เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1045 คุกเข่าศิโรราบ
รากฐานของตระกูลหยานอยู่ในตี้จิง เรื่องนี้หลายคนต่างก็รู้ดี ถึงกับมีลือกันทั้งเมืองและข่าวลือนั้นก็เป็นความจริง จึงทำให้ตระกูลหยานดูลึกลับมากยิ่งขึ้น
แต่เพราะมีความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ ทำให้ตระกูลหยานทำตัวเย่อหยิ่งใช้อำนาจในทางที่ผิดในมณฑลเจ้อเจียงได้ มีน้อยคนนักที่จะกล้ายั่วยุทำให้ขุ่นเคืองใจ บางครั้งเมื่อครอบครัวหยานพบเจอกับปัญหาอะไรก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก แค่พูดคำหยาบออกไป อีกฝ่ายก็จะไปสืบดู หลังจากสืบดูมาแล้ว ก็มักจะยุติการกระทำไปเอง
นี่คืออาวุธอันทรงอนุภาพของตระกูลหยาน ที่ไปแตะต้องไม่ได้ ถ้าเพียงแค่สัมผัสใส่ มันก็จะชี้เป็นชี้ตายของชีวิตได้เลย !
หยานเฉียงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของพ่อ เขายังคงพูดกับตัวเองว่า “ พ่อครับ สบายใจได้ ในเมื่อพวกเขาหูตาว่องไว แค่ไปสืบดู เดี๋ยวก็จะยอมพ่ายแพ้ไปเองอย่างแน่นอน พ่อรอดื่มเหล้าขอโทษพรุ่งนี้ได้เลย ! ”
แต่พ่อหยานกลับไม่ตอบหยานเฉียง แต่กลับหันไปมองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากนั้นถึงได้หยิบโทรศัพท์และกดโทรออก น้ำเสียงของเขาหายไปจากการวางอำนาจแบบเก่าและเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนมากขึ้น ” สวัสดียามเย็นเชี่ยนหยุน ! ”
หยานเฉียงคิดว่าพ่อของเขามีเมียน้อยอีกแล้ว กำลังจะแสดงอาการไม่พอใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็จำตัวตนของอีกฝ่ายได้และเหงื่อก็เปียกชุ่มไปทั้งตัว
“ หยานจวงเซียน ช่วงนี้คุณไปสร้างปัญหาไว้หรือเปล่า ? ”
เมื่อพ่อหยานได้ยินคำพูดนี้ ก็มีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาทันที ไม่มีใครเดาได้ว่าทำไมเขาถึงติดต่อกับทางตี้จิง มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ ครั้งนั้นเขาและภรรยาไปที่เมืองหลวง และพบกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง บังเอิญสองครอบครัวคลอดลูกเหมือนกัน แต่ภรรยาของอีกฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตจากการคลอดลูก ดังนั้นภรรยาของเขาจึงช่วยเลี้ยงดูทารกแฝดคู่นั้นให้
ต่อมาครอบครัวนั้นก็ได้ดิบได้ดี พวกเขาก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบอีกฝ่าย เพราะมิตรภาพนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายติดต่อกันเป็นครั้งคราว ต่อมาเขาได้เริ่มทำธุรกิจในมณฑลเจ้อเจียงและไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ และบังเอิญซุนเชี่ยนหยุนมาเยี่ยม เมื่อคนอื่นๆรู้เข้า ธุรกิจของเขาก็กลายเป็นที่นิยมขึ้นมาทันที !
หยานจวงเซียนรู้ดีว่ามิตรภาพนี้ไม่มั่นคงนัก ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังที่จะรักษามันไว้อย่างดี เพราะกลัวว่าหากวันใดวันหนึ่งมันอาจเกิดขาดขึ้นมา ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินคำถามของซุนเชี่ยนหยุนก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เขาจึงถามกลับไปอย่างอ่อนโยน ” เชี่ยนหยุน ขอคำใบ้หน่อยให้ผมหน่อยได้ไหม ? ”
“ คุณรู้จักชุยอี้โปไหม ? ” น้ำเสียงของซุนเชี่ยนหยุนถึงกับกัดฟันด้วยความแค้น เธอรู้สึกแย่กับชื่อนี้จริงๆ !
“ ชุยอี้โปนี้ใครกัน ? ” หยานจวงเซียนดูเหมือนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่รู้จักอีกฝ่าย และคงจะไม่ได้ไปทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจ
ซุนเชี่ยนหยุนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ทันทีที่เธอได้รับสายจากหยางโปก็รู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก แต่เธอก็รู้ว่าหยางโปนั้นร้ายกาจ แต่จะไม่รับสายก็ไม่ได้ เธอครุ่นคิดเล็กน้อย “ แต่ก่อนเขาชื่อหยางโป !
ในเมื่อไม่รู้จักงั้นก็ช่างมันเถอะ ! ”
คำพูดของซุนเชี่ยนหยุนดังก้องราวกับฟ้าผ่าในหูของหยานจวงเซียน ชื่อนี้ดังก้องอยู่ในหู เพราะลูกชายของเขาเพิ่งทำให้ขุ่นเคืองใจไป คือคนผู้นี้ !
น้ำเสียงของหยานจวงเซียนสั่นเทา ” เชี่ยนหยุน ดูเหมือนว่าผมจะรู้จักหยางโป ดูเหมือนว่าวันนี้
หยานเฉียงจะทำให้เขาขุ่นเคืองใจเข้าให้แล้ว ” ไอลีนโนเวล
“ นี่พวกคุณใช้ชีวิตกันจนเบื่อหน่ายแล้วใช่ไหม ? ทำไมคุณถึงไปทำให้เขาขุ่นเคืองใจ ? ”
เดิมทีซุนเชี่ยนหยุนก็รู้สึกค่อนข้างโกรธอยู่แล้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
หยานจวงเซียนรีบพูดทันที “ คุณเชี่ยนหยุน คุณฟังผมอธิบาย… ”
ไม่รอให้หยานจวงเซียนพูดจบ ซุนเชี่ยนหยุนก็ตัดบทเขาด้วยคำพูดที่แข็งกร้าว “ ฉันไม่อยากได้ยินคำอธิบายจากคุณ และไม่จำเป็นต้องฟังคุณแก้ตัว คุณควรไปขอโทษเขาตอนนี้ และเดี๋ยวนี้
และต้องขอให้เขายกโทษให้ ถ้าเขาไม่ยอมให้อภัยคุณ ต่อไปคุณก็ไม่ต้องมาติดต่อกับตระกูนซุนอีก ! ”
หยานจวงเซียนตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาถือโทรศัพท์ “ เชี่ยนหยุน… ”
จากนั้นไม่รอให้เขาได้เอ่ยปากพูด ก็มีเสียงยุ่งวุ่นวายดังตามสายมา ซุนเชี่ยนหยุนตัดสายไปแล้ว !
หยานเฉียงยืนขึ้นแล้ว เขามองไปที่พ่อ ” พ่อ เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมจู่ๆ พวกเราต้องไปขอโทษด้วย ทำไมพวกเราต้องไปขอโทษ ? พวกเราไม่ได้ผิดสักหน่อย ! ”
“ แล้วแกจะไปขอโทษไหม ? ” หยานจวงเซียนสีหน้าจริงจังและเข้มงวด
หยานเฉียงตกตะลึงไปทันที “ งั้นพ่อว่า ? ”
“ ตอนนี้แกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราต้องรีบไปขอโทษกันคืนนี้ ” หยานจวงเซียนสั่ง
หยานเฉียงยิ้มอย่างขมขื่น “ พ่อ ต่อให้ต้องไปขอโทษ ก็ไม่ต้องรีบถึงขนาดนี้หรอกมั้ง ! ”
“ แกจะไปหรือไม่ไป ? ถ้าแกไม่ไป ฉันจะตีขาแกจนหักแล้วลากแกไปเอง ! ” หยานจวงเซียนพูดอย่างโกรธจัด
หยานเฉียงตกใจที่เห็นใบหน้าโกรธจัดของพ่อ เขาไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของพ่อมาก่อน !
……
หยางโปมองดูเวลา “ ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว เอาแบบนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวพวกคุณเอง ถือว่าเป็นการปลอบขวัญก็แล้วกัน ”
หวังลั่วตันชายตามองทั้งสองคนอย่างลังเล
จู่ๆ หวงเชิงอี้ก็พูดอออกมา ” เอาล่ะพวกเราไปกันเถอะ ”
ผู้กำกับเฉินสีหน้าค่อนข้างทุกข์ใจ ดูเหมือนจะยังรู้สึกไม่สบายใจ ” ผมไม่ไปแล้วล่ะ… ”
หวงเชิงอี้ดึงผู้กำกับเฉินไว้ ” ไปเถอะ ไปด้วยกัน อดข้าวไป ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ! ”
ผู้กำกับเฉินไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ไปกับพวกเขาเท่านั้น หวังลั่วตันยิ้มกรุ่มกริ่มและเดินตามไป
หยางโปและลัวย่าวหัว รู้สึกมั่นใจ ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงกินข้าวกันตามปกติ หวังลั่วตันและหวงเชิงอี้กินน้อยเพราะลดน้ำหนัก ผู้กำกับเฉินไม่มีกะจิตกะใจกินข้าวเลย เขาถือตะเกียบเขี่ยข้าว
ในชามไปมา ท้ายสุดก็ไม่ได้กินสักคำ
หยางโปและลัวย่าวหัวก็ไม่ได้ปลอบโยนเขาเช่นกัน พวกเขาต่างคนต่างกินข้าวของตัวเองและไม่ได้อธิบายอะไรมาก
ระหว่างทางกลับโรงแรม หวงเชิงอี้ก็ยังรู้สึกค่อนข้างที่จะกังวล ” ถ้าเกิดพรุ่งนี้ถ่ายทำกันไม่ได้ คงจะแย่แน่ ”
“ อย่างน้อยก็ยังได้นอนตื่นสาย ก็ถือว่าไม่เลว ! ” หวังลั่วตันค่อนข้างที่จะมีความสุข
ใบหน้าของผู้กำกับเฉินหม่นหมอง ไม่พูดอะไร
เมื่อพวกเขามาถึงล็อบบี้โรงแรม หยางโปทั้งสองกำลังจะแยกตัวเดินจากไป แต่กลับรู้สึกว่าเห็นเงาของคนสองคนมาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแวบๆ ทั้งสองถูกจู่โจมเข้ามาอย่างกระชั้นชิดจนทำให้รู้สึกหวาดกลัว จึงรีบหันกลับไปดูด้านหลังทันที แต่กลับเห็นหยานเฉียงและชายวัยกลางคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน
“ คุณหยาง ผมพาไอ้ลูกหมามาขอโทษคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เจ้าลูกหมานี้ยังเด็กและโง่เขลา
ที่เข้าไปหาเรื่องคุณ ผมมาที่นี่เพื่อขอโทษคุณแทนเขา ” หยานจวงเซียนกล่าว
หยางโปมองชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าและขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยนี่คือคนที่บอกว่าไม่มีใครรวยกว่าเขางั้นเหรอ ?
ผู้กำกับเฉินและอีกสามคนที่กำลังจะหันหลังเดินจากไปต่างก็ตกใจนิ่งอึ้งไปทันที พวกเขาหันกลับมาก็เห็นหยานเฉียงก้มหน้าลงด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด และเห็นหยานจวงเซียนโค้งคำนับและขอโทษหยางโป ฉากนี้มันน่าทึ่งมาก !
ผู้กำกับเฉินมองไปที่ชายผู้หยิ่งผยองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา กลับมาโค้งคำนับอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเห็นว่าพวกเขาพ่อลูกทำท่าทีเคารพนอบน้อมแบบนี้ ก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอันมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? หรือว่า หยางโปจะเป็นขาใหญ่จริงๆ ?
หวงเชิงอี้มองไปที่หยางโปด้วยแววตาที่เปล่งประกายราวกับว่าเห็นเพชร เธอมองไม่ผิดจริงๆ
หยางโปมีอิทธิพลมาก ! หวงเชิงอี้เหลือบมองไปทางด้านข้างอีกครั้ง ก็พบว่าหวังลั่วตันหน้าแดงก่ำไปด้วยความตื่นเต้น จึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะแก่งแย่งกันอยู่ !