เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่421เรื่องราวตึงเครียดขึ้นเพราะไอดอลของฉันอยู่ที่อวิ๋นกวงกรุ๊ป
- Home
- เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
- ตอนที่421เรื่องราวตึงเครียดขึ้นเพราะไอดอลของฉันอยู่ที่อวิ๋นกวงกรุ๊ป
ไม่กี่เดือนก่อนฉินอวี่พบว่า วิดีโอของฉินหร่านในนิทรรศการงานแข่งขันเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตอย่างร้อนแรง แต่ต่อมากลับเหมือนถูกใครจงใจลบออกไป
ตอนนั้นฉินอวี่จมอยู่กับความล้มเหลว กับความเจ็บปวดที่ถูกสมาคมไวโอลินถอนตัว
ไม่ทันได้คิด แต่ตอนนี้นึกขึ้นได้ว่า ทุกอย่างล้วนไม่เป็นปกติแน่ชัด…
สี่ปีก่อนฉินหร่านเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง
ตอนที่ฉินอวี่ได้ยินหนิงฉิงคุยโทรศัพท์ อาจารย์บอกว่าฉินหร่านโดดเรียนเป็นประจำ มากสุดก็โดดไปเลยทั้งสัปดาห์ อีกทั้งที่ผ่านมาเฉินซูหลานไม่สนใจเธอ หลายปีแล้วฉินหร่านเองก็เคยพูดว่าจะไม่เรียนไวโอลินกับอาจารย์สวี ฉินอวี่ไม่เชื่อหรอกว่า เธอที่ไม่ตั้งใจอะไรเลย จะสามารถเขียนเนื้อเพลงแบบนั้นออกมาได้…
เธอจ้องมองความคิดเห็นในเวยป๋อที่ใกล้จะถึงหนึ่งหมื่นของตน
วิดีโอก่อนหน้านี้ที่ถูกลบออกไปไม่มีใครสังเกตเห็น ตอนนี้เธอโพสต์วิดีโอเหล่านี้ลงไปแล้ว เพราะในแฟนคลับของเหยียนซีที่ชอบฉินหร่านมีอยู่ไม่น้อย ในนั้นต้องมีคนที่ฟังออกว่าเพลง ‘Return to Silence’ ของเหยียนซีนั้นคล้ายคลึงกับท่วงทำนองเพลงนี้ของฉินหร่าน
เพียงแค่รู้ว่าโน้ตเพลงต้นฉบับของผู้มีพรสวรรค์ถูกคนคัดลอกอย่างน่าขยะแขยง โดยเฉพาะฉินหร่านกับเหยียนซียังรู้จักกัน ผลที่ตามมานี้ของการถูกคนรู้จักคัดลอกร้ายแรงกว่าสถานการณ์ธรรมดามาก แม้แต่ซุปสตาร์ฉินก็ยังต้องได้รับผลกระทบ…
ฉินอวี่รู้ว่าหลายรายการวาไรตี้ล้วนมีสคริปต์ เธอไม่เชื่อเหมือนในอินเทอร์เน็ตที่เชื่อว่าฉินหร่านเป็นคนเชิญเหยียนซีมา เมื่อเทียบกันแบบนี้แล้ว เธอเชื่อมากกว่าว่าฉินซิวเฉินกับทีมงานรายการเชิญเหยียนซีมา
ปกติแล้ว ถ้าปล่อยเรื่องนี้ ตอนนี้เหยียนซีกับฉินหร่านมีความสัมพันธ์ที่ผูกขาดกัน ถ้าปรากฏออกมาว่าฉินหร่านคัดลอกเพลงของเพื่อน…
ฉินอวี่ดูหน้าเวยป๋อเป็นเวลานาน จึงค่อยปิดหน้าอินเทอร์เน็ต
**
ในขณะเดียวกัน
ชุมชนอวิ๋นจิ่น
พ่อบ้านตระกูลฉินกับอาไห่เปิดประตูจากด้านนอก ใบหน้าของทั้งสองคนหนักอึ้ง
“พ่อบ้านฉิน” ฉินฮั่นชิวได้ยินเสียง ถือไม้พายออกมาจากห้องครัว “ฉันอยากถามคุณหน่อย คุณชายสี่ตระกูลฉินคนนั้น…เป็นคนยังไงบ้าง”
“คุณชายสี่เหรอ” ได้ยินชื่อนี้ พ่อบ้านตระกูลฉินตื่นตัวชั่วขณะ เขามองฉินฮั่นชิว ท่าทีเคร่งขรึม “คนของเขาพบคุณแล้วเหรอ”
ฉินฮั่นชิวส่ายหน้า เขาลังเลเล็กน้อย “เปล่า แค่…เขาพบลูกสาวคนที่สองของฉันแล้ว จะเป็นอันตรายอะไรไหม”
ได้ยินฉินฮั่นชิวพูดแบบนี้ พ่อบ้านตระกูลฉินถอนหายใจโล่งอก เขานั่งลงบนโซฟา เขาเคยตรวจสอบข้อมูลของฉินอวี่ ไม่น่าปวดหัวกับเธอเท่าไหร่ คิ้วขมวด “คุณชายสี่คนนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต คุณชายสอง คุณให้สูกสาวคนที่สองของคุณอยู่ห่างเขาให้มาก ไม่มีประโยชน์อะไร”
ฉินฮั่นชิวถือไม้พาย ครุ่นคิดแล้วส่งเสียงตอบไป
ทั้งสองคนกำลังพูดคุย ฉินหลิงกับผู้ชายสวมแว่นคนหนึ่งกลับมาจากฝั่งตรงข้าม
ดวงตาสองข้างของชายหนุ่มสีน้ำตาล อายุราวยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี ผมสีน้ำตาลยาวเล็กน้อย แว่นสีทองพาดที่สันจมูก สีหน้าท่าทีแจ่มใส
“อาจารย์คุค” พ่อบ้านฉินและคนอื่นๆ ยืนขึ้นทักทายเขาอย่างสุภาพมาก
คุครีบโบกมือ “ทุกคนไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้น คุณฉินก็ช่วยฉันไว้ไม่น้อย”
ทุกคนนั่งลง พ่อบ้านฉินจึงมองอาจารย์คุค “ได้ยินคุณชายหกบอกว่า คุณคุคกลับมาก็เพื่อเข้าร่วมสำนักงานหลักของอวิ๋นกวงกรุ๊ป”
“เพราะไอดอลของฉันอยู่อวิ๋นกวงกรุ๊ป” คุคนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทีแบบชาวตะวันตก เห็นชัดว่าเขาไม่ระมัดระวังตัวเลย เอ่ยขึ้นถึงเรื่องนี้ ดวงตาเป็นประกาย “ฉันหวังว่าฉันจะเข้าแผนกเทคนิคของสำนักงานหลักอวิ๋นกวงกรุ๊ปได้ เข้าร่วมในเนื้อหาหลัก”
ฉินฮั่นชิวไปที่ห้องครัว ตรงนี้มีพ่อบ้านตระกูลฉินกับอาไห่ล้วนทำงานในอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะอาไห่
เขารู้ว่าความสามารถของคุณคุคท่านนี้มีไม่น้อย ทั้งยังเป็นคนของรัฐ M ตอนนี้มาเพื่อเป็นคนของอวิ๋นกวงกรุ๊ป…
อาไห่รู้จักคนภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปไม่มาก แต่รู้จักคนภายนอกที่มีชื่อเสียงที่สุดคนนั้น…
“ใช่แล้ว” ฉินฮั่นชิวที่ถือไม้พายโผล่หน้าออกมาจากด้านในอีกครั้ง “วันเสาร์นี้ลูกสาวของฉันกลับมา อาจารย์คุค วันเสาร์ตอนเที่ยงคุณมีเวลามากินข้าวด้วยกันไหม”
“แน่นอน ฉันมาแน่ถ้าคุณทำกับข้าว” อาจารย์คุคยิ้ม
ได้ยินคำตอบของอาจารย์คุค ฉินฮั่นชิวมีกำลังใจในการทำอาหารมากขึ้น
กินข้าวเสร็จ
ฉินฮั่นชิวล้างชามเรียบร้อย ทำความสะอาดห้องครัวเสร็จ จากนั้นจึงถือโทรศัพท์เดินกลับห้องตัวเอง ปิดประตูห้อง
เขาครุ่นคิดมองเบอร์โทรศัพท์ของหนิงฉิงอยู่นาน ในที่สุดก็เปิดเอาเบอร์โทรศัพท์ของหนิงฉิงออกมาจากแบล็กลิสต์ โทร.ออกหาอีกฝ่าย
หนิงฉิงที่กำลังกินข้าวกับฉินอวี่รับโทรศัพท์ เธอเม้มปาก “ทำไมคุณโทรศัพท์หาฉันล่ะ”
ฉินอวี่เงยหน้ามองหนิงฉิง
หนิงฉิงพูดแบบไม่มีเสียง ‘พ่อของเธอ’
“วันนี้อวี่เอ๋อร์มาหาฉัน” น้ำเสียงฉินฮั่นชิวงึมงำ เพราะเขาดื่มเหล้า แต่เสียงดัง “เธอก็เป็นลูกสาวของฉัน แม้จะไม่มีความผูกพันกันแล้ว แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นเธอกระโดดเข้าไปในกองไฟ คุณบอกเธอให้เธออย่าข้องแวะกับนายคุณชายสี่ของตระกูลฉิน เขาไม่ใช่คนดีอะไร”
หนิงฉิงที่ถือโทรศัพท์ มองฉินอวี่ที่อยู่ตรงข้าม “อวี่เอ๋อร์ นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินเป็นใคร เขาบอกให้เธออย่า…”
คำพูดต่อของหนิงฉิงไม่จำเป็น ฉินอวี่ได้ยินคำพูดของฉินฮั่นชิวแล้ว มือของเธอที่กำตะเกียบอยู่แน่นขึ้น ดึงเอาโทรศัพท์ในมือของหนิงฉิงมา “ทำไมฉันจะข้องแวะไม่ได้ คุณชายสี่เป็นอาของฉัน ทำไมฉันจะกลับไปที่ตระกูลฉินไม่ได้กัน ฉันก็เป็นคนตระกูลฉิน! คุณให้ฉินหร่านฉินหลิงกลับตระกูลฉินได้ ทำไมพอเป็นฉันถึงไม่ได้ล่ะ! คุณไม่ให้ฉันกลับไปแล้ว ยังให้อาที่สี่ไม่ช่วยให้ฉันกลับตระกูลฉินงั้นเหรอ”
พูดจบ ฉินอวี่ก็ไม่รอคำตอบของฉินฮั่นชิว วางสายทันที
หนิงฉิงที่อยู่ตรงข้ามมองฉินอวี่ ตะลึง “อวี่เอ๋อร์ ทำไมเธอพูดกับเขาแบบนี้”
หนิงฉิงกับฉินอวี่ล้วนเป็นคนฉลาด ไม่กี่เดือนนี้พวกเธอทั้งสองคนยืมอำนาจของฉินหร่านกับฉินฮั่นชิวเพื่อใช้ชีวิตต่อ คิดไม่ถึงว่าวันนี้ฉินอวี่จะแข็งขืนขนาดนี้กับฉินฮั่นชิว
ฉินอวี่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเสียงดัง พลั่ก ถือตะเกียบนั่งอยู่เก้าอี้สักพัก จึงค่อยมองหนิงฉิงอย่างสบายใจ “แม่และคนอื่นถูกเขาหลอกแล้ว อาที่สี่เป็นผู้กุมอำนาจตระกูลฉินในตอนนี้ ส่วนพวกฉินหลิง ก็แค่พวกไม่มีอำนาจยังต้องดิ้นรนอยู่คนหนึ่ง ไม่งั้นคุณคิดเหรอว่าทำไมพวกพ่อถึงได้ยังอยู่ที่ชุมชนล่ะ เพราะนายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินไม่ยอมรับพวกเขา พวกเขากลับบ้านหลักไม่ได้ คิดว่าพ่อกับฉินหร่านจะพาแม่ไปสู่ความร่ำรวยงั้นเหรอ แม่เลิกคิดแบบนี้ไปได้เลย!”
เรื่องนี้หนิงฉิงไม่รู้จริงๆ เธอมองทางฉินอวี่อย่างตะลึง “เธอ… ที่เธอพูดจริงเหรอ”
“แน่นอน พรุ่งนี้อาจะเชิญพวกเราไปกินข้าวที่บ้านหลัก คุณไปแล้วจะรู้เอง” ฉินอวี่สูดหายใจเข้าลึก ใบหน้ากลับคืนความสงบก่อนหน้านี้
ฉินอวี่ละสายตากลับ ยิ้มเยาะ “อีกอย่าง ทั้งอาที่สี่กับพ่อต่างกัน เท่าที่ฉันสังเกตดู ในไม่ช้าอาที่สี่จะลงมือกับพวกเขาแล้ว แม่ ฉันแนะนำว่าตอนนี้คุณยืมมือชื่อของพวกเขาให้น้อยลงเป็นดีที่สุด วันที่ดีของพวกพี่สาวใกล้จะสิ้นสุดแล้ว พวกพ่อยังคิดว่าตัวเองหลบซ่อนตัวที่ชุมชนได้ดี แต่ไม่รู้ว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของอาที่สี่”
“เธอหมายความว่าอะไร” หนิงฉิงไม่รู้ว่าฉินอวี่คิดอะไรอยู่ เธอมองลูกสาวเงียบๆ
ฉินอวี่กินเสร็จ วางตะเกียบลง เหลือบมองหนิงฉิง “รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงยืนอยู่ฝั่งอาที่สี่ เพราะเขาใกล้จะได้พึ่งพาอาศัยตระกูลโอวหยางแล้ว ตระกูลโอวหยางน่าจะมีพวกองค์กรข่าวกรอง ฝั่งพวกคุณพ่อคิดไปเอง เดิมทีไม่มีประโยชน์”
ไม่อย่างนั้นฉินอวี่ก็จะไม่ฉวยโอกาสลงมือฉินหร่านตอนนี้หรอก
ถึงเวลาแล้วที่ฉินซิวเฉินฉินฮั่นชิวและคนอื่นแม้แต่ตัวเองก็เอาไม่รอด…
วุ่นวายแน่
**
สามทุ่ม
ฉินหร่านกลับมาจากห้องปฏิบัติการ เฉิงมู่และเฉิงจินนั่งอยู่โต๊ะกินข้าว รอเธอกับเฉิงเจวี้ยนกลับมากินข้าว
ฉินหร่านนั่งอยู่ที่ของตัวเอง กินข้าวไปพลางดูโทรศัพท์ ในโทรศัพท์เป็นข้อความส่งจากหลินซือหราน…
[หร่านหร่าน เธอกลับมาฮอตอีกครั้ง!]
ฉินหร่านตอบเครื่องหมายกลับเอื่อยเฉื่อย [?]
หลินซือหรานที่อยู่อีกฝั่งตอบกลับเร็วมาก [ก็วิดีโอการแข่งขันไวโอลินของเธอก่อนหน้านี้ไง ดูเหมือนว่าแฟนคลับคนหนึ่งของเธอเผยแพร่มา แพร่กระจายในอินเทอร์เน็ตอย่างบ้าคลั่งมาก คิดไม่ถึงว่าเธอเล่นไวโอลินได้ดีขนาดนี้! (ยอดเยี่ยม)]
หลินซือหรานยังส่งภาพแคปหน้าจอเวยป๋อยอดนิยมไว้
[ไวโอลินของหลานสาวซุปเปอร์สตาร์ฉิน]
[เนื้อเพลงต้นฉบับ]
พิมพ์ประโยคนี้เสร็จ หลินซือหรานยังส่งข่าวให้อีกชุดหนึ่ง
ฉินหร่านดูแล้วไม่พูดอะไร แค่บอกให้หลินซือหรานตั้งใจเรียน
กินเสร็จจึงกลับห้องเพื่อเตรียมการแข่งขันโปรเจกต์งานวิจัย
ทั้งใจของเธอล้วนมีแต่ห้องปฏิบัติการ จึงไม่รู้ว่าในการค้นหายอดนิยมเวยป๋อของเธอกำลังไต่จากอันดับสิบค่อยๆ ไปถึงอันดับหนึ่งแล้ว
ในตอนงานแข่งขันของสมาคมไวโอลิน พลังการแสดงออกของฉินหร่านไปถึงเกณฑ์นักเรียนระดับเจ็ด ง่ายต่อการเป็นที่ดึงดูดเสียงสะท้อนของคนอื่น
และเพราะว่า ‘ไอดอล24ชั่วโมง’ ที่เธอดึงดูดแฟนคลับเป็นจำนวนมาก เป็นธรรมดามากที่จะเป็นที่หนึ่งของการค้นหายอดนิยม
[บ้าจริง บ้าจริง! ฉันบอกแล้วไงว่าไวโอลินของเขาดีมากแน่นอน! ร้องไห้เลยที่เธอไม่ได้เล่นไวโอลินในไอดอลตอนที่แปด!]
[ต้น! ฉบับ! ต้นฉบับจริงๆ! คนเรียนร้องเพลงก็ร้องไห้แล้ว ~~o(>_<)o ~~] [อ่าๆๆ ฉันอยู่แผนกไวโอลิน ฉันอยากบอกว่าฉันรู้จักวิดีโอนี้ ตอนที่อยู่แผนกไวโอลินเคยแพร่กระจายมาอยู่หลายวัน จากนั้นหายหน้าหายตาไป ในที่สุดวันนี้ปรากฏตัวออกมาแล้ว! หญิงสาวคนนี้ฉันหลงแล้วหลงอีก!] […] การค้นหายอดนิยมเป็นไปทั้งคืน เช้าวันที่สอง พื้นที่เทรนด์ฮิต ‘qr’ ก็ปรากฏโพสต์เวยป๋อหนึ่งขึ้น… [ไม่แปลกใจว่ามีแค่ฉันคนเดียวที่รู้สึกว่าต้นฉบับของเธอค่อนข้างคุ้นหูงั้นเหรอ]