เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 618 เป็นเขา?
บทที่ 618 เป็นเขา?
ฟรึ่บ!ฟรึ่บ! ฟรึ่บ!
บนภูเขาทางด้านตะวันออกของราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสามสิบคนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกัน พวกเขาแต่ละคนมีกลิ่นอายที่น่าอัศจรรย์และเปล่งประกายด้วยแสงสีทองหลังจากเปิดใช้งานโล่ม่านพลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครกล้ามองพวกเขาโดยตรงขณะที่พวกเขาทั้งสามสิบคนพุ่งไปยังราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับและหนึ่งในนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “นอกเหนือจากสมาชิกเก้าตระกูลจักรพรรดิ จงสังหารผู้ใดก็ตามที่มันกล้าขัดขืน!”
ฟรึ่บ!
แม้ว่าจะคาดเอาไว้ว่าผลพวงของการล่าสมบัติจะโหดร้ายแต่ในตอนนี้บรรยากาศรอบๆนั้นก็เดือดพล่านขึ้นมาทันที ตระกูลเสียมีกำลังเสริมสามสิบคนและเมื่อรวมเสียเฟยและเสียจวินแล้ว พวกเขาก็มีขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดสามสิบสองคน ผู้ใดจะสามารถต้านทานความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้กัน?
“นายน้อย!คุณหนู!”
ผู้ที่กล้าเข้าไปในด่านต่างๆนั้นเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลต่างๆซึ่งพวกเขานำทหารไปด้วยและตอนนี้พวกเขาก็มีสีหน้าที่รู้สึกเลี่ยงไม่ได้ ทหารองครักษ์หลายคนรีบวิ่งไปคุ้มกันนายของตนและในตอนนั้น สถานที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
ฟรึ่บ!พรึบ!
ในขณะนั้นเองก็มีคนสิบกว่าคนทะยานมาจากทางตะวันตกของท้องฟ้าและพวกเขาก็เปิดโล่ม่านพลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาทั้งหมด และมีกลิ่นอายน่ากลัวที่มองไม่เห็น ผู้นำของกลุ่มนั้นคือเฟยฉีและเขาก็ตะโกนออกมาเช่นกัน “นายน้อยอู๋อิง กองทัพของเฟยฉีพร้อมรับคำสั่งของท่านแล้วขอรับ!”
ในหมู่ฝูงชนนั้นมีเด็กอายุราวๆเจ็ดแปดขวบที่บินออกมาด้วยดวงตาที่สุกสกาวเขาระเบิดเสียงออกมาว่า “ปล้น ปล้นทุกคนซะ!”
“ฆ่า!”
เฟยฉีเผยสีหน้าราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเขาเห็นร่องรอยของความประหลาดใจและความปิติยินดีจากดวงตาของเจี้ยนอู๋อิง มันไม่สำคัญว่าวันนี้เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็ประสบความสำเร็จในฐานะผู้ติดตามที่ภักดีได้แล้ว ตราบใดที่เจี้ยนอู๋อิงไม่สิ้นใจไป เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประมุขตระกูลเฟยคนต่อไปแน่นอน
ฟรึ่บ!
เดิมทีจักรวรรดิเฟยหม่านำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมาที่นี่ห้าคนและในภายหลังเขาได้เรียกผู้อาวุโสมาที่นี่กว่าสิบแปดคนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาได้กำลังเสริมมาเพิ่มกว่าสิบสองคนซึ่งตอนนี้มีทั้งหมดสี่สิบสามคนและพวกเขามีจำนวนมากกว่าตระกูลเสีย แถมพวกเขายังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับสูงสองคนและเมื่อผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเหล่านี้พุ่งเข้ามา เหล่านายน้อยและคุณหนูที่เพิ่งถูกย้ายออกมาจากราชวังต่างก็พากันงงงวยกันไปหมด
ฟรึ่บ!ฟั่บ! พรึ่บ!
อีฉาน,หวู่นี่, ถูหลง, พี่น้องตระกูลหลิง, หยิ่นรั่วปิง พวกเขาทั้งหมดบินไปทางทิศใต้และยืนมองกองทัพขอบเขตเทียนจุนทั้งสองกองทัพวิ่งเข้าไปหาฝูงชนเหล่านั้น ทหารลับต่างๆของพวกเขาทั้งหมดรีบทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและคอยยืนอยู่ข้างๆพวกเขาเพื่อสังเกตการณ์การต่อสู้ที่วุ่นวายนี้
“เฮ้อ….”
หยิ่นรั่วปิงและอีฉานมองหน้ากันพวกนางทั้งสองคนถอนหายใจเมื่อกวาดสายตาไปมองคนเหล่านั้นและมั่นใจว่าพวกเขาทั้งหมดนี้ไม่มีผู้ใดได้สมบัติทั้งสามชิ้นไปครอง แต่เสียเฟยและคนอื่นๆก็ยังคงปล้นพวกเขาต่ออยู่ดี
ปึง!ปัง! ปึ้ง!ไอรีนโนเวล
องครักษ์หลายคนที่ต้องการจะพานายน้อยและคุณหนูของพวกเขาหนีไปต่างถูกสังหารตายทั้งหมดก่อนที่พวกเขาจะทันได้เข้าใกล้บางคนที่พยายามผ่านด่านนั้นไม่ต้องการจะยอมจำนนและสู้กลับ แต่ผลสุดท้ายพวกเขาทั้งหมดก็ถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ
สองกองทัพที่มีขอบเขตเทียนจุนกว่าเจ็ดสิบคนมันเหมือนกับว่ามีเสือที่หิวโหยกว่าเจ็ดสิบตัวกำลังวิ่งเข้าไปในฝูงแกะและพวกมันจะฆ่าใครก็ตามที่ขัดขืนทั้งหมด แต่หากไม่ขัดขืนก็จะถูกรวบไปทันที ส่วนเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักและไม่สนว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีสมบัติทั้งสามชิ้นหรือไม่ แต่พวกเขาจะจับตัวคนเหล่านี้ไว้ก่อนแล้วค่อยถามทีหลัง
มีคนหลายร้อยคนที่พยายามผ่านด่านไปให้ได้และส่วนใหญ่พวกเขานั้นเป็นคนฉลาดมีพวกเขาหลายคนที่ตะโกนบอกให้องครักษ์ตัวเองอยู่ห่างๆและหลายคนก็ยกมือทั้งสองข้างเพื่อจำนน ในสถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาขัดขืนมันก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่
ปึง!ปัง! ปึง!
องครักษ์หลายคนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้พวกเขารู้เพียงว่าหากนายน้อยและนายหญิงของพวกเขาเป็นอะไรไป พวกเขาเองก็ต้องตายเช่นกัน พวกเขาก็เลยเลือกที่จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ถูกสังหารไปอย่างไร้ปรานีโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนจากตระกูลเสียและจักรวรรดิเฟยหม่า
มีแสงของการต่อสู้ปะทะกันกลางอากาศมากมายเมื่อกองทัพตระกูลเสียและจักรวรรดิเฟยหม่าอยู่ท่ามกลางการจับกุมผู้คน มันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นการจุดชนวนให้เกิดการต่อสู้ที่วุ่นวายขึ้นมา
“ชูววว!”
ทหารลับของเจี้ยนอู๋อิงออกมาปกป้องเขาและนกร็อกปีกทองก็บินขึ้นไปขณะที่เฟยฉีนำทหารสองคนไปเฝ้าเจี้ยนอู๋อิงอย่างใกล้ชิดเจี้ยนอู๋อิงสบตากับเสียเฟยที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าด้วยสายตาหยิ่งผยองราวกับว่าพวกเขากำลังยั่วยุซึ่งกันและกัน
แต่เสียเฟยก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักและเขาเห็นได้ชัดว่าตระกูลเฟยของทวีปเฟยหม่าเป็นเพียงขี้ข้าของจักรพรรดิแห่งศาสตราเมื่อกองกำลังของเขาผ่านมายังค่ายกลเคลื่อนย้าย มันได้ทำให้สมาชิกเผ่าพันธุ์เฟยหม่ารู้เรื่องนี้และมันก็เป็นสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้
เขามองผ่านร่างของทุกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์และรู้สึกผิดหวังหลังจากที่มองคนเหล่านั้นในทุกครั้งหลังจากตรวจสอบทุกคนนอกเหนือจากหลิวชิงแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีผู้ใดได้สมบัติทั้งสามชิ้นไปเลย
เกือบทุกคนที่อยู่ข้างล่างแทบจะถูกปล้นไปหมดแล้วขณะที่ซากศพและแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณก็ถูกกวาดล้างไปจนสิ้นเสียเฟยมองไปยังราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับอีกครั้งซึ่งมันทำให้ดวงจิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน เขาอุทานว่า “ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับยังไม่หายไป? เป็นไปได้ไหมว่า…..ยังมีใครบางคนอยู่ในนั้น?”
ไม่เพียงแค่เสียเฟยแต่เจี้ยนอู๋อิง, ถูหลงและคนอื่นๆก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน อีฉานและหยิ่นรั่วปิงมองไปยังราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับและอีฉานพึมพำเบาๆว่า “ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะได้สมบัติทั้งสามชิ้นไป แต่น่าเสียดายนะ….เมื่อเขาออกมา เขาจะถูกลิขิตให้ดับสิ้นไป!”
“คนผู้นั้น?”
หยิ่นรั่วปิงยืนอยู่ข้างๆอีฉานและนางมีความสามารถในการฟังที่แกร่งกล้ามากดังนั้นนางจึงมองไปที่อีฉานและถามเบาๆว่า “พี่ใหญ่ฉาน คนผู้นั้นใช่คนที่พยายามผ่านด่านในระดับนรกหรือไม่?”
นางมองไปที่หยิ่นรั่วปิงด้วยสายตาแปลกประหลาดทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่จะมองไปยังราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับและรอบุคคลผู้นั้นปรากฏตัว
การต่อสู้กลางอากาศกำลังจะจบสิ้นลงและมีผู้เสียชีวิตไปไม่กี่ร้อยคนพวกเขาส่วนใหญ่เป็นองครักษ์จากตระกูลต่างๆในขณะที่มีคนเพียงไม่กี่สิบคนที่ได้ออกมาจากราชวังตกตายไป คนส่วนใหญ่เหล่านั้นถูกจับโดยตระกูลเสียและเฟยฉี
หลิวชิงเองก็ถูกตระกูลเสียจับไปตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยและไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความประหลาดใจบนใบหน้าของเขาเลย และเขาก็ส่งข้อความไปยังทหารของเขาให้คอยอยู่ห่างๆทันที จากนั้นเขาก็ยอมจำนนต่อกองทัพของตระกูลเสียเอง
“มอบแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของเจ้าและขจัดเครื่องหมายผนึกวิญญาณของพวกเจ้าออกไปซะไม่เช่นนั้นก็จงตายซะ!”
ทั้งสองฝ่ายเริ่มทำตามคำสั่งของเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงเพื่อตามหาสมบัติทั้งสามชิ้นนั้นส่วนคนที่ถูกจับกุมไว้ก็ถูกบังคับให้ส่งทุกอย่างที่พวกเขามีออกมา และเมื่อพวกเขาถูกค้นและพบว่าพวกเขาไม่ได้ครอบครองเกราะเมฆาอัคคี, วิชาหลีกสวรรค์และหญ้ามังกรยาจก พวกเขาจะได้แหวนและสิ่งประดิษฐ์คืนและได้รับอนุญาตให้ไปได้
“ไม่มี,ไม่มี, ยังไม่มี….”
เฟยเทียนนำทหารออกไปตรวจสอบและหลังตรวจสอบแหวนทั้งหมดแล้วก็ยังไม่เจอสมบัติทั้งสามชิ้นส่วนตระกูลเสียเองก็หาไปมากกว่าครึ่งแล้วและก็ไม่พบอะไรเลยเช่นกัน!
“นายน้อยอู๋อิงไม่พบสมบัติเลยขอรับ!”
“นายน้อยเฟยไม่มีเลยขอรับ!”
สามสิบนาทีต่อมาเฟยเทียนและเสียจวินก็ส่งข้อความรายงานซึ่งทำให้สีหน้าของเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงซีดเผือดทันที พวกเขาไม่ได้สนใจผู้คนด้านล่างและมองไปที่ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับในขณะที่รอคอยอย่างอดทน
บรึฟ!
จนในที่สุดราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับก็สว่างขึ้นและร่างสีแดงเพลิงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เมื่อร่างนั้นปรากฏขึ้น ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับก็หายไปทันทีราวกับว่ามันไม่เคยอยู่ที่นั่นเลย
“โอ้”
เสียเฟย,เจี้ยนอู๋อิง, ถูหลง, หวู่นี่, หลิงชีเจี้ยนและคนอื่นๆต่างก็ตาสว่างขึ้นมา บุคคลที่ถูกเคลื่อนย้ายออกมาเป็นคนสุดท้ายสวมชุดเกราะสีแดงเพลิง ชุดเกราะต่อสู้นี้ถูกหมุนเวียนด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์และเต็มไปด้วยแสงสีแดงบนท้องฟ้าซึ่งทำให้ผู้คนมองมาที่เขาโดยตรงไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนรู้ได้ในทันทีว่าชุดเกราะนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง!
“เกราะเมฆาอัคคี!”
ผู้คนนับไม่ถ้วนอุทานออกมาโลกนี้ไม่ได้มีสิ่งประดิษฐ์แฝงมากมายและชุดเกราะประเภทป้องกันนั้นหายากกว่ามาก หากคนผู้นี้ถูกย้ายออกมาจากราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับแล้ว เขาจะต้องสวมชุดเกราะเมฆาอัคคีแน่นอน
“เป็นเขาหรือ?”
ในขณะเดียวกันหลิงชือหย่า, หยิ่นรั่วปิงและอีฉานต่างก็ประหลาดใจออกมา ทั้งสามคนรู้จักคนผู้นี้ แต่พวกนางไม่เคยคิดมาก่อนว่า….เขาจะเป็นคนที่เปลี่ยนกฎของราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับและได้สมบัติทั้งสามชิ้นไปครอง!
“จับมัน!”
“เฟยฉีลงมือ!”
เสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงตะโกนออกมาพร้อมกันและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าเจ็ดสิบคนก็พุ่งไปยังคนผู้นั้นด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัว