เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 313 สัญญาสามปี
บทที่ 313 สัญญาสามปี
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
ตู้ม!ตู้ม! ตู้มม!
ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือน แม้แต่เมืองเซี่ยยวี่ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เสียงรอยเท้ายักษ์ดังก้องสะท้อนมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องตกตะลึง
“หืม?”
เจ้าสำนักหยูอยู่ห่างจากเจียงอี้เพียงสามกิโลเมตรและการสะบัดนิ้วง่ายๆก็เพียงพอที่จะฆ่าเจียงอี้ได้แล้วแต่อย่างไรก็ตาม ร่างของเขาหยุดอยู่กลางอากาศและไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆในขณะที่เหงื่อจากหน้าผากและหลังของเขาผุดออกมาอย่างล้นหลาม เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนและเขาก็รู้ดีว่าหากเขาเคลื่อนไหว เขาจะถูกบดขยี้อย่างน่าสังเวช
จักรพรรดินีสัตว์อสูร!
ชื่อหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเขาในทวีปนี้ มีเพียงจิ้งจอกวิญญาณห้าหางจากหุบเขาสามหมื่นลี้ที่จะสามารถใช้ตัวตนของนางตรึงเขาไว้ได้ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกกลัวหากจะเคลื่อนไหวอย่างประมาท!
ตู้ม!ตู้ม! ตู้ม!
แรงสั่นสะเทือนบนพื้นผิวดินเริ่มหนักมากขึ้นและมีเงาดำจำนวนหนึ่งสูงตระหง่านที่สุดเส้นขอบฟ้าพร้อมกับการปรากฏตัวตนกลิ่นอายที่ดุร้ายออกมามากกว่าสิบสาย
ราชันสัตว์อสูรทั้งสิบแปด!
ผู้เชี่ยวชาญที่ตอนแรกกำลังพุ่งไปยังสุ่ยโย่วหลาน,เจ้าอาวาส, และจูเก๋อชิงหยุนทั้งหมดต่างหยุดนิ่งและมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังร่างของหญิงงามที่อยู่บนไหล่ของหมีสีเลือดที่สูงตระหง่าน
จักรพรรดินีสัตว์อสูรปรากฏตัวขึ้นในทวีปนี้อีกครั้งด้วยเวลาที่เหมาะเจาะอย่างไร้ที่ติจุดประสงค์ของการปรากฏตัวของนางนั้นชัดเจน นาง….มาที่นี่เพื่อปกป้องเจียงอี้! เหตุผลที่เจ้าสำนักหยูไม่สามารถขยับได้ก็เป็นเพราะจุดนี้เช่นกัน
ในเมื่อจักรพรรดินีสัตว์อสูรอยู่ที่นี่และเห็นได้ชัดว่านางต้องการปกป้องเจียงอี้จึงไม่มีความหมายใดๆที่ผู้เชี่ยวชาญเฒ่าทั้งหลายจะต้องต่อสู้ ความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีสัตว์อสูรนั้นแทบจะเหนือกว่าบุคคลเหล่านี้ทั้งหมดได้ และหากนางต้องการที่จะปกป้องเจียงอี้อย่างแท้จริง ก็คงไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ในวันนี้!
“จี๊จี๊!”
จักรพรรดินีสัตว์อสูรกำลังอุ้มจิ้งจอกน้อยซึ่งกำลังร้องไห้ไม่หยุดจากระยะไกลข้างๆนางเป็นสาวน้อยน่ารักที่ดูร้อนรนมาก เจียงเสี่ยวนู๋นั้นไม่มีความแข็งแกร่งและนางก็อ่อนแอเช่นกัน จากระยะนี้ทำให้นางมองเจียงอี้ไม่เห็น
“จักรพรรดินี,เสี่ยวเฟย, เสี่ยวนู๋!”
เจียงอี้ค่อยๆเบิกตาของเขาและมองเห็นราชันสัตว์อสูรเป็นโหลเขายังเห็นแดงน้อยผู้ที่มีจักรพรรดินีสัตว์อสูรอยู่บนบ่าของมัน เขาเผยร่องรอยแห่งความเจ็บปวดออกมาที่ปากของเขา นี่เป็นความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และมันไปรบกวนจักรพรรดินีสัตว์อสูรจริงๆหรือ?
จักรพรรดินีสัตว์อสูรกำลังฝ่าฝืนสัญญาเลือดเพื่อเขาหากภายภาคหน้านางไม่ได้อยู่ที่นี่ เหล่าสัตว์อสูรนั้นอาจถูกล้างเผ่าพันธุ์ด้วยเหล่ามนุษย์พวกนี้
ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนอาจมีสีหน้าที่รุนแรงแต่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แม้แต่เจ้าอาวาสแห่งอารามเซน เหยียนเส่อและสุ่ยโย่วหลานเองก็ดูไม่พอใจนัก พวกเขาอาจเสี่ยงชีวิตเพื่อเจียงอี้ แต่เมื่อจักรพรรดินีสัตว์อสูรปรากฏตัวเช่นนี้ ก็ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความลำบากใจระหว่างทั้งสองฝ่าย
ปึ่งปึ่ง ปึง!
ราชันสัตว์อสูรนั้นมีร่างกำยำและรวดเร็วมากพวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่พริบตาในการเดินทางไปทางเหนือของกองทัพ จักรพรรดินีสัตว์อสูรโบกมือของนางซึ่งมันทำให้ราชันสัตว์อสูรทั้งหมดหยุดลง
“ฮึ่ม!”
ผู้เชี่ยวชาญเฒ่าของจักรวรรดิมังกรเวหาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากจักรพรรดินีสัตว์อสูรมาก่อนหน้านี้และดังนั้นเขาจึงจ้องมองจักรพรรดินีสัตว์อสูรเยี่ยงศัตรูเขาตะโกนออกมาอย่างดุดือดว่า “จักรพรรดินีสัตว์อสูร เจ้าตั้งใจจะทำลายคำสัญญาเลือดต่อหน้าทุกคนหรือ? นี่เจ้าคิดจะเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งของมนุษย์งั้นรึ?”
“อมิตาพุทธ!”
เจ้าอาวาสเฒ่าก็พูดออกมาด้วยเช่นกัน“ประสกอสูร นี่เป็นความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ โปรดกลับไปโดยเร็วเถิด เรื่องที่เกิดคราก่อนนั้นเป็นการกระทำผิดของเหล่ามนุษย์ พวกเราทุกคนก็ไม่ได้ก้าวก่ายเข้าไปยุ่งเมื่อท่านชำระล้างทวีปด้วยเลือด การปรากฏตัวของท่านในครานี้นั้นคงเป็นการไม่เหมาะสม”
สุ่ยโย่วหลานไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแต่คิ้วของนางขมวดชนกัน เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจจักรพรรดินีสัตว์อสูร แม้แต่จูเก๋อชิงหยุนเองก็ยังคงสงบนิ่งและกะพริบตาอย่างหนัก
สีหน้าของจักรพรรดินีสัตว์อสูรดูไม่แยแสและไม่มีผู้ใดที่สามารถกำหนดอารมณ์ของนางได้นางมองไปที่ใบหน้าของทุกคนและพูดอย่างสบายๆ “จักรพรรดินีผู้นี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และไม่ได้ต้องการละเมิดคำสัญญาเลือด ในคราวนี้ข้าอยากให้ทุกคนโปรดเห็นแก่หน้าข้า…..ข้าเพียงอยากจะปกป้องเจียงอี้เป็นเวลาสามปี และสามปีให้หลัง จักรพรรดินีสัตว์อสูรผู้นี้จะไม่เข้ามาแทรกแซงพวกเจ้าอีกต่อไป ว่าอย่างไรล่ะ?”
สามปี!
เจ้าอาวาสเฒ่าต้องการปกป้องเจียงอี้เป็นเวลาสามปีสุ่ยโย่วหลานก็ต้องการปกป้องเจียงอี้สามปี และตอนนี้จักรพรรดินีสัตว์อสูรก็ยังต้องการปกป้องเจียงอี้สามปีอีกเช่นกัน?
ยิ่งไปกว่านั้นจักรพรรดินีสัตว์อสูรยังประกาศอีกว่าสามปีให้หลัง นางจะไม่เข้ามาแทรกแซงอีก บุคคลที่มีอิทธิพลนั้นคงจะเลือกสิ่งที่นางกล่าวออกมาอย่างชาญฉลาดและจะไม่กลับมาทวนคำพูดของนางอีกอย่างแน่นอน
ทุกๆคนต่างเกิดความลังเลสามปีนั้นไม่ใช่เวลานาน และสามปีให้หลัง พวกเขาก็ยังคงเดินทัพไปทางใต้และกำจัดเจียงอี้ได้! ความแข็งแกร่งของเจียงอี้นั้นไม่มีทางที่จะทะยานขึ้นไปมากมายภายในเวลาเพียงสามปีเช่นกัน เขาจะมีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้นและมันก็คงน่าตื่นตามากแล้วหากเขาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวได้ และหากเขาต้องการที่จะทะลวงสู่ขอบเขตจินกัง เขาจะต้องเข้าใจรูปแบบเต๋าสวรรค์ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเข้าใจได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
เจ้าสำนักแห่งสำนักมังกรเวหาผู้ถูกตัวตนของจักรพรรดินีสัตว์อสูรตรึงอยู่ทำให้เขาทั้งรู้สึกอับอายและโกรธแค้นเขามองจักรพรรดินีสัตว์อสูรอย่างเยือกเย็นและถามว่า “หากเราไม่เห็นแก่หน้าเจ้า…..จักรพรรดินีสัตว์อสูรพร้อมที่ทำลายสัญญาเลือดและเข้าแทรกแซงเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งหรือ?”
“ฮึฮึ!”
จักรพรรดินีสัตว์อสูรหัวเราะเบาๆซึ่งนางงดงามมากจนแทบจะถล่มเมืองทั้งเมืองได้จากนั้นนางก็พูดเบาๆ “หากแม้ว่าจักรพรรดินีผู้นี้จะเข้าไปแทรกแซง และเจ้าจะทำอะไรได้? ไม่ใช่ว่าจักรพรรดินีกำลังพูดกับพวกเจ้าอย่างอ่อนข้อให้หรือ แต่ถ้าหากข้าปลดปล่อยพลังเต็มที่ นอกเหนือจากหญิงสาวแห่งเกาะดาวตกแล้ว จะไม่มีพวกเจ้าคนใดสามารถทนฝ่ามือของจักรพรรดินีผู้นี้ได้แม้แต่ฝ่ามือเดียว! หากพวกเจ้าไม่เชื่อ…เช่นนั้นก็ลองดูได้ หากมีผู้ใดสามารถรับมือฝ่ามือของข้าผู้นี้ได้และไม่ตาย จักรพรรดินีผู้นี้จะถอนตัวทันที!”
เผด็จการ!บ้านัก!
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปในทันทีแต่ดวงตาของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความอัปยศและความเจ็บปวดรวดร้าว สัตว์อสูรนั้นพูดเช่นนี้กับผู้เชี่ยวชาญเผ่าพันธุ์มนุษย์และกองทัพนับล้านหรือ? ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะท้าทายแม้กระทั่งบรรพบุรุษเฒ่าจากจักรวรรดิมังกรเวหาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากนาง ใครจะกล้าทิ้งชีวิตของพวกเขากัน?
“มันก็แค่สามปี!”
จักรพรรดินีสัตว์อสูรหัวเราะออกมาอย่างไม่แยแสและพูดเบาๆ“สามปีก็เป็นเหมือนเพียงการสะบัดนิ้วของพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว ว่ายังไงล่ะ? พวกเจ้ากลัวเจียงอี้ในอีกสามปีให้หลังหรือ? จะไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านเขาได้? มันเหมือนเมื่อเขาบ่มเพาะพลังแล้วพลังของพวกเจ้าจะลดลงอย่างนั้นล่ะ! เจียงอี้อายุเพียงสิบเจ็ดปีเองใช่ไหมล่ะ? ฮึฮึ!”
เสียงหัวเราะให้ท้ายของนางนั้นเปรียบเสมือนความเจ็บปวดที่แทงเข้าไปในใจของพวกเขาดวงตาของเจ้าสำนักหยูกะพริบอยู่สองสามครั้งก่อนที่จะถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “จักรพรรดินีสัตว์อสูร,นายหญิงแห่งหอดาราสุ่ยเยว่, เจ้าอาวาสเหยียนเส่อ สามปีให้หลังพวกเจ้าจะยอมวางมือใช่หรือไม่? หากพวกเจ้าว่าอย่างนั้น เช่นนั้นข้าก็จะรอสามปี ข้าก็อยากจะเห็นมันเหมือนกัน ไอ้เด็กนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน!”
จักรพรรดินีสัตว์อสูรพยักหน้าและคนอื่นๆก็เช่นกันขณะที่จูเก๋อชิงหยุนแสดงความอึดอัดใจออกมาเขาไม่ได้บอกว่าจะปกป้องเจียงอี้เพียงแค่สามปี เขาไม่เชื่อว่าเจียงอี้จะสามารถพัฒนาพลังอย่างก้าวกระโดดและทะลวงขอบเขตได้ในเวลาเพียงสามปี อย่างไรก็ตาม….เขาจะทำอะไรในสถานการณ์เช่นนี้ได้อีก? เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกัดฟันตอบว่า “ก็ได้ สามปีให้หลังข้าก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเช่นกัน!”
“เอาล่ะ!”
เจ้าสำนักหยูจ้องไปที่เจียงอี้และพูดอย่างเยือกเย็น“เจียงอี้ เราจะรอเจ้า อีกสามปีอาณาจักรต้าเซี่ยจะต้องพินาศและหากเจ้ายังต้องการปกป้องอาณาจักรต้าเซี่ยอยู่ ก็อย่าโทษว่าเราโหดเหี้ยม”
ฟึ่บ!
สิ้นคำพูดของเขาเจ้าสำนักหยูก็กลับไปและทิ้งเส้นสีขาวไว้ในทิศทางที่มุ่งตรงไปทางเหนืออย่างรวดเร็ว บรรพบุรุษเฒ่าจากจักรวรรดิมังกรเวหาได้ชำเลืองไปยังจักรพรรดินีสัตว์อสูรด้วยความหวาดกลัวและบินไปทางเหนือโดยไม่ออกความเห้นใดๆ
“คึ๊กคึ๊ก! เจียงอี้ อีกสามปีเราจะพบกันใหม่! ถอนกำลัง!”
ขันทีเฒ่าหลินฟื้นฟูแก่นแท้พลังสำคัญของเขาครู่หนึ่งก่อนที่จะเหินกลับไปอย่างเฉื่อยชาในขณะที่กองทัพของอาณาจักรเสินหวู่ก็ถอนทัพออกไปราวกับน้ำลง
ฟึ่บฟุ่บ!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังทั้งหมดก็ถอนตัวกลับไปทหารนับแสนนายทั้งหมดก็ถอยทัพกลับไปและหายลับเส้นขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“พระเจ้านี่ท่านส่งเจียงอี้มาช่วยเหลือประชาชนอาณาจักรต้าเซี่ยหรือ?”
เมื่อแม่ทัพเฒ่าจากอาณาจักรต้าเซี่ยเห็นกองทัพทั้งหมดหายไปดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตันขณะที่ร่างกายของเขาสั่นไหวไม่หยุด มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถหันหลังกลับไปได้แต่กลับหันหลังหลับไปเพราะการปรากฏตัวของเจียงอี้!
“สามปี!”
แม่ทัพเฒ่ามองไปยังร่างที่สง่างามที่อยู่ในสนามรบและเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าของเขาเขาพึมพำเบาๆ “เจ้าหนู หากเจ้าไม่สามารถท้าทายอำนาจสวรรค์ได้ในอีกสามปี อาณาจักรต้าเซี่ยทั้งหมดจะพินาศไปพร้อมกับเจ้า และการตายไปพร้อมกับเจ้าจะ……เป็นเกียรติที่สูงสุดในชีวิตของพวกเรา!”