เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 81
ตอนที่ 81: อิสระในการแต่งงาน
โดย
Ink Stone_Romance
เขาให้เธออย่าเสียใจภายหลัง เฉินเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้แล้วอดไม่ได้อยากจะหัวเราะ ถ้าตัวเธอแต่งงานกับเขาเธอจะเสียใจต่างหาก
“วางใจได้ สิ่งที่ฉันทำ คำที่ฉันพูด ไม่มีทางเสียใจแน่นอน”
เฉินเยี่ยนแน่วแน่มาก เธอจะเสียใจได้ยังไง ถ้าแต่งงานกับคนแบบนี้จริง เธอไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว
ได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนหวางนิวถอนหายใจออกมา เธอรู้ ถึงเวลานี้พูดอะไรไปก็สายไปแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะเธอไม่อยากจะพูด ถ้าเธอถูกใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก เธอต้องพูดต่อหน้าเฉินเยี่ยนอยู่แล้ว พูดยังไงก็ไม่มีทางให้เฉินเยี่ยนพูดคำพูดพวกนี้ออกมา แต่เป็นเพราะคำพูดก่อนหน้าของหลิวอี้ เธอก็อาจจะไม่ได้ชอบมาก
“พูดมาถึงตรงนี้แล้ว พวกเราก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก พวกเราเป็นคนบ้านนอก กฎของคนในเมืองก็ไม่ค่อยรู้หรอก ส่วนเยี่ยนจื่อ เธอโดนพวกเราเลี้ยงจนเสียนิสัยแล้ว อารมณ์ก็ไม่ค่อยดี ทนลำบากไม่ไหว รับความโกรธไม่ได้ ถ้าจะให้เธอไปในเมือง กลัวว่าเธอจะทำไม่ได้ และโทษพวกเราเองที่ไม่มีโชคนั้น เป็นคนในเมืองไม่ได้ ใช้ชีวิตสบายเป็นคนบ้านนอกแบบเดิมดีแล้ว ลูกสาวอยู่ใกล้พวกเราก็สามารถดูแลได้ จะไห้ไม่ต้องไปโดนใครบ่นด่า ขอโทษด้วย สหายหลิว ให้คุณมาเสียเที่ยวแล้ว แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว สหายหลิวกลับไปคุยได้แล้ว ไม่อย่างนั้นลำบากสหายหลิวต้องผิดใจกับที่บ้านอีก พวกเราก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย”
เฉินจงพูดแล้ว เขาพูดอย่างเกรงใจ แต่ในคำพูดแสดงความหมายชัดเจนแล้ว พวกคุณคนเมืองดี สูงส่ง พวกเราไม่อาจเอื้อม ลูกสาวเราจะไม่ไปลำบาก คุณอยากจะทำยังไงก็ทำเถอะ คุณดูถูกพวกเรา พวกเราไม่เสียดายหรอก
สีหน้าหลิวอี้ยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ เฉินเยี่ยนทำเขาโกรธจนสำลัก เดิมทีเขาคิดว่าพ่อแม่บ้านเฉินจะควบคุมเฉินเยี่ยนได้ ตอนนี้กูเหมือนเฉินจงก็ทำอะไรไม่ชัดเจน มิน่าถึงได้สอนเฉินเยี่ยนเป็นผู้หญิงที่หน้าไม่อายแบบนี้ เดิมทีรากเหง้าก็ไม่ดีอยู่แล้ว โชคดีที่ตัวเองมารอบนี้ ได้รู้พฤติกรรมของคนบ้านเฉิน และโชคดีที่ตัวเองยังไม่ได้รีบร้อนหาแม่สื่อ ไม่อย่างนั้นได้ภรรยาแบบนี้ ได้พ่อตาแบบนี้ อีกหน่อยไม่แน่ว่าจะมีเรื่องวุ่นวายอีกเท่าไร
จริงๆ เลย ถ้ารู้ว่าบ้านเฉินเป็นแบบนี้มาก่อน เขาคงไม่มาแล้ว เสียเวลาเขา ถึงเฉินเยี่ยนจะสวยยังไง เก่งแค่ไหน แต่ไม่มีศีลธรรมแบบี้ เขาจะเอามาทำไม? ไม่แน่แต่งงานไปแล้วเธออาจสวมเขาเขาก็ได้ ถึงเวลานั้นตัวเขาเองจะเสียหน้าขนาดไหน ดูเหมือนตอนนี้บ้านเฉินก็ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าตัวเขาแต่งงานกับเฉินเยี่ยนจริง ไม่แต่บ้านเฉินอาจจะข่มเขาก็ได้ ถึงตอนนั้นเขาคงมีเรื่องวุ่นวายนับไม่ถ้วน
แบบนี้ก็ดี ไม่มีเฉินเยี่ยน ตัวเองมีคนที่ดีกว่านี้อีก เขาจะทำให้เฉินเยี่ยนและบ้านแนได้เห็น เขาจะหาคนทำงาน หาคนที่สวย หาคนที่แกร่งกว่าเฉินเยี่ยนเป็นร้อยเท่า ถึงตอนนั้นเฉินเยี่ยนและเฉินจงจะต้องเสียใจจนตาย
“หึ ถือว่าผมตาบอดที่มาชอบคุณ ถือว่าผมมาเสียเที่ยวแล้วกัน”
หลิวอี้พูดทิ้งท้ายด้วยความโกรธแล้วออกไป
หวางนิวอยากจะยื่นแขนไปห้ามไว้ แต่ยื่นไปได้ครึ่งเดียวเธอก็หดแขนกลับ มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอรั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกพวกเธอ ถึงแม้จะรั้งให้อยู่ก็ไม่ใช่เรื่อง อีกอย่างรั้งให้อยู่ลูกสาวก็ไม่ยอม เธอจะรั้งไว้ทำไม กินข้าว? หรือจะเอาผักให้เขากลับไปอีก? ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ มื้อเที่ยงไม่น่าทำก๋วยเตี๋ยวแป้งขาวให้เขาเลย โชคดีที่ยังไม่ได้ทำไข่ชาให้ ไม่อย่างนั้นเขาคงยิ่งไม่พอใจ
“คนนี้ดูไม่เลวเลย แต่ทำไมพูดจาไม่น่าฟัง จริงๆ เลย คิดว่าเขาดีขนาดไหน มาดูถูกพวกเรา พวกเราที่ดูถูกเขาต่างหาก เยี่ยนจื่อ อย่าเสียใจไปเลย อีกหน่อยยังมีคนที่ดีกว่านี้อีก”
หวางนิวกลัวลูกสาวไม่สบายใจ เลยรีบปลอบลูกสาว
มีอะไรต้องเสียใจ เฉินเยี่ยนไม่เสียใจเลยสักนิด หลิวอี้ไปแล้ว ไม่ยืดเยื้อ เธอโล่งใจต่างหาก อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองเป็นคนสวยขนาดที่ทำให้คนไม่สามารถละสายตาได้ เป็นคนที่ผู้ชายเห็นแล้วชอบเลย หลงรักเลย เธอไม่ใช่คนสวยแบบนั้น และเธอก็ไม่ต้องการความชื่นชอบแบบนั้น เธอคิดแค่อยากจะหาเงิน ให้มีชีวิตที่สุขสบาย ส่วนพวกผู้ชาย นานๆ ทีมีไว้ชื่นชมก็ดี ถ้ามีคนที่เหมาะสม คนที่ดีจริง เธอค่อยพิจารณา แต่ตอนนี้เธอยังไม่เจอใครที่เหมาะสม และเธอก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย
แต่หน้าตาเธอก็คือว่าสะสวย ไม่อย่างนั้นหลิวอี้ที่หลงตัวเองหนักขนาดนั้นจะเป็นฝ่ายรุกมาถึงบ้านจะขอเฉินเยี่ยนแต่งงานก่อนได้ยังไง
ถ้าดูแค่ภายนอก อีกหน่อยคนที่มาขอเธอแต่งงานคงไม่ไม่น้อย แต่ชื่อเสียงเธอไม่ถือว่าดีมาก ในจำนวนคนไม่น้อยที่จะเข้ามาก็เปลี่ยนใจกลางคัน ตอนนี้เธอยังไม่วางแผนแต่งงาน สู้เธอถือโอกาสนี้คุยกับพ่อแม่ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องให้พวกเขายุ่งเรื่องแต่งงานของตัวเอง ตัวเธอจัดการเรื่องแต่งงานของตัวเองก็พอ
เฉินเยี่ยนคิดว่าโอกาสนี้ไม่เลวเลย เลยเอาความคิดเธอบอกกับเฉินจงและหวางนิว
“ได้ที่ไหนกัน เป็นผู้หญิงจะแต่งงานก็ต้องมีแม่สื่อทั้งนั้น เห็นว่าดี พ่อแม่ก็ตกลง มีที่ไหนที่ตัวเองตัวสินใจเอง นี่ไม่ถูกต้อง ลูกไม่ต้องสนใจ แม่กับพ่อลูกต้องหาผู้ชายที่ดีให้ลูกแน่นอน”
หวางนิวปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด เรื่องงานแต่งงานของลูก พ่อแม่เป็นฝ่ายตัดสินใจ จะให้ลูกสาวตัวเองตัดสินใจเองได้ยังไง
เฉินจงมองลูกสาว ความคิดลูกสาวนับวันยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่
“แม่ หนูรู้ว่าแม่กับพ่อจะหาคนที่ดีให้ แต่ก่อนหน้านี้มีอวี๋เหวยหมิน ตอนนี้มีหลิวอี้มาอีก ครั้งหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นใคร เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของทั้งชีวิต ดังนั้นคนที่พวกพ่อแม่คิดว่าดี หนูอาจจะไม่คิดว่าดี อาจจะไม่ได้เหมาะสมกับหนูก็ได้ หนูเป็นคนที่ต้องอยู่ด้วยทั้งชีวิต หนูคิดว่าหนูเป็นคนเลือกเองดีกว่าค่ะ”
เฉินเยี่ยนอธิบาย ยุคนี้น้อยมากที่จะมีความรักแบบอิสระ ส่วนมากเป็นแม่สื่อ พ่อแม่เป็นคนจัดการ เธอต้องการอิสระ ต้องพูดโน้มน้าวพ่อแม่
“ลูกตัดสินใจเอง ลูกจะดูเป็นที่ไหน ถ้าลูกดูไม่ดี ก็ไม่ดีทั้งชีวิตแล้วอย่ามาว่าพวกแม่นะ”
หวางนิวร้อง ลูกสาวคนนี้ทำไมไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยนะ ทำไมถึงมีความคิดเห็นมากขนาดนี้
“ชีวิตหนูไม่ดี หนูก็ไม่โทษพ่อแม่หรอก ทางที่หนูเลือกเอง หนูยอมรับ”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็จ้องมองหวางนิว แล้วพูดอีก “แม่ หนูรู้ว่าแม่หวังดีกับหนู กลัวว่าหนูเลือกคนไม่เป็น แบบนี้ไหมคะ เรื่องแต่งงานพ่อแม่อย่าเพิ่งจัดการ ถ้าหนูมีคนที่ชอบพอ มีคนที่เหมาะสม หนูจะบอกพ่อแม่เอง ให้พ่อแม่ดู ถ้าพ่อแม่เห็นว่าผ่าน ก็ค่อยว่ากัน ถ้าพ่อแม่คิดว่าไม่ดี พวกเราก็ค่อยปรึกษากัน แน่นอน ถ้ามีคนมาเป็นแม่สื่อให้หนู พ่อแม่ก็ห้ามปิดบังหนู ตอบตกลงโดยไม่บอกให้หนูรู้ ต้องให้หนูยินยอม พ่อแม่ถึงค่อยตกลง แบบนี้ดีไหมคะ?”
เฉินเยี่ยนพูดอ่อนลงหน่อย เพราะนี่คือพ่อแม่ ไม่ใช่ศัตรู เธอแค่ต้องการอิสระ แต่ไม่ได้จะขัดแย้งกับพ่อแม่
“ได้ ว่าตามนี้แล้วกัน”
เฉินจงพยักหน้า เดิมทีหวางนิวจะบอกว่าไม่ได้ แต่สามีพยักหน้าแล้ว เธอก็ไม่พูดอะไร ได้แต่บ่นออกมา “ตามใจเธอ ลูกสาวคนนี้โดนเลี้ยงจนเสียนิสัยแล้ว นับวันยิ่งใจกล้า ตอนฉันอายุเท่าเธอฉันยังไม่กล้าพูดอะไรกับพ่อเลย พ่อฉันพูดอะไรฉันก็ตกลง ไม่ได้มีความเห็นเหมือนลูกสาวคนนี้ อีกหน่อยใครจะเอาเธออยู่”
“แม่เอาอยู่ วางใจได้ อีกหน่อยพวกหนูจะเชื่อฟังแม่หมด ใครไม่เชื่อฟัง หนูจะช่วยด่า”
เฉินเยี่ยนรีบเข้าไปกอดแขนหวางนิว ยิ้มออดอ้อน
“ว่าลูกไม่ฟังแม่ ยังจะไปว่าคนอื่นอีก นอกจากลูกแล้วยังมีใครอีก จะด่าก็ด่าตัวเองเถอะ”
หวางนิวใช้มือชี้ไปที่หน้าผากเฉินเยี่ยน แน่นอน นี่เป็นลูกสาวเธอ เธอบ่นแล้วก็จบไป ไม่ได้โกรธเฉินเยี่ยนจริงจัง
———-