เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 345 ส่งเจ้าไปให้ไกลเท่าที่จะทำได้
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 345 ส่งเจ้าไปให้ไกลเท่าที่จะทำได้
บทที่ 345 ส่งเจ้าไปให้ไกลเท่าที่จะทำได้
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
“อ๊ะ?”
เมื่อเจียงอี้ถูกปลุกขึ้นมาเขาก็เห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้าของผู้อาวุโสเฮ่อและแขนของเขาก็เห็นบาดแผลที่สามารถมองเห็นลึกเข้าไปยังกระดูกนั่นทำให้เจียงอี้รู้สึกผิดทันที เขาได้พักผ่อนนานอยู่ ความแข็งแกร่งและพลังงานได้รับการเติมเต็มเล็กน้อย เขาโผบินไปด้านหน้าและตะโกนออกมาทันที “ผู้อาวุโสเฮ่อ ท่านพักเถิด ให้ข้าจัดการต่อเอง”
“ก็ได้!”
ผู้อาวุโสเฮ่อไม่สามารถทนความเหนื่อยล้าได้อีกต่อไปหากเขาใช้การโจมตีแบบปกติมันอาจจะไม่เป็นอะไรแต่นี่เขาใช้การโจมตีรูปแบบเต๋าอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้พลังจิต ความแข็งแกร่งของเขาลดลงเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสเฮ่อไม่ยอมลดการป้องกันของเขาลงตราบใดที่เจียงอี้ยังไม่สามารถปลดปล่อยเจตจำนงสังหารได้ เขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนที่กันได้ทันที ความแข็งแกร่งโดยรวมของเจียงอี้นั้นแตกต่างกับเขาอย่างมากและหากเจียงอี้ไม่สามารถทนได้นาน ผู้อาวุโสเฮ่อก็จะเป็นผู้จู่โจมต่อเอง
“ฮู่ฮู่!”
วิธีการโจมตีของเจียงอี้นั้นทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสเฮ่อเบิกกว้างขึ้นเจียงอี้ปลดปล่อยเพลิงโลกาออกมาจากไข่มุกวิญญาณเพลิง เขาไม่กล้าปล่อยเพลิงโลกาให้หุ้มรอบตัวเขา ไม่เช่นนั้นผู้อาวุโสเฮ่ออาจทนความร้อนไม่ได้ เขาจะผลักฝ่ามือของเขาออกไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและใช้เพลิงโลกาที่พุ่งออกมาจากไข่มุกวิญญาณเพลิงราวกับอสรพิษเพลิงที่พุ่งออกไปด้านหน้า
ฟึ่บฟั่บ!
ความร้อนของเพลิงโลกานั้นโหดเหี้ยมและโหดร้ายนักเมื่อมันปกคลุมสิ่งมีชีวิตตาแดงข้างหน้าสองตัว พวกมันทั้งสองตัวก็กลายเป็นฝุ่นไปในทันที ความโหดร้ายของเปลเพลิงนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้อาวุโสเฮ่อตกใจแล้ว
อสรพิษเพลิงแต่ละตัวจะสามารถแผดเผาสิ่งมีชีวิตตาแดงได้ประมาณสามถึงสี่ตัวและเจียงอี้ก็จะไม่หยุดปลดปล่อยเพลิงโลกาอสรพิษเพลิงนั้นเหมือนปีศาจร่ายรำซึ่งเป็นฉากที่น่ากลัวมาก
“ฮู่ฮู่!”
ผู้อาวุโสเฮ่ออยู่ห่างจากเจียงอี้เพียงสามเมตรแม้ว่าเจียงอี้จะปล่อยเพลิงโลกาออกมาทันที แต่เขาก็ยังไม่สามารถทนกับความร้อนได้ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังลุกเป็นไฟ เขาต้องใช้ความอดทนอย่างมากและหมุนเวียนแก่นแท้พลังไปในร่างกายของเขาและลดความรู้สึกแสบร้อนในร่างกายของเขา
โชคดีที่เจียงอี้สามารถรับมือกับการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตตาแดงส่วนใหญ่และผู้อาวุโสเฮ่อก็ไม่ต้องปล่อยการโจมตีรูปแบบเต๋าอีกต่อไปมันทำให้เขาได้มีเวลาพักผ่อนและคลายความเมื่อยล้าในร่างกายและจิตใจของเขาได้บ้าง
พวกเขาเดินช้าเหมือหอยทากส่วนเพลิงโลกาของเจียงอี้อาจดูโหดร้ายแต่ปากของพวกเขาก็เผยความเจ็บปวดออกมา เจียงอี้อาจจะมีเพลิงโลกามากมาย แต่มันหมดเร็วเกินไปซึ่งอาจจะหมดในครึ่งวัน ถึงตอนนั้นแล้วเขาจะใช้อะไรรับมือกับการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตตาแดงที่มากมายเหล่านี้ล่ะ? ผู้อาวุโสเฮ่อไม่มีทางเลือกนอกจากออกมาเป็นผู้โจมตีอีกครั้ง
ยังเหลืออีกหกสิบกิโลเมตรด้วยความเร็วเท่านี้ เราคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน เฮ้อออ…เราจะไปถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายไหมนะ?
ผู้อาวุโสเฮ่อเงยหน้าขึ้นมองค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ห่างออกไปซึ่งแออัดไปด้วยสิ่งมีชีวิตตาแดงไปทั่วทั้งหุบเขาใจของเขานั้นมีแต่ความสิ้นหวัง แต่ดวงตาของเขาก็ยังตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะต้องตาย เขาก็จะต้องส่งเจียงอี้ไปให้ถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายให้ได้!
เจียงอี้รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการปล่อยเพลิงโลกาและไปข้างหน้าต่อไปแล้วก็คงไม่มีวิธีอื่น จนกว่าจะสิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้าย พวกเขาจะไม่มีวันยอมแพ้
ฟึ่บฟั่บ!
พวกเขาทั้งสองเริ่มการเดินทางที่น่าเบื่อหน่ายและเมื่อยล้าครึ่งวันต่อมา เจียงอี้ใช้เพลิงโลกาหมดไปมากกว่าครึ่งแล้ว และเขาก็สามารถโจมตีได้อีกเพียงสิบครั้งเท่านั้น เขาไม่กล้าปลดปล่อยเพลิงโลกาอีกต่อไป เมื่อเพลิงโลกาดับไปอย่างสมบูรณ์เขาจะสูญเสียสิ่งป้องกันที่น่ากลัวนี้ หากเขาจะต้องเผชิญอันตรายใดๆเขาอาจจะต้องตายอย่างแน่นอน
“นายน้อยอี้ให้ข้าต่อเถอะ!”
เมื่อผู้อาวุโสเฮ่อเห็นว่าเจียงอี้ลังเลเพียงใดเขาก็รู้ว่าเพลิงโลกาในไข่มุกวิญญาณเพลิงของเจียงอี้นั้นกำลังจะหมดลงแล้ว หลังจากพักครึ่งวันเขาก็ยังพอได้ฟื้นพลังขึ้นมาบ้าง เขาเหินไปข้างหน้าและกวัดแกว่งศาสตราวุธระดับสวรรค์ที่กลายเป็นแสงดาบกว่าร้อยสาย เจียงอี้ต้องถอยหลบมาและหากเขายังคงปล่อยเพลิงโลกาต่อไป ผู้อาวุโสเฮ่ออาจจะถูกไฟคลอกตายแทน
เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อได้ก้าวไปเกือบยี่สิบกิโลเมตรแล้วและเหลืออีกสี่สิบกิโลเมตร หากนี่เป็นสถานการณ์ปกติ พวกเขาจะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวในการไปยังจุดหมาย แต่ในตอนนี้ความเร็วนั้นลดลงไปเป็นร้อยเท่าและแม้ว่าพวกเขาจะเดินไปด้วยความเร็วที่สูงที่สุดแล้วก็ยังกินเวลาไปอีกวันครึ่งในการเข้าไปใกล้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้
“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสเฮ่อปล่อยทุกสิ่งออกมาหมดแล้วเขาใกล้จะพังทลาย เขาได้ปล่อยการโจมตีรูปแบบเต๋าและเพิ่มความเร็วอย่างสุดกำลังที่เล็กน้อยนี้เมื่อตอนที่เดินหน้าไปด้านหน้าอย่างสิ้นหวัง เจียงอี้กำลังตามหลังเขาไปและคราวนี้ เขาไม่ได้หลับตา เขายังคงจดจ่ออยู่กับการเข้าถึงรูปแบบเต๋าอยู่
เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้อาวุโสเฮ่อคงไม่สามารถทนไปได้ถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายหากเขาไม่สามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋าของผู้อาวุโสเฮ่อได้ เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถมีชีวิตรอดไปได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสเฮ่อกำลังจะหมดแรงลงไปจนสิ้น
แม้ว่าเขาจะรู้สึกในใจว่ามันจำเป็นเขาต้องบังคับตัวเองให้สงบลงและพยายามเข้าถึงรูปแบบเต๋าวายุ การโจมตีของเขานั้นตรงเกินไปและมันยากที่จะจัดการกับสิ่งมีชีวิตตาแดงที่เข้ามาทุกสารทิศ ส่วนการโจมตีรูปแบบเต๋าของผู้อาวุโสเฮ่อนั้นมีความสามารถในการสังหารหมู่ซึ่งสามารถรับมือกับสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีรูปแบบเต๋านี้มันมีกลไกอย่างไรกัน?ลมเพียงสายเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นร้อยสายได้อย่างไร? ได้อย่างไรกัน?
เจียงอี้วิเคราะห์ไตร่ตรองและคิดในใจอย่างต่อเนื่องและจิตใจของเขาก็หมุนไปอย่างรวดเร็ว เขาละเลยผู้อาวุโสเฮ่อไปอย่างสิ้นเชิงและเหวี่ยงดาบมังกรเพลิงเป็นครั้งคราวเหมือนเครื่องจักร และทำลายสิ่งมีชีวิตที่โผล่มาด้านหลังเขา
ผู้อาวุโสเฮ่อก็ไม่ได้สนใจเจียงอี้เช่นกันตราบใดที่เจียงอี้ยังสามารถระวังหลังและรักษาระยะไว้ได้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้เขาได้เข้าใจทุกอย่างที่เขาต้องการไป แน่นอนว่าในใจของเขาไม่ได้มั่นใจในเจียงอี้นักหรอก ตัวเขาเองนั้นกว่าจะเข้าถึงรูปแบบเต๋านี้ได้ก็ใช้เวลาไปตั้งหลายปี หากเจียงอี้สามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋านี่ได้ภายในวันเดียว เขาก็ยินดีตายโดยการพุ่งชนเต้าหู้เช่นกัน
เจียงอี้นั้นก็ไม่มั่นใจในตัวเองเช่นกันหลังจากผ่านไปแปดถึงสิบชั่วโมง เขาก็ยังไม่สามารถจับใจความอะไรได้เลย เมื่อก่อนนั้น เขาใช้เวลากว่าสองเดือนก็ยังไม่เข้าใจเพลงดาบเงาวายุได้ เขาไปเข้าใจมันจนสำเร็จได้ในป่าอาถรรพ์ในช่วงสงครามราชอาณาจักรเมื่อตอนที่เขาบังเอิญเห็นจอมยุทธอาณาจักรเทียนเซวี่ยนปล่อยวิชาอาคมออกมา มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเข้าถึงรูปแบบเต๋าได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
“ฮู่ฮู่!”
ลมหายใจของผู้อาวุโสเริ่มผ่อนอย่างไม่เป็นจังหวะใบหน้าชราของเขานั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว แต่อย่างไรก็ตาม การโจมตีของเขาก็ยังคงรุนแรงและเท้าของเขาก็ยังคงก้าวไปอย่างหนักแน่นขณะที่พยายามที่จะฝ่าออกจากวงล้อมนี้
เจียงอี้ยังคงทำความเข้าใจต่อไปแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แต่ในเวลานี้เขาจะทำอะไรได้อีก? เขาไม่สามารถรับมือกับการจู่โจมที่โหดร้ายนี้และจะได้รับบาดเจ็บอย่างรวดเร็วและถูกสังหารในภายหลังได้
“กู่กู่!”
สิ่งมีชีวิตตาแดงกรูเข้ามาทุกสารทิศราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟพวกมันไม่มีวิญญาณหรือความกลัวใดๆและตรงเข้ามาราวกับเครื่องจักร แสงที่แวววับที่กระทบกรงเล็บอันแหลมคมของพวกมันนั้นมีแสงแห่งความเยือกเย็นที่ทำให้ใจสั่นเทา พวกมันเป็นเหมือนกับใบมีดที่แหลมคมและหากพวกมันสามารถเข้ามาใกล้ได้เมื่อไหร่ เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อก็คงจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆทันที
ผู้อาวุโสเฮ่อพยายามดิ้นรนต่อสู้กับเส้นทางนี้ขณะที่เขาก้าวไปอย่างช้าๆกับเจียงอี้จนผ่านไปสองชั่วโมง หกชั่วโมง สิบสองชั่วโมง……
พวกเขาเข้าใกล้ค่ายกลเคลื่อนย้ายมากขึ้นจากสี่สิบกิโลเมตร สามสิบกิโลเมตร ยี่สิบห้ากิโลเมตร ยี่สิบกิโลเมตร….
ผู้อาวุโสเริ่มหายใจถี่ขึ้นและย่างก้าวของเขาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆร่างของเขาสั่นเล็กน้อยและเห็นได้ชัดว่าใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว หากเขายังทำเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ทำไมลมถึงสามารถแยกออกเป็นสายได้?ทำอย่างไรมันถึงจะแยกออกมาได้กัน? รูปแบบเต๋าวายุนี้มีกลไกอย่างไรกันนะ?
เจียงอี้ยังคงไม่เข้าใจและเขาจะปล่อยมังกรเพลิงออกมาเป็นครั้งคราวโดยอัตโนมัติจิตใจของเขาเกิดคำถามมากมายและหากเขาแก้ปัญหาไม่ได้ เขาจะไม่สามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋านี้ได้
“พรึบ!”
ผู้อาวุโสเฮ่อที่อยู่ด้านหน้าพ่นเลือดสดออกมาทันทีขณะที่ร่างกายของเขาหยุดก้าวเดินต่อเจียงอี้ที่ตามหลังมาไม่ทันสังเกตและชนเข้ากับผู้อาวุโสเฮ่อเข้าอย่างจังจึงทำให้เขาถูกดึงกลับมาจากความคิดเหล่านั้น
“อ๊ะ?ผู้อาวุโสเฮ่อ ทำไมท่านบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้? ทำไมไม่บอกข้าเลย?”
ทันใดนั้นดวงตาของเจียงอี้ก็เบิกกว้างและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมือ ขา ไล่และหลังของผู้อาวุโสเฮ่อเต็มไปด้วยรอยช้ำและเขากลายเป็นผู้อาบเลือด เจียงอี้ที่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของเขาในการทำความเขาใจกับรูปแบบเต๋าเพิ่งตระหนักได้ในตอนนี้
“ฮ่าๆ!”
ผู้อาวุโสเฮ่อหันกลับมาและยิ้มให้ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือดและเขาก็ยิ้มอย่างน่าสังเวช เขาชี้ไปที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสิบแปดกิโลเมตรและพูดว่า “นายน้อยอี้ ข้าเกรงว่าผู้เฒ่าเช่นข้าจะมาส่งท่านได้เพียงเท่านี้ ท่านต้องพยามยามมีชีวิตรอดและออกจากพื้นที่ต้องห้ามนี้ให้ได้นะขอรับ เมื่อนั้นแล้วผู้เฒ่าเช่นข้าก็คงจะตายอย่างสงบได้แล้ว!”
ฟึ่บ!
หลังจากเขาพูดจบร่างกายของผู้เฒ่าเฮ่อก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายอีกครั้ง เขากวัดแกว่งศาสตราวุธระดับสวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเขาเพื่อช่วยส่งเจียงอี้ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้