เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 350 สัตว์กลายพันธุ์
บทที่ 350 สัตว์กลายพันธุ์
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
ไร้ซึ่งปาฏิหาริย์!
แม้ว่าหินวิญญาณเพลิงจะทะลวงขึ้นไปบนเพดานได้หลายเมตร แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะสร้างเป็นทางออก ในขณะเดียวกันสายตาของเจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อก็จับจ้องไปที่จุดนั้นด้วยความสิ้นหวังและท้อแท้
นี่พวกเราจะต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตจริงๆ?!
วืดดดด!
แต่ทันใดนั้นเอง ห้องโถงก็เกิดการสั่นไหวซึ่งทำให้สีหน้าของพวกเขาทั้งสองย่ำแย่ลงไปอีก เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่เจียงอี้ได้ทำลายอาคมยับยั้งไปบางส่วน มันได้ไปกระตุ้นการทำงานของกลไกลบางอย่าง
“พวกเราจบเห่แล้ว!”
ลำแสงสีขาวสองสายถูกยิงลงมาและห่อหุ้มร่างของเจียงอี้กับผู้อาวุโสเฮ่อเอาไว้ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ขัดขืน จู่ๆร่างของพวกเขาก็หายวับไปจากตำแหน่งเดิม
“เอ่อ…”
วินาทีต่อมา พวกเขาก็ถูกส่งตัวมายังสถานที่อีกแห่งหนึ่งและใช้สายตาสำรวจบริเวณโดยรอบด้วยความกังวล… แต่พริบตาต่อมาสีหน้าของพวกเขาก็บังเกิดความยินดีอย่างถึงที่สุด
พวกเขาถูกเคลื่อนย้ายมายังสถานที่ใหม่ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นที่ราบน้ำแข็ง ด้วยการกวาดมองเพียงครั้งเดียวก็สามารถมองเห็นหิมะที่กำลังตกหนักพร้อมเทือกเขาสีขาวที่ทอดยาวออกไป
“พวกเราหนีออกมาจากเขาวงกตได้แล้ว? ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราหนีออกมาได้แล้ว!”
เดิมทีหนึ่งเด็กหนุ่มหนึ่งชายชราต่างก็คิดว่าพวกเขาจะได้ไปทัวร์นรกเสียแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ เจียงอี้เอื้อมมือไปสัมผัสเกล็ดหิมะที่กำลังตกลงมาและเฝ้าดูมันละลายในมือ
แม้ว่ากายเนื้อของเขาจะรู้สึกหนาวสะท้าน แต่ภายในหัวใจของเขากำลังลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความสุข
“ฟู้วววว!”
พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันพร้อมกับถอนหายใจซึ่งกลายเป็นไอสีขาวออกมา จากนั้นพวกเขาก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดราวกับต้องการที่จะปลดปล่อยความตึงเครียดทั้งหมดออกมา
“ผู้อาวุโสเฮ่อ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมพวกเราถึงถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่?”
หลังจากที่วิ่งวุ่นไปทั่ว เจียงอี้ที่เพิ่งจะตระหนักได้ก็ถามออกมาด้วยความสงสัย แต่ทางด้านชายชราเองก็ส่ายหัวด้วยความไม่แน่ใจและเอ่ยตอบ
“อาจจะเป็นเพราะตอนที่ท่านทำลายอาคมยับยั้งบนเพดาน มันอาจจะเผลอไปสัมผัสกับค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยบังเอิญจึงทำให้พวกเราถูกส่งมาที่นี่”
“ก็อาจเป็นไปได้”
เจียงอี้พยักหน้า แต่ต่อมาสีหน้าเขาก็ดูเศร้าหมองลง ในอดีตเขาใช้หินวิญญาณเพลิงสิ้นเปลืองเกินไปและทำให้ตอนนี้เขาเหลือเพียงแค่ก้อนเดียวเท่านั้น ในตอนที่ตระหนักได้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหน มันก็สายเกินไปแล้ว
“ไปกันเถอะ!”
เจียงอี้สลัดความเศร้าทิ้งไปและวิ่งต่อไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยเจตจำนงสังหารออกมา เมื่อแน่ใจแล้วว่าที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกลงอาคมไว้ เขาก็รู้สึกยินดีอยู่ไม่น้อย
สัญชาตญาณของเขาบอกว่าหากออกจากที่นี่ได้ พวกเขาจะขึ้นไปยังชั้นที่ห้าโดยตรงและจะสามารถออกจากพื้นที่ต้องห้ามจอมเวทย์ได้ในที่สุด
ผู้อาวุโสเฮ่อวิ่งตามไปอย่างกระชั้นชิด แม้ว่าที่ราบน้ำแข็งอาจจะหนาวเย็นเกินไปบ้าง แต่มันก็ดีกว่าเขาวงกตเป็นไหนๆ
ปังง!
ในขณะที่ทั้งสองวิ่งมาถึงภูเขาน้ำแข็ง ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างขนาดมหึมาของสัตว์อสูรยักษ์ตรงหน้าพวกเขาพร้อมทั้งแผ่กลิ่นอายอันดุร้ายออกมา
สัตว์อสูรตัวนี้ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาว, มีศีรษะคล้ายกับฮิปโป, ส่วนลำตัวนั้นดูคล้ายกับสิงโตและมีหนามแหลมตามข้อต่อแขนขารวมถึงบนศีรษะ
มันมีความสูงถึงสิบห้าเมตรและกว้างสามเมตรเลยทีเดียว เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อที่ยืนอยู่ต่อหน้ามันดูไม่ต่างอะไรไปจากมดตัวกระจ้อย
“มะ มันคือราชันสัตว์อสูรหรือ?!”
ม่านตาของเจียงอี้หดแคบลงขณะที่กล่าวออกมาด้วยความแตกตื่น หากว่าสัตว์อสูรตรงหน้าเป็นชนชั้นราชันจริง เกรงว่าพวกเขาคงจะเจอกับวิกฤตเข้าให้แล้ว
“มันไม่ใช่ราชันสัตว์อสูร แต่น่าจะเป็นพวกกลายพันธุ์!”
ผู้อาวุโสเฮ่อก้าวออกมาด้านหน้า จากนั้นก็ทะยานออกไปพร้อมกับกวัดแกว่งศาสตราวุธระดับสวรรค์ในมือและกล่าวอธิบายในเวลาเดียวกัน
“นายน้อยอี้ ที่ราบน้ำแข็งเวิ้งว้างตั้งอยู่ในอาณาจักรเป่ยหมางและอาณาจักรเป่ยเหลียง สถานที่แห่งนั้นมีสัตว์กลายพันธุ์อยู่มากมายภาย แม้ว่าบางตัวจะมีขนาดใหญ่โต แต่แท้จริงแล้วมันอ่อนแอกว่าสัตว์อสูรที่พวกเราคุ้นเคยอยู่มาก”
“อีกทั้งพวกมันยังไม่มีวิชาอสูร ดังนั้นท่านสามารถสังหารมันโดยไม่ต้องกังวลใดๆ! นอกจากพลังป้องกันที่น่ารำคาญอยู่บ้าง พลังโจมตีของพวกมันเองก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก!”
“เช่นนั้นก็ดี!”
เจียงอี้รู้สึกโล่งใจทันทีที่รู้ว่ามันไม่ใช่ราชันสัตว์อสูร มิฉะนั้นพวกเขาแย่แน่
ปัง! ปัง! ปัง!
ผู้อาวุโสเฮ่อกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่องและทำให้โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นออกจากร่างของสัตว์กลายพันธุ์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการโจมตีของผู้อาวุโสเฮ่อจะทำให้มันได้รับบาดเจ็บและตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา แต่มันก็ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส เห็นได้ชัดเลยว่าพลังป้องกันของมันทำให้แม้แต่นักสู้ชั้นสูงยังต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“โฮกกกกกก!”
สัตว์กลายพันธุ์เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและกู่คำราม ขณะเดียวกันก็พ่นหมอกสีขาวออกจากปาก ร่างของมันอาจจะดูเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งลูกย่อมๆ แต่ทันใดนั้นเองมันก็ใช้ออกด้วยความเร็วสูงสุดและเข้าปะทะกับผู้อาวุโสเฮ่อในพริบตา
“เหอะ! เจ้าเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรตัวกระจ้อยร่อยและมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ขอบเขตเสินโหยวขั้นที่หนึ่งเท่านั้น แต่เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตาเฒ่าผู้นี้?”
ผู้อาวุโสเฮ่อกระทืบเท้าใส่สัตว์กลายพันธุ์อีกครั้ง จากนั้นก็เหินร่างไปในอากาศพร้อมกับกวัดแกว่งศาสตราวุธในมือ
“นายน้อยอี้ ท่านเองก็ใช้มันระบายอารมณ์เสียสิ ในเมื่อพลังป้องกันของมันน่ารำคาญนัก เช่นนั้นพวกเราก็จะให้มันได้ตายอย่างช้าๆ!”
“ดี!”
เจียงอี้พุ่งเข้ามาและใช้ดาบมังกรเพลิงฟาดฟันไปด้านหน้า ในเวลาเดียวมันมังกรเพลิงจิ๋วนับหมื่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาและมุ่งเป้าไปที่ขาหลังของสัตว์กลายพันธุ์
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เมื่อมังกรเพลิงจิ๋วทำลายขาหลังของมันไปแล้ว มังกรเพลิงตัวที่เหลือก็แห่กันไปโจมตีตามลำตัวและระเบิดเลือดเนื้อของมัน ในเวลานี้สภาพร่างกายของสัตว์กลายพันธุ์ดูน่าสยดสยองอย่างถึงที่สุด เศษเนื้อและโลหิตของมันสาดกระจายไปทั่ว น่าสงสารมาก!
“โฮกกกก!”
สัตว์กลายพันธุ์รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ขาหลัง มันหันกลับมาด้วยความโกรธแค้นและใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นจ้องมองมายังเจียงอี้ ร่างอันใหญ่ยักษ์ของมันกระโดดขึ้นจากพื้นและใช้หนึ่งในกีบเท้าของมันกระทืบใส่อีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี
“แม่งเอ้ยย!”
เจียงอี้มองไปยังร่างขนาดมหึมาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยสีหน้าซีดขาวพร้อมกับสาปแช่งออกมา จากนั้นเขาก็ใช้การเคลื่อนย้ายในพริบตาไปปรากฏตัวห่างออกไปสามกิโลเมตร
ตู้มมมมมมม!
กีบเท้าของสัตว์กลายพันธุ์กระทืบใส่พื้นและทำให้บริเวณนั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่เมื่อเจียงอี้เห็นว่ากีบเท้าของมันจมหายไปในพื้นกว่าครึ่ง เขาก็ลอบกลืนน้ำลายด้วยความสยดสยอง หากว่าเขายืนรับการโจมตีนั้นโดยตรง เกรงว่าเขาคงจะกลายเป็นกองเนื้อบดไปแล้ว
ปัง! ปัง! ปัง!
อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเฮ่อก็ร่อนลงมาพร้อมกับใช้อาวุธในมือฟันไปที่หลังของสัตว์อสูรจนเป็นแผลเหวอะ สัตว์กลายพันธุ์ไม่สามารถเทียบกับราชันสัตว์อสูรได้แม้แต่น้อย กระทั่งสติปัญญาของมันก็ยังต่ำต้อยจนน่าสงสาร
มันถูกผู้อาวุโสเฮ่อก่อกวนจนวอกแวกและละความสนใจจากเจียงอี้ทันที จากนั้นร่างของมันก็ย่อลงและกระโจนใส่ผู้อาวุโสเฮ่อด้วยความโกรธ
ปัง! ปัง! ปัง!
พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันหลอกล่อสัตว์กลายพันธุ์และสลับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเวลาผ่านไปโลหิตสีแดงของมันก็ยิ่งเจิ่งนองไปทั่วพื้นน้ำแข็งและทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นดูคล้ายกับขุมนรกก็ไม่ปาน
ตู้มม!
เจียงอี้กระหน่ำโจมตีใส่ขาหลังของมันอย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มองเห็นกระดูกสีขาวของมัน
เมื่อจุดศูนย์ถ่วงโดนโจมตี ร่างอันใหญ่โตของสัตว์กลายพันธุ์ก็ล้มลงกับพื้นและทำให้พื้นสะนั่นหวั่นไหว
“ฟู้ววว!”
เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับและมองไปยังสัตว์กลายพันธุ์ที่นอนอยู่บนพื้นราวกับเป็ดที่รอให้พวกเขาไปเชือด
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
แต่ทันใดนั้นเอง เทือกเขาน้ำแข็งที่อยู่ถัดออกไปก็เกิดการสั่นสะเทือน วินาทีต่อมากลิ่นอายอันดุร้ายก็แผ่กระจายเข้าปกคลุมทั้งบริเวณพร้อมกับปรากฏร่างของสัตว์อสูรหลายสิบตนที่จ้องมองมายังเจียงอี้กับผู้อาวุโสเฮ่อราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย
จากยอดเขาที่อยู่ห่างออกไป ร่างเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นและมองมายังพวกเขาทั้งสองพร้อมทั้งตะโกนด้วยความเย้ยหยัน
“เจียงอี้! สถานที่แห่งนี้มีสัตว์กลายพันธุ์อยู่ทั้งหมดเก้าร้อยเก้าสิบเก้าตัว หากว่าพวกเจ้าสามารถสังหารพวกมันได้ทั้งหมด พวกเจ้าจะมีโอกาสได้ขึ้นไปยังชั้นสูงสุด แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้ามีความสามารถเพียงพอหรือไม่? ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“หยุนลู่?”
ดวงตาของเจียงอี้เผยให้เห็นความเย็นยะเยือก
“ไอ้ตัวบัดซบหยุนลู่! เจ้ารอก่อนเถอะ ข้าจะไปเด็ดหัวเจ้าอย่างแน่นอน!”