เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 365 เวทย์หนอนพิษ
บทที่ 365 เวทย์หนอนพิษ
เจียงอี้นอนอยู่บนเตียงขณะที่แม่นางหลิ่วก็ขึ้นไปอยู่บนตัวเขาอย่างรวดเร็วนางอ้าขาออกและนั่งบนตัวเจียงอี้ ใบหน้าที่น่ารักของนางเข้ามาใกล้มากขึ้นพร้อมเลียริมฝีปากตัวเอง ซึ่งนางเย้ายวนราวกับนางแมวป่าเสียเหลือเกิน
อึกอึก!
เจียงอี้ลอบกลืนน้ำลายไปสองสามครั้งและจ้องมองไปยังความขาวนวลที่อยู่เหนือศีรษะเขาเขายกมือข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย มันเหมือนว่าเขาต้องการที่จะคว้าอะไรบางอย่างแต่ก็กลัวที่จะทำเช่นนั้น แม่นางหลิ่วยิ้มเบาๆและจับมือของเจียงอี้ไปที่ตัวนางเอง
ฟึ่บ!
เมื่อมือของเจียงอี้อยู่ตรงกลางอากาศแก่นแท้พลังของเขาก็แผ่ออกมาอย่างฉับพลัน เขากำคอของแม่นางหลิ่วด้วยมือเดียวขณะที่ใช้มืออีกข้างผลักหน้าท้องของนางซึ่งทำให้ตันเทียนของนางป่นปี้ทันที
“อั้ก…”
ตันเทียนของแม่นางหลิ่วถูกชกจนแตกซ่านก่อนที่นางจะพ่นเลือดสดคำโตออกมาเจียงอี้ก็กระโดดขึ้นไปและโยนแม่นางหลิ่วไปในอากาศ
ปัง!
แม่นางหลิ่วกระทบกับกำแพงและกลิ้งลงมาที่พื้นดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นนางก็แสดงออกอย่างตกใจและมองเจียงอี้อย่างเหนียมอาย “ท่านอุปราช นี่ท่านทำอะไรน่ะเจ้าคะ? ทำไมท่านจึงได้ทำสิ่งที่โหดร้ายต่อข้าเยี่ยงนี้?”
แม่นางหลิ่วอยู่ขั้นแรกของขอบเขตเสินโหยวและอายุยี่สิบสี่ปีนางมีอนาคตที่สดใสซึ่งมันได้ถูกทำลายลงโดยการที่เจียงอี้ขยี้ตันเทียนของนาง นางเพียงแค่ต้องการปรนนิบัติเจียงอี้และไม่ได้คาดว่าเขาจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เย็นชาในเวลาสั้นๆ เขากำลังจะหลับนอนกับนางอยู่แท้ๆ แต่ในชั่วขณะต่อมาเขาก็ทำลายนางด้วยฝ่ามือเดียว
“แสดงต่อไปสิ!”
เจียงอี้เย้ยหยันและยืนขึ้นเขินเดินไปหน้านางและยืนมองใบหน้าที่งดงามนั่น “แม่นางหลิ่ว เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งใดที่เผยความบกพร่องของเจ้าออกมา?”
“ความบกพร่องของข้า?”
แม่นางหลิ่วขมวดคิ้วนางงุนงงและถามว่า “ท่านอุปราช นี่ท่านกำลังพูดถึงสิ่งใดกัน? ข้าน้อยไม่เข้าใจ ท่านอุปราชเป็นผู้ทรงพลังและแข็งแกร่งเช่นนี้ หากท่านต้องการชีวิตข้า ข้าก็ไม่กล้าที่จะต่อต้าน สังหารข้าเถิดหากท่านต้องการ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและตะโกนว่า“ผู้อาวุโสเฮ่อ เข้ามา ท่านจะได้ไม่หาว่าข้าสังหารผู้คนตระกูลจ้านไม่เลือก”
ฟึ่บ!
ผู้อาวุโสเฮ่อรับรู้มานานแล้วแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปแต่เมื่อเจียงอี้บอกให้เขาเข้าไป เขาก็บุกเข้าไปทันที เมื่อเห็นแม่นางหลิ่วนอนเลือดนองอยู่บนพื้น เขาก็ถามด้วยความกลัวว่า “นายน้อยอี้ เกิดอะไรขึ้น?”
“ฮึฮึ!”
แม่นางหลิ่วเผยร่องรอยของความขมขื่นและหัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว“ไม่มีสิ่งใดทั้งนั้น ข้าเพียงแค่ต้องการปรนนิบัติท่านใต้เท้า แทนที่เขาจะปฏิเสธแต่เขากลับทำลายตันเทียนของข้า ท่านผู้อาวุโส โปรดปลิดชีพข้าเสีย มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าทำให้ท่านอุปราชเกิดโทสะ ข้าสมควรตาย”
ปัง!
ผู้อาวุโสเฮ่อมองไปยังแม่นางหลิ่วอย่างไร้ปราณีและเตะนางปลิวออกไปนางกลิ้งไปปะทะกำแพงและกระอักเลือดออกมาอีกครั้งหนึ่ง ผู้อาวุโสเฮ่อพูดอย่างเยือกเย็น “หุบปาก ข้าได้ถามเจ้าหรือ? เหอะๆ….แสร้งทำเป็นน่าสงสาร? เจ้าไม่คิดว่าข้ารู้จักนายน้อยอี้รึไง? หรือเจ้าพยายามทำให้พวกเราแตกคอกัน?”
ผู้อาวุโสเฮ่อใช้เวลาร่วมกับเจียงอี้ในพื้นที่ต้องห้ามมากว่าครึ่งเดือนเขาคงจะตายไปนานแล้วหากไม่ใช่เพราะเจียงอี้ เขารู้จักเจียงอี้เป็นอย่างดี เจียงอี้จะไม่ทำเช่นนั้นหากไม่มีเหตุผล ผู้อาวุโสเฮ่อคงฆ่าผู้อาวุโสตระกูลจ้านเสียด้วยซ้ำหากว่าเขาพูดจาไม่ดีต่อเจียงอี้ อย่าว่าแต่นางเลย
เจียงอี้ยิ้มให้ผู้อาวุโสเฮ่อเล็กน้อยและเดินไปตรงหน้าแม่นางหลิ่วอีกครั้งเขาก้มมองนางพร้อมยิ้ม “เจ้ายังคงแสร้งทำจนถึงตอนนี้ แม้ว่าข้าจะยังเด็ก แต่ข้าก็ไม่ใช่คนโง่เขลาที่ถูกผู้หญิงล่อลวงได้ง่ายๆ เจ้าไม่ได้ให้แผนที่แก่ผู้อาวุโสเฮ่อแต่มาหาข้าแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางดึก? และสวมเสื้อผ้าวับๆแวมๆเพื่อแสดงว่าเจ้าเป็นโสเภณี?”
“เจ้าเป็นใครแล้วข้าเป็นใคร? ข้าบอกเจ้าไปแต่แรกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับข้า แต่เจ้าก็ยังอยู่และขอที่จะหลับนอนกับข้า? คนปกติทั่วไปจะกล้าขัดขืนผู้บังคับบัญชาของพวกเขาหรือ? ตระกูลจ้านมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานและมีกฎที่เคร่งครัด เจ้าควรจะรู้ถึงเรื่องพวกนี้ในตอนที่เจ้ามาอยู่ในตระกูลจ้านตั้งแต่อายุยังน้อยสิ นี่แหละที่เป็นสิ่งบกพร่องของเจ้า”
“ฮึฮึ!”
แม่นางหลิ่วยิ้มอย่างเศร้าหมองและหลับตา“ผู้ที่มีความคิดจะตีสุนัขของเขาจะหาไม้เจอได้อย่างง่ายดาย ข้าน้อยชื่นชมอุปราชนักและต้องการที่จะมีช่วงเวลาที่ดีกับท่านก่อนที่จะตายจากไป ดังนั้นข้าจึงทำเยี่ยงนั้น ไม่เป็นไรหรอก ท่านอุปราชสังหารข้าเถอะ ข้าจะได้ไม่เสียใจอีกต่อไป”
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้หัวเราะและพูดว่า“ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา น้ำหอมของเจ้านั้นวิเศษนัก เจ้าคงจะต้องได้มันมาจากเจ้านายที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังของเจ้า หากข้าไม่มีความสามารถอยู่บ้างข้าเกรงว่าตัวเองคงจะหลงกลอุบายไปเสียแล้ว อย่างไรเสีย เจ้าก็ยังคงทำการบ้านมาไม่พอเท่าไหร่และอาจไม่รู้ว่าข้าไม่เกรงกลัวต่อการโจมตีทางวิญญาณ!”
ฟึ่บ!
ใบหน้าของแม่นางหลิ่วซีดเซียวทันทีเห็นได้ชัดว่าเจียงอี้รู้ถึงแผนการของนาง
นี่เป็นเหตุผลในการโจมตีแม่นางหลิ่วสาหัสเช่นนี้ณ ตอนนี้ ไข่มุกวิญญาณเพลิงของเจียงอี้ก็เปล่งประกาย พลังงานบางอย่างเข้าสู่ดวงจิตวิญญาณของเขาซึ่งทำให้เกิดแสงสีทองสว่างขึ้นในวิญญาณของเขา
ไข่มุกวิญญาณเพลิงเข้าไปคุ้มกันดวงจิตโดยอัตโนมัติมันต้องเป็นแม่นางหลิ่วผู้ซึ่งโจมตีดวงจิตวิญญาณของเขาแน่ เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำหอมของนางและทำตามสัญชาตญาณโดยไม่ลังเล!
ฟึ่บ!
ผู้อาวุโสเฮ่อรีบไปยังแม่นางหลิ่วและกระแทกคางและคอหอยนางด้วยมือเดียวเขาเปิดปากของนางและหยิบยาเม็ดใสๆให้นางกลืนลงไป เขาเย้ยหยัน “อยากจะฆ่าตัวตายหรอ? ไม่มีทาง!”
เขายกแม่นางหลิ่วขึ้นมาด้วยมือเดียวและเดินไปที่ประตูแล้วพูดว่า“นายน้อยอี้ ท่านไปพักก่อนเถิดแล้วรอให้ข้าตรวจสอบเรื่องนี้ โปรดมั่นใจได้ ด้วยศาสตร์ลับของตระกูลจ้าน ข้าจะสืบความมาได้ในอีกไม่นาน”
“ก็ได้!”
เจียงอี้พยักหน้าแต่ใบหน้าของเขามืดหม่น
แม่นางหลิ่วผู้เป็นผู้ดูแลอันดับหนึ่งของตระกูลจ้านในอาณาจักรเทียนเซวี่ยนถูกคนอื่นควบคุม?ที่อยู่ของพวกเขานั้นถูกล่วงรู้โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังนางโดยสมบูรณ์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง….หากมีใครบางคนรายงานเรื่องนี้ไปยังอาณาจักรเทียนเซวี่ยน ก็อาจจะมีกองทัพเดินทัพมาหาพวกเขาได้ตลอดเวลา
นี่มันไม่ถูกต้อง!
ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่าอาณาจักรเทียนเซวี่ยนคงไม่รู้เรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นแม่เฒ่าบุปผาสีเงินคงมาที่นี่แล้ว
คนที่อยู่เบื้องหลังนางคงจะเป็นสายเลือดนักเวทย์ชั่วนั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาก็ยังกลัวว่าองค์ราชาอาณาจักรเทียนเซวี่ยนจะรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เช่นนั้น แผนการสังหารหยุนเฟยและหยุนเสียนก็จะถูกเปิดเผยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงส่งแม่นางหลิ่วมาขัดขวางเขาอย่างลับๆ
ในเมื่อคนของนักเวทย์ชั่วไม่กล้าที่จะบอกองค์ราชาเกี่ยวกับการมาถึงของพวกเขาดังนั้นพรุ่งนี้จึงยังสามารถดำเนินแผนการเดิมได้ ตราบใดที่องค์ราชาจะนำผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ออกจากเมืองไปและขอให้แม่เฒ่าบุปผาสีเงินไปกับเขาด้วย เจียงอี้ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวนักเวทย์ชั่ว ในกรณีที่แย่ที่สุด….เขาก็คงชำระล้างเมืองเซวี่ยนเทียนด้วยการนองเลือด
“นายน้อยอี้!”
เมื่อเจียงอี้กำลังไตร่ตรองผู้อาวุโสเฮ่อก็เข้ามาก่อนที่จะพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ผลการสอบสวนกร่างแล้วขอรับ แม่นางหลิ่วถูกเวทย์หนอนพิษเมื่อสองเดือนที่แล้ว ยังมีผู้อื่นอีกที่ถูกมนตร์นี้ และคนทั้งหมดนั้นเป็นผู้ภักดี โชคดีที่นายน้อยอี้นั้นปราดเปรื่อง ไม่เช่นนั้น เราคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรที่ทำให้เราถูกฆ่า!”
เจียงอี้รู้สึกโชคดีเช่นกันหากเขาไม่มีไข่มุกวิญญาณเพลิง เขาก็คงตกหลุมพรางโดยไม่รู้ตัว เขาอาจถูกเวทย์หนอนพิษของราชินีแม่มดและกลายเป็นหุ่นเชิดของนาง
“นี่คงเป็นปัญหาแล้ว….”
ผู้อาวุโสเฮ่อเกาหัวแล้วถอนหายใจ“ราชินีแม่มดรู้ถึงที่อยู่และแผนการของเราแล้ว แม้แต่แผนนี้ก็ยังถูกวางไว้โดยนางตั้งแต่แรก เห็นได้ชัดว่านี่มันคือกับดัก เหมือนว่านางจงใจแพร่ข้อมูลไปยังตระกูลจ้านของเราและหลอกล่อให้คนของเราไปตาย ไม่มีทาง….เราต้องออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
“ท่านจะตื่นตระหนกไปเพื่ออะไรกัน?”
เจียงอี้ตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็นและโบกมือ“ไม่ต้องรีบเร่งไป ให้ข้าคิดก่อน มันอาจจะมีทางพลิกสถานการณ์จากแผนลวงของราชินีแม่มดให้กลายเป็นผลประโยชน์ของเราได้…”