เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 346 รูปแบบเต๋าระดับกลาง
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 346 รูปแบบเต๋าระดับกลาง
บทที่ 346 รูปแบบเต๋าระดับกลาง
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
“แจกันเขียวพิสุทธิ์!”
แจกันใบเขียวปรากฏบนมือของเจียงอี้ ในขณะเดียวกันเขาก็โคจรแก่นแท้พลังเพื่อเปิดใช้มัน หลังจากนั้นแสงสีเขียวที่ดูบริสุทธิ์ก็เข้าห่อหุ้มร่างของเฮ่อเถี่ยซู่ไว้
“ผู้อาวุโสเฮ่อ ท่านเข้ามาพักในนี้ก่อน ที่เหลือปล่อยให้ข้าจัดการเอง!”
เดิมทีชายชราต้องการที่จะต่อต้าน แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเด็ดขาดของเจียงอี้ เขาก็กัดฟันแน่นและปล่อยให้ร่างกายถูกพลังลึกลับดูดเข้าไปในแจกันเขียวพิสุทธิ์
แต่ทันใดนั้นเอง…
สิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น ในวินาทีต่อมาหลังจากที่ร่างของเฮ่อเถี่ยซู่หายเข้าไปในแจกัน จู่ๆร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นที่ด้านนอกอีกครั้ง!
“เกิดบ้าอะไรขึ้น?!”
เจียงอี้ตกตะลึง แต่หลังจากที่ครุ่นคิดได้ไม่นาน เขาก็มั่นใจว่ามันจะต้องเป็นเพราะอาคมยับยั้งของสถานที่แห่งนี้เป็นแน่ มันไม่อนุญาตให้มิติพิเศษอื่นๆปรากฏในที่ของมันรวมไปถึงมิติพิเศษภายในแจกันเขียวพิสุทธิ์ด้วย
“ผู้อาวุโสเฮ่อ ท่านต้องเชื่อใจข้า! ตามข้ามาอย่าให้ห่าง!”
เขานำเม็ดยาฟื้นฟูขึ้นมาและยัดใส่ปาก จากนั้นก็กวัดแกว่งดาบเพื่อปลดปล่อยการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ฟึ่บ!
แม้ว่าเขาจะฟาดฟันกับเหล่าศัตรูที่กำลังกรูกันเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ แต่เจียงอี้ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ใจความปลอดภัยของผู้อาวุโสเฮ่อ
หลังจากที่ดิ้นรนมาชั่วครู่ใหญ่ เขาก็สามารถเว้นระยะห่างจากพวกสิ่งมีชีวิตตาแดงได้สำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน แก่นแท้พลังของเขาก็ถูกเผาผลาญไปเป็นจำนวนมาก เขาเริ่มสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าของร่างกายและไม่รู้ว่าตนเองจะทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
เจียงอี้ได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ทางด้านของผู้อาวุโสเฮ่อก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล หากไม่มีเวลามากพอให้ชายชราผู้นี้ได้พักฟื้น เกรงว่าอีกไม่นานเขาคงจะได้ไปคุยกับยมบาลในยมโลกแน่ๆ
ความจริงแล้วเฮ่อเถี่ยซู่หาได้กลัวความตายไม่ แต่ที่เขาต้องการจะฟื้นฟูพลังให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเหลือเจียงอี้ในยามวิกฤต
“กู่ กู่!”
หลังจากที่ผ่านไปสองชั่วโมง สิ่งมีชีวิตตาแดงก็โถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เป็นไปตามคาด ความเร็วในการโจมตีของเจียงอี้นั้นไม่เร็วพอ สุดท้ายเขาก็พลาดท่าและโดนหนึ่งในพวกมันใช้กรงเล็บเฉือนไหล่ซ้ายจนได้
“ไสหัวไป!”
เขารีดเค้นแก่นแท้พลังไว้ที่มืออีกข้างพร้อมกับกระแทกฝ่ามือระเบิดแก่นแท้ใส่สิ่งมีชีวิตตาแดงตนนั้น วินาทีต่อมาแขนของมันก็แหลกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับร่างของมันที่ถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นออกไปและชนเข้ากับอีกสองตัวด้านหลัง
แต่เพียงแค่พริบตาเดียว ก็มีสิ่งมีชีวิตตาแดงตัวใหม่เข้ามาแทนที่ สถานการณ์ในตอนนี้แทบจะอยู่เหนือการควบคุมของเจียงอี้ไปแล้ว
“นายน้อยอี้ หลบไป!”
ผู้อาวุโสเฮ่อกู่คำรามและกวัดแกว่งศาสตราวุธในมือเพื่อกำจัดเหล่าศัตรูที่กำลังรายล้อมเจียงอี้ไว้ แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ต้องกระอักเลือดออกมาอีกครั้งราวกับร่างกายได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว
“ผู้อาวุโสเฮ่อ!”
ดวงตาของเจียงอี้ระส่ำระส่าย แต่ก็ไม่อาจที่จะละความสนใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ เขาปลดปล่อยทุกการโจมตีออกมาเพื่อสกัดกั้นเหล่าศัตรูที่โถมเข้ามาจากทุกทิศทาง
ตอนนี้เหลืออีกเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้นก่อนที่จะไปถึงค่ายกลเคลื่อนย้าย เจียงอี้ยังคงเชื่อว่าตราบเท่าที่ไปถึงยังที่แห่งนั้น พวกเขาทั้งสองก็จะปลอดภัย อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดเลยว่าการข้ามผ่านระยะทางเพียงแค่สามกิโลเมตรจะกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเย็นถึงเพียงนี้
มีหลายครั้งที่เจียงอี้เกือบจะต้องทิ้งชีวิตไว้ แต่โชคดีที่ผู้อาวุโสเฮ่อจะปล่อยการโจมตีออกมาได้ทันเพื่อช่วยชีวิตเขา แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ลง
“นายน้อยอี้! ข้าไม่ไหวแล้ว ท่านรีบไปซะ!”
เฮ่อเถี่ยซู่กล่าวพลางกระอักเลือดคำโต แต่เขาก็ยังคงฝืนยิ้มให้กับเด็กหนุ่มราวกับจะบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
“อ๊ากกกกก!”
เจียงอี้คำรามและตะเกียกตะกายที่จะกลับไปหาผู้อาวุโสเฮ่อพร้อมกับกล่าว
“ผู้อาวุโสเฮ่อ อดทนไว้ ข้าจะไม่ทิ้งท่าน หากท่านตาย พวกเราก็จะตายไปด้วยกัน!”
“โง่เง่า!”
ผู้อาวุโสเฮ่อตะโกนกลับมาด้วยความโกรธและพยายามที่จะปลดปล่อยแก่นแท้พลังเพื่อโจมตีเพราะสภาพของเขาในตอนนี้ไม่อาจที่จะใช้การโจมตีรูปแบบเต๋าได้
“รีบไปเร็วเข้านายน้อยอี้! หากท่านดื้อรั้นเช่นนี้ ข้าอาจจะต้องตายอย่างสูญเปล่า! เพราะฉะนั้นรีบไปเสียเถิด!”
“กู่ กู่!”
“กู่ กู่!”
ด้วยสภาพของเฮ่อเถี่ยซู่ในตอนนี้ เขาแทบจะพังทลายได้ทุกวินาที มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมีชีวิตรอดกลับไป
“อ๊ากกกกกก!”
เมื่อเห็นฝูงสิ่งมีชีวิตตาแดงที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน เจียงอี้ก็คำรามออกมาด้วยความสิ้นหวัง ในเวลาเดียวกันเขาก็หันไปมองค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักด้วยสายตาหลากอารมณ์
สิ้นหวัง แค้นใจ… ไม่เป็นธรรม
ไม่ใช่แค่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้อาวุโสเฮ่อได้เท่านั้น แม้แต่ตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ดูเหมือนว่าหุบเขาแห่งนี้จะกลายเป็นหลุมฝังศพของพวกเขาไปเสียแล้ว
ฟิ้วว!
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆเสียงของสายลมก็ดังกระทบหูของเจียงอี้ มันราวกับว่าสายลมสายนี้พัดผ่านมาจากที่ห่างไกลและก่อตัวขึ้นเป็นเสียงที่มีความพิเศษเฉพาะตัว อีกทั้งยังฟังดูเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก
“สายลม?”
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเจียงอี้ก็สั่นระริก เสียงลมที่ก้องอยู่ในหูทำให้ภายในใจของเขาเกิดภาพบางอย่าง สายลมพัดผ่านก้อนหินที่อยู่บนหน้าผาและแยกออกเป็นสองสาย…
วินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปถึงภายใน ในวิกฤตเช่นนี้ เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองสามารถสัมผัสได้ถึงต้นกำเนิดและแก่นแท้ของสายลมโดยบังเอิญ!
“สายลมนั้นไร้ซึ่งรูปร่างและมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน มันสามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันหรือแยกออกจากกันได้อย่างอิสระ”
“ไม่สิ มันยังไม่ถูกต้อง…”
“ทำไมลมถึงต้องถูกแบ่งแยก? มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งและเพียงแค่พัดผ่านจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งก็เท่านั้น… ไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องแยกสายลมออกจากกัน ข้าเพียงแค่ต้องหยิบยืมพลังของมันเพื่อที่จะใช้ในการนำทางแก่นแท้พลัง… ด้วยวิธีนี้ ข้าสามารถปลดปล่อยการโจมตีได้อย่างไร้ขีดจำกัด!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า มันเป็นเช่นนี้เอง! ในที่สุดข้าก็เข้าใจเต๋าวายุอีกรูปแบบหนึ่งแล้ว!”
เจียงอี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ภายในเสียงเหล่านั้นสามารถสัมผัสได้ถึงความปลื้มปิติสุดขีด
แม้ว่าจะฟังดูนาน แต่แท้จริงแล้วกระบวนการทั้งหมดกลับใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น!
อีกฝั่งหนึ่ง เฮ่อเถี่ยซู่ที่จ้องมองไปยังฝูงสิ่งมีชีวิตตาแดงที่กำลังกรูกันเข้ามาก็หลับตาลงด้วยความสิ้นหวังและพร้อมที่จะจากโลกนี้แล้ว แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเจียงอี้จนทำให้ต้องลืมตาขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ
แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องตกตะลึงราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ!
ดาบมังกรเพลิงในมือของเจียงอี้ส่องประกาย แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ปลดปล่อยมังกรเพลิงทั้งสองตัวออกมา แต่กลับเป็นลำแสงที่ถูกควบกลั่นมาจากแก่นแท้พลังสีแดงเพลิงที่ถูกแยกออกมานับหมื่นสาย!
นอกจากนี้ ลำแสงเหล่านั้นไม่ได้โจมตีเป็นแนวตรง แต่กลับสามารถโคจรไปได้ทั่วทุกสารทิศราวกับมังกรเพลิงตัวน้อยที่กำลังโกรธแค้นและต้องการจะกวาดล้างพวกสิ่งมีชีวิตตาแดงให้สิ้นซาก
ในขณะเดียวกัน มังกรเพลิงตัวน้อยเหล่านี้ก็แทบจะมีกลิ่นอายที่ทรงพลังไม่ต่างอะไรไปจากมังกรเพลิงสองตัวที่เจียงอี้เคยใช้ก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
มังกรเพลิงนับหมื่นกำลังร่ายรำอยู่บนท้องฟ้า!
มันช่างเป็นภาพที่งดงามและน่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้!
ปัง! ปัง! ปัง!
มังกรเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ฝูงสิ่งมีชีวิตตาแดงอย่าไร้ความปรานี ไม่ว่าจะเป็นแขนขาหรือส่วนลำตัวก็ถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี
หลังจากที่ระเบิดการโจมตีออกมา ศัตรูในรัศมีสามสิบเมตรรอบกายของเจียงอี้ก็ถูกบดขยี้ในพริบตาและเหลือไว้เพียงร่างของเขาที่อยู่ตรงศูนย์กลาง
“นี่… นี่…”
เฮ่อเถี่ยซู่แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ร่างของเขาสั่นเทาไม่หยุดในขณะที่มองไปยังมังกรเพลิงตัวน้อย จากนั้นก็พึมพำกับตัวเองราวกับคนเสียสติ
“มะ… มันเป็นไปได้อย่างไร?! พลังระดับนี้ไม่ใช่พลังของรูปแบบเต๋าระดับต่ำแล้ว มันจะต้องเป็นระดับกลางอย่างแน่นอน! ไม่น่าเชื่อเลยว่านายน้อยอี้จะทำได้จริงๆ ดูเหมือนว่าแม้กระทั่งอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างสุ่ยโย่วหลานก็คงไม่มีความสามารถขนาดนี้เลยกระมัง?”