เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่413การแสดงเข้าร่วมงาน
เฉิงเจวี้ยนหันมองทางฉินหร่าน
เฉิงเวินหรูก็ตะลึง “เพื่อนซี้ของเธอส่งเตี่ยนชุ่ย[1]ให้เธองั้นเหรอ ทั้งยังเก็บรักษาไว้อย่างดีด้วยเนี่ยนะ เธอแน่ใจนะว่าเป็นเพื่อนซี้ของเธอ”
“นี่เรียกว่าเตี่ยนชุ่ยเหรอ” ฉินหร่านคิดไม่ถึงว่าเฉิงเวินหรูจะถามเธอมากมายขนาดนี้ ยื่นเตี่ยนชุ่ยให้เฉิงเวินหรู “คุณชอบก็เอาไป เพื่อนซี้ของฉันยังมีอีกเยอะ”
ฉินหร่านใจเย็น
เธอจำได้ดี แม้จะไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แต่กลับจำได้ว่าคลังสะสมที่สองของจระเข้ยักษ์มีปิ่นแบบนี้อีกหลายอัน
ฉินหร่านไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ศึกษาโบราณคดี จึงไม่ได้ศึกษาโบราณวัตถุ เห็นว่าเฉิงเวินหรูน่าจะศึกษามา จึงปล่อยมันลงที่มือของเธอ
“เตี่ยนชุ่ยนี้เก็บรักษาอย่างดีจริงๆ” เฉิงเจวี้ยนที่เคยศึกษาโบราณคดี ทั้งยังเคยฟื้นฟูโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมพูดขึ้นเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เอื้อมมือฉกเอาถ้วยชาสีเขียวหยกมา “สีสันงดงามขนาดนี้ นับเป็นเตี่ยนชุ่ยที่ยอดเยี่ยมไม่เป็นรองที่มีอยู่ พี่สาว เธอให้แล้วคุณรับไปเถอะ”
ในยุคปัจจุบันเตี่ยนชุ่ยได้สูญหายไปแล้ว
ที่เหลืออยู่จึงล้วนเป็นโบราณวัตถุที่เก็บรักษาไว้
แต่เพราะเวลายาวนานมาก เตี่ยนชุ่ยหลายอันจึงสูญเสียความเงางาม เก็บรักษาได้งดงามเหมือนอันนี้ในมือฉินหร่าน พบเห็นได้ยากยิ่ง ผู้สะสมไม่สามารถนำออกมาให้ผู้คนเห็นได้
เฉิงเวินหรูคืนปิ่นปักผมในมือให้ฉินหร่านอย่างระมัดระวังทันที “ไม่ได้ สิ่งนี้ฉันรับไว้ไม่ได้”
ของสิ่งนี้ประเมินค่าไม่ได้ มูลค่าการสะสมสูงเกินเอื้อม แม้ว่าฉินหร่านจะไม่ได้ศึกษาและไม่ได้สนใจ เฉิงเวินหรูก็รับไว้ไม่ได้เด็ดขาด
เฉิงเจวี้ยนมองเธออย่างเย็นชา “คุณไม่สนใจเหรอ”
ฉินหร่านส่ายหน้า เธอเหลือบมองเฉิงเวินหรู นิ้วขาวซีดหยุดลง “ของสิ่งนี้อยู่กับฉัน จะหายวันไหนก็ไม่รู้”
เฉิงมู่ที่อยู่อีกด้านยกมือ เขาพูดอย่างสัตย์ซื่อ “มีวันหนึ่งเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ของคุณหนูฉินกลิ้งออกมาจากกระเป๋าสัมภาระไป และฉันเก็บกลับมาได้”
เฉิงเวินหรู: “…”
เธอถูกบังคับทางอ้อมให้รับเตี่ยนชุ่ยอันนี้
ส่วนกล่องไม้ใบที่สองธรรมดากว่ามาก ดูแล้วเป็นเพียงแค่ไข่มุกลูกใหญ่
เฉิงเวินหรูถอนหายใจอย่างค่อนข้างโล่งอก
**
ในขณะเดียวกัน
ตระกูลเฉิง
นายท่านเฉิงกินข้าวเพิ่มไปอีกครึ่งชาม ใบหน้าเปล่งปลั่ง
เฉิงเหราฮั่นวางชามลงบนโต๊ะกินข้าว มองนายท่านเฉิง “พ่อ ช่วงนี้มีเรื่องน่ายินดีอะไร”
“ไม่ได้มีเรื่องน่ายินดีอะไร” นายท่านเฉิงหยิบชาย่อยอาหารขึ้นมา ก้มหน้าจิบหนึ่งอึก ท่าทีที่น่าเกรงขามผ่อนคลายลงเล็กน้อย สายตาอันชาญฉลาดปิดบังรอยยิ้มไว้ไม่มิด “มะรืนนี้หร่านหร่านจะมาที่บ้าน”
ฉินหร่านมาเมืองหลวงนานขนาดนี้ เฉิงเหราฮั่นยังคงตรวจสอบรายละเอียดของเธอได้ไม่แน่ชัด เฉิงเจวี้ยนน่าจะปกป้องไว้อย่างดี
แค่รู้ว่าเธอนามสกุลฉิน นายท่านกับเฉิงเวินหรูเรียกเธอว่า ‘หร่านหร่าน’
อย่างอื่นไม่รู้เลย
เฉิงเหราฮั่นตรวจสอบไม่ได้จึงไม่ได้ตรวจสอบต่อ ผู้หญิงนอกเมืองคนหนึ่ง เฉิงเหราฮั่นไม่คิดเสียเวลาไปกับเธอมากนัก
แต่ขณะเดียวกันเมื่อเห็นท่าทางของนายท่านเฉิง ที่ท่าทางจะชอบเธอเอามาก อารมณ์ดีตลอดช่วงไม่กี่วันนี้
เฉิงเหราฮั่นละสายตากลับช้าๆ ส่งเสียง ‘อือ’ ไม่ได้พูดอะไรอีก
กินข้าวเสร็จมื้อหนึ่ง นายท่านเฉิงไปหยอกล้อนกแก้ว เฉิงเหราฮั่นกลับมาที่ปีกบ้านของตน
“นายน้อย มะรืนคนที่เกี่ยวข้องของตระกูลเฉิงทั้งหมดจะกลับมาฉลองวันเกิด” ลูกมือที่อยู่ด้านข้างตอบอย่างเคารพนับถือ “ฉันรู้มาว่าซือลี่หมิงก็จะกลับมา”
นายท่านเฉิงอายุมากแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ต้องพึ่งยารักษาของสถาบันทางการแพทย์เพื่อบรรเทาความทุกข์ วันเกิดผ่านไปหนึ่งปีก็ยิ่งลดลงไปอีกปี
ดังนั้นไม่ว่าจะวันเกิดหรือไม่ ทุกคนที่เกี่ยวข้องของตระกูลเฉิงล้วนกลับมา
เฉิงเหราฮั่นหยุดลง เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างแกลเลอรี ครุ่นคิดเล็กน้อย “มะรืนฉันจะไปพบซือลี่หมิงด้วยตัวเอง”
“รับทราบ!”
ลูกมือพูดจบ กลับไม่ออกไป
ลังเลอยู่สักพัก พูดขึ้นอีกครั้ง “นายท่านบอกว่าคุณฉินท่านนั้น…”
“ไม่ต้องสนใจ” เสียงของเฉิงเหราฮั่นแผ่วเบา “เฉิงเจวี้ยนพาเธอกลับมาก็ดี หัวหน้าคนรับผิดชอบแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกลับมาหมด จะได้ให้ทุกคนเห็นว่าบุคลิกของเขางดงามชวนหลง สมกับการเป็นเจ้าบ้านหรือไม่”
น้ำเสียงแฝงความเย้ยหยัน
เพราะเกี่ยวข้องกับผู้นำคนถัดไปของตระกูล เฉิงเจวี้ยนจึงค่อนข้างถูกพูดถึงขึ้นเรื่อยๆ ในตระกูลเฉิง เฉิงเหราฮั่นกำลังกังวลเรื่องนี้ จึงค่อนข้างใส่ใจเขา
ผู้นำตระกูลใหญ่ต้องเลือกนายหญิงที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากันเป็นธรรมดา คนนี้ที่เฉิงเจวี้ยนพามา อย่างน้อยต้องชนะใจคนส่วนมากได้
**
วันเสาร์
ชาวอินเทอร์เน็ตหลายคนตั้งตารอการออกอากาศต่อของ ‘ไอดอล24ชั่วโมง’ ตอนสองทุ่ม
แม้ว่าครั้งนี้ไม่มีฉินหร่าน แต่เฉิงเวินหรูก็ยังรับชม เพราะได้ยินว่ามีน้องชายของฉินหร่านอยู่ เฉิงเวินหรูยังไม่เคยพบเจอกับน้องชายของฉินหร่าน
ตระกูลลู่
ลู่จ้าวอิ่งนอนอยู่ที่โซฟา ต่างหูที่หูสะท้อนแสงเยือกเย็น สองทุ่ม มือของเขาหยิบรีโมท เปลี่ยนไปช่องถ่ายทอดสด
วันนี้ไม่มีฉินหร่าน
ในที่สุด ซับกระสุน ก็กลับมาเป็นปกติ
[ยินดีต้อนรับทุกท่านกลับสู่ ไอดอล24ชั่วโมง]
[กองถ่ายรายการ: ฉันกดดันมาก ในที่สุดวันนี้ฉันก็ได้เป็น ไอดอล24ชั่วโมง แล้ว (น้ำตาไหล) (น้ำตาไหล)]
อย่างไรก็ตาม เข้ามาถึงช่วงกลาง ทุกคนต่างมองฉินหลิงปลดล็อก Burr Puzzle[2] อันหนึ่งตาไม่กะพริบ…
[ฮ่าๆๆๆ ดูเหมือนว่าสายตาของทั้งซุปตาร์ฉินกับราชาเหยียนไม่มีความลอกแลกเลย จับภาพหน้าจอ! ทุกคนจับภาพหน้าจอให้ฉันที! ภาพมีม!]
[หลานชายตัวเล็ก: คิดไม่ถึงล่ะสิ]
[เอาล่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนที่รับชม ไอดอล10ชั่วโมง]
[กองถ่ายรายการ: …?]
[กองถ่ายรายการ: วันนี้เป็นอีกวันที่ยากยิ่ง (ยิ้ม)]
[กองถ่ายรายการ: wtf?]
[กองถ่ายรายการทางออนไลน์อันต่ำต้อย ถามคำถามเชาวน์ปัญญาน้อยลง พวกคุณไม่อยากให้รายการยาวขึ้นอีกหน่อยเหรอ]
ที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน ลู่จ้าวอิ่งพ่ายแพ้หนังสือที่อ่านต่อจากฉินหลิง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเมื่อเห็นฉากนี้ในตอนนี้
ด้านหลังโซฟา สุภาพสตรีคนหนึ่งมาสก์หน้าสวมชุดนอนอยู่ เธอดึงกลุ่มผมสีม่วงบนหัวของเขา “ลู่จ้าวอิ่ง นี่ยังไม่เอากลุ่มผมสีม่วงออกอีกเหรอ”
“โอ๊ย…แม่ เบาๆ มือหน่อย” ลู่จ้าวอิ่งก้าวถอยหลัง จากนั้นจึงแนะนำแก่สุภาพสตรี “ดูนี่ จะแนะนำให้รู้จักน้องชายกับน้องสาวที่ผมรู้จัก…”
เขาชี้ไปที่โทรทัศน์
ในโทรทัศน์เป็นใบหน้าเล็กอันเย็นชาของฉินหลิงพอดี ดวงตาทั้งสองข้างดำสนิท
คุณแม่ลู่มอง ลอกมาสก์บนใบหน้าออก เธอยืนมองอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง
เห็นว่าลู่จ้าวอิ่งกำลังจะหลบหนี เธอไม่ได้ขยับ เพียงเอื้อมไปคว้าคอเสื้อของลู่จ้าวอิ่ง พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนมาก: “เธอรู้จักเด็กคนนั้นเหรอ ฉันไม่ตีเธอหรอก เธอบอกมาก่อน”
ลู่จ้าวอิ่งมั่นใจว่าไม่โดนตี จึงค่อยนั่งลงโซฟา “ผมบอกแม่แล้ว นั่นคือน้องชายกับน้องสาวที่ผมรู้จัก เคยบอกไปกี่ครั้งแล้ว”
“ฉินเสี่ยวหร่านคนนั้นที่เธอเคยบอกน่ะเหรอ” คุณแม่ลู่ยืนมองลงต่ำ
ลู่จ้าวอิ่งเงยหน้า เขาโบกมือยกใหญ่ ภาคภูมิใจสุดๆ “แน่นอน แม่ถูกชะตาพวกเขาหรอ”
“ฉันอยากพบพวกเขา” คุณแม่ลู่ปรายตามองลู่จ้าวอิ่ง
ลู่จ้าวอิ่งพึมพำ “พบเจออะไรกัน เธอไม่กล้ารับสายผมสักนิด…บ้าเอ๊ย บ้าบอ แม่ ผมรับปาก! ผมจะช่วยแม่นัดเธอ! นัด! นัดแน่นอน!”
**
วันอาทิตย์
เฉิงเวินหรูมารับฉินหร่านที่ถิงหลานตอนแปดโมงครึ่งตามนัด
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดของนายท่าน แต่เพราะไม่ได้ฉลองวันเกิด นายท่านเฉิงจึงไม่ได้รับของขวัญจากตระกูลอื่น จัดเป็นงานเลี้ยงครอบครัวขนาดใหญ่ ด้านในเฉิงเวินหรูสวมใส่เสื้อคอบัวสีขาวด้านบน ด้านล่างเป็นกระโปรงยาวถึงข้อเท้าสีแดง ด้านนอกคลุมด้วยเสื้อเสื้อคลุมแคชเมียร์
เธอเคาะประตู ทันทีที่เห็นฉินหร่านยังคงสวมเสื้อคลุมสีดำ ตะลึงไป เธอหันไปทางเฉิงเจวี้ยน “น้องชาย คุณยากจนเสียจนซื้อเสื้อผ้าไม่ได้แล้วเหรอ”
เฉิงเจวี้ยนปรายตามองเธอนิดหน่อย “คุณก็มีแค่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด”
เฉิงเวินหรู: “…”
ทำไมวันนี้เฉิงเจวี้ยนถึงไม่โกรธ
วันนี้เฉิงเวินหรูขับรถมาเอง เธอให้เฉิงเจวี้ยนไปนั่งที่คนขับ ลากให้ฉินหร่านไปนั่งด้านหลังกับตัวเอง
เฉิงมู่ขับรถอีกคันกลับไปก่อนด้วยตัวเอง
แนะนำตระกูลเฉิงแก่ฉินหร่านเล็กน้อย ก่อนมองที่เฉิงเจวี้ยน พูดเสียงเบาซุบซิบ “เป็นเรือนสี่ประสาน แต่ห่างไปไม่ไกลจากประตูด้านหลังมีอาคารโบราณ วันนี้คนค่อนข้างเยอะเหนื่อยเกินไปถ้าจะไปเดินชม ใช้เวลาทั้งวันแน่ ต้องมาอาศัยอยู่ทั้งวันถึงจะสำรวจหมด…”
ถิงหลานห่างจากบ้านเก่าค่อนข้างไกล วันนี้วันหยุดสุดสัปดาห์ บนถนนรถไม่ติด ออกมาหนึ่งชั่วโมงก็เข้ามายังพื้นหินเขียวถนนหลัก ในที่สุดก็จอดลงที่หน้าประตูบานใหญ่เรียบง่ายที่มีสิงโตหินสองตัวจัดแต่งไว้
เฉิงเจวี้ยนดึงกุญแจแล้วลงรถ
ในขณะเดียวกัน
ตระกูลเฉิง
ทางเดินด้านในสุดของห้องโถง ผู้ดูแลบ้านหลายคนมาถึงก่อนแล้ว วันนี้เฉิงเหราฮั่นตื่นเช้า กำลังดื่มชาอยู่กับผู้ดูแลบ้านเหล้านี้
พ่อบ้านตระกูลเฉิงรีบออกมาจากด้านหลังห้องโถง สีหน้าเห็นได้ชัดถึงความตื่นเต้นและยินดี
เดินมาได้ครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งนึกได้ว่าด้านในห้องโถงมีคนอยู่ เขาหยุดลง ทักทายเฉิงเหราฮั่นและคนที่เกี่ยวข้องคนอื่นอย่างสุภาพ
นี่คือลูกมือคนสนิทหลายสิบปีของนายท่านเฉิง นั่งอยู่ตำแหน่งนี้มาถึงปัจจุบัน แม้แต่เฉิงเหราฮั่นยังต้องถ่อมตัวกับพ่อบ้านตระกูลเฉิง
คนที่เกี่ยวข้องหลายคนลุกขึ้นทันที ตอบกลับอย่างสุภาพ
“พ่อบ้าน นั่นคุณจะทำอะไร” เฉิงเหราฮั่นวางชาในมือลง เขามองพ่อบ้านตระกูลเฉิง สงสัยสุดๆ
พ่อบ้านตระกูลเฉิงโค้งตัวเล็กน้อย ในมือของเขายังคงถือสมุดเล่มเล็ก ใบหน้าแก่ชราหุบยิ้มไม่อยู่ “คุณหนูฉินมาถึงแล้ว ฉันกำลังจะไปรับเธอ!”
[1] เตี่ยนชุ่ย ศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นของชาวจีนโบราณ เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี โดยความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี
[2] Burr Puzzle เป็นตัวต่อประสานที่ประกอบไปด้วยรอยบากรวมกันเพื่อสร้างหน่วยสามมิติที่สมมาตร