เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 475 ทีมนี้ น่าทึ่งไปหน่อย
โครงการทั้งหมดเป็นโครงการที่แต่ละทีมทำไว้ล่วงหน้าแล้ว
ผลคะแนนวิจัยของแต่ละทีมจะปรากฏในรอบชิงชนะเลิศ
ผู้ชมที่มาชมโครงการวิจัยล้วนรับชมกันอย่างใกล้ชิดอยู่ในเขตอนุญาตพิเศษ
ฉินฮั่นชิว ฉินหลิง และพ่อบ้านฉินตื่นกันแต่เช้าแล้วโทร.หาถังจวิน
ถังจวินนำรถลีมูซีนมาจอดที่ชั้นล่างของโรงแรมตอนแปดโมงครึ่ง ท่านหลี่กำลังขับรถอยู่ เมื่อเปิดประตูมาเห็นฉินฮั่นชิวที่กำลังลุกลี้ลุกลนก็อดยิ้มไม่ได้ “นายน้อยสอง คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ ยังไม่ถึงเวลาเลย”
จนกระทั่งทั้งสามนั่งกันเสร็จหมดแล้ว ท่านหลี่ถึงจะมองกระจกมองหลังแล้วสตาร์ทรถ “สถานที่แข่งขันอยู่ที่ไหนครับ?”
แม้จะบอกไปเมื่อสองวันก่อนว่าจะไปดูการแข่งขันของหลานสาวถังจวิน แต่ท่านหลี่ก็ไม่ได้สนอกสนใจการแข่งขันนี้ เขาจึงไม่ได้ถามว่าเป็นการแข่งขันอะไรและแข่งที่ไหน
“รอเดี๋ยว” ฉินฮั่นชิวเปิดโทรศัพท์ กดเปิดรูปโปรไฟล์เฉิงเจวี้ยนเพื่อดูข้อความที่เขาส่งไป เมื่อยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็บอกสถานที่กับท่านหลี่
สถานที่ไปง่ายมาก ซึ่งนั่นก็คือสถาบันวิจัยทางฟิสิกส์แห่งรัฐ M เป็นถิ่นของแมทธิว
ฉินฮั่นชิวและคนอื่นๆ ไม่รู้จักกองกำลังในรัฐ M แต่ท่านหลี่กับถังจวินรู้จัก
พอได้ยินว่าเป็นสถานที่นี้ มือท่านหลี่ที่พาดบนพวงมาลัยก็ถึงกับชะงัก เดิมทีเขายังคิดแค่ว่าเป็นการแข่งขันประเภทเดียวกับโอลิมปิก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใกล้บริเวณชายแดน คาดไม่ถึงว่าสถานที่การแข่งขันจะอยู่ใกล้กับตึกของแมทธิว
“นายน้อยสอง? คุณแน่ใจนะครับว่าเป็นสถานที่นี้?” ท่านหลี่มองกระจกมองหลังขณะที่ขับรถไปด้วย ในที่สุดก็เริ่มสับสนและสงสัยเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่เขาที่สงสัย แม้แต่ถังจวินก็สงสัยไปด้วย
ฉินฮั่นชิวดูสถานที่อีกครั้งแล้วพยักหน้า “ก็ไม่ผิดนะ”
ท่านหลี่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาขับรถไปถึงภายในระยะเวลาไม่เกินสิบนาที
ถังจวินและคนอื่นๆ ไม่ได้เรียนฟิสิกส์ จึงไม่รู้ว่า “ICNE” ตัวใหญ่ที่อยู่กลางตึกสูงนั้นหมายถึงอะไร แต่พวกเขาต่างรู้จักอักษรคำว่า ‘สถาบันวิจัยทางฟิสิกส์’ กันอย่างดี
“ที่แท้แล้วสถาบันวิจัยทางฟิสิกส์เป็นผู้จัดการแข่งขันนี้นี่เอง…” ท่านหลี่ประหลาดใจเล็กน้อย
เขาเดินตามกลุ่มฉินฮั่นชิวเข้าไปข้างใน
เนื่องจากตั๋วค่อนข้างหายาก นักศึกษาที่มาร่วมชมโครงการจึงเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งหมด นักศึกษาส่วนใหญ่จะสวมเครื่องแบบกัน
ถ้าสุ่มมาหนึ่งคนก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยดังระดับโลก
มีนักศึกษาตัวท็อปไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
พอท่านหลี่มาอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาตัวท็อปเหล่านี้ก็…รู้สึกกดดันเล็กน้อย
เวลา 9.00 น.
ทีมทั้งหมดหนึ่งร้อยทีมพร้อมแล้ว
หัวหน้าคณะจากประเทศต่างๆ ทั้งคณบดี รวมถึงคณะกรรมการได้พิจารณาเนื้อหาและการสาธิตในโครงการของแต่ละทีมทีละทีม การช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศและการสร้างระบบอัจฉริยะมีการใช้รังสีปฏิกิริยานิวเคลียร์แล้ว…
หัวข้อหลักนี้เป็นหัวข้อที่กลุ่มนักวิจัยในวงการฟิสิกส์ปีที่แล้วลงมติกันว่ายากที่สุด
คณบดีและคณะกรรมการดูกลุ่มแรกเสร็จก็ย้ายไปดูกลุ่มต่อไป ขณะที่เดินไปก็ดูรายชื่อไปด้วย
รอนกับมิโรก็เป็นหนึ่งในนั้น
รอนพลิกดูรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันเกือบ 500 คน เขาต่างจากคนอื่นตรงที่เขาไม่ได้ดูเนื้อหาโครงการวิจัยอย่างเดียว แต่ดูอายุผู้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย
ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกอายุ 26 ถึง 31 ปี
เขาอ่านคร่าวๆ ทีละสิบบรรทัด กวาดตาดูด้วยความรวดเร็ว
จนกระทั่งพลิกไปดูหน้าที่สอง ขณะกำลังเปิดหน้าถัดไป แต่เพราะเห็นอะไรบางอย่าง มือของเขาถึงได้ชะงักไปชั่วขณะ
ทีมนี้…
น่าทึ่งไปหน่อย
มีจำนวนห้าคนเหมือนกัน เนื้อหาอย่างอื่นไม่มีอะไร แต่ที่น่าทึ่งคืออายุ!
ในทีมมีคนอายุ 19 ปีอยู่สามคน อายุ 20 ปีหนึ่งคน และ 27 ปีอีกหนึ่งคน
นอกจากอายุคนสุดท้ายแล้ว อายุคนอื่นๆ ล้วนดูไม่ปกติ!
รอนนิ่งไปสักพัก
โดยทั่วไปคนที่สามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ICNE ได้นั้นล้วนเป็นคนที่มีความสามารถ
เขาเลื่อนสายตามองไปยังข้อมูลที่อยู่ด้านหลัง
“ทีมจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงประเทศจีนหรอ?” รอนนิ่งไปชั่วขณะเมื่อเห็นชื่อห้าคนนี้ “ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อในรอบการคัดเลือกมาก่อน? มิโร คุณดูทีมนี้สิ น่าทึ่งกว่าทีมเดิมของคุณมาก”
รอนยื่นรายชื่อในมือให้มิโรดู
แม้มิโรจะเข้าร่วมโครงการตอนอายุ 18 ปี แต่อายุเพื่อนร่วมทีมอีกสี่คนก็เท่าๆ กับคนส่วนใหญ่ ซึ่งทุกคนล้วนเป็นผู้แข่งขันระดับต้นๆ ทั้งนั้น แน่นอนว่ามิโรเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา
แต่ตอนนี้ สี่คนในทีมนี้กับทีมมิโรในตอนนั้น อายุแทบไม่ต่างกันเลย…
มีคนเดียวที่ปกติ รอนก็ค่อนข้างแปลกหูแปลกตาเช่นกัน
เมื่อมิโรที่มีสีหน้าจริงจังได้ยินดังนั้นก็โน้มตัวมาดู การผสมผสานที่แปลกประหลาดของทั้งสี่คนนี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากเขาเลย เมื่อก่อนก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครคิดจะลอกเลียนแบบความสำเร็จของมิโรมาก่อน แต่น้อยนัก…ที่จะมีคนอายุ18ทำได้ถึงระดับนี้
สิ่งสุดท้ายที่ต้องดูคือการจัดอันดับโครงการ
ในสายตาคณบดีเจียงแห่งมหาวิทยาลัยเมืองหลวง สามสิบอันดับแรกก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ในสายตามิโรกับรอน นอกจากสามสิบอันดับแรกแล้ว อย่างอื่นก็ใช้ไม่ได้
มิโรอ่านคร่าวๆ ขณะกำลังจะละสายตาไป
เขาก็เหลือบไปเห็นชื่อฉินหร่าน มือที่กำลังถือปากกาชะงัก
“มีอะไร?” รอนเห็นมิโรมีท่าทางแปลกไป “ทีมนี้น่าติดตามเหรอ?”
มิโรเม้มปาก ปลายนิ้วชี้ไปที่ชื่อฉินหร่านแล้วเปิดดูข้อมูล “นี่ก็คือคนที่สามารถแปลงพลังงานได้มากกว่า50%ก่อนหน้านั้น”
ตอนนั้นบทความ SCI ถูกส่งไปทำการพิสูจน์ที่สถาบันวิจัยแห่งรัฐ M โดยตรง
ตอนที่ทำสถิติปฏิกิริยานี้ออกมาได้ นักวิจัยในห้องปฏิบัติการต่างก็ตกตะลึง
รอนก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เขาอึ้งไปสักพักแล้วพยักหน้า “งั้นก็ให้ความสนใจหน่อย แต่ว่า…เพื่อนร่วมทีมของเธอเลือกมาไม่ดี ดูจะเป็นภาระอยู่เหมือนกัน มหาวิทยาลัยเมืองหลวงเลือกผู้สมัครมายังไงนะ”
เขาพลิกดูประวัติย่อของอีกสี่คนที่เหลือ นอกจากคนที่อายุ27ปีที่ยังพอแกร่งใช้ได้ อีกสามคนก็ล้วนเป็นหน้าใหม่โดยสมบูรณ์ ไม่มีแม้แต่บทความ SCI เลยด้วยซ้ำ
มิโรขมวดคิ้วด้วยความเสียดาย
นอกจากศักยภาพส่วนตัวแล้ว การเลือกเพื่อนร่วมทีมก็สำคัญเช่นกัน แต่เกิดอะไรขึ้นกับมหาวิทยาลัยเมืองหลวงที่เลือกเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนมาเป็นภาระให้คนคนนี้…
เขาเม้มปาก “น่าเสียดาย…”