ ? ”
คิดไม่ถึงว่าหวังลั่วตันจะพยักหน้าและพูดว่า “ ฉันมีข้อคิดเห็นหนึ่ง ”
หยางโปชายตามองด้วยความสงสัย “ ข้อคิดเห็นอะไร ? ”
หวังลั่วตันยิ้ม “ ตัวฉันเองรู้สึกว่าข้อคิดเห็นนี้ไม่เลวเลย เถ้าแก่หยางคิดว่าจะเอาไปง่ายๆอย่างงั้นเลยเหรอ ? ”
หยางโปชะงักครู่หนึ่ง และทำท่าทีคล้อยตาม เขาเงยหน้ามองหวังลั่วตัน เมื่อเห็นว่าใบหน้าที่บอบบางของเธอสะอาดหมดจดราวกับหยก ก็ครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบกล่องเล็กๆ จากถุงข้างๆ ออกมา จากนั้นเขาก็เปิดกล่องเผยให้เห็นกำไลหยกชิ้นหนึ่งวางอยู่ด้านใน
กำไลหยกหยกชิ้นนี้ส่องแสงเจิดจ้าภายใต้แสงไฟมาก ทันทีที่หวังลั่นตันเห็นหยก ก็ถึงกับหลับตาไม่ลง เธอพอจะรู้ว่า กำไลหยกชิ้นนี้ราคาไม่ใช่ถูกๆเลย !
หยางโปวางกล่องไว้บนกระจกบนโต๊ะอาหาร “ ถ้าคุณบอกความคิดนี้ และทุกคนคิดว่าความคิดของคุณดี ถ้าอย่างนั้นกำไลหยกเม็ดน้ำแข็งนี้ก็จะตกเป็นของคุณ ! ”
เดิมทีหวังลั่วตันแสร้งสร้างสถานการณ์ตบตาเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามรีบรับปากตามข้อเรียกร้องของตัวเองเท่านั้น ไหนเลยจะคาดคิดว่า หยางโปจะเป็นคนใจป้ำแบบนี้ เธอจึงเต็มใจเป็นอย่างมาก และรู้ราคาของกำไลเม็ดน้ำแข็งเป็นอย่างดี
“ อาจารย์หยาง นี่มันก็แพงเกินไปมั้ง ! ” หวังลั่วตันทำหน้าไม่ถูก
หยางโปยิ้ม “ ไม่แพงเลย คุณต้องรู้ไว้ ผมเป็นคนขายหยก ในมือผมมีของอย่างอื่นไม่เยอะแต่มีหยกเยอะอยู่ ”
ทันทีที่หยางโปพูดคำนี้ หวังลั่วตันก็รู้สึกสบายใจขึ้น เธอพยักหน้าให้ “ คือฉันคิดแบบนี้นะ ในเมื่อเมืองภาพยนตร์มีพระราชวังออกมามากมายแบบนี้ และยังมีธีมเกี่ยวกับพระราชวังตั้งมากมาย คุณสามารถให้บริการเมืองภาพยนตร์ ในการสั่งทำอุปกรณ์ขนาดเล็กเวอร์ชันย่อชนิดต่างๆของธีมพระราชวังได้ ”
” ยกตัวอย่างเช่น พระราชวังของราชวงศ์ฉินและฮั่น คุณสามารถทำหุ่นกระเบื้องขนาดเล็กของฉินซีฮ่องเต้และสามารถสร้างนักรบและม้าดินเผาของฉินซีฮ่องเต้ได้ จะต้องมีคนชอบมันอย่างแน่นอน ”
จู่ๆ ในงานก็เงียบเสียงลง เพราะทุกคนกำลังนึกถึงแผนการของหวังลั่วตัน
“ นี่เป็นวิธีที่ดีเลย ! ” ลัวย่าวหัวเป็นคนแรกที่ปรบมือ
ต่อจากนั้นคนทั้งโต๊ะ ต่างก็พากันปรบมือให้ หยางโปขยับมือเบาๆและยื่นกำไลหยกในมือให้
ยิ้มและเอ่ยออกมาว่า “ คุณหวังวิธีนี้ดีเลย ขอบคุณมากจริงๆ ! ”
หวังลั่วตันหน้าแดง มองดูกำไลตรงหน้า “ นี่มันแพงเกินไป ”
“ ไม่แพงเลยสักนิด ข้อคิดเห็นนี้ของคุณดีมาก ผมคิดว่าของขวัญชิ้นนี้มันยังน้อยไป เดี๋ยวผมขอมอบของขวัญไปเพิ่มให้อีกหน่อย ” หยางโปกล่าว
หวันลั่นตันรีบพยักหน้า “ ไม่ต้องแล้วจริงๆ ไม่ต้องแล้ว ! ”
กุ้ยหลงจิ่วยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “ วันนี้ไม่เสียเที่ยวที่มา พวกคุณใครยังมีข้อคิดเห็นดีๆมาเสนอให้
หยางโปกระอักเลือดก้อนโตออกมากันอีกบ้าง ! ”