เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 970 หาจนเจอบ้าน
พอรับสาย ก็ได้ยินเสียงหยางหลางดังมาตามสาย ” วันนี้เพิ่งจะมีคนมาที่บ้านเราสองคน พวกเขาบอกว่าเจอกันกับนายครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมานาน ตอนนั้นลืมขอข้อมูลติดต่อของนายไว้ เลยมาหาเราที่บ้าน ”
ได้ยินแบบนั้นหยางโปก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งทันที “ ใคร ? ”
” คนหนึ่งอายุราวยี่สิบกว่าๆ ดูค่อนข้างจะซื่อบื้อ ขอเข้าไปดูห้องนาย ฉันเลยพาเขาไปที่ห้องของฉัน และบอกไปว่าเป็นห้องของนาย คิดไม่ถึงว่าจะชอบหนังสือโป๊สามเล่มของฉันที่วางอยู่บนชั้นหนังสือ ท้ายที่สุดก็ซื้อมันไปในราคาเล่มล่ะแสน ” หยางหลางกล่าว
หยางโปยังคงรู้สึกไม่ค่อยจะเข้าใจ เพราะเขาไม่รู้จักคนแบบนี้จริงๆ นี่มันคนที่มีสภาพจิตใจแบบไหนกัน ? ถึงได้ยอมจ่ายเงินซื้อหนังสือโป๊สามเล่มไปในราคาสามแสนหยวนได้ ?
“ เขาชื่ออะไร ? ” หยางโปถาม
หยางหลางกล่าวว่า “ ฉันก็ไม่รู้ พวกเขาไม่ได้บอก ”
“ แล้วบอกไหมว่ามาตามหาฉันทำไม ? แล้วอีกคนมีลักษณะท่าทางยังไง ? ” หยางโปถาม
“ พวกเขาก็ไม่ได้บอกนะว่ามาหานายทำไม แต่ฉันคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี รู้สึกว่าพวกเขาแปลกมาก อีกคนอายุสามสิบกว่าดูปกติหน่อย ส่วนคนที่อายุยี่สิบกว่าจ่ายเงินล้านหนึ่งซื้อกระบี่ไม้ท้อไป ! ” หยางหลางกล่าว
หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ได้สติกลับมา บทบาทของกระบี่ไม้ท้อ คือมีไว้เพื่อป้องกันและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คิดว่าคงไม่มีใครอยากได้กระบี่ไม้ท้อเล่มนี้ เท่าที่เขารู้ กระบี่ไม้ท้อเล่มนี้
หยางหลางซื้อมานานแล้ว มันแขวนอยู่ในบ้านมาตลอด ถ้ายอมจ่ายเงินเป็นล้านซื้อกระบี่ไม้ท้อเล่มนี้ได้ นั่นก็แสดงว่ารวยมาก อีกทั้งยังคงมีความสนใจในตัวกระบี่ไม้ท้อเอามากๆ !
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ของที่พบเห็นได้บ่อยๆพวกนี้ ก็คงไม่มีใครซื้อไป ก็คงจะมีแต่โจวซินเท่านั้น
มีแค่เฉพาะคนที่เพิ่งออกมาจากเขา ที่ไม่รู้อะไรเท่านั้นที่จะใช้เงินอย่างผิดที่ผิดทาง !
หยางโปถึงกับจินตนาการออกเลยว่า เรื่องนี้จะต้องถูกพ่อหยางพูดหว่านล้อมหลอกเอาแน่ๆ !
“ ฉันรู้แล้ว แล้วพวกคุณได้เอาที่อยู่ของฉันให้พวกเขาไปด้วยไหม ? ” หยางโปถาม
หยางหลางยิ้ม “ ก็เพราะให้ไปแล้วไง ฉันถึงได้โทรมาบอก ”
หยางโปถือโทรศัพท์ไว้ แต่กลับไม่สนใจ ในสายตาของเขาแล้ว ในเมื่อได้ผลประโยชน์ไปมหาศาลแบบนี้ พ่อหยางมีหรือจะไม่บอกที่อยู่ของเขาให้อีกฝ่ายรู้ ? เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นเหลือบมอง ไปที่เหยียนหรูหยู ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเพราะเหยียนหรูหยู หรือว่าโจวซินจะมาตามเธอกลับไป ?..Aileen-novel
“ ถ้างั้นก็ขอบคุณมาก ” หยางโปกล่าวอย่างสุภาพ
หยางหลางหัวเราะแหะๆ “ ไม่ต้องขอบคุณหรอก พวกเราน่ะเป็นพี่น้องกัน ! ”
พอพูดจบ หยางหลางก็หยุดไปครู่หนึ่ง “ เสี่ยวโป ดูสิ ตอนนี้ฉันตกงานอยู่ ไม่มีที่สำหรับเปิดร้าน แล้ว นายเห็นแก่ความพยายามที่มาบอกข่าวให้นายรู้หน่อยได้ไหม โอนเงินให้ฉันสักแสนสิ
ฉันก็ไม่เอาเยอะหรอกนะ แค่แสนเดียวก็พอ ”
หยางโปอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ เขาจะเชื่อสุนัขจะไม่กินขี้แล้วได้ยังไงกัน ?
“ นายขายหนังสือไปสามเล่มแล้ว ทำไมยังเรียกว่าจนอยู่อีกล่ะ ” หยางโปพูดออกมาคำหนึ่งแล้วกดตัดสายไปเลย
เหยียนหรูหยูยังคงจ้องมองหยางโปเขม็ง เมื่อเห็นเขากดตัดสายทิ้ง สายตาก็จับจ้องอยู่แต่กับที่หน้าอกของเขาโดยไม่พูดไม่จา
หยางโปค่อนข้างจะลังเล แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดที่ถูกจ้องมอง เขาจึงถามออกไปว่า “ คุณอยากได้กระจกเทียนหลัวคืนใช่ไหม ? ”
เหยียนหรูหยูพยักหน้า ” ฉันอยากได้คืน ”
หยางโปรู้สึกทำใจไม่ค่อยได้ เขาลูบคลำไปที่หน้าอกตัวเอง ยิ่งฝึกฝนนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสัมผัสถึงผลของกระจกแสงจันทร์มากขึ้นเท่านั้น กระจกแสงจันทร์สามารถรวบรวมพลังรอบตัวเขาและเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนให้แก่เขา และยังเพิ่มขั้นวรยุทธตามไปด้วย การรวมตัวของพลังประเภทนี้ ส่งผลทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย หยางโปก็มองไปที่เหยียนหรูหยู ” เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ผมจะคืนกระจกเทียนหลัวให้กับคุณ หลังจากนั้นผมก็จะไปส่งคุณกลับ ! ”
เหยียนหรูหยูจ้องหน้าหยางโปด้วยใบหน้าค่อนข้างแปลกใจ เธอดูออกว่าหยางโปทำใจที่จะคืนให้จริงๆ ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าหยางโปขี้เหนียวเกินไป คิดไม่ถึงว่าจะถามเอาค่ารักษาพยาบาลกับเธอแต่ไม่คิดว่าหยางโปจะยินดีคืนกระจกเทียนหลัวให้เธอ !
เหยียนหรูหยูเห็นหยางโปเอื้อมมือออกมาลูบอก เธอก็กลับลังเลขึ้นมา เธอย่นคิ้วขึ้น ” ช่างมันเถอะ เก็บกระจกเทียนหลัวไว้กับคุณก่อน ของล้ำค่าที่มีพลังอยู่ จะต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมเท่านั้นถึงจะครอบครองได้ ในเมื่อกระจกเทียนหลัวไปจากฉันแล้ว นั่นก็แสดงว่าไม่ใช่ของฉันแล้ว คุณเก็บไว้เถอะ ! ”
หยางโปเอื้อมมือไปลูบกระจกแสงจันทร์ เบิกตากว้าง เพราะเขาสัมผัสได้ว่ากระจกเทียนหลัว
ร้อนขึ้นมาเล็กน้อย นี่มันหมายความว่าอะไร ?
แต่เมื่อได้ยินที่เหยียนหรูหยูบอกว่าไม่เอาแล้ว หยางโปถึงได้โล่งใจ จากนั้นเขาก็ลดมือลง และมองไปทางเหยียนหรูหยู “ ในเมื่อไม่ต้องการกระจกเทียนหลัวแล้ว งั้นก็คงไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว
น่าจะจากไปได้แล้วใช่ไหม ? ”
หยางโปพูดแบบนี้ออกมาอย่างจำใจ ทางด้านเหยียนหรูหยูก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นกัน พอดีกับลัวย่าวหัวเดินสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวออกมา พลางเช็ดผมและพลางถามไปด้วยว่า
” ตอนเช้าพวกนายออกไปกันกี่โมง ? ทำไมนายถึงไปหาหลิวเหลียงอวี้ได้ ? ”
หยางโปอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อเช้าให้ฟังคราวๆ
ลัวย่าวหัวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ บ้าฉิบ หยางโปอย่าว่าฉันพูดจาไร้สาระนะ พ่อบุญธรรมของนายคนนี้ไร้ยางอายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะคนๆนี้หัวธุรกิจมาก วิธีแบบนี้ยังคิดออกมาได้ ? ตอนนั้นทำไมนายถึงเชื่อเขาและยอมให้เขายืมร้านไปได้กันนะ ? ”
หยางโปส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น “ ฉันไม่มีทางเชื่อพวกเขาเหมือนกัน แต่นายก็รู้ พวกเขาหน้าด้านหน้าทนมากแค่ไหน เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ฉันเลยตอบตกลง ”
ลัวย่าวหัวหัวเราะเสียงดัง “ ถ้างั้นก็สมน้ำหน้านายแล้วล่ะ ! ”
เหยียนหรูหยูมองทั้งสองคน แล้วหันหลังเดินกลับเข้าห้องไป
ลัวย่าวหัวมองตามหลังเหยียนหรูหยู และหันมาเลิกคิ้วให้หยางโป ” ในที่สุดเธอก็ไปซะที เร็วเข้า นายรีบอธิบายตำราลับเล่มนั้นให้ฉันที ฉันอดทนมาทั้งวันทั้งคืนแล้วมันอึดอัดเอามากๆเลย ! ”
หยางโปพยักหน้า ” อืม ไปที่ห้องของนายแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง ”
ลัวย่าวหัวรีบตอบรับทันที “ ดี ดี ! ”
หยางโปอธิบายให้หลูตงซิงฟังไปแล้วรอบหนึ่ง จนจดจำเนื้อหาของ “ คัมภีร์ไท่เก๊ก ” ได้ขึ้นใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดอ่านตำราลับอีก แค่อธิบายปากเปล่าก็ได้แล้ว
ลัวย่าวหัวทำตัวเหมือนเป็นนักเรียนประถม นอนคว่ำอยู่หน้าโต๊ะและจดบันทึกเนื้อหาสำคัญที่
หยางโปอธิบายให้ฟัง เขากระตือรือร้นมากสำหรับความรู้นี้ นี่เป็นความปรารถนาอันยาวนานของเขา จนในที่สุดวันนี้มันก็เริ่มเป็นจริงขึ้นมาแล้ว
ตำราลับเล่มนี้ไม่หนามาก หยางโปใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า ก็ได้อธิบายเนื้อหาทั้งหมดจบ
เขากลัวว่าลัวย่าวหัวจะรีบร้อนที่จะลอง จึงรีบเตือนไปว่า “ อย่าลืมทบทวนเนื้อหาพวกนี้อีกสักสองสามรอบจนคุ้นชินแล้วก็อย่ารีบร้อนที่จะเริ่ม แม้ว่าจะช้าไปสองสามวันก็ตาม มันก็จะไม่เป็นอะไรฉันพูดแบบนี้ นายพอจะเข้าใจใช่ไหม ? ”
ลัวย่าวหัวพยักหน้า “ นายวางใจได้ ”
หยางโปกำลังจะพูดมากกว่านี้ แต่เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นว่าเป็นสายโทรเข้าของโจวซิน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาจางๆ โจวซินมีเบอร์โทรติดต่อของเขานานแล้ว แต่ก็ยังพยายามตามหาบ้านของเขา คงกลัวว่าเขาจะไม่บอกที่อยู่ให้
แต่เวลานี้เกรงว่า โจวซินและเสวียนจง คงมาถึงชั้นล่างของตึกที่เขาอยู่แล้ว ถึงได้โทรมาหาเขา
พอหยางโปรับสายก็ได้ยินเสียงของโจวซินดังตามสายมา ” หยางโปคุณอยู่บ้านไหม ? ”