เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่456สถานะลงภารกิจ129
เสียงของลู่จือสิงเป็นไปอย่างสบายๆ ทั้งมั่นคงและผ่อนคลาย ฟังดูสุขุม
ฉินหร่านที่อยู่อีกด้าน “…”
อันที่จริงก่อนที่ลู่จือสิงจะตามเธอเข้าสมาคม เธอก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ถึงว่าสมาคมแฮกเกอร์ไม่ต้องการแม้แต่จดหมายแนะนำและสามารถเข้าร่วมได้โดยตรง
หากลู่จือสิงเป็นลูกชายของประธานสมาคมแฮกเกอร์จริงๆ ดังนั้น…ทุกอย่างก็ดูจะสมเหตุสมผล
ทั้งสองวางสาย
ลู่จือสิงวางถ้วยชาในมือลง ถือถ้วยชาไปที่ประตูห้องรับรองแต่ยังไม่เดินออกไป โทรศัพท์ส่งเสียงอีกครั้ง เป็นสายจากทางฝั่งรัฐM
เขาเหลือบมองก็รับสายโดยตรง
น้ำเสียงยังคงเหมือนเดิม “พ่อ”
ตอนนี้ทางด้านรัฐMเป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว ชายแก่สวมชุดนอน ใบหน้าเห็นแต่ริ้วรอยบางส่วน ดวงตาของเขาขุ่นมัวและยังคงเพียบพร้อมไปด้วยพลังอำนาจ รูปร่างผอมบาง
ในมือเขาถือใบวินิจฉัยที่เพิ่งออกใหม่
“ตอนนี้แกอยู่เมืองหลวง?” ชายแก่หน้านิ่ง
ลู่จือสิงกลับมาที่ห้องรับรองอีกครั้ง ยืนอยู่ริมหน้าต่างสูงจรดพื้น ตอบไปว่า “อื้ม”
อีกฝ่ายเป็นคนพูดน้อยไม่เหมือนตัวเอง ชายแก่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ได้แต่พยักหน้า “ฉันพอจะรู้แล้วว่าอาหญิงแกอยู่ที่ไหน เธอยังมีลูกอยู่ที่เมืองหลวงอีกด้วย”
“อาหญิง?” ลู่จือสิงพยักหน้าเบาๆ ตั้งแต่เขาจำความได้ก็ไม่เคยพบอาหญิงคนนั้นที่หายสาบสูญไป
ท่าทีของเขาค่อนข้างเย็นชา ชายแก่ขมวดคิ้ว
เดิมทีเขาคิดจะให้ลู่จือสิงไปจัดการเรื่องนี้ แต่ใบวินิจฉัยหลายอันยังไม่ออกมา
เมื่อเห็นท่าทีของลู่จือสิงก็คิดว่าถ้าให้เขาไปจัดการก็ดูจะยากไปหน่อย
“ช่างเถอะ ฉันสืบเอง” ชายแก่พูดเสร็จก็วางสายไป
เขาถือเสื้อนอกจะออกไปข้างนอกจนแทบรอไม่ไหว
ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านนอกเหลือบมองเขา ขยับมุมปาก “ท่านครับ พวกเรายังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย อีกอย่าง…ท่านกลับไปทั้งอย่างนี้ จะทำให้พวกเขาตกใจหรือเปล่า…”
“จริง ที่นายพูดก็จริง” ชายแก่พยักหน้า เขาหันกลับไปด้วยความกระสับกระส่าย “ไม่รู้ว่าลูกของน้องสาวฉันเป็นยังไงบ้าง จริงสิ เด็กตระกูลลู่นั่นส่งรูปมาหรือยัง…”
เขาเอาแต่พูดพร่ำและให้ทางเมืองหลวงส่งข่าวมา จากนั้นก็รีบให้คนไปสืบข่าวลูกของน้องสาว
ทางด้านตระกูลลู่ก็รีบส่งข่าวฉินฮั่นชิวและคนตระกูลฉินกลับมา
**
อีกด้านหนึ่ง บ้านตระกูลลู่
คุณนายลู่กำลังนั่งไขว่ห้างเล่นเกมอยู่บนโซฟา มีสายโผล่ขึ้นบนหน้าเกม
เธอดูเสร็จก็พบว่าเป็นสายจากรัฐM จึงเปิดแล้วกดรับสาย
คุณนายลู่ลุกจากโซฟาและเดินออกไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมภายในพริบตา
เมื่อลู่จ้าวอิ่งที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกเห็นท่าทีแม่ตัวเองก็อดเลิกคิ้วไม่ได้
จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่านี่จะต้องเป็นสายจากย่าเล็กผู้ลึกลับคนนั้นแน่ๆ นอกจากย่าเล็กคนนั้นแล้ว ลู่จ้าวอิ่งก็ไม่เคยเห็นแม่ผู้เกรี้ยวกราดของเขามีท่าทีแบบนี้
ไม่กี่นาทีต่อมา คุณนายลู่ก็ถือโทรศัพท์กลับมาด้วยสีหน้าซับซ้อน
เมื่อลู่จ้าวอิ่งที่นอนขี้เกียจอยู่บนโซฟาเห็นท่าทีคุณแม่ลู่ก็เลิกคิ้ว “แม่ ไม่เป็นไรนะ?”
“ไม่มีอะไร…” คุณนายลู่มองไปทางลู่จ้าวอิ่ง เธอเดินมาที่โซฟาอย่างช้าๆ เมื่อนั่งดีแล้วก็พูดอย่างครุ่นคิด “แกว่าถ้าฉันทำอะไรหร่านหร่านเข้า…แล้วพ่อเธอจะ…”
ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ว่าลู่จ้าวอิ่งอาจจะหักหลังเธอ
คุณนายลู่เหลือบมองลู่จ้าวอิ่งและไม่ได้พูดถึงปัญหานี้อีก “ตอนนี้อาการฉินหลิงเป็นยังไงบ้าง?”
“มีคุณชายเจวี้ยนอยู่จะเป็นอะไรไปได้” ลู่จ้าวอิ่งตอบส่งๆ
ลุกขึ้นเดินไปชั้นบน
เธอได้ผลวินิจฉัยเส้นผมที่เธอได้มาจากตอนที่พบฉินหร่านครั้งล่าสุดแล้ว สำหรับฉินฮั่นชิวฉินหลิงและคนอื่นๆ นั้นย่อมยากต่อการจัดการเป็นธรรมดา แต่กระบวนการที่ต้องดำเนินการก็ยังต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ
แต่อย่างไรก็ตาม คนของทางฝั่งย่าเล็กจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน และที่สำคัญที่สุดคืออาเขยก็จะกลับมาด้วยเช่นกัน…
เมื่อคุณนายลู่คิดถึงจุดนี้ก็เลิกคิ้วโดยไม่รู้ตัว เกรงว่าเมืองหลวงจะไม่สงบอีกแล้ว
ตอนนี้ถือโอกาสตอนที่พวกอาเขยยังไม่กลับมา เตรียมการเรื่องอื่นให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า
**
กระแสน้ำในเมืองหลวงกำลังเชี่ยวกราก
ตอนนี้ฉินหร่านกลับมาถึงบ้านแล้ว
ในห้องโถง
เฉิงเวินหรูนั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“น้องชายฉันเป็นยังไงบ้าง?” เฉิงเวินหรูกดคิ้วด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
เฉิงจินยื่นถ้วยชาให้ “มีข่าวมาบ้าง แต่ปัญหาเยอะ”
เฉิงเวินหรูเงยหน้า “ปัญหาอะไร? พี่ใหญ่ฉันไปหาโอวหยางเวยมา เธอก็สืบมาได้บางส่วน…”
“ได้ยินเฉิงสุ่ยบอกว่าดูเหมือนคุณชายเจวี้ยนกับกองกำลังนั่น…” เฉิงจินพูดถึงตรงนี้ก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้
เขาไม่กล้าพูดว่า “มีความแค้น” ออกมา กลัวจะทำให้เฉิงเวินหรูตกใจ
แต่เดิมกองกำลังใหญ่ๆ ในรัฐMก็มีความขัดแย้งกันอยู่แล้ว…
เมื่อต้นปีเฉิงเจวี้ยนไปยั่วยุกองกำลังเหล่านี้โดยไม่มีเหตุผล…
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันก็มีเสียงเปิดประตูลอยเข้ามา
เฉิงเวินหรูหยุดทันทีและไม่พูดเรื่องนี้ต่อ
ฉินหร่านเปลี่ยนรองเท้าเดินเข้ามา
เฉิงเวินหรูที่กำลังนั่งคุยกับเฉิงจินอยู่บนโซฟาเปลี่ยนสีหน้าที่เคร่งเครียดในทันที เธอลุกขึ้นและรวบเสื้อคลุมกี่เพ้าเดินมาที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าปกติ “หร่านหร่าน กลับมาแล้วเหรอ”
จากนั้นก็ส่งเสียงไปทางห้องครัวเพื่อให้พวกเขาขึ้นโต๊ะ
สองวันมานี้เฉิงเวินหรูก็ยุ่งมากเช่นกัน ไม่เพียงแค่ยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท แต่ยังกังวลกับเรื่องหัวหน้าหน่วยเหล่านั้นและเป็นห่วงสถานการณ์เฉิงเจวี้ยนที่รัฐM
เธอก็รู้ว่าเฉิงเจวี้ยนไม่อยู่ ดังนั้นวันนี้จึงตั้งใจมาอยู่กับฉินหร่านหลังเลิกงาน
เมื่อเห็นฉินหร่านกลับมา เธอก็เลี่ยงปัญหานี้โดยไม่รู้ตัวเพราะไม่อยากให้ฉินหร่านได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เรื่องนี้ซับซ้อนไปหน่อย โดยหลักแล้วเธอกลัวว่าฉินหร่านจะกังวล
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเฉิงจินเคยคุยเรื่องนี้กับฉินหร่านแล้ว
ฉินหร่านเก็บผ้าพันคอและเสื้อโค้ตเสร็จก็เดินมาที่โต๊ะอาหาร ลากเก้าอี้มานั่ง จากนั้นก็เงยหน้ามองเฉิงเวินหรู มือชะงักเล็กน้อย “พี่เฉิง ช่วงนี้พี่ยุ่งมากไหม?”
หว่างคิ้วเฉิงเวินหรูดูอ่อนเพลีย
เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร เฉิงจินก็เดินมาทางนี้ “ช่วงนี้คุณหนูใหญ่เป็นห่วงสถานการณ์คุณชายเจวี้ยนที่รัฐMน่ะครับ”
เฉิงเวินหรูยังคิดไม่ตกว่าทำไมเฉิงจินถึงพูดออกมาง่ายๆ แบบนี้
ฉินหร่านที่อยู่ข้างๆ เธอหยิบถ้วยชาที่เฉิงมู่เพิ่งเอามาให้ด้วยความสุขุม พอได้ยินดังนั้นเธอก็ยิ้ม หน้านิ่ง “พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะไม่เป็นไร”
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น คฤหาสน์ปี่อั้นมีอิทธิพลในรัฐMไม่น้อย
กองกำลังที่มีชื่อเสียงอื่นจะแบ่งรัฐMออกเป็นส่วนๆ
ข่าวคราวของพวกหัวหน้าหน่วยที่สองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ แต่ไม่มีทางเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับรัฐMค่อนข้างลึกลับซับซ้อนสำหรับคนเมืองหลวง
ทีแรกเฉิงเวินหรูยังนึกว่าฉินหร่านจะตกใจกลัวเมื่อได้ยินเรื่องนี้ คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะนิ่งมาก ไม่เหมือนกับที่เธอจินตนาการไว้เลย…
ขณะที่เธอกำลังใช้ความคิด ฉินหร่านก็เอื้อมมือไปคีบอาหารวางไว้ในถ้วยเฉิงเวินหรู พูดนิ่งๆ “พี่เฉิง กินเถอะ”
เฉิงเวินหรูตอบด้วยความงุนงง จากนั้นก็หยิบตะเกียบขึ้นมากินอาหารที่ฉินหร่านคีบให้
หลังจากกินข้าวเสร็จ เฉิงเวินหรูก็ไม่ได้กลับไป เธอนอนอยู่ที่ห้องนอนแขกที่เหลือเพียงห้องเดียว
พออาบน้ำเสร็จก็เปิดคอมพิวเตอร์ตัวเอง คิดได้สักพักก็หยิบโทรศัพท์ออกมา
บนวีแชทของโอวหยางเวยได้ส่งเว็บไซต์เว็บหนึ่งมาให้
เฉิงเวินหรูมองอยู่นานก็ส่งคำขอบคุณกลับไป “ขอบคุณ”
จากนั้นกดไปตามเว็บไซต์นั้นและป้อนลงไปในคอมพิวเตอร์
ในไม่ช้าก็เข้าสู่ฟอรัมสีดำ
นั่นคือหน้าเว็บ129
เนื่องจากเธอไม่ใช่สมาชิก เธอจึงลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ทั่วไปด้วยเบอร์โทรศัพท์ตัวเอง
หาขั้นตอนลงภารกิจ
ยังไม่ทันได้ศึกษาขั้นตอนก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอกสามทีไม่รีบร้อน
เป็นฉินหร่าน
ในมือเธอถือนมอุ่นมาสองแก้ว แก้วหนึ่งของตัวเอง อีกแก้วยื่นให้เฉิงเวินหรู “เฉิงมู่อุ่นให้ค่ะ”
เฉิงเวินหรูรับมาพลางเอียงตัวให้ฉินหร่านเข้าไป “วันนี้เธอไม่ยุ่งเหรอ?”
“เพิ่มรุ่นพี่มาคนหนึ่ง ก็เลยไม่ยุ่งมาก” ฉินหร่านเงยหน้ามองในห้องส่งๆ สายตาหยุดอยู่ที่คอมพิวเตอร์ที่เฉิงเวินหรูเปิด เธอหยุดอยู่ที่หน้าลงภารกิจ
เฉิงเวินหรูพยักหน้าแล้วดื่มนม
เมื่อเห็นฉินหร่านมองมาที่คอมพิวเตอร์ของเธอ ก็บอกไปตรงๆ ว่า “นั่นหน้าเว็บ129น่ะ ถ้าเธออยากรู้เดี๋ยวฉันส่งให้เธอก็ได้”
หน้าเว็บไซต์129เป็นลิงก์เดี่ยว แน่นอนว่าเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตไม่พบ
จำเป็นต้องมีเอนจินพิเศษและรหัสลิงก์
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” ฉินหร่านก้มหน้าจิบนมไปหนึ่งคำพลางครุ่นคิด “พี่กำลังลงภารกิจอยู่ใช่ไหม ฉันช่วยเอง”
“เธอทำเป็นหรือเปล่า? มีขั้นตอนอยู่ตรงด้านข้างน่ะ” เฉิงเวินหรูยังอยากพูดอะไรบางอย่างแต่โทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น
เธอหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นนายท่านเฉิง
ที่เขาโทรมาหาเธอในเวลานี้ก็คงพูดถึงสถานการณ์ในรัฐMและเรื่องหัวหน้าหน่วยเหล่านั้น
เฉิงเวินหรูเหลือบมองฉินหร่านที่อยู่อีกด้าน เธอไม่รู้ว่านายท่านเฉิงจะคุยอะไรกับเธอ จึงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกไปรับสาย
ฉินหร่านลากม้านั่งที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเฉิงเวินหรูแล้วนั่งลง ดูคอมพิวเตอร์
จากนั้นก็ยื่นมือมาเคาะแป้นพิมพ์
สามนาทีต่อมา
เฉิงเวินหรูคุยโทรศัพท์เสร็จก็ยืนอยู่ริมประตูเพื่อปรับสภาพท่าทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม จากนั้นก็เอื้อมมือเปิดประตู
ฉินหร่านก็กำลังลุกจากเก้าอี้พอดี
ปลายนิ้วขาวเคลื่อนออกจากแป้นพิมพ์ หลุบขนตาลง “พี่เฉิง ฉันช่วยพี่ทำเสร็จแล้ว รีบๆ เข้านอนนะ”
เฉิงเวินหรูส่งฉินหร่านออกไปก่อนจะกลับมานั่งที่ตัวเอง เธอมองมาที่หน้าคอมพิวเตอร์
อึ้งไปเล็กน้อย