เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่302พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งตระกูล!
ฉินอวี่รู้ถึงสถานการณ์ชีวิตปัจจุบันของฉินฮั่นชิว
ที่ผ่านมาแต่ละครั้งที่ไปเมืองอวิ๋นเฉิงก็เพราะโรงงานต้องการส่งสินค้า เงินในกำมือทุกบาททุกสตางค์ต้องคำนวณอย่างรอบคอบ
เพราะว่าระยะทางจากเมืองอวิ๋นเฉิงไกลจากเมืองหลวง ไม่เพียงแต่ตั๋วเครื่องบิน แต่รวมถึงตั๋วรถไฟต่างก็ไม่ได้ราคาถูก ยิ่งกว่านั้นคือค่าใช้จ่ายและค่าที่พักหลังจากมาถึงเมืองหลวง…
ถึงแม้ฉินฮั่นชิวจะมีเงินมาเมืองหลวง แต่จะมีเงินจากไหนมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้
หนิงฉิงมองตามสายตาออกไป ทันใดนั้นก็เห็นฉินฮั่นชิวและฉินหลิงยืนอยู่ที่สี่แยก
ฉินฮั่นชิวดูเด่นเกินกว่าคนทั่วไปจริงๆ แต่ตัวเขาดูไร้ซึ่งอารมณ์ ต่ำต้อยและไร้ค่า พอได้รับมาจากคนชั้นสูง ฉับพลันก็กลายเป็นบอดี้การ์ดคนขับรถเสียงั้น
ได้ยินเสียงทั้งสองคน คนขับชะลอความเร็ว มองไปที่กระจกหลัง “คุณผู้หญิง เจอเพื่อนแล้วเหรอ ต้องการให้ฉันหยุดรถไหม”
“ไม่ต้อง” หนิงฉิงได้สติกลับมา พูดด้วยใบหน้ามืดมนทันที “คุณขับไปเร็วๆ”
ไม่ง่ายเลยที่เธอหลบหนีออกมาจากเมืองเล็กนั่นได้ อีกอย่าง…ถ้าหากหลินหว่านและคนของตระกูลเสิ่นรู้จักฉินฮั่นชิว ถึงใบหน้าจะไม่ได้แสดงออก ก็ต้องเยาะเย้ยอยู่ในใจแน่นอน
ฉินอวี่ก็ส่งสายตาตอบกลับไปที่กระจกหลัง ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้อีกไม่นานก็จะถึงมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ถ้าหยุดรถฉินฮั่นชิวจะต้องไปด้วยแน่นอน แล้วภาพลักษณ์ของเธอก็จะ…วันนี้เปิดเรียน ฉินอวี่จึงไม่อยากให้คนรู้ว่าพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเป็นคนแบบนี้
รถตระกูลเสิ่นขับไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่อยู่หัวมุม ฉินอวี่มองกลับไปด้านหลังอีกครั้ง ที่สี่แยกไม่มีฉินฮั่นชิวและฉินหลิงแล้ว
ฉินอวี่ถอนหายใจซ้ำอย่างโล่งอก
**
ทางฝั่งนี้ ฉินฮั่นชิวอยู่ในร้านกาแฟกับฉินหร่านแล้ว
ฉินหลิงยื่นหน้าจอเกมโทรศัพท์ให้ฉินหร่าน
ฉินหร่านรับมา เหลือบมอง ผงะเชื่องช้า
ฉินหลิงผ่านด่านแล้ว
ตอนที่เธอยังเป็นเด็กเกมกระดานในโทรศัพท์เกมนี้ ลู่จือสิงเคยให้เธอเล่นในคอมพิวเตอร์ แต่ปกติการจะเคลียร์ด่านเกมกระดาน ต้องใช้ทักษะการคิดเชิงตรรกะในการแก้ไขปัญหาอย่างสูง
ด้วยเพราะเหตุนี้ ลู่จือสิงจึงพบพรสวรรค์ทางด้านคอมพิวเตอร์ของเธอ
ต่อมาเมื่อมีสมาร์ตโฟน ฉินหร่านนำเอามินิเกมนี้โดยเพิ่มระดับความยากใส่ลงไปในโทรศัพท์
ตอนที่ฉินหลิงเล่นเกม ฉินหร่านก็จัดเกมชุดหนึ่งให้ฉินหลิงตามใจชอบ เกมนี้ก็อยู่ในนั้นด้วย
ฉินหร่านไม่คิดเลยว่าฉินหลิงจะเล่นเกมนี้ได้ และเกือบจะผ่านด่าน การบันทึกหน้าจอเบื้องหลังของเธอสามารถพูดได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้นิดหน่อย
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งส่งให้เขาเมื่อคืนก่อน วันนี้เขาจะผ่านด่านแล้ว
ฉินหร่านไม่ได้ขยับเขยื้อนใดๆ เฉิงเจวี้ยนที่กำลังพูดคุยอยู่กับฉินฮั่นชิวสังเกตเห็น มองดูเธอแวบหนึ่งแล้วนำชานมไปวางไว้ข้างเธอ พูดเสียงต่ำ “มีอะไร”
เธอหยิบชานมมา มือข้างหนึ่งวางไว้ที่คาง ที่ข้อต่อมีสีขาวระเรื่อ ตอบอย่างเกียจคร้าน “เปล่า”
ฉินหร่านมองฉินหลิง แปลกใจเล็กน้อย เธอคิดมาเสมอว่า ไอคิวที่สูงและไอคิวด้านคอมพิวเตอร์ของเธอได้มาจากปู่ของเธอ…
มาถึงตอนนี้ ในด้านอื่นๆ อาจมาจากคุณปู่ของเธอ แต่สำหรับด้านคอมพิวเตอร์นี้แล้ว…บางทีอาจไม่ใช่
ตอนเธอเป็นเด็กมีลู่จือสิงเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้ แต่ฉินหลิงไม่มี จนกระทั่งตอนนี้ฉินหร่านเพิ่งมาพบว่า บนเส้นทางนี้ฉินหลิงมีเงื่อนไขทางการสภาพแวดล้อมที่ดี
“พวกคุณอาศัยอยู่ที่ไหน” ฉินหร่านเอนพิงเก้าอี้ นิ้วแตะที่แก้วอย่างใจเย็น นิ้วขาวสะอาดสะท้อนที่ขอบแก้ว เชื่องช้าและเป็นจังหวะ
ฉินฮั่นชิวยังคงให้ความสนใจกับฉินหร่าน แต่เขารู้ว่าฉินหร่านน่าจะไม่ค่อยชอบเขา ดังนั้นจึงไม่ได้พูด
เพียงแค่ตอนที่ฉินหร่านถาม จึงตอบทันที “ชุมชนอวิ๋นจิ่น ยูนิตที่ 1 สอง…สอง…”
ตอนพูดถึงตรงนี้ ฉินฮั่นชิวพูดติดขัด
ที่อยู่ของชุมชนอวิ๋นจิ่นชายวัยกลางคนบอกเขาไปแล้วรอบหนึ่ง ฉินฮั่นชิวจำได้ไม่ค่อยชัด…
ฉินหลิงเหลือบมองฉินฮั่นชิวเล็กน้อย น้ำเสียงเปลี่ยนไป “ชุมชนอวิ๋นจิ่น ยูนิตที่ 1 อาคารเลขที่ 26 ห้อง 801”
ฉินฮั่นชิวยิ้มอย่างเหนียมอาย เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา หลับตาลงจิบกาแฟหนึ่งอึก “ใช่ ใช่ เหมือนจะเป็นแบบนั้น เสี่ยวหลิงความจำดีจริงๆ”
“ใช่แล้ว” ฉินฮั่นชิวคิดอะไรบางอย่างได้ เขามองที่ฉินหร่าน “ถ้าฉินซูส่งคนไปหาคุณจะทำยังไง”
ฉินหร่านตอบอย่างสบายๆ “ตรวจสอบข้อมูลของฉันไม่ได้หรอก”
**
ตอนเที่ยงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฉิงเจวี้ยนส่งฉินฮั่นชิวกลับไปก่อน
เฉิงจินโทรหาเขา เขาพาฉินหร่านไปส่งที่หนิงไห่ จึงออกมา
วันนี้เฉิงมู่ส่งมอบดอกไม้กระถางใหม่ให้หลินซือหรานแล้ว ฉินหร่านซ้อมไวโอลินอยู่ที่ชั้นบน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงหยิบโทรศัพท์ออกนอกประตูไป
เธอสวมหมวกปีกแหลมไว้ที่ศีรษะ ทั้งกดประตูลิฟต์ ทั้งส่งข้อความสั้นให้ลู่จือสิง
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ที่คลังการเงินเมืองหลวง
แถวนี้ล้วนแต่เป็นอาคารสูง สำนักงานใหญ่ขององค์กรเกือบทั้งหมดของเมืองหลวงตั้งอยู่ที่นี่
รถจอดที่ด้านล่างสำนักงานใหญ่อวิ๋นกวงกรุ๊ป
ฉินหร่านเพิ่งมาถึง ประตูทางเข้าอวิ๋นกวงกรุ๊ปไม่มีคนเฝ้า เพราะไม่กี่วันก่อนนี้ที่มีงานประมูล มีคนเข้าๆ ออกๆ อย่างไม่ขาดสาย
กลางห้องโถงเป็นจอฉายภาพใสสี่มิติสีฟ้า ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากไม่หยุด
ฉินหร่านมองดูรอบๆ แล้วเดินตรงไปทางลิฟต์
พนักงานมองเห็นจึงเดินตรงเข้ามาทันที “ประทานโทษ คุณหนู ลิฟต์ตัวนี้…”
ใช้สำหรับพนักงานภายใน
เขายังไม่ทันพูดจบประโยค ฉินหร่านหยิบโทรศัพท์สีดำเครื่องบางพิงกับการ์ดเซนเซอร์ลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออก
เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองที่พนักงาน เพราะหมวกปีกแหลมถูกกดลงต่ำ จึงเห็นเพียงแค่กรามสีขาวเนียนของเธอ น้ำเสียงนุ่มนวลและเย็นชา “ลิฟต์ทำไมเหรอ”
พนักงานตอบสนองกลับ “ไม่มีอะไร เชิญครับ!”
ประตูลิฟต์ปิดลง เขายังคงยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์ มองดูลิฟต์ขึ้นไปทีละชั้น จนกระทั่งไปหยุดที่ชั้น 21
ในใจของพนักงานยิ่งตกใจไปใหญ่…
ชั้น 20-21 ล้วนเป็นแผนกไอที โดยเฉพาะชั้น 21 เป็นชั้นแผนกไอทีชั้นนำหลัก คุณหยางแยกชั้นเป็นพิเศษต่างหาก คนของทุกชั้นทั่วทั้งบริษัทต่างครึกครื้นมาก ทุกชั้นต่างมีอยู่ราวหนึ่งร้อยคน แต่ที่ชั้น 21 หนักงานมีไม่ถึง 20 คน เงียบสงัด แม้กระทั่งคนทำความสะอาดยังสามารถเข้าไปได้แค่เวลาที่กำหนด
เป็นแผนกหนึ่งที่ลึกลับที่สุดในอวิ๋นกวงกรุ๊ป
พนักงานยังเป็นเพียงเด็กใหม่ของอวิ๋นกวงกรุ๊ป ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นสมาชิกหลักของชั้น 21…
ที่ฝั่งประตูทางเข้า มีคนหยุดยืนอยู่พักหนึ่ง
“โอเคไหม” เฟิงฉือมองหลินจิ่นเซวียน ตาค้าง
ประตูลิฟต์ปิดลง หลินจิ่นเซวียนจึงละสายตากลับมา กดที่ใต้ขมับ มองด้านข้าง “เปล่า อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป”
ทำไมฉินหร่านถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้
ตอนเย็น ห้าโมงครึ่ง
เวลาเลิกงานของอวิ๋นกวงกรุ๊ป ฉินหร่านเพิ่งลงมาจากชั้น 21
เธอถือโทรศัพท์ เฉิงเจวี้ยนเพิ่งส่งข้อความมาถามว่าเธออยู่ไหน เธอยืนอยู่ตรงสี่แยกแล้วตอบกลับ
เพิ่งตอบไป รถคันสีดำจอดลงด้านข้าง
หน้าต่างลดต่ำลง เผยให้เห็นใบหน้าของเฉิงเวินหรูที่นั่งอยู่หลังคนขับ “หร่านหร่าน ทำไมเธออยู่ที่นี่ ขึ้นมาเร็ว ข้างนอกร้อนจะตาย”
ฉินหร่านขึ้นไปนั่งด้านหลัง ถอดหมวกปีกแหลมออก พูดกับเฉิงเวินหรูด้วยสีหน้านิ่ง “ฉันมาชอปปิ้ง”
ที่นั่งคนขับ เลขาหลี่มองมาจากกระจกหลัง
แอบสงสัยว่า อวิ๋นกวงกับศูนย์กลางคลังการเงินนับเป็นแหล่งชอปปิ้งด้วยเหรอ
ถึงอย่างไรฉินหร่านก็เป็นยัยตัวน้อยน่ารักในใจของเฉิงเวินหรู เธอถามอย่างเป็นห่วง “เธอซื้ออะไรมา ของเยอะไหม ส่งถึงบ้านเหรอ”
“ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง” ฉินหร่านครุ่นคิดแล้วตอบ
“คอมพิวเตอร์งั้นเหรอ” เฉิงเวินหรูพยักหน้า “เธอชอบเล่นเกมสินะ ไม่กี่วันเดี๋ยวฉันจะช่วยเธอจัดหาคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งของอวิ๋นกวงกรุ๊ป คอมพิวเตอร์ของพวกเขาดี”
ฉินหร่าน “…ขอบคุณ”
**
ตอนหนึ่งทุ่ม
ชุมชนอวิ๋นจิ่น
ฉินซูมาดูสถานการณ์ของฉินฮั่นชิวตามปกติ มีคนเคาะประตู
ชายวัยกลางคนไปเปิดประตู ด้านนอกเป็นคนสวมหมวกปีกแหลมสีแดง เขายื่นกล่องใส่ของในมือใบหนึ่งให้ชายวัยกลางคน พูดจากระชับครอบคลุม “สวัสดี นี่คือคอมพิวเตอร์ของฉินหลิง”
พูดจบ ไม่ทันได้รอชายวัยกลางคนตอบกลับ เขาตรงไปกดประตูลิฟต์แล้วจากไป
ชายวัยกลางคนนำคอมพิวเตอร์ไปให้ฉินหลิงด้วยความแปลกใจ “นายน้อย คุณซื้อคอมพิวเตอร์มาเหรอ”
ฉินหลิงก้มหัวลงเล็กน้อยและแกะกล่องบรรจุภัณฑ์ เปิดออกมาทันใดนั้นก็เห็นคอมพิวเตอร์สีดำ
แบบเดียวกับที่เคยเห็นของฉินหร่านตอนนั้นเป๊ะ
ในตาของเขามีประกายฉายแวบออกมา ในน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย เงยหน้า “ไม่ใช่ พี่สาวเอาให้ฉัน”
เอาให้เขา ไม่ได้ซื้อให้เขา
เพียงแต่ความหมายนี้มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจ
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว บนหน้าจอเป็นรูปทะเลทรายแห้งแล้ง ในนั้นล้วนแต่เป็นไอคอนเกม
ฉินหลิงถือคอมพิวเตอร์ตรงไปที่ห้องนอน
“พี่สาวของเขาติดต่อเขายังไง” ฉินซูเหลือบมองชายวัยกลางคน “คุณไปดูหน่อย”
ชายวัยกลางคนไปที่ห้องเพื่อดูฉินหลิง กลับมาในอีกสามนาทีต่อมา ตอบอย่างเคารพ “นายน้อยกำลังเล่นเกม พี่สาวของเขา…พี่สาวของเขาให้เกมเขามาหลายสิบเกม”
“หลายสิบเกม?” ฉินซูขมวดคิ้วเล็กน้อย เข้าไปดูในห้องฉินหลิง
ฉินหลิงเล่นเกมอยู่จริงด้วย
วันนี้เขาอารมณ์ดี เห็นว่าพวกฉินซูเข้ามา ก็ไม่ได้รำคาญ แต่กลับถามอย่างสุภาพ “พวกคุณอยากเล่นเกมไหม”
“ไม่ดีกว่า” ฉินซูยืนอยู่ด้านหลังเขา มองดูเกมอันยุ่งเหยิงในคอมพิวเตอร์ และขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
**
หอพักหญิงมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
ฉินอวี่อาบน้ำเสร็จ คอมพิวเตอร์บนโต๊ะของเธอเปิดแล้ว แสดงหน้าจอเวยป๋อของเธอ มีแฟนคลับ 12 ล้านคน
เธอเปิดมันไว้อย่างเปิดเผย และไม่ได้ปิด
เพื่อนร่วมห้องสองคนของเธอพูดคุยกันอย่างอิจฉา เมื่อเห็นว่าเธอออกมา อดไม่ได้ที่จะพูด “ฉินอวี่ นี่คือเวยป๋อของเธอเหรอ เจ๋งไปเลย ปริมาณสมกับเป็นศิลปินอันดับสอง”
ฉินอวี่ยิ้มสบายๆ ไม่ค่อยใส่ใจ เธอเช็ดผมให้แห้ง วางผ้าขนหนูไว้อีกด้าน ชนเมาส์โดยไม่ได้ตั้งใจ ไปคลิกเปิดข่าวอันหนึ่ง
ในนั้นเป็นข่าวของมู่เสี่ยวอวี๋อวี๋…