เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 72
ตอนที่ 72: ทวงคืน
โดย
Ink Stone_Romance
“ผมไม่ต้องให้ป้ามายุ่ง ผมจะอยู่ตรงนี้รอ รอลุงกลับมา ผมมีเรื่องจะคุยกับลุง”
ตอนนี้อวี๋เหวยหมินไม่กล้าออกไป แต่ก็กลัวว่าหวางนิวจะไล่เขาออกไป เลยหาข้ออ้าง
“รอลุง? รอให้ลุงกลับมาตีเจ้าล่ะสิ”
หวางนิวพูดประชดใส่อวี๋เหวยหมิน
อวี๋เหวยหมินมองบนเพราะโดนประชด แต่เขาจะพูดอะไรได้ เขาพูดได้แค่ “คุณป้า ป้าต้มน้ำร้อนให้ผมหน่อย ผมจะล้าง ผมช่วยป้าทำงานจนเป็นแบบนี้ ป้าจะไม่สนใจไม่ได้ แล้วป้าเอาเสื้อผ้าของลุงมาชุดหนึ่งให้ผมหน่อย ผมจะเปลี่ยน”
อวี๋เหวยหมินทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาเหม็นจะตายอยู่แล้ว ดังนั้นเขาเลยยอมทนหน้าด้านพูดจาดีกับหวางนิว
“บ้านฉันไม่ได้เรียกให้เจ้ามาช่วยสักหน่อย ตัวเจ้ากระโดดลงไปเองจะโทษใคร ฉันยังต้องทำกับข้าวนะ จะเอาน้ำร้อนมาจากไหน ลุงก็ไม่มีชุดให้เจ้าเปลี่ยน ถ้าไม่ไป ก็รอไปแล้วกัน”
หวางนิวเบะปาก อยากจะมาล้างตัวที่บ้านเธอเหรอ? ไม่มีทาง เขาต้องใช้น้ำตั้งเท่าไร เธอไม่มีทางปรนนิบัติแน่
“คุณป้า”
อวี๋เหวยหมินเรียกอีกครั้ง แบบนี้ไม่ได้การ เขาทนไม่ไหวแล้ว
“เรียกผีสิ เรียกไปก็ไม่มี เจ้าอย่ามาทำให้ฉันขยะแขยง ไป ไปรอที่มุมกำแพงโน่น อยากรอลุง ก็รอไป ไม่อยากรอก็ไป ถ้าเจ้าไม่ไปรอที่มุมกำแพงดีๆ ฉันจะเรียกคนอื่นเข้ามาดู”
หวางนิวชี้ไปที่มุมกำแพง ให้อวี๋เหวยหมินไปรอตรงนั้น
อวี๋เหวยหมินโกรธจัด คนบ้านเฉินนี่น่ารักเกียจไปหมด น่ารังเกียจไปแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ ดังนั้นเขาเลยไปรออยู่ที่มุมกำแพง ลมพัดมา ทั้งตัวเขาทั้งหนาวทั้งเหม็น อยากจะสลบไป
เห็นอวี๋เหวยหมินสภาพนี้เฉินเยี่ยนรู้สึกดีใจแวบขึ้นมา แต่ก็มีความเสียใจแวบขึ้นมาเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะอวี๋เหวยหมิน แต่เพราะอดีตของเธอ
เฉินเยี่ยนไม่สนใจอวี๋เหวยหมินที่นั่งอยู่มุมกำแพงตากลมอยู่ อวี๋เหวยหมินเรียกเธอ เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ไปห้องครัว ได้ยินเสียงหวางนิวกำลังพูดถึงสภาพน่าสมเพชของอวี๋เหวยหมินให้หวางจวนฟัง
“เยี่ยนจื่อ ลูกนี่สุดยอดจริงๆ ลูกคิดได้ยังไงให้เขาไปพรวนปุ๋ยให้บ้านเรา แล้วยังตกลงไปในหลุมปุ๋ยอีก ฮาฮาฮา แม่ขำจะตายอยู่แล้ว ปกติเห็นเจ้าอวี๋เหวยหมินนั่นเป็นคนรักสะอาด คราวนี้เขาโดนเสียบ้าง ก็สมควรอยู่หรอก”
พอเห็นลูกสาวคนโต หวางนิวก็พูดกับเฉินเยี่ยนไม่หยุด สีหน้าดีใจไม่เหมือนเสแสร้งเลย คนหมู่บ้านเกษตรค่อนข้างตรงๆ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น หวางนิวไม่ชอบอวี๋เหวยหมิน เห็นเขาเป็นแบบนี้ ย่อมดีใจแน่นอน ไม่ต้องปิดบัง
“สะใจจริง แต่ไม่รู้ว่าแม่เขาจะมาหาเรื่องหรือเปล่า ป้านั่นด่าคนได้หยาบคายจะตาย”
ตอนนี้หวางจวนเริ่มกังวลใจ แม่อวี๋เหวยหมินนั่นไม่ควรไปยั่วโมโห ถ้าเธอมาหาเรื่อง กลัวว่าจะมีปัญหา
“กลัวเธอทำไม ตัวเขาหล่นลงไปเอง จะโทษใคร ถ้าเธอกล้ามาโวยวาย ฉันจะป่าวประกาศไปตามถนนให้รู้กันหมด ดูว่าใครจะขายหน้า”
เสีนงหวางนิวไม่เบาเลย อวี๋เหวยหมินที่อยู่มุมกำแพงที่สนามตัวสั่น หลังกลับไปต้องไม่ให้แม่มาโวยวายที่นี่ ไม่อย่างนั้นทั้งหมู่บ้านจะรู้หมด เขาก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้ว
หวางนิวตอนนี้ไม่รู้ว่าเสียงเธอดังจนอวี๋เหวยหมินได้ยิน จะได้ไม่ต้องสร้างปัญหา
หลายคนนี้พูดคุยไปทำอาหารไป จนเฉินหู่กลับมาเขาพุ่งตรงเข้าไปในครัว พูดคุยกับหวางนิวอยู่สักพัก แล้วเข้าไปในโถงบ้าน เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนหนึ่งยังนั่งอยู่ที่มุมกำแพง คนนั้นกำลังตัวสั่นอยู่
อวี๋เหวยหมินไม่ได้อยู่ในบ้านเฉินตลอด ระหว่างนั้นเขาเดินไปหน้าประตูบ้านเฉินตั้งหลายครั้ง แต่ข้างนอกมีคนตลอด เขาไม่กล้าออกไป จึงได้แต่รอ
จนถึงมื้อค่ำ เพราะเฉินจงยังไม่กลับมา หวางนิว เฉินเยี่ยน เฉินหู่ หวางจวนกินข้าวกันในห้องครัว
“ป้า คุณป้า ให้ข้าวผมชามหนึ่งเถอะ หนาว ผมหนาว”
อวี๋เหวยหมินทั้งหนาวทั้งหิว ทั้งตัวก็เหม็นอีก เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขามาขอข้าวถึงหน้าประตูห้องครัว อยากจะได้โจ๊กธัญพืชที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดจะมองเลยสักชาม
“ใคร ใครน่ะ”
เฉินหู่ตกใจขึ้นมา มองไปทางอวี๋เหวยหมิน แต่สภาพอวี๋เหวยหวินตอนนี้ดูได้เสียที่ไหน อาศัยแสงไฟจากเตา อวี่เหวยหมินตัวดำเป็นปื้น เหมือนผี ทำเอาเฉินหู่ตกใจจนโยนชามข้าวในมือไป สาดโจ๊กธัญพืชไปที่ตัวอวี๋เหวยหมิน
อวี๋เหวยหมินก็ตกใจจนกระโดด แต่ตอนนี้ปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาช้าลง เลยไม่ได้ร้องออกมา เพียงแต่จ้องมองเฉินหู่ด้วยความอึ้ง
สายตาเฉินเยี่ยนขยับไปมา ไม่ได้พูดอะไร อวี๋เหวยหมินถึงกับมาขอโจ๊กธัญพืชหนึ่งชาม คนหนอคน…
“เจ้าเป็นใคร มาทำอะไรบ้านข้า บอกมาเร็ว ไม่บอกข้าจะจัดการเจ้า”
ฝั่งเฉินหู่หยิบเหล็กร้อนขึ้นมา เป็นแท่งเหล็กที่บ้านเฉินเอาไว้ใช้เวลาก่อไฟ ดูท่าแล้วเหมือนแค่อวี๋เหวยหมินพูดผิดไปประโยคหนึ่ง เขาก็จะลงมือเลย
ไม่แปลกที่เฉินหู่จะทำแบบนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าในสนามบ้านตัวเองมีอีกคนอยู่ แล้วอยู่ๆ โผล่มา แล้วยังเป็นสภาพนี้อีก ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว อีกอย่างตอนนี้ในบ้านมีผู้หญิงสามคน เขาเป็นผู้ชายคนเดียว การปกป้องผู้หญิงเป็นหน้าที่ของเขา
“ข้าอวี๋เหวยหมิน พี่เหวยหมินของเจ้าไง”
อวี๋เหวยหมินบอกสถานะของตัวเอง เขากลัวว่าเฉินหู่จะเอาเหล็กร้อนในมือมาตีเขา
“อวี๋เหวยหมิน? มาทำบ้าอะไรที่นี่? ทำไมเหม็นอย่างนี้ เจ้าตกลงไปในส้วมมาเหรอ?”
เฉินหู่นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคนนี้คืออวี๋เหวยหมิน ถามจบเขาก็โมโหขึ้นมา “เจ้าเป็นพี่ใคร? ถุย อย่าคิดจะมาเป็นพี่ข้า เจ้าไม่คู่ควร เจ้ายังมีหน้ามาบ้านข้าอีก มาทำอะไร จะมาให้โดนตีใช่ไหม”
เฉินหู่พูดจาไม่ดีกับอวี๋เหวยหมินเลยสักนิด
อวี๋เหวยหมินกดความโกรธไว้ แม้แต่เด็กอายุสิบขวบก็แกล้งเขา บอกว่าจะตีเขา เขาน่าแกล้งขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่ตอนนี้เขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ได้ เขารู้สึกชา”
“ช่างเถอะ หู่จื่อ”
เฉินเยี่ยนดึงเฉินหู่มา เธอไม่อยากให้เฉินหู่ลงมือ
“ใช่แล้ว หู่จื่อ กินข้าวไป คนบางคนหน้าด้าน อย่าไปยุ่งกับเขา”
หวางนิวพูดจบก็ขมวดคิ้ว พูดกับอวี๋เหวยหมินด้วยความรังเกียจ “อยากกินข้าวก็กลับไปกินที่บ้านเจ้า บ้านเราไม่มีข้าวให้เจ้า รีบออกไปได้แล้ว เจ้าไม่เหม็น แต่พวกเราไม่อยากเหม็นไปด้วยนะ จริงๆ เลย”
อวี๋เหวยหมินมองสายตารังเกียจของหวางนิว เขาพูดไม่ออกว่าในใจรู้สึกยังไง ปกติเป็นเขาที่รังเกียจคนอื่น ตอนนี้กลับเป็นคนอื่นรังเกียจเขา แต่ตอนนี้เขาเหม็นจริงๆ แต่จะโทษใคร? เป็นเพราะเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนทำร้ายเขา คิดมาถึงตรงนี้อวี๋เหวยหมินจ้องมองเฉินเยี่ยนอย่างเคียดแค้น
“เจ้ายังกล้ามาจ้องพี่สาวข้า คิดจะทำอะไร ลองมองอีกทีข้าจะตีเจ้า”
เฉินหู่มองอวี๋เหวยหมิน โบกแท่งเหล็กร้อนในมือ เขาคิดว่าอวี๋เหวยหมินคนนี้ไม่ได้รับการสั่งสอนมา
อวี๋เหวยหมินไม่พูดอะไร เขารู้สึกว่าคนบ้านเฉินไม่มีเหตุผลเลย แต่เขาก็ไม่อยากไป ในครัวอบอุ่นกว่าข้างนอก
“นี่ทำอะไรกัน”
ตอนนี้เฉินจงกลับมาจากข้างนอกแล้ว มองดูหน้าประตูห้องครัวมีมนุษย์เปรอะมูลยืนอยู่ แล้วมองคนในห้องครัวเขาขมวดคิ้วถาม
“พ่อ ฉันจะเล่าให้คุณฟัง…”
หวางนิวเห็นสามีกลับมา ก็รีบเดินไปข้างหน้าเล่าเรื่องให้ฟัง เธอเล่าด้วยหน้าตาเบิกบานแช่มชื่น โดยเฉพาะตอนที่พูดถึงอวี๋เหวยหมินตกลงไปในหลุมปุ๋ยคอก ดูสดใสมาก
“สมน้ำหน้า ใครให้เขามาตีพี่สาว ไม่ตกลงไปตายก็ถือว่าเบาแล้ว”
หลังเฉินหู่รู้ว่าอวี๋เหวยหมินตกลงไปในหลุมปุ๋ยเขาถุยน้ำลายออกมา เขาไม่สงสารอวี๋เหวยหมินเลยสักนิด
————-