เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 477-478
บทที่ 477 ปีศาจเฒ่า เจ้าถูกหลอกแล้ว
“หืม?”
เมื่อปรมาจารย์ตระกูลหลิงกำลังจะโจมตีเขาก็ตระหนักได้ถึงปัญหา ร่างแยกของเจียงอี้นั้นเหมือนเจียงอี้ทุกประการ แม้แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็แยกไม่ออก
ฟึ่บ!
ร่างทั้งสี่ของเจียงอี้ตวัดไปทั่วราวกับสายลมมังกรหลายหมื่นตัวส่งเสียงออกมาพร้อมกันจนทำให้ปรมาจารย์ตระกูลหลิงต้องถอยไปด้านหลังและรอจนกว่าการโจมตีจะหมดลง
“เฮ้อ…”
ปรมาจารย์ตระกูลหลิงนั้นว่องไวเกินไปการโจมตีของเจียงอี้ก่อนหน้านี้ไร้ประโยชน์เนื่องจากมันไม่สามารถตามความเร็วของคู่ต่อสู้ได้ทัน เจียงอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากย้ายร่างฉับพลัน แต่เขาก็ยังไม่สามารถควบคุมร่างแยกได้ดีนัก ขณะที่เขาย้ายร่างฉับพลัน ร่างทุกร่างของเขาก็พังทลายลงไปกลางอากาศ
“ย๊าห์!”
ตอนที่เจียงอี้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศหลังจากย้ายร่างฉับพลันไปแล้วปรมาจารย์ตระกูลหลิงที่อยู่ไม่ไกลก็ยกมือขึ้นพร้อมยิงพลังดัชนีสีทองออกมาพร้อมกับกลิ่นอายที่รุนแรง เจตจำนงจักรพรรดิที่ถูกปลดปล่อยออกมาได้ทำให้เจียงอี้ต้องพลาดโอกาสไป เขาอยู่ห่างแค่เพียงก้าวเดียวและถูกลดเกราะป้องกันลงและรอความตาย
พระราชาสั่งให้เขาตายเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตาย!
นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมของเจตจำนงจักรพรรดิการมองเพียงครั้งเดียวนั้นจะบังคับให้คนธรรมดาฆ่าตัวตายได้โดยไม่ต้องลงมือ ส่วนพลังดัชนีจักรพรรดิเองก็มีความสามารถให้ทุกคนคุกเข่าลงและแสดงความจงรักภักดี
“ฮึ่ม!”
โชคดีที่เจียงอี้นั้นเกิดมาพร้อมกับความต่อต้านยิ่งเขาถูกกดขี่มากเท่าไหร่ ความทะนงแต่กำเนิดของเขาก็ยิ่งตอบสนองมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่เคยเป็นขุนนางที่ภักดี ในสมัยนั้นเขาเป็นกบฏต่ออาณาจักรเสินหวู่และไม่สนใจกฏระหว่างราชากับคนเช่นเขา ดังนั้นเจตจำนงจักรพรรดิจึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขามากนัก เขาเงยหน้าขึ้นมาและกวัดแกว่งดาบของเขาเพื่อป้องกันดัชนีจักรพรรดิ และร่างของเขาก็เปล่งแสงสีขาวและหายไป
ฟึ่บ!ฟั่บ!
พลังดัชนีจักรพรรดิของตระกูลหลิงมีพลังมากจนเมื่อมันถูกมังกรเพลิงนับหมื่นที่เจียงอี้ปล่อยออกมามันเหมือนกับมังกรที่แท้จริงปะทะเข้ากับมังกรโคลนมากมาย ซึ่งพวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย
ตูม!
หลังจากที่พลังดัชนีสีทองทำลายมังกรเพลิงจิ๋วนับหมื่นของเจียงอี้แล้วมันก็ยิงเข้าไปในภูเขายักษ์ที่อยู่ไกลตา และภูเขานั้นก็ระเบิดเป็นเหมือนภูเขาถล่มลงมาจนกลายเป็นฝุ่นฟุ้งไปทั่ว
สัตว์อสูรรอบๆแถบนั้นตกใจกลัวและมันก็หนีไปทั่วทุกสารทิศราวกับว่าเป็นจุดจบของโลก
พระเจ้าช่วย!
เจียงอี้ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาเล็กๆเขาแอบตระหนกเมื่อมองไปยังภูเขาที่ถล่มลงมา ปรมาจารย์หลิงผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขาสามารถสังหารเซียวหลงหวางได้ในทันที!
แต่เขาก็มาถึงขั้นสูงสุดของขอบเขตจินกังตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อนแล้วแม้ว่าเขาจะไม่ได้ก้าวหน้าใดๆ แต่พลังของเขาก็ยังคงน่าเกรงขามอยู่ดี เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงผู้ซึ่งอยู่ครึ่งทางในการบรรลุไปขอบเขตเทียนจุน
“ตอนนี้ข้าควรจะทำยังไงดี?”
ดวงตาของเจียงอี้สั่นไหวเขาไม่กล้าที่จะย้ายร่างฉับพลันอย่างประมาท เขามั่นใจว่าเปลวเพลิงอเวจีของเขาจะสังหารปรมาจารย์หลิงนั่นได้ แต่ว่า….เขาจะเข้าไปใกล้ปรมาจารย์หลิงได้อย่างไร? ห้วงอากาศจะสั่นคลอนทุกครั้งที่เขาย้ายร่างฉับพลัน แม้แต่เซียวหลงหวางยังระบุตำแหน่งของเขาได้อย่างแม่นยำ นับประสาอะไรกับปรมาจารย์หลิงกัน
เมื่อเขาย้ายร่างฉับพลันไปหาปรมาจารย์หลิงการโจมตีของปรมาจารย์หลิงคงจะมาถึงก่อนที่ร่างของเขาจะย้ายมาอย่างสมบูรณ์แน่ มันจะทำให้เขาไม่มีเวลาปลดปล่อยเปลวเพลิงอเวจีและถูกหันเป็นเนื้อสับก่อน!
หากเขาไม่เข้าไปใกล้ๆ…
มันก็ไม่มีทางที่การโจมตีของเขาจะทำร้ายปรมาจารย์หลิงได้ก่อนที่เปลวเพลิงของเขาจะไปถึงตัวปรมาจารย์หลิง ปรมาจารย์ก็คงจะย้ายที่ไปแล้ว ส่วนการโจมตีอื่นๆ มันก็เป็นเพียงเรื่องน่าขันสำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังขั้นสูงสุด
“เหอะไอ้เด็กสารเลว! ตายซะ!”
ปรมาจารย์หลิงหมดความอดทนเมื่อเห็นเจียงอี้ยังคงอยู่บนเนินเขาเล็กๆหากจักรพรรดินีสัตว์อสูรโจมตีเมืองเทียนชิงจริงๆ ตระกูลหลิงก็จะไร้ทายาท ดังนั้นเขาจึงต้องจับเป็นหรือไม่ก็จับตายเจียงอี้ให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองเซี่ยยวี่เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
จับเป็น?
ปรมาจารย์หลิงเกิดความคิดขึ้นหากเขาสามารถจับเจียงอี้ได้แบบเป็นๆ เขาอาจข่มขู่จักรพรรดินีสัตว์อสูรได้ เขาหันไปมองพร้อมกับลอบวางแผนจับตัวเจียงอี้เอาไว้หากว่ามันเป็นไปได้
ฟึ่บ!
ปรมาจารย์หลิงเคลื่อนไหวเร็วเกินไปแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากเจียงอี้สามสิบสามกิโลเมตร แต่ในชั่วพริบตา เขาก็เคลื่อนที่มาได้สามสิบกิโลเมตรแล้ว เขากำลังยกมือขึ้นและเตรียมยิงพลังดัชนี แต่ทันใดนั้นเองเจียงอี้ก็เคลื่อนไหว มือของเขาสว่างไปด้วยแสงสีฟ้า เขาปลดปล่อยมันออกไปหลายสิบฝ่ามือ ไฟสีฟ้าเข้มก็ได้พุ่งออกมาและกระจายไปทั่วท้องฟ้า
ช่างเป็นเปลวเพลิงที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้….เปลวเพลิงนี้เป็นสิ่งที่สังหารขันทีหลินและทำให้เซี่ยถิงเวยพิการหรือเปล่านะ?
ปรมาจารย์หลิงหยุดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะถอยออกมาเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งและเปลวเพลิงไม่สามารถสังหารเขาได้ แต่เขาก็จะต้องถูกแผดเผาแน่นอนหากเขาสัมผัสกับเปลวเพลิงเข้า ดังนั้นเขาจึงส่งพลังดัชนีออกไปขณะที่ถอยกลับมา
ฮูฮู่!
เปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์โหมกระหน่ำซึ่งทำให้เกิดความร้อนระอุขึ้นมาน่าเสียดายที่พวกมันยังช้าไปสำหรับปรมาจารย์หลิงและไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลย
ตูม!
พลังดัชนีของปรมาจารย์หลิงทะลุผ่านทะเลเพลิงออกไปและยิงตรงไปยังภูเขาที่เจียงอี้ยืนอยู่ทันใดนั้นเขาลูกนั้นก็ถูกระเบิดจนหินถล่มลงมา ละอองฝุ่นฟุ้งขึ้นปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน
“ไอเด็กสารเลวตอนนี้เจ้าจะหนีไปไหนล่ะ?”
ปรมาจารย์หลิงเดินอ้อมทะเลเพลิงไปเมื่อเขาเห็นเจียงอี้ย้ายร่างฉับพลันไป เขาก็ไล่ตามมาอย่างรวดเร็วขณะที่เจียงอี้เองก็ปลดปล่อยทะเลเพลิงออกมาอีกระลอกเพื่อหยุดยั้งปรมาจารย์หลิงเอาไว้ ขณะเดียวกันเขาก็ยังคงย้ายร่างฉับพลันและหลบหนีไป
ตูม!ตูม! ตูม!
ปรมาจารย์หลิงยังคงปลดปล่อยพลังดัชนีจักรพรรดิส่วนเปลวเพลิงของเจียงอี้ก็ทำให้ผืนป่าด้านล่างเขาลุกเป็นไฟ มีภูเขามากมายอยู่รอบๆพวกเขา แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ภูเขามากมายก็ถูกปรมาจารย์หลิงทำลายลงไป
ฮู่ฮู่วว!
เจียงอี้ปรากฏตัวบนยอดเขาเล็กๆอีกลูกหนึ่งเขาสบถออกมาอย่างลับๆเมื่อเห็นปรมาจารย์หลิงกำลังเข้ามาหาเขาราวกับพายุ ท้ายที่สุดเขาจะถูกปรมาจารย์หลิงสังหารหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้
นอกจากนั้นแล้วร่างกายและดวงจิตวิญญาณของเขาก็อ่อนล้าเกินไป หากเกิดพลาดขึ้นมามันจะทำให้เขาตายแน่นอน นอกจากนี้ปรมาจารย์หลิงเองก็ยังปล่อยพลังดัชนีธรรมดาและยังไม่ทันได้ปลดปล่อยการโจมตีขั้นสูง เมื่อเขาปล่อยการโจมตีรูปแบบเต๋าอันทรงพลังออกมา เจียงอี้อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งใดที่สังหารเขา
ข้าจะต้องลงมือ!
เขารอให้ปรมาจารย์หลิงเข้ามาใกล้และปล่อยทะเลเพลิงก่อนที่จะย้ายร่างฉับพลันอีกครั้ง
คราวนี้สถานที่ที่เขาตัดสินใจย้ายร่างฉับพลันนั้นชัดเจนมาก เขามั่นใจว่าปรมาจารย์หลิงจะสามารถหลบทะเลเพลิงอีกครั้ง ดังนั้นเจียงอี้จึงคำนวณความเร็วในการถอยกับความเร็วในการย้ายร่างฉับพลัน
เขาปรากฏตัวอยู่บนพื้นด้านล่างปรมาจารย์หลิงเขาพุ่งขึ้นมาราวกับมังกรและกลายเป็นร่างสี่ร่างกลางอากาศซึ่งกำลังพุ่งไปยังปรมาจารย์หลิงราวดาบสี่คม
“เหอะ!พวกมดฝันเฟื่องจะเขย่าฟ้า!”
ปรมาจารย์ตระกูลหลิงไม่ได้ตระหนกเลยสำหรับเขาแล้ว มันไม่สำคัญว่าเจียงอี้จะมีร่างเดียวหรือสี่ร่าง เขายกมือขึ้นแล้วยิงพลังดัชนีไปสี่ทาง
“แม่หญิงหอดารา!ท่านนักบวช! ทำไมพวกท่านยังไม่โจมตีอีก?”
เจียงอี้ตะโกนออกมาและหายไปกลางอากาศในทันใดคราวนี้เขาปรากฏตัวขึ้นในอากาศที่ห่างจากปรมาจารย์หลิงหนึ่งกิโลเมตร
เขากำลังจะวางเดิมพันหากเขาทำไม่สำเร็จ ในครั้งนี้เขาอาจจะไม่มีโอกาสสังหารปรมาจารย์หลิงอีกแล้ว
“หืม?”
เป็นไปตามคาดปรมาจารย์หลิงตกหลุมพราง กลิ่นอายเย็นเยียบส่องไปทั่วดวงตาของเขาและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็แผ่ไปทุกทิศทาง หากสุ่ยโย่วหลานและนักบวชเฒ่ากำลังซุ่มโจมตีที่นี่ เขาอาจจะถูกสังหารทันที
ไม่ว่าจอมยุทธจะทรงพลังเพียงใดสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นเพียงมนุษย์ มนุษย์มีสัญชาตญาณของพวกเขา ขณะที่เจียงอี้ตะโกนออกมา ปรมาจารย์หลิงก็สะดุ้งเองโดยสัญชาตญาณและพยายามมองหาสุ่ยโย่วหลานและนักบวชเฒ่า และเขาจะต้องลดการป้องกันต่อเจียงอี้ลงโดยปริยาย ซึ่งทำให้เจียงอี้สามารถย้ายร่างฉับพลันขึ้นไปอยู่เหนือเขาทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า!ปีศาจเฒ่า เจ้าถูกหลอกแล้ว! จักรพรรดินีสัตว์อสูร โจมตีเลย!”
เจียงอี้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านบนของปรมาจารย์หลิงและปล่อยฝ่ามือออกมาในทันใดไข่มุกวิญญาณเพลิงสว่างออกมาพร้อมกัน ลูกไฟของเปลวเพลิงถูกนำออกมาอย่างลับๆ ซึ่งมันซ่อนอยู่ในเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์และถูกยิงไปทางปรมาจารย์หลิง
เจียงอี้อยู่ห่างจากปรมาจารย์หลิงเพียงหนึ่งกิโลเมตรและไม่ได้อยู่ใกล้เขามากนักแต่หากปฏิกิริยาของปรมาจารย์หลิงช้าลงเล็กน้อยมันก็มีโอกาสจู่โจมเขาได้มากขึ้น!
…
บทที่ 478 สถานการณ์ยุ่งยาก
“ข้าถูกหลอก?จักรพรรดินีสัตว์อสูร?”
ปรมาจารย์หลิงโกรธมากเมื่อได้ยินประโยคแรก…..แต่เขาก็ตัวสั่นเมื่อได้ยินชื่อของจักรพรรดินีสัตว์อสูรแม้ว่าเขาจะสงสัยว่าเจียงอี้หลอกเขา แต่เขาก็ยังคงต้องตรวจสอบรอบๆด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์
“ไอ้เด็กชั่ว!ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ! หืม….มีบางอย่างผิดปกติ? เปลวเพลิง!”
ปรมาจารย์หลิงตรวจทุกที่ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างรวดเร็วเขาโกรธมากหลังจากที่มั่นใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเขากำลังจะปลดปล่อยการโจมตีขั้นสูง เขาก็ตระหนักได้ในทันใดว่าเปลวเพลิงที่กำลังเข้ามาหาเขาในครั้งนี้ต่างจากครั้งอื่น มันร้อนกว่ามาก
“หนี!”
ร่างของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาแหวนบนมือของเขาก็สว่างขึ้นพร้อมโล่จิ๋วปรากฏออกมา เขาโยนโล่ออกไปขณะที่ร่างของเขาก็พุ่งลงมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
บรึฟ!
โล่กลมๆได้เปล่งประกายด้วยแสงสีทองออกมาและขยายใหญ่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆมันก็ปิดกั้นท้องฟ้าครึ่งหนึ่งและทะเลเพลิงอย่างสมบูรณ์
สิ่งประดิษฐ์ป้องกันศักดิ์สิทธิ์ช่างน่าเสียดาย….
เจียงอี้ลอบถอนหายใจในทวีปนี้มีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์น้อยมาก ยิ่งสิ่งประดิษฐ์ป้องกันยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่ จักรวรรดิมังกรเวหาเคยปกครองทวีปนี้มาเกือบหมื่นปี ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีสิ่งประดิษฐ์ป้องกันนี้
หากปรมาจารย์หลิงไม่มีสิ่งประดิษฐ์ป้องกันนี้อย่างน้อยๆเขาก็จะต้องบาดเจ็บหากไม่ตายไปเสียก่อน เมื่อความแข็งแกร่งของเขาลดลงมาก เจียงอี้ก็มีโอกาสที่จะสังหารเขาได้
เพลิงอเวจีกำลังเผาสิ่งประดิษฐ์ป้องกันนั้นดูเหมือนว่ามันสามารถทำลายสิ่งประดิษฐ์นี้ได้ แต่เจียงอี้ไม่ได้สนใจอีกต่อไป เขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดของเขาไปแล้ว หากเขาไม่หนีไปตอนนี้ เขาอาจจะไม่มีโอกาสหนีอีกแล้ว
เขารู้สึกโล่งใจที่เจียงเสี่ยวนู๋ยังไม่ถูกปรมาจารย์หลิงจับได้หากเขาหนีไป ปรมาจารย์หลิงจะไล่ตามเขา เท่านั้นก็พอแล้ว มันจะทำให้เจียงเสี่ยวนู๋และคนอื่นๆปลอดภัยกว่าเดิม
ฟึ่บ!ฟั่บ!
เพลิงอเวจีนั้นมีพลังมากนักสิ่งประดิษฐ์ป้องกันนั้นถูกเผาไปและแสงสีทองของมันก็หม่นลงอย่างรวดเร็ว ขนาดของมันค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆจนกลายเป็นโล่เล็กๆที่ตกลงพื้น มันถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงแต่เปลวเพลิงอเวจีและเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์ที่ยังคงอยู่
ด้วยการป้องกันจากโล่ชั่วขณะทำให้ปรมาจารย์หลิงหลบหนีมาได้อย่างง่ายดายแต่อุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัวนั้นก็ได้ทำให้เสื้อคลุม ผมและเคราของเขาลุกเป็นไฟ เขาทำลายเสื้อคลุมของเขาด้วยแก่นแท้พลังเพราะความโกรธและดับไฟบนผมและเคราของเขาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เขาก็มอมแมมไปหมด
“เจียงอี้หากข้าไม่ได้สังหารเจ้า ข้าก็ไม่สมควรเป็นลูกผู้ชาย!”
เขาจับหัวที่ยังคงมีควันเคราและคิ้วที่หายไปและใบหน้า, ลำตัวที่เต็มไปด้วยเถ้าดำๆก่อนที่จะตะโกนออกมา เขาหยิบเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองออกมาจากแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณและสวมมันโดยที่ยังไม่ได้ชำระล้างตัว ขาทั้งสองข้างของเขากดทับลงบนพื้นจนทำให้พื้นดินทรุดลงไปและพุ่งตัวออกไปทางที่เจียงอี้กำลังหลบหนีไป
เจียงอี้กำลังบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และกำลังจะดิ่งไปทางทะเลแม้ว่าเขาจะต้องตาย….เขาก็จะลากปรมาจารย์หลิงให้ลงนรกไปกับเขาด้วย
มีปีศาจทะเลที่น่ากลัวอยู่ในทะเลแม้แต่จอมเวทย์เองก็ยังไม่กล้าที่จะไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เจียงอี้นั้นไม่ได้รวดเร็วเท่าปรมาจารย์หลิง ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะถูกจับได้ มันไม่มีทางหลบหนีไปได้เลย ในเมื่อเขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดของเขาไปและไม่สามารถสังหารปรมาจารย์หลิงได้ เขาก็ทำได้เพียงหลอกล่อปรมาจารย์หลิงไปที่ทะเลส่วนลึกและฉุดปรมาจารย์หลิงหลงลุมไปซะ
ช่างเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยากเสียจริง!
เขารู้ดีว่าตัวเขาเองไม่มีทางสังหารปรมาจารย์หลิงโดยไม่ต้องใช้สิ่งภายนอกช่วยมันยังมีเศษเสี้ยวของความหวังอยู่ที่ทะเลส่วนลึกนั่น
เขาออกมาก่อนปรมาจารย์หลิงก้าวนึงนอกจากเวลาที่ปรมาจารย์หลิงต้องดับไฟและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เขาก็ยังนำหน้าปรมาจารย์หลิงมาก่อนประมาณสองนาที อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่นั้นเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ปรมาจารย์หลิงจะตามเขาทันในเวลาอันสั้น
พวกเขาอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเซี่ยยวี่และอยู่ใกล้ทะเลมากเจียงอี้มองเห็นทะเลอันไกลโพ้นหลังจากย้ายร่างฉับพลันมากว่าสิบสองครั้ง
มันเป็นสีฟ้าเหมือนท้องฟ้าและไกลออกไปลับตาจิตวิญญาณของเจียงอี้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าด้วยลมทะเลที่โชยอ่อนๆ
นี่เป็นครั้งที่สามของเขาที่เขาออกทะเลครั้งแรกคือตอนที่เขาตามหาข้อมูลของแม่ที่เกาะดาวตก ครั้งที่สองเขาไปยังทะเลตะวันตกเพื่อหาน้ำผึ้งจากผึ้งทมิฬและเกือบถูกเถาวัลย์ดารามารสังหาร ใจของเขายังคงสั่นสะท้านเมื่อนึกถึงพิภพใต้ดินที่น่ากลัวนั้น
พิภพใต้ดิน?เถาวัลย์ดารามาร?
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้เขาก็เกิดความคิดขึ้นทันใด เถาวัลย์ดารามารมีพลังมากจนแม้แต่จักรพรรดินีสัตว์อสูรยังไม่สามารถเอาชนะได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก….เขาล่อปรมาจารย์หลิงไปยังทะเลตะวันตก? จากนั้นก็ยืมมือเถาวัลย์ดารามารและสังหารปรมาจารย์หลิงได้อย่างง่ายดาย
ไม่!เดี๋ยวก่อน! ช้าก่อน….
เจียงอี้ส่ายหัวอย่างรวดเร็วและสลัดความคิดนี้ออกไปในตอนนี้เขาอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรต้าเซี่ยซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป ทางจะไปทะเลตะวันตกนั้น เขาต้องอ้อมเขตทะเลของอาณาจักรเทียนเซวี่ยน แม้ว่าเขาจะสามารถย้ายร่างฉับพลันได้แต่อย่างน้อยก็คงต้องใช้เวลาเป็นเดือน
นอกจากนี้เขายังถูกปรมาจารย์หลิงไล่ล่า แม้ว่าปรมาจารย์หลิงจะยังไม่ได้ตามหลังเขามา แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทาง เขาก็คงจะถูกปีศาจทะเลจับกินก่อนพอดี
“หากทะเลตะวันตกไปไม่ได้งั้นข้าไปทะเลตะวันออกแล้วกัน!”
เจียงอี้นั้นเกิดปัญญาขึ้นมาเขาดูมุ่งมั่นมาก เมื่อเขาไปทะเลตะวันตกไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็จะไปทะเลตะวันออกแทน เขาจะไปยัง….ทะเลมรณะ!
ที่นั่นก็มีหวายดำอยู่ในทะเลมรณะซึ่งมันคล้ายกับเถาวัลย์ดารามารในทะเลมรณะนั้นมีเกราะลึกลับและยังมีหญิงสาวที่นอนเปลือยกายอยู่ในโลงศพภายในเกราะที่เป็นม่านพลังนั้น!
สุ่ยโย่วหลานเคยเข้าไปใกล้ทะเลมรณะครั้งหนึ่งแต่นางก็ยังไม่กล้าเข้าไปข้างใน หลังจากที่นางกลับมา นางก็ได้เตือนสมาชิกหอดาราสุ่ยเยว่ว่าอย่าเข้าไปใกล้ทะเลมรณะ ความแข็งแกร่งของสุ่ยโย่วหลานนั้นพอๆกับปรมาจารย์หลิง ดังนั้นหากปรมาจารย์หลิงไปยังทะเลมรณะ เขาอาจจะไม่สามารถรอดชีวิตอออกมาได้
ที่สำคัญที่สุดคือ…
ทะเลมรณะเพิ่งจะถูกค้นพบเมื่อหนึ่งถึงสองปีก่อนนอกจากตระกูลสำคัญที่เกาะดาวตก, อาณาจักรเป่ยเหลียง, และอาณาจักรเสินหวู่แล้วก็ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้ ปรมาจารย์หลิงได้เข้าสู่สันโดษมานาน หลังจากที่เขาถูกจักรพรรดินีสัตว์อสูรโจมตีเขาก็กลับไปรักษาตัว มันมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่รู้เรื่องทะเลมรณะนี่
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเนื่องจากเจียงอี้สามารถกำจัดเถาวัลย์ดารามารได้ด้วยเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์ของเขา มันจึงมีความเป้นไปได้สูงที่เขาจะสามารถทะลายหวายดำในทะเลมรณะได้ด้วย โอกาสที่เขาจะรอดออกมาจากทะเลมรณะนั้นมีแนวโน้มสูง
ทุกสิ่งทุกอย่างนี่สมควรให้เจียงอี้ลองเสี่ยงโชคดู!
แน่นอนว่าเขาจะต้องรอดและพาปรมาจารย์หลิงไปยังทะเลมรณะ แต่มันก็ยังห่างจากทะเลมรณะพอสมควร มันน่าจะใช้เวลาประมาณสิบวันแม้ว่าเขาจะย้ายร่างฉับพลันไป
ข้าจะต้องทำมัน!ไปเถอะ!
เจียงอี้พยายามรวบรวมสติและเคลื่อนตัวไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือในไม่ช้าเขาก็หายลับไปในทะเลที่ไร้ขอบเขตนั้น
“ฮึ่ม!”
จากนั้นไม่นานเงาสีเหลืองก็บินผ่านไป ปรมาจารย์หลิงที่ขนทั้งตัวของเขาถูกเผาไปหมด ใบหน้าของเขาเองก็ดำปี๋ซึ่งทำให้เขาดูแปลกตาและน่าขัน แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นเจียงอี้แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเจียงอี้ที่อยู่ในอากาศและกำหนดทิศทางของเขาได้
เขารีบตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็วตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของเจียงอี้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว แม้ว่าเจียงอี้จะพูดจริง เขาก็จะไม่กลับไปที่เมืองเทียนชิง
หากจักรพรรดินีสัตว์อสูรไปที่เมืองเทียนชิงจริงๆมันก็ไม่มีประโชยน์อะไรหากเขากลับไปที่เมืองเทียนชิงนอกจากรนหาที่ตาย เขาอาจจะจับเป็นเจียงอี้หรือไม่ก็สังหารเจียงอี้ไปเลยยังดีกว่า
เมื่อมองไปที่ทะเลอันกว้างใหญ่ปรมาจารย์หลิงก็ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เขาเย้ยหยันและตะโกนออกมากอย่างเงียบๆ “ต้องการซ่อนอยู่ในทะเลส่วนลึกและทำให้เรื่องยุ่งเหยิง? เจ้าหนู หากครั้งนี้ข้าปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ ข้าคงมีชีวิตอย่างไร้ค่ามาตลอดนับร้อยปีที่ผ่านมา”