เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 481-482
บทที่ 481 เด็กนี่กลับมาอีกแล้ว
“มันคืออะไรกัน?”
เมื่อปรมาจารย์หลิงเห็นหวายดำเขาก็ไม่ได้สนใจมันมากนักและคิดว่ามันเป็นปีศาจทะเลประเภทเถาวัลย์เป็นเรื่องปกติสำหรับปีศาจวิญญาณที่จะไม่มีจิตวิญญาณใดๆและจะไม่ได้รับผลกระทบจากเจตจำนงจักรพรรดิของเขา ดังนั้นเขาจึงยิงพลังดัชนีไปที่พวกมันเท่านั้น
แคร๊ง!แกร๊ง!
แต่เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพลังดัชนีของเขาที่สามารถทำลายภูเขาได้อย่างง่ายดายกลับไม่สามารถทำลายเถาวัลย์สีดำพวกนี้ได้และมีเพียงเสียงกระทบกันซึ่งได้ไล่เถาวัลย์ให้กระเด็นออกไปหลายร้อยเมตรเท่านั้น
“ทำไมเถาวัลย์สีดำพวกนี้มันทนทานเสียจริง?”
ปรมาจารย์หลิงประหลาดใจอย่างเงียบๆแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามีความสามารถที่แข็งแกร่งกว่านี้ และแม้ว่าเขาจะไม่มีมัน เขาจะทำลายเถาวัลย์นั่นไม่ได้เลยหรือยังไง? เขาสามารถขับไล่เถาวัลย์สีดำนั่นได้อย่างง่ายดายและเพียงแค่ไม่ให้พวกมันเข้าใกล้เขาก็เท่านั้น
“ราชวังจักรพรรดิกำลังจะถูกดึงลงไป?”
เมื่อเขาเห็นว่าราชวังจักรพรรดิกำลังถูกดึงลงไปเขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะลงไปอย่างรวดเร็ว เถาวัลย์สีดำนี่อาจจะยุ่งยากนิดหน่อยแต่มันก็แค่ปัญหาเล็กน้อย
บรึฟ!
แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณเปล่งประกายขึ้นมาพร้อมปรากฏดาบยาวสีดำอันงดงามซึ่งเขามันฟันไปที่เถาวัลย์ทั้งสาม
แคร๊ง!เคร้ง! แคร๊ง!
เสียงสะท้อนดังออกมาขณะที่น้ำทะเลรอบๆกำลังก่อตัวและพุ่งไปรอบๆทำให้เถาวัลย์ทั้งสามนั้นถูกขับไล่ไปต้องยอมรับเลยว่าปรมาจารย์หลิงนั้นทรงพลังอย่างแท้จริงและสามารถขับไล่เถาวัลย์สีดำนั่นไปได้อย่างง่ายดาย ย้อนไปในตอนที่เจียงอี้เผชิญหน้ากับเถาวัลย์สีดำ เขานั้นหมดหนทางอย่างแท้จริง
ปรมาจารย์หลิงผู้นี้มีอานุภาพมากแม้แต่เถาวัลย์สีดำก็ไม่สามารถจัดการเขาได้….
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้สามารถขยายออกไปนอกราชวังจักรพรรดิได้และเขาเห็นชัดเจนว่าปรมาจารย์หลิงนั้นเป็นเหมือนมังกรที่อยู่ในน้ำเขาขับไล่หวายทะเลทั้งสามไปได้อย่างง่ายดายและไล่ตามราชวังจักรพรรดิมา
เดิมทีเจียงอี้คิดว่าหากหวายทะเลสามารถพันรอบปรมาจารย์หลิงได้ง่ายๆเขาก็จะได้ใช้เปลวเพลิงเผาปรมาจารย์หลิงได้แต่ตอนนี้เขาก็เป็นกังวลขึ้นมา เขารู้ว่ามีศพหญิงสาวที่ทรงพลังอยู่ด้านล่างนั่น จะเกิดอะไรขึ้นกันหากปรมาจารย์หลิงกลับกลายเป็นคนที่ยังอยู่ดีแล้วเขาถูกสังหารไปแทน?
ในตอนนี้เขาจะทำอะไรได้อีก?
เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากกัดฟันและมองดูหวายทะเลที่กำลังลากราชวังจักรพรรดิที่เป็นสิ่งประดิษฐ์สุดยอดลงไปหากเขาต้องการจะหลบหนีจากที่นี่ เขาจะต้องเก็บราชวังจักรพรรดิกลับมาและพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น และด้วยหวายทะเลที่อยู่รอบตัวเขา เขาก็ไม่สามารถย้ายร่างฉับพลันไปได้และอาจจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก
ฟึ่บ!ฟั่บ!
ปรมาจารย์หลิงรีบพุ่งตามมาราวกับมังกรวารีขณะที่เขากวัดแกว่งดาบสีดำของเขาอยู่ตลอดเพื่อคอยขับไล่หวายทะเลทั้งหลายมืออีกข้างของเขาจะปล่อยพลังดัชนีออกมาเรื่อยๆเพื่อให้พลังของราชวังจักรพรรดิหมดลง
ข้าติดกับดักตนเองแล้วข้าควรจะพาเขาไปยังทะเลส่วนลึกและอาจได้พบราชันปีศาจที่สามารถกำจัดตาเฒ่าตระกูลหลิงนี่ได้….
เจียงอี้บ่นอยู่เงียบๆแต่ราชวังจักรพรรดิก็อยู่ใต้ทะเลหลายสิบกิโลเมตรแล้วมีจุดแสงไฟระเรื่ออยู่ด้านล่าง เขาจึงสลัดความคิดออกไปอย่างรวดเร็วและสำรวจด้านล่างด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขา
ในส่วนลึกที่สุดของทะเลมีม่านพลังที่เปล่งแสงอ่อนๆราวกับไข่มุกเรืองแสงที่อยู่ก้นทะเลแต่รอบๆนั้นมืดสนิทและไม่มีแม้แต่ปีศาจทะเลหรือสิ่งมีชีวิตอื่นเลย
ในนั้นมีโลงศพโบราณอยู่มีหญิงสาวผมสีม่วงนอนเปลือยกายอยู่ในโลงศพนั้น นางไม่ได้มีสัญญาณชีพจรใดๆและเป็นเหมือนเจ้าหญิงนิทรา….หรืออาจจะเป็นศพที่งดงามนับพันปี
นางงดงามมากและมีผมสีม่วงเรียบใบหน้าของนางงดงามกว่าซูรั่วเสวี่ยมาก รูปร่างของนางก็บอบบางและมีส่วนโค้งที่น่าหลงใหล ผิวองนางละเอียดอ่อนและน่างหลงใหลเป้นอย่างยิ่ง แม้ว่านางจะเป็นศพแต่ก็ยังน่าหลงใหลอยู่
“หือ?”
ทันใดนั้นเองศพก็ขยับ….แต่ร่างของนางก็ไม่ได้มีชีพจรใดๆขณะที่ดวงตาของนางเปิดขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของนางงดงามอย่างผิดปกติและไร้ปรานีราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดารา ราวกับว่านางสามารถมองเห็นทุกสิ่ง
นางมองไปยังพื้นที่ทะเลที่มืดสนิทด้านบนขณะที่ริมฝีปากของนางขยับและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ“เด็กนี่กลับมาอีกแล้ว? เอ๊ะ….ทำไมเขาถึงได้มีราชวังจักรพรรดิที่เป็นของเผ่าพันธุ์จิ้งจอกสวรรค์? โอ้ ไม่น่าแปลกเลย เขามาที่นี่เพราะเขากำลังถูกใครบางคนไล่ล่าสินะ….”
หลังจากที่นางพูดจบนางก็ปิดริมฝีปากและตาของนางและกลายเป็นศพหญิงสาวไปอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตูม!
ราชวังจักรพรรดิถูกดึงลงมาอย่างรวดเร็วและลงมาอยู่ภายในม่านพลังโครงกระดูกด้านซ้ายโลงศพถูกบดขยี้ไปและทำให้พื้นผิวสั่นสะเทือน
“นี่นี่มัน….”
ปรมาจารย์หลิงที่ตามหลังมาอย่างใกล้ชิดได้หยุดอยู่เหนือม่านพลังสามกิโลเมตรอย่างรวดเร็วเขามองไปตรงนั้นด้วยสายตาประหลาดใจ
เขามีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่น่าทึ่งและสามารถเห็นม่านพลังได้แต่ไกลตอนนี้เขายังเห็นภายในม่านพลังอย่างชัดเจนด้วย เขาเห็นพื้นดินที่เต็มไปด้วยโครงกระดูก, โลงศพโบราณที่ลอยอยู่เหนือน้ำที่มีศพสาวงามอยู่ในนั้น ใบหน้าแก่ๆของเขาเกิดความงุนงงมาก
อย่าว่าแต่ปรมาจารย์หลิงเลยไม่ว่าใครที่เห็นฉากตรงหน้านี้ก็ต้องตกใจทั้งนั้น ลึกลงไปในทะเลกว่าสามสิบกิโลเมตร…..มีเถาวัลย์สีดำประหลาด, ม่านพลัง, โลงศพโบราณ, โครงกระดูกและศพหญิงสาว ทุกอย่างมันน่ากลัวมากๆ
“ข้าควรลงไปหรือไม่ควรกัน?”
ดวงตาของปรมาจารย์หลิงวูบไหวหากเขาไม่ลงไป เขาจะไม่สามารถสังหารเจียงอี้และฉกฉวยราชวังจักรพรรดินั่นมา แต่ด้านล่างมันก็แปลกมากและเขาก็ไม่มั่นใจในเรื่องนี้เลย
ฟึ่บ!ฟั่บ!
หลังจากที่หวายทะเลดึงราชวังจักรพรรดิลงมาที่ก้นทะเลแล้วมันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีกต่อไปขณะที่มันยังคงพันรอบราชวังจักรพรรดิ หวายทะเลทั้งสามก็ยังคงโจมตีปรมาจารย์หลิงอยู่เรื่อยๆซึ่งทำให้เขารู้สึกปวดไปหมด
เขามีทางเลือกสองทางทางแรกคือโจมตีราชวังจักรพรรดิต่อและโจมตีเจียงอี้หลังจากที่ราชวังสลายแล้ว และเก็บสิ่งประดิษฐืนี้ไปในเวลาเดียวกัน อีกทางหนึ่งคือถอย ไม่เช่นนั้นเขาจะเหนื่อยเกินไป หากเขาเผยความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเขาก็อาจจะได้กลายเป็นโครงกระดูกอยู่ด้านล่างนั่นเช่นกัน
“ถอย?”
ปรมาจารย์หลิงนั้นไม่มีความเต็มใจเลยเขาไล่ตามเจียงอี้มานานแล้วและหากเขาปล่อยไปเช่นนี้ ความพยายามทั้งหมดของเขาจะไม่สูญเปล่าหรือ? เขาจะหนีหางจุกตูดกลับไปขณะที่เจียงอี้อาจซ่อนตัวอยู่ที่นี่หลายปีและออกมาสังหารเขาหลังจากที่เจียงอี้บรรลุขอบเขตเทียนจุนแล้วจริงหรอ?
“ไม่ข้าต้องลองเสี่ยงดู!”
ปรมาจารย์หลิงไม่รีรออีกต่อไปเจียงอี้นั้นพัฒนาเร็วเกินไป ด้วยเปลวเพลิงอเวจีและการย้ายร่างฉับพลันนั้น เซียวหลงหวางและคนอื่นๆอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงอี้ เขาไม่สามารถรอให้ลูกเสือโตขึ้นมาได้ เขาจะต้องสังหารเจียงอี้ให้ได้ในครั้งนี้และไม่สำคัญว่าจักรพรรดินีสัตว์อสูรจะไปที่เมืองเทียนชิงหรือไม่ สุดท้ายแล้วจักรวรรดิมังกรเวหาจะยังคงถูกเจียงอี้ทำลายมันอยู่ดี
หลังจากที่เขาตัดสินใจเขาก็เริ่มปล่อยการโจมตีออกมาและขับไล่หวายทะเลและพุ่งไปยังม่านพลังราวกับมังกร
ฟึ่บ!
เขาเข้าไปภายในม่านพลังได้อย่างง่ายดายและไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆหวายทะเลทั้งสามเองก็ยังคงโจมตีเขาอยู่แต่เขาก็สงบนิ่งและใช้มือข้างหนึ่งคอยจัดการกับหวายทะเลเหล่านั้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คอยโจมตีราชวังจักรพรรดิด้วยพลังดัชนีที่เร็วกว่าและทรงพลังกว่าเดิมมาก
สองชั่วโมง,สี่ชั่วโมง….หกชั่วโมง!
ไม่มีสัญญาณประหลาดอะไรภายในม่านพลังเลยส่วนราชวังจักรพรรดิที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องก็ได้ทำให้พลังเริ่มหมดลงอย่างรวดเร็ว เจียงอี้ที่นั่งอยู่ในราชวังจักรพรรดิเริ่มมีท่าทีและการแสดงออกที่ย่ำแย่ลงมาก
ราชวังจักรพรรดิถูกตรึงไว้และปรมาจารย์หลิงก็ระมัดระวังมากขณะที่เขาลอยอยู่เหนือสุดของม่านพลังเขาอยู่ห่างจากราชวังจักรพรรดิสามกิโลเมตรและไม่มีทางที่เจียงอี้จะลอบโจมตีได้ หากมันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ราชวังจักรพรรดิจะไร้พลังและเขาก็คงทำได้เพียงแค่รอความตาย
แปดชั่วโมงต่อมา!
ม่านทะเลที่มืดสนิทด้านบนก็สว่างขึ้นสายฟ้าขนาดยักษ์เจาะทะลุราวกับมังกรเงินที่น่ากลัวมายังม่านพลังนี้
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเวลากลางคืนแล้วและจะต้องมีสายฟ้าฟาดอยู่เหนือทะเลมรณะแห่งนี้โลงศพโบราณเริ่มดูดซับพลังสายฟ้าอีกครั้ง
ฟึ่บ!ฟั่บ!
ความเร็วของสายฟ้านั้นเร็วมากจนปรมาจารย์หลิงไม่สามารถตอบสนองได้ทันมันใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวก็เข้ามาสู่ม่านพลังแล้วซึ่งได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป!
บทที่ 482 อักขระ
บรึฟ!
มังกรอัสนีมักจะเจาะผ่านม่านพลังและตรงเข้าไปในโลงศพโบราณก่อนที่จะหายไปแต่คราวนี้ เมื่อมันเข้ามายังม่านพลัง มันก็หายไปทันที ม่านพลังที่ควรจะเปล่งแสงอ่อนๆกลับกำลังเปล่งประกายรัศมีอันเจิดจ้าขณะที่กลิ่นอายที่น่ากลัวของมันถูกปลดปล่อยออกมาจากม่านพลัง มันทำให้พื้นที่ภายในม่านพลังเริ่มสั่นสะเทือน
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
ปรมาจารย์หลิงร้องออกมาขณะที่กำลังจะพุ่งออกจากม่านพลังอย่างร้อนรนเขาใช้ดาบที่มือของเขาฟันมันออกไปจนทำให้พื้นที่รอบๆแตกร้าวราวกับเศษแก้วร้าว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้รุนแรงเพียงใด
ปัง!
สิ่งที่ทำให้ใจปรมาจารย์หลิงจมดิ่งลงไปก็คือม่านพลังโปร่งแสงที่เขาควรจะผ่านไปได้อย่างง่ายดายกลายเป็นม่านพลังที่แท้จริงเมื่อการโจมตีพุ่งเข้าหาม่านพลัง มันเกิดการสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่แสงบนดาบของเขาจะดับลง
ฟึ่บ!ฟั่บ!
มังกรอัสนีเหนือท้องฟ้าอีกตัวหนึ่งดิ่งลงมาจากเบื้องบนและหายลับไปบนม่านพลังยิ่งทำให้การแสดงออกของปรมาจารย์หลิงมืดมนขึ้น มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งมันทำให้ม่านพลังนี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
อย่างที่คาดไว้!
โครงกระดูกด้านล่างทั้งหมดเริ่มสั่นไหวพวกมันทั้งหมดกำลังพุ่งออกมาขณะที่หวายทะเลสิบเส้นก็พุ่งมาทางปรมาจารย์หลิงอย่างดุเดือดเหมือนติดดักตาข่ายที่หนีไม่พ้น
วิญญาณของปรมาจารย์หลิงตกตะลึงขณะที่ดวงตาของเขาเผยร่องรอยของความโกรธสายตาของเขามองผ่านหวายทะเลและเพ่งไปยังศพหญิงสาวที่อยู่ในโลงศพโบราณ เขามีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกควบคุมโดยนาง
“ฆ่า!”
ในตอนนี้เขาจะทำอะไรได้?เขาจะไม่สามารถทำลายม่านพลังนี้ได้ในช่วงสั้นๆเพราะมันได้ถูกเพิ่มพลังจากสายฟ้า เขาทำได้เพียงใช้กำลังทั้งหมดขับไล่หวายทะเลไปก่อนเท่านั้น ไม่เช่นนั้นหากเขาถูกมันรัดไว้ ชะตากรรมของเขาจะต้องจบลงด้วยความน่าสังเวชเป็นแน่
“เอ๊ะ?”
เจียงอี้ที่อยู่ในราชวังจักรพรรดิเต็มไปด้วยความประหลาดใจแต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยความยินดีอย่างรวดเร็ว ครั้งก่อนที่เขาถูกดึงลงมา มันไม่มีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นกับเขา แม้หลังจากที่เจียงเสี่ยวนู๋ได้ตัดหวายทั้งหมดนั่นไปแล้ว เรื่องเช่นนี้ก็ไม่เกิดขึ้น นี่เป็นฝีมือของศพหญิงสาวนั่นหรือเปล่านะ?
“ฮย๊า!”
เขาอดไม่ได้ที่จะต้องยอมรับว่าปรมาจารย์หลิงนั้นแข็งแกร่งเกินไปดาบยาวของเขายังคงกวัดแกว่งไปมา แม้ว่ามันจะไม่สามารถตัดหวายทะเลได้แต่มันก้ยังสามารถป้องกันไม่ให้หวายทะเลทั้งสิบเข้าใกล้เขาได้เลย
ฟึ่บ!ฟั่บ!
หวายทะเลทั้งสิบเหล่านั้นยังคงถูกไล่ออกมาแต่พวกมันก็จะกลับไปอย่างรวดเร็วทำให้พวกมันดูเหมือนมังกรพิษสิบตัวที่ไม่สามารถสังหารได้ ปรมาจารย์หลิงตวัดดาบของเขาขณะที่เขาปลดปล่อยลำแสงนับไม่ถ้วนไปรอบๆราวกับพายุที่รุนแรง ในขณะเดียวกัน ภายในใจของเขาก็มีความคับแค้นใจอย่างมากจนไม่สามารถบรรยายได้
เขาไล่ล่าเจียงอี้มานานมากและเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจแต่ในตอนนี้เขายังสามารถป้องกันการโจมตีของหวายทะเลได้อีก แต่เขาจะทนมันได้นานเพียงใด? ครึ่งวัน? หนึ่งวัน? สามหรือห้าวัน?
ดวงตาของเขาเริ่มมองไปรอบๆก่อนที่จะผุดความคิดสายหนึ่งขึ้นมาได้
ในเมื่อเขาไม่สามารถออกจากม่านพลังหรือตัดหวายทะเลนี่ได้ในเวลาอันสั้นสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้คือสังหารผู้ที่ควบคุมพวกมัน
แม้ว่าหญิงสาวในโลงศพโบราณดูเหมือนจะตายไปแล้วแต่ปรมาจารย์หลิงก็มั่นใจมากว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะนาง การนอนอยู่ในโลงศพโบราณที่ก้นทะเลนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ปกติอยู่แล้ว
“ย๊ากก!”
พลังโจมตีของเขาเริ่มรุนแรงขึ้นอย่างมากการโจมตีเฮือกสุดท้ายจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังขั้นสูงสุดนั้นจะรุนแรงแค่ไหนกัน?
หวายทะเลนั้นถูกไล่ออกมาตลอดเวลาดาบยาวถูกกวัดแกว่งและจะมีคลื่นสะเทือนและเกิดรอยแตกเล็กๆขึ้น การโจมตีที่พุ่งพล่านเหล่านี้จะปะทะเข้ากับม่านพลังด้วยและทำให้ม่านพลังสะเทือน หากมีภูเขาลูกใหญ่อยู่แถวนี้มันก็คงจะพังทลายลงไปแล้ว
ฟึ่บ!
เขาเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเพียงภาพหลังและเข้าไปใกล้ๆโลงศพโบราณอย่างรวดเร็วเมื่อเขาอยู่ห่างจากโลงศพโบราณเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เขาก็กวัดแกว่งดาบออกไปหลายรอบด้วยความเร็วดุจสายฟ้าและขับไล่หวายทะเลทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาไป ในขณะเดียวกัน มืออีกข้างของเขาก็ส่องแสงสีขาวพร้อมฟาดฝ่ามือไปข้างหน้า
ฟึ่บ!ฟั่บ!
แก่นพลังฟ้าดินที่อยู่ใกล้ๆได้รวมอยู่ที่ฝ่ามือของเขาขณะที่มันควบแน่นเป็นเงาฝ่ามือขนาดยักษ์ในช่วงที่ฝ่ามือได้อัดแน่นเรียบร้อยแล้วมันก็หายไปทันที ในวินาทีถัดมามันก็ขึ้นไปอยู่เหนือโลงศพโบราณสามสิบเมตรและทุบลงไปบนโลงศพอย่างแรง
“อ๊ะ!”
เจียงอี้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้อย่างชัดเจนผ่านลูกแก้วแม้ว่าเขาจะอยู่ในราชวังจักรพรรดิแต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังจากการโจมตีของฝ่ามือนั้น นี่อาจจะเป็นการโจมตีรูปแบบเต๋ามิติที่แข็งแกร่งที่สุดของปรมาจารย์หลิง เขาคิดว่าถ้าหากฝ่ามือนี้ถูกฟาดลงมา แม้แต่สุ่ยโย่วหลานเองก็คงไม่กล้าที่จะรับฝ่ามือนี้ไว้ หรือแม้แต่หุบเขาเทพธิดาก็อาจจะกลายเป็นผุยผงด้วยฝ่ามือนี้ด้วยซ้ำ
แต่โลงศพโบราณนี้ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับฝ่ามือนี้เหมือนว่าหญิงสาวที่อยู่ภายในโลงนั้นจะสิ้นลมไปแล้วอย่างแท้จริงมันไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
ตูม!
ฝ่ามือขนาดยักษ์กระแทกลงไปอย่างรวดเร็วและมีบางสิ่งที่ทำให้ปรมาจารย์หลิงและเจียงอี้ตกตะลึง
ทันทีที่ฝ่ามือนั้นกระแทกลงมาโลงศพโบราณก็สว่างไสวไปด้วยแสงสีเงินขาว ลวดลายอักขระจำนวนมากปรากฏบนโลงศพและโปร่งแสงออกมา ในตัวอักขระแต่ละตัวนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ทำให้พวกเขาใจสั่น ในเวลาติดๆกันเจียงอี้ก็สัมผัสได้ถึงอักขระเหล่านั้นที่มีพลังสายฟ้าอยู่
ฟรึ่บ!
ในขณะที่อักขระเหล่านี้ปรากฏขึ้นพื้นที่ทั้งหมดก็ถูกแช่แข็ง กลิ่นอายทำลายล้างโลกแผ่ออกมาจากโลงศพโบราณนั้น มันเป็นกลิ่นอายที่ทำให้จิตวิญญาณของปรมาจารย์หลิงและเจียงอี้ต่างสะท้านไปด้วยความกลัว
ฟึ่บ!ฟั่บ!
อักขระบนโลงศพโบราณเริ่มเคลื่อนไหวเหมือนงูตัวเล็กๆที่เลื้อยอยู่รอบโลงศพมังกรอัสนีสีเงินพุ่งออกมาจากโลงศพโบราณอย่างรวดเร็วและพุ่งไปยังปรมาจารย์หลิง
“น่ะ…นี่มันเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะมันมีความแข็งแกร่งของเหล่าเทพ โลงศพนี่เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะจริงๆ! มันเป็นไปได้ยังไงกัน? มันมีสิ่งประดิษฐ์เทวะอยู่ในทวีปเทียนชิงได้อย่างไรกัน? หญิงสาวผู้นี้เป็นใครกันแน่?!”
ปรมาจารย์หลิงถูกแช่แข็งไว้โดยอักขระจนเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เขาทำได้เพียงจ้องมองมังกรอัสนีที่กำลังเข้ามาหาเขาเท่านั้น จากนั้นเขาก็โหยหวนขณะที่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในโลงศพโบราณขณะที่มีสีหน้าอ้อนวอนออกมาจากใบหน้าของเขา
ฟึ่บ!ฟั่บ!
มังกรอัสนีแทงทะลุผ่านปรมาจารย์หลิงไปในเวลานั้น ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาก็สั่นไม่หยุดราวกับว่าร่างทั้งร่างของเขาถูกสายฟ้าฟาดลงมา ร่างของเขาเริ่มปล่อยควันออกมาขณะที่ผมของเขาถูกไหม้ไปจนหมด ร่างของเขาส่งกลิ่นเนื้อที่กำลังไหม้ขณะที่เขายังคงสั่นราวกับโรคลมบ้าหมูกำเริบ
หลังจากที่โลงศพโบราณยิงมังกรอัสนีออกมาอักขระนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วและกลับคืนสู่สภาพเดิม ฝ่ามือของปรมาจารย์หลิงนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆแก่โลงศพโบราณนั้นเลยและยังดูเหมือนว่ามันจะไม่สั่นสะเทือนเลยด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกัน หญิงสาวในนั้นก็นอนอย่างสงบราวกับเจ้าหญิงนิทรา
“อ๊ากอ๊ากก อ๊ากกกก!”
ปรมาจารย์หลิงสมควรถูกขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปแม้แต่สายฟ้าที่น่ากลัวเช่นนี้ก็ยังไม่สามารถสังหารเขาได้มันจึงเห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ตอนนี้สภาพของเขาก็น่าสังเวชเสียยิ่งกว่าสตรีร้อยบุปผาก่อนที่นางจะสิ้นลมไปเสียอีก ไม่มีส่วนใดบนร่างกายของเขาที่ไม่ไหม้เกรียมเลย แม้แต่อวัยวะภายในของเขาก็อาจถูกย่างเกรียมเช่นกัน
ฟึ่บ!ฟั่บ!
หวายทะเลทั้งหมดพุ่งไปราวกับดาบคมตอนนี้ร่างของปรมาจารย์หลิงนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลังจากที่ถูกสายฟ้าฟาดลงมา เส้นลมปราณส่วนใหญ่ของเขาก็ถูกทำลายไป แล้วเขาจะป้องกันหวายทะเลเหล่านั้นได้อย่างไรกัน?
เขาถูกหวายทะเลพันในทันใดและถูกมันลากลงไปที่ก้นทะเลขณะที่เขากระแทกเข้ากับโครงกระดูกร่างของเขาถูกพันไปด้วยหวายทะเลมากกว่าสิบเส้นซึ่งพันตัวเขาราวกับเกี๊ยวและร่างกายของขาเต็มไปด้วยบาดแผล เขาจึงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“อักขระพวกนี้….ทำไมมันช่างดูคุ้นเคยยิ่งนัก?”
เจียงอี้ไม่ได้สนใจกับความตายของปรมาจารย์หลิงขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนจิตใจของเขานั้นเต็มไปด้วยอักขระที่ว่ายเวียนอยู่รอบๆโลงศพโบราณ เขารู้สึกได้ว่ามันคุ้นเคยกับเขามากแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน
“ใช่แล้ว!ผนึก-ผนึกบนตันเทียนข้า! ลวดลายอักขระมันเหมือนกับอักขระบนโลงศพโบราณนั่น!” เจียงอี้ทุบหัวของเขาหลังจากที่ตระหนักได้ แต่เขายิ่งคิดก็ยิ่งสับสน
อีเพียวเพียวเคยบอกเขาก่อนหน้านี้ว่านางไม่ใช่ผู้ที่ผนึกตันเทียนเขาหรือผู้ที่ผนึกตันเทียนเขาจะเกี่ยวข้องกับเจ้าของโลงศพโบราณนี้กัน? หรืออาจจะเป็นหญิงสาวผู้นี้ที่เป็นคนลงผนึกเขาไว้?
“อ๊ากกอ๊ากกก!”
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชจากภายนอกได้ดึงให้เจียงอี้กลับมาจากภวังค์เขาส่ายหัวและบังคับตัวเองให้หยุดคิดเรื่องนี้ เขาเหลือบมองไปยังลูกแก้วขณะที่จิตสังหารเริ่มแผ่ออกมาจากร่างของเขา เขาจ้องไปยังปรมาจารย์หลิงที่ถูกหวายทะเลพันเขาไว้อยู่ก่อนจะเผยความเย็นชาและยิ้มออกมา “เจ้าเฒ่า ให้ข้าส่งเจ้าไปปรโลกเถอะ!”