เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่464ฉินหร่านถูกแมทธิวจับ
ฉินหร่านไม่รีบเข้ามา เธอหยุดยืนอยู่หัวบันไดสักพัก มองไปรอบๆ
น่าจะเป็นเพราะร้านกาแฟนี้รสชาติไม่ดี ที่ชั้นสองจึงคนไม่เยอะ
รับรู้ได้เลยว่าท่าทีของเธอไม่ปกติ จระเข้ยักษ์เดินมาทางนี้ พลางหันมองไปรอบๆ “ลูกพี่ เป็นอะไรรึเปล่า”
ฉินหร่านยืนอยู่หัวบันไดสักพัก ท่าทีเกียจคร้าน เธอละสายตากลับ มองจระเข้ยักษ์อย่างสบายใจ “เปล่า มีใครรู้ข่าวที่คุณมารัฐ M ไหม”
“ระหว่างทางแล้วนอกจากลานจอดเครื่องบิน ฉันก็ไม่ได้พักจอด” ฟังคำพูดของเขา จระเข้ยักษ์จึงมองไปรอบๆ ด้วย ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลง “พนักงานคนนั้น…”
มือของเขาล้วงกระเป๋าสบายๆ แตะที่อาวุธ
“ไปนั่งก่อน” ฉินหร่านถอดเสื้อคลุม ด้านในเป็นเสื้อแขนยาวสีขาว เสียงของเธอนิ่งเรียบ
ทั้งสองคนเจอคนที่เป็นอุปสรรค แม้จะรู้สึกได้ว่าถูกคนสะกดรอยตาม ก็ไม่ได้กระวนกระวายอะไร
พูดคุยพลางเดินไปที่นั่งทางหน้าต่าง
คนสนิทที่นั่งอยู่ข้างจระเข้ยักษ์เห็นจระเข้ยักษ์มา จึงยืนขึ้นจากที่นั่ง เมื่อเห็นใบหน้าของฉินหร่าน ถึงแม้ในใจของเขาแตกสลายไปหมด แต่ใบหน้าของเขาอดกลั้นไว้
“นี่คือชิงหลิน” จระเข้ยักษ์เหลือบมองเขา แนะนำสบายๆ
‘ครืด’ ชิงหลินลากเก้าอี้ออกแล้วยืนขึ้น มองฉินหร่านอย่างเคารพ อ้าปากค้าง ไม่รู้ต้องเรียกเธออย่างไรดี…
ฉินหร่านนั่งตรงข้ามทั้งสองคน นำแก้วกาแฟวางด้านข้าง เล่นโทรศัพท์ในมือไปมาอย่างสบายใจ
โทรศัพท์ปรากฏหน้าจอขึ้นมาทันที
ที่โต๊ะสีขาวด้านล่างสุดฉายภาพแป้นพิมพ์
ฉินหร่านป้อนชุดรหัสไปก่อน ขนตาลู่ลง ปิดบังดวงตาสีอ่อน ไม่เงยหน้า น้ำเสียงไม่รีบเร่ง “ฉินหร่าน”
ชิงหลินเข้าใจทันทีว่านี่คือชื่อของหมาป่าเดียวดาย “คุณหนูฉิน”
“อือ” ฉินหร่านตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ
จระเข้ยักษ์พิงเก้าอี้ สายตามองไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย “ตอนที่คุณรับคำสั่งครั้งแรก ตอนนั้นอายุเท่าไหร่”
รหัสหลายชุดปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของฉินหร่าน “สิบสี่”
แม้ว่าเหอเฉินกับธุลีมังกรจะเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จระเข้ยักษ์ก็ยังเงียบไป เขาส่ายหน้า “ฉันอายุสิบสี่ปี ถูกลุงของฉันโยนเข้าไปในฝูงหมาป่า ยังคิดว่าตัวเองเก่งเลย”
ใครจะไปรู้ว่าคนอื่นตอนอายุสิบสี่ จะยอดเยี่ยมไปกว่าเขาอีก
จระเข้ยักษ์ไม่เหมือนพวกเหอเฉิน ที่เขาเข้าร่วมสมาคมเป็นเพราะฉินหร่านทั้งนั้น
แต่เดิมที่ 129 เพิ่งก่อตั้ง สมาพันธ์แฮกเกอร์ไม่กล้ารับคำสั่งของจระเข้ยักษ์ จระเข้ยักษ์พยายามส่งคำสั่งภารกิจที่ 129 ไม่นึกว่าจะไม่มีแฮกเกอร์สักคน มืดมนไร้ซึ่งความสนใจ
ถ้าไม่ใช่ครั้งนั้น ตอนนี้จระเข้ยักษ์อาจถูกแมทธิวจับเข้าคุกไปแล้ว
หลายครั้งต่อมาไม่ได้น่าตื่นเต้นนัก แต่ครั้งแรกจระเข้ยักษ์จำได้อย่างลึกซึ้ง
แน่นอนว่า คนนอกไม่รู้ว่านายใหญ่ผู้ร้อนแรงอันหยิ่งผยองแห่งเอเชียอย่างจระเข้ยักษ์ จะหลบหนีเรื่องอันตรายมาหลายครั้ง หมาป่าเดียวดายคือผู้กำจัดอุปสรรคให้เขาอยู่เบื้องหลัง
เขาถูกฉังหนิงที่ใช้ชื่อหมาป่าเดียวดายมาหลอกให้เข้าร่วม 129
“แค่กๆ…” ชิงหลินที่ดื่มอยู่ที่ร้านกาแฟด้านข้างราวกับไม่อยากเชื่อ
ฉินหร่านเงยหน้า เหลือบมองเขาเล็กน้อย เลิกคิ้ว
ชิงหลินรีบวางแก้วลง พูดพลางสำลัก “ไม่ใช่ คุณหนูฉิน กาแฟนี้ดื่มยาก”
“กาแฟดื่มยากจริงๆ ฉันสั่งนมไว้ให้แล้ว” จระเข้ยักษ์ประคองแก้วน้ำร้อนของตัวเอง พลางดันนมแก้วหนึ่งไปทางฉินหร่าน สายตายังคงกวาดมองรอบด้าน
ภาพฉายแป้นพิมพ์เล็กมาก มือข้างหนึ่งของฉินหร่านเคาะรหัส มืออีกข้างรับนมมา ละสายตากลับ “ช่วงนี้ถูกเฝ้าสังเกตแล้ว”
“แต่ยังไม่มีเครื่องดักฟัง” จระเข้ยักษ์ละสายตาจากดอกไม้ด้านข้าง ทั่วทั้งกายผ่อนคลายลง
แม้ว่าทั้งสองคนแสดงออกพูดคุยกัน แต่ต่างรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร
ตอนแรกระหว่างที่จระเข้ยักษ์และชิงหลินคิดถึงแต่ความรู้สึกที่จะได้เจอหมาป่าเดียวดาย ยังคงมั่นใจในจุดยืนของตัวเองอยู่ แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกฮอลล์พบเข้าตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากมาถึงร้านกาแฟ ก็ไม่นึกว่าจะมีคนคอยตามสังเกต
“นี่เป็นอาณาเขตของแมทธิว เป็นไปได้ว่าอาจเป็นคนของเขา” จระเข้ยักษ์ขมวดคิ้ว “เขาน่าจะไม่รู้ข่าวของฉัน”
สนามหลักของเขาไม่ใช่ที่รัฐ M แม้ว่าเขาจะเคยมีเรื่องกับแมทธิว แต่แมทธิวไม่ยอมลงทุนเพื่อจับตามองเขาถึงขนาดนี้หรอก
ถ้าบอกว่าคนที่จับตามองเขาอยู่เป็นเฉิงถู่ จระเข้ยักษ์น่าจะยังพอเชื่อได้
“เดี๋ยวพวกคุณไปกันก่อนเลย” ฉินหร่านวางโทรศัพท์ลงด้านข้าง การตรวจสอบรหัสได้รับการจัดการแล้ว เหลือเพียงกดปุ่ม ‘enter’ ตอนท้าย แค่รอให้จระเข้ยักษ์กลับไป
จระเข้ยักษ์พยักหน้า เขาพิงเก้าอี้ ท่าทางสบายๆ “จากนี้ไปพวกคุณอยู่เมืองหลวง จะมาที่อาณาเขตของฉันตอนไหน”
“ดูสถานการณ์ก่อน” ฉินหร่านจับที่ข้อมือ
“ก่อนหน้านี้คุณชอบเสาะหาพื้นที่วุ่นวายไม่ใช่เหรอ” มือทั้งสองข้างของจระเข้ยักษ์วางที่โต๊ะ
ทั้งสองคนคุ้นเคยกัน จระเข้ยักษ์จึงรู้ว่าตอนนั้นฉินหร่านถ้าไม่วิ่งไปยังสลัมก็ชอบไปหลายรัฐที่วุ่นวาย
ฉินหร่านเหลือบมองเขา “มันจำเป็นต่องาน”
ชิงหลินที่นั่งอยู่ข้างทั้งสองคน ดื่มกาแฟที่ดื่มยาก สายตามองทิวทัศน์ชั้นสอง นอกจากพนักงานทั้งสองคน เขาไม่เห็นว่ามีที่ไหนผิดปกติ แต่จระเข้ยักษ์กับฉินหร่านบอกไม่ใช่ นั่นเขาดูไม่ออกต่างหาก
แต่…
ทั้งที่รู้ว่าตัวเองถูกจับตามอง ยังพูดคุยกันได้อย่างใจเย็น
ทั้งสองคนคุยกันสบายๆ อยู่หลายประโยค ในที่สุดจระเข้ยักษ์ก็ได้ชดเชยความเสียใจที่ครึ่งปีก่อนไม่ได้พบหมาป่าเดียวดาย
ฉินหร่านหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ สิบห้านาทีแล้ว “พวกคุณไปก่อนเลย ซ่อนตัวด้วย”
หมาป่าเดียวดายถือเสื้อคลุมที่ถอดไว้ในมือ “เอาล่ะ ยังมีคำสั่งนั้นอยู่ ฉันให้คนจัดการแล้ว”
เขาและชิงหลินลากเก้าอี้แล้วยืนขึ้น
และในเวลานี้ ฉินหร่านมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะ แล้วกดปุ่ม ‘enter’
จระเข้ยักษ์และชิงหลินลงไปด้านล่างแล้ว
ในขณะเดียวกัน ที่ห้องตรวจสอบ ทันใดนั้นการตรวจจับภาพทั้ง 36 ตัวทั่วทุกตำแหน่งทิศทางตกอยู่ในความมืด ผู้เฝ้าสังเกตการณ์กดที่หูฟัง “เจ้านาย การเฝ้าสังเกตหายไปแล้ว!”
**
ร้านกาแฟ
ฉินหร่านไม่รีบเร่ง เธอนั่งอยู่ที่นั่ง ไขว่ห้างอย่างสบายใจ ท่าทีค่อนข้างหยิ่ง เปิดโทรศัพท์ขึ้นอย่างไม่เร่งรีบ แล้วจึงเปิดวีแชท เปิดโปรไฟล์ของกู้ซีฉือ ส่งข้อความไปประโยคหนึ่ง…
[อย่าลืมพาแมทธิวมาให้ฉัน]
ฉินหร่านยังส่งข้อมูลให้เฉิงมู่ด้วย…
[ไปอีกที่หนึ่งกับเพื่อน รอก่อน]
ส่งประโยคนี้ไปแล้ว ฉินหร่านจึงมองด้านล่าง ยังไม่มีใครมา
แต่แล้วที่หัวบันไดก็มีใครขึ้นมา
เป็นเฉิงเวินหรู
“หร่านหร่าน พวกเฉิงหั่วบอกว่าเธออยู่ที่นี่” เฉิงเวินหรูปัดที่แขนเสื้อ ค่อนข้างเร่งรีบ “เมื่อกี้มีคนลงมาชนฉัน เพื่อนของเธอล่ะ”
“พวกเขากลับแล้ว” ฉินหร่านเข้าไปนั่งอยู่ด้านใน ให้ที่นั่งเฉิงเวินหรู
เห็นว่าตรงข้ามฉินหร่านไม่มีคน เฉิงเวินหรูจึงเข้าไปนั่ง โบกมือให้พนักงานเพื่อสั่งกาแฟ “น้องชายสามให้ฉันมาหาเธอ วันนี้ดูเหมือนเขาอารมณ์ไม่ดี”
“อารมณ์ไม่ดี?” ฉินหร่านเงยหน้า ตอนที่เธอออกมายังดีอยู่เลย
กาแฟที่นี่เสิร์ฟเร็วมาก
พนักงานเสิร์ฟสองแก้วอย่างรวดเร็ว ฉินหร่านดื่มไปหนึ่งอึก
ทั้งไหม้เกรียมทั้งขม
ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แก้วไม่ใหญ่นัก
เฉิงเวินหรูก็ดื่มไปหนึ่งอึก เธอหรี่ตา “ฉันจำได้ครั้งหนึ่งว่าเคยมีสถานการณ์แบบนี้ ครั้งแรกเขานำม้าดินเผาของฉันไปรวมไว้ วันก่อนยังมีความสุขมาก อยากทำเซอร์ไพรส์ให้พ่อฉันอยู่เลย วันต่อมานำม้าดินเผาที่บูรณะแล้วมอบให้ฉัน ท่าทีนิ่งเฉยไม่ต่างจากเรื่องอื่น เพียง…”
เฉิงเวินหรูส่ายหน้า เธอพูดไม่ออก
แต่ตั้งแต่ตอนนั้น เฉิงเจวี้ยนก็เปลี่ยนเป็นเกียจคร้าน แทบไม่สนใจเรื่องใดเลย
หลายปีมานี้ เฉิงเวินหรูแทบจะเห็นว่า เรื่องของฉินหร่านเป็นเรื่องที่เขาทำอย่างตั้งใจที่สุด
ฉินหร่านชะงักไปสักพัก นึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องใดของเขาได้อีก
ในตอนนี้
คนของแมทธิวปรากฏตัวต่อหน้าฉินหร่านอีกครั้ง ลูกน้องทุกคนมีอาวุธครบมือ แต่ที่อยู่ตรงหน้าเห็นเพียงผู้หญิงสองคนดื่มกาแฟอย่างเรื่อยเปื่อย
ทุกคนมองหน้ากัน แต่ก็ได้นำทั้งสองจากไปด้วย
**
ที่ฝั่งตรงข้ามของถนน
ฉินหร่านอยากไม่อยากให้เฉิงมู่และเฉิงหั่วเป็นกังวลมาก ถ้าวันนี้มีแค่เฉิงมู่ น่าจะเชื่อข้อความของฉินหร่าน แต่ยังมีเฉิงหั่วอยู่ด้วย
ก่อนหน้าเขามาส่งฉินหร่านที่นี่ เฉิงสุ่ยพูดย้ำแล้วย้ำอีกกับฉินหร่าน
แม้ว่าเฉิงหั่วจะคิดว่าฉินหร่านไม่ต้องการการปกป้องจากพวกเขา แต่ก็ไม่ได้วางใจ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของแมทธิว
ในขณะที่เธอดูคอมพิวเตอร์ก็ยังให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของร้านกาแฟ
ทันทีที่คนของแมทธิวปรากฏตัว เขาเห็นทันที
“ไม่ใช่” เฉิงหั่วมองข้อความของเฉิงมู่ สักพักจึงวางคอมพิวเตอร์ “พวกเราลงไปดู!”
ทั้งสองตรงมาที่ชั้นสอง
ข้างหน้าต่าง ไม่มีใครอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกัน
ที่ข้างทาง เฉิงเวินหรูกอดแขนฉินหร่านไว้แน่น มีความคิดในใจมากมาย คนพวกนี้มาที่ร้านกาแฟ ทุกคนมีอาวุธครบมือ ไม่ใช่ว่ามาจับคนของหัวหน้าหน่วยเหรอ…
เธอกำลังครุ่นคิด เห็นฉินหร่านละสายตากลับ มองเธออย่างใจเย็น “พี่เฉิง ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไร”
ฉินหร่านท่าทีสงบนิ่ง เฉิงเวินหรูก็โล่งใจเสียอย่างนั้น เธอถอนหายใจโล่งอก “หร่านหร่าน เธอรู้เหรอว่าพวกเขาเป็นใคร”
“รู้” ฉินหร่านไขว่ห้าง ทิ้งระเบิดให้เฉิงเวินหรูอย่างสบายๆ “คนของแมทธิว”