เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 621 ท่านรู้จัก.....อีเพียวเพียวไหม?
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 621 ท่านรู้จัก.....อีเพียวเพียวไหม?
บทที่ 621 ท่านรู้จัก…..อีเพียวเพียวไหม?
อีฉานมีน้ำเสียงที่น่าหลงใหลมากมันดังก้องไปในอากาศราวกับเสียงนกร้องอย่างไพเราะ นางไม่ได้พูดสิ่งใดมากและไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเอาสมบัติจากเจียงอี้ เพราะนางรู้ดีว่าแม้ว่านางจะได้สมบัติของเจียงอี้มา แต่ในวันนี้นางก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้
เมื่อนางตอบเจียงอี้นายน้อยมากมายต่างก็พากันอิจฉา คนอื่นอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่หลิงชีเจี้ยนรู้ดีว่าไข่มุกของจักรพรรดิอรหังนั้นภาคภูมิและหยิ่งยะโสเพียงใด นอกจากผู้สืบตระกูลโบราณชั้นสูงแล้ว นางแทบจะไม่ใช้คำว่านายน้อยแก่ทายาทเก้าตระกูลจักรพรรดิเลย
เจียงอี้พยักหน้าและพูดอีกครั้ง“คราวก่อนข้าโชคดีพอที่ได้รับความช่วยเหลือของแม่นาง ไม่เช่นนั้นข้าคงถูกทุบอยู่ในโรงเหล็กไปแล้ว ข้าขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก”
เมื่อคำพูดนี้ถูกเผยออกไปบรรยากาศทั้งหมดก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นความน่าประทับใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายคนก็พร้อมที่จะโจมตีด้วยเช่นกัน หากเจียงอี้ยกสมบัติให้นางจริง พวกเขาจะต้องสังหารเจียงอี้อย่างไร้ปรานีแน่นอน พวกเขาหลายคนใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์จับจ้องไปที่พวกเขาทั้งสองและพร้อมที่จะโจมตีทุกเมื่อ
อีฉานพยักหน้าเบาๆและไม่พูดอะไรอีกนางมองไปที่เจียงอี้จากไกลๆและไม่มีผู้ใดรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ ชุดสีขาวของนางพลิ้วไหวไปกับสายลมเบาๆ
เจียงอี้ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกต่อไปเขาแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังอีฉานและเริ่มส่งข้อความเสียงของเขา
ใช่แล้ว!
สิ่งที่เขาต้องการจะจัดการคือการสอบถามข้อมูลของอีเพียวเพียวจากอีฉานที่เขามาราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับนั้นไม่ใช่เพื่อล่าสมบัติแต่มาเพื่อตามหานาง และตอนนี้เมื่อเขามีโอกาส เขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด
เขาเริ่มส่งข้อความอย่างเก้ๆกังๆซึ่งมันก็ล้มเหลวไปข้อความที่เขาต้องการจะส่งไปหานางสะท้อนอยู่ในใจของเขาอย่างชัดเจนแทน “นายน้อยเจียง ทำไมถึงต้องการส่งข้อความถึงข้ากัน? หากเจ้าจะเสนอสมบัติให้ข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นหรอก ตอนที่ข้าช่วยเจ้าในคราวนั้น ข้าไม่ได้ต้องการคำขอบคุณมากมายอะไรนัก ยิ่งไปกว่านั้น ข้าขอบอกเจ้าตรงๆเลยนะ แม้ว่าเจ้าจะมอบสมบัติให้ข้า ข้าก็ไม่มีทางปกป้องเจ้าได้ ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเสียและจักรวรรดิเฟยหม่ามากเกินไป….”
เจียงอี้พยายามที่จะส่งข้อความไปอีกสองครั้งแต่ก็ล้มเหลวอีฉานจึงส่งข้อความบอกวิธีการส่งข้อความเสียงให้แก่เขา และเจียงอี้ก็เป็นผู้ที่ฉลาดอยู่แล้วจึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาจึงส่งข้อความไปหานางว่า “แม่นางอี ข้าไม่ได้คิดจะพึ่งพิงท่าน ข้าเพียงอยากจะถามถึงคนผู้หนึ่งเท่านั้น ท่านพอจะรู้จัก…อีเพียวเพียวหรือไม่?”Aileen-novel
“อีเพียวเพียว?”
คิ้วของอีฉานขมวดและส่งข้อความตอบกลับมาว่า“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้ยินชื่อนี้ ดูเหมือนตระกูลข้าจะไม่มีผู้ใดมีนามว่าอีเพียวเพียวเลย…”
“ฮะ!”
สีหน้าของเจียงอี้เปลี่ยนไปเขากระพริบตาสองสามครั้งก่อนที่จะส่งข้อความอื่นต่ออย่างรวดเร็ว“มันอาจจะเป็นเพียงชื่อปลอมก็ได้ แม่นางอี หากข้ารบกวนถามท่านอีกเล็กน้อยได้หรือไม่ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลท่านมีป้าที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน? ข้าสงสัยว่าท่านรู้หรือไม่ว่านางไปยังทวีปเทียนชิงมาก่อน ข้ามีญาติสนิทเพียงคนเดียวที่มีนามว่าอีเพียวเพียว นางอายุราวๆสามสิบปีกว่าและเป็นคนน่าเกรงขามและมีภูมิหลังที่ทรงพลัง นางบอกว่านางมาจากทวีปจักรพรรดิบูรพา นางจะเป็น…ป้าของท่านได้หรือเปล่า?”
“ไม่!”
ข้อความของอีฉานทำให้ดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้สั่นสะเทือน“ป้าของข้ามีนามว่าอีเฟยเซียนและนางไม่เคยออกจากทวีปจักรพรรดิบูรพาเลย นางล่วงลับไปประมาณยี่สิบปีก่อนและนางคงไม่ใช่คนที่นายน้อยเจียงกำลังตามหาอยู่แน่นอน”
ตูม!
ดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้ระเบิดออกมาราวกับเสียงฟ้าร้องสีหน้าของเขามืดมนลงเมื่อได้รับรู้ข้อมูลนั้น เขามาที่นี่และรอดตายอย่างหวุดหวิดเพื่อมาหาอีฉาน แต่เขากลับได้รู้ว่าอีเพียวเพียวไม่ใช่บุตรสาวของจักรพรรดิอรหัง ซึ่งมันทำให้เขาผิดหวังและท้อแท้มาก
เขาไม่ได้ผิดหวังเพราะตัวเขาไม่ใช่หลานชายของจักรพรรดิอรหังเพราะอีเพียวเพียวนั้นมีภูมิหลังที่ทรงพลังและแม้ว่าตระกูลของแม่นางจะเทียบไม่ได้กับจักรพรรดิอรหังแต่ก็คงไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนัก
แต่ที่เขาผิดหวังนั้นมันเป็นเพราะเขาคงหาอีเพียวเพียวไม่เจอในเร็ววัน
เขานิ่งงันไปครู่หนึ่งและฮึดตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพราะนี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้เขาถามอีฉานด้วยความหวังอีกครั้ง “เช่นนั้น แม่นางอี ท่านรู้จักหยูเวินหรือไม่?”
เจียงอี้เคยพยายามหาข้อมูลของหยูเวินจากผู้อาวุโสฉีแล้วแต่ก็ไม่พบอะไรเลยดังนั้นเขาจึงลองถามอีฉานดู เก้าตระกูลจักรพรรดินั้นเป็นใหญ่ในแดนเทียนชิงและพวกเขาจะต้องรู้ความลับมากมาย หากหยูเวินผู้นี้มีอยู่จริง อีฉานจะต้องรู้จักเขาอย่างแน่นอน
แต่ใครจะไปรู้….
นางตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า“ขออภัยนายน้อยเจียง ข้าไม่เคยได้ยินชื่อหยูเวินมาก่อนเลย ข้านั้นรู้จักยอดฝีมือส่วนใหญ่ทั้งหมดในแดนเทียนชิง แต่….ไม่มีคนชื่อหยูเวินเลย”
ตูมม!
เจียงอี้ชะงักไปอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อีฉานก็ไม่รู้ว่าผู้ใดคือหยูเวิน? เขามีตัวตนอยู่จริงๆหรือ? อีเพียวเพียวโกหกเขาหรือเปล่า? หรือว่าหยูเวินจะเป็นเพียงนามแฝง? หรือบางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนที่เลื่องลือจนอีฉานต้องรู้จัก?
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรแต่เจียงอี้ก็ปวดหัวมากขึ้น อีเพียวเพียวไม่ได้อยู่ในตระกูลจักรพรรดิอรหังและไม่มีคนชื่อหยูเวิน ทวีปจักรพรรดิบูรพานั้นกว้างใหญ่นัก….เขาจะหาอีเพียวเพียวเจอได้อย่างไรกัน?
ใบหน้าที่งดงามและน่ารักของอีเพียวเพียวปรากฏขึ้นในความคิดของเจียงอี้ในตอนนี้และคำพูดที่นางทิ้งไว้ก็หวนกลับมาอีกครั้งเจียงอี้มีสายตาที่ไม่เชื่อขณะที่เขาพึมพำออกมาอย่างสิ้นหวัง “เป็นไปไม่ได้ ท่านแม่จะไม่โกหกข้า หยูเวินจะต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งและข้าจะต้องหาเขาเจอ ข้าจะต้องหาแม่ข้าให้เจอ!”
แก้มของเจียงอี้อาบไปด้วยน้ำตาขณะที่เขาหลับตาลงและเบือนหน้าหนีเพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นสีหน้าที่น่าสมเพชของเขา
หยิ่นรั่วปิงและหลิงชือหย่าไม่รู้ว่าเจียงอี้และอีฉานพูดคุยอะไรกันแต่พวกนางรู้ว่าเจียงอี้กำลังรู้สึกเศร้าโศกและเดียวดาย น้ำตาของลูกผู้ชายจะไม่ถูกเปิดเผยออกมาง่ายๆ แต่มันคงเกินกว่าจะอัดอั้นเอาไว้ได้แล้ว
อีฉานไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและนางก็ไม่ได้ส่งข้อความอีกต่อไปนางมองไปที่เจียงอี้เงียบๆและเห็นว่าเขาเบือนหน้าหนีไป นางคงจะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าทำไมเจียงอี้ถึงหลั่งน้ำตาออกมา อีเพียวเพียวจะต้องเป็นคนที่สนิทสนมกับเจียงอี้มากใช่ไหม? ทันใดนั้นนางก็มีความคิดแปลกๆขึ้นมาและรู้สึกว่าที่เจียงอี้มาที่ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้เพียงเพื่อหาข้อมูลของอีเพียวเพียวจากนางหรือเปล่านะ?
“นายน้อยเจียงเจ้าน่าจะส่งข้อความเสร็จแล้วใช่ไหม? ข้ากำลังรออย่างห่อเหี่ยวอยู่ตรงนี้ หากแม่นางอีฉานช่วยเจ้าไม่ได้ ข้า เสียเฟยผู้นี้ทำได้!”
เสียงที่เย็นชาของเสียเฟยสะท้อนออกมาและเขาก็เป็นคนใจร้อนเล็กน้อยพวกเขาจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าเจียงอี้กำลังส่งข้อความคุยกับอีฉานอยู่? การตายของเสียจวินก็ทำให้เขาโกรธมากแล้วและเขาก็รอมานานมากพอแล้ว
“รีบนักหรอรีบกับตูดเจ้าน่ะสิ!”
ใครจะไปคิดว่าเจียงอี้จะจ้องมองไปที่เสียเฟยและตะโกนออกมาเขาโบกมือขึ้นมาและยกหญ้ามังกรยาจกขึ้นราวกับว่าเขากำลังจะโยนมัน จากนั้นมืออีกข้างของเขาก็ชี้ไปที่เฟยเทียน และก่อนที่เสียเฟยจะได้พูดอะไร เจียงอี้ก็ตะโกนออกมาว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากได้หญ้ามังกรยาจกหรือ? มันง่ายมากๆ ไปสังหารเฟยเทียนซะ แล้วหญ้ามังกรยาจก, วิชาหลีกสวรรค์หรือแม้แต่เกราะเมฆาอัคคีที่ข้าสวมอยู่จะเป็นของเจ้า”
“หืม…”
ทุกคนตกตะลึงในทันใดเจียงอี้น่าจะเป็นคนแรกที่กล้าสาปแช่งเสียเฟย และเมื่อพวกเขาได้ยินคำของเจียงอี้ ทุกคนก็หันไปมองเฟยเทียนทันทีซึ่งมันทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เฟยฉีที่อยู่ไม่ไกลนักก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
เมื่อเสียเฟยได้ยินคำพูดแรกนั้นเขาก็เดือดดาลขึ้นมา แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคหลัง เขาก็ระงับความโกรธและมองไปที่เฟยเทียนอย่างเย็นชา
ฟรึ่บ!
กลิ่นอายสังหารหลายสิบสายตาจ้องไปยังเฟยเทียนซึ่งตอนนี้เขาหน้าซีดเผือดเฟยเทียนรีบบินไปหาเฟยฉีด้วยความกลัวสุดขั้วหัวใจและตะโกนออกมาว่า “พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย”