เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 639 สูญเสียไปถึงสองคราว
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 639 สูญเสียไปถึงสองคราว
หนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เจียงอี้ใช้วิชาหลีกสวรรค์ย้ายไปอากาศเหนือเกาะก็เกิดความผันผวนขึ้นมาและมีค่ายกลที่สลับซับซ้อนปรากฏขึ้นและมีจุดแสงสว่างอยู่ตรงกลางค่ายกลที่ค่อยๆขยายออกมา จนสุดท้ายเส้นทางโบราณที่ดูน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นและมีคนกว่าสามสิบคนรีบออกมาจากเส้นทางสายนั้นอย่างรวดเร็ว
บรึฟ!
คนที่อยู่ด้านหน้าคือผู้อาวุโสที่ผอมราวกับกระดูกซึ่งเขาฟาดฝ่ามือของเขาออกมาอย่างกะทันหันและทำให้ห้วงอากาศสนั่นสั่นไหวราวกับคลื่นทะเลทันที
“หืม?ไม่มีใครเลย….”
ผู้อาวุโสที่ดวงตาดูหม่นๆกำลังใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดมองไปรอบๆรัศมีร้อยกิโลเมตรที่อยู่ใกล้ๆแล้วแต่ไม่พบอะไรเลยส่วนผู้ที่ตามหลังมาก็บินออกไปรอบๆในขณะที่พวกเขาคอยเฝ้าระวังอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่เห็นกลิ่นอายของคนที่มีชีวิตอยู่เลย
“นายน้อยเฟยหลงอวี้ตายแล้ว ส่วนเทียนชีหายตัวไปขอรับ”
ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆเสียเฟยชี้ลงไปที่เกาะด้านล่างจากนั้นเขาก็รายงานว่า“มีคำพูดสลักไว้บนเกาะ มันน่าจะถูกคนผู้นั้นทิ้งเอาไว้”
“ไอ้เด็กเวรหากข้าไม่ได้ฆ่าเจ้า ข้าขอสาบานว่าข้าจะเลิกเป็นชายชาตรี!”
เสียเฟยเห็นสถานการณ์บนเกาะนั้นแล้วและเขาเห็นศพผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนและคำพูดขนาดใหญ่สลักอยู่ข้างๆว่า“เสียเฟย หากเจ้ากล้าไล่ล่าพ่อมาอีก นี่จะเป็นจุดจบของเจ้า!”
มันเป็นเพียงประโยคเดียวแต่กลับเต็มไปด้วยความอัปยศอดสูในชีวิตนี้เสียเฟยไม่เคยถูกใครสาปแช่งเลย เจียงอี้ทำให้เขาอับอายต่อหน้าผู้คนนอกราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับไปแล้ว และครั้งนี้ เขายังทิ้งคำพูดที่ไม่เหมาะสมเอาไว้อีก แล้วเขายังบอกว่าเขาเป็นพ่อของเสียเฟยอีกงั้นหรือ?
พ่อของเสียเฟยคือผู้ใด?เขาเป็นถึงประมุขตระกูลในปัจจุบันและเป็นผู้ที่มีฝีมืออันดับสองของตระกูลเสียและเป็นที่รู้จักไปทั่วทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วย และในตอนนี้เสียเฟยเป็นผู้ที่นำผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์และทหารจักรพรรดิหมู่มารที่แข็งแกร่งที่สุดมาด้วย มันจะไม่ให้เขาโกรธแค้นได้อย่างไร?
“ผู้อาวุโสอูโปรดใช้โหราศาสตร์ต่อเถอะและเราจะต้องเจอไปสารเลวนี่! การบ่มเพาะพลังและร่างกายของเขายังอ่อนแอเกินไป เขาจะไม่สามารถใช้วิชาหลีกสวรรค์ได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่ท่านเจอตัวมัน เราก็จะฉีกมันเป็นชิ้นๆได้”
เสียเฟยสั่งผู้อาวุโสชุดขาวที่อยู่ข้างๆเขานักโหราศาสตร์ผู้นี้อาจเป็นที่น่ายกย่อง แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะทำให้เสียเฟยโกรธในตอนนี้ เขาจึงรีบพาคนของเขาลงไปที่เกาะและเริ่มติดตามตำแหน่งของเจียงอี้ต่อ
“กระจายกันไปค้นหาเบาะแสและหากลิ่นอายของผู้อื่นที่อยู่กับเจียงอี้ซะ”
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญกว่าสามสิบคนก็พากันกระจัดกระจายออกไปเขาพาคนกว่าหกสิบคนมาที่นี่ แต่มันก็น่าเสียดายที่พวกเขาส่วนใหญ่ออกไปตามหาเจียงอี้กันอยู่ และเมื่อเขาได้ข้อมูลของเจียงอี้มา มันก็ดีมากพอแล้วที่เขาสามารถรวบรวมคนมาได้กว่าสามสิบคนในเวลาอันสั้นเช่นนั้น
นักโหราศาสตร์และปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ต้องใช้เวลาในการใช้ศาสตร์วิชาของพวกเขาซึ่งมันทำให้เสียเฟยปวดหัวเป็นอย่างมาก หากเขาตัดสินผิดเกี่ยวกับการที่เจียงอี้ไม่สามารถใช้วิชาหลีกสวรรค์ติดกันได้ พวกเขาก็จะไม่มีทางไล่ตามเจียงอี้ได้ ไม่เช่นนั้นทุกครั้งที่พวกเขาไล่ตามไป เจียงอี้ก็จะจากไปแล้ว แล้วจะตามไปเพื่ออะไรกันล่ะ?
“ไอ้หลงอวี้และเถียนชีนั่นข้าบอกให้พวกเขารีบรายงานมาทันทีเมื่อพบอะไรน่าสงสัยและอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม แล้วตอนนี้พวกเขาก็ทำให้เป้าหมายรู้ตัวแล้ว ตอนนี้มันคงจะยิ่งลำบากกว่าเดิมอีก”
เสียเฟยสาปแช่งอยู่เงียบๆแต่อย่างน้อยมันก็มีข่าวดีที่แจ้งกลับมาก็คือ นอกเหนือจากเจียงอี้แล้ว พวกเขายังพบดวงจิตอีกสองดวงจิตและหนึ่งในนั้นคือกลิ่นอายของจักรพรรดิสัตว์อสูร นักโหราศาสตร์ผู้นั้นได้จับกลิ่นอายของทั้งสองไว้แล้วและหากเขาไม่พบกลิ่นอายของเจียงอี้ เขาก็ยังสามารถติดตามกลิ่นอายของอีกสองคนได้เช่นกัน
หนึ่งชั่วโมงต่อมานักโหราศาสตร์ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและมองไปยังดวงตาที่คาดหวังของเสียเฟย เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “นายน้อยเฟย พวกนั้นจะต้องเข้าไปอยู่ในสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติเป็นแน่ ข้าสัมผัสได้เพียงว่าพวกนั้นอยู่ห่างออกไปหลายหมื่นกิโลเมตรทางตะวันออก ข้าไม่สามารถจับตำแหน่งที่แน่ชัดได้เลย”
บ้าเอ้ย!
เสียเฟยปลดปล่อยการโจมตีด้วยความโกรธเกรี้ยวออกไปซึ่งมันก่อเป็นคลื่นหลายพันคลื่นแนวปะการังขนาดยักษ์ด้านล่างทะเลที่ถูกทุบด้วยฝ่ามือนี้ถูกระเบิดออกไปทั่วทุกสารทิศและทำให้น้ำทะเลพุ่งพล่านขึ้นมา
บรึฟ!
และในตอนนั้นเอง……ไอรีนโนเวล
ความผันผวนบนอากาศก็ก่อตัวขึ้นในขณะที่ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์รีบไปอยู่ข้างๆเสียเฟยและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดก็ห้อมล้อมนักโหราศาสตร์และปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ทันที หากทั้งสองคนนี้ตกตายไป พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกสังหารไปด้วย
“เจี้ยนอู๋อิง?”
เส้นทางโบราณปรากฏขึ้นมาเหนือท้องฟ้าและคนหลายสิบคนก็บินออกมาและคนที่อยู่ด้านหน้าคือผู้อาวุโสที่อุ้มเด็กแปดขวบอยู่ เมื่อพวกเขาบินออกมา พวกเขาก็แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาด้วยและทุกคนก็หมุนเวียนแก่นแท้พลังของพวกเขาเตรียมเอาไว้เพื่อพร้อมที่จะสู้ได้ทุกเมื่อ
“เสียเฟย?”
เจี้ยนอู๋อิงขมวดคิ้วและมองไปรอบๆจากนั้นเขาก็เผยร่องรอยของการเยาะเย้ยในทันทีจากนั้นก็กล่าวว่า “เสียเฟย ดูเหมือนว่าครั้งนี้เจ้าจะสูญเสียไปถึงสองคราวเลยนะ อืม คำพูดเหล่านี้ดูตรงไปตรงมาและช่างเด็ดเดี่ยวนัก พวกเขาเขียนได้ดีมากจริงๆ…”
เสียเฟยลอยอยู่เหนือเกาะและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนด้านล่างก็ไม่กล้าแตะต้องคำที่ถูกสลักเหล่านั้นและเมื่อเจี้ยนอู๋อิงปรากฏตัวออกมา เขาก็เห็นคำพูดที่เจียงอี้ทิ้งไว้เบื้องหลังทันที
เมื่อตอนที่พวกเขาอยู่นอกราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับคนของตระกูลเสียได้ทำร้ายคนของจักรวรรดิเฟยหม่าไปบ้าง และตอนนี้มันคงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะล้อเลียนซึ่งกันและกัน
“หืม?”
เสียเฟยยังคงอยู่ในจุดเดือดดาลที่สุดอยู่ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อจับจ้องไปยังเจี้ยนอู๋อิงและกล่าวว่า “เจ้าหนูตระกูลเจี้ยน เจ้าปรารถนาที่จะตายงั้นรึ? อย่าคะนองให้มากนัก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะต้องตายก่อนวัยอันควร และหากเจ้าดับสลายไปกับพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด จักรพรรดิแห่งศาสตร์คงจะใจสลายอยู่นานเชียวนะ”
“เห๊อะ!”
เจี้ยนอู๋อิงหัวเราะเยาะ“เสียเฟย เจ้าแค่แก่กว่าข้า เมื่อข้าอายุเท่าเจ้า ข้าคงจะอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดแล้ว และจากนั้น เพียงข้าใช้ฝ่ามือเดียว มันก็คงจะสังหารเจ้าได้แล้วล่ะ เหอะเหอะ! ไปฉกหญ้ามังกรยาจกกันเถอะ”
เจี้ยนอู๋อิงนำคนของเขาไปและปล่อยให้เสียเฟยและกลุ่มของเขากัดฟันกันไปมันไม่มีทางเลือกเมื่อเจี้ยนอู๋อิงมีจำนวนคนมากกว่าพวกเขาและแม้แต่เสียเฟยเองก็ไม่สามารถบ้าคลั่งได้แม้ว่าเขาจะต้องการทำเช่นนั้นมากก็ตาม
“พวกเจ้ามัวทำอะไรกันอยู่?ไปค้นหาทางตะวันออกสิ! หากไม่เจอตัวเจียงอี้ จงอย่ากลับมา! ส่งคำสั่งข้าออกไปและให้คนอื่นๆไปค้นทางตะวันออกด้วย”
เสียเฟยคำรามอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งมันดังก้องไปทั่วรัศมีหลายสิบกิโลเมตรและมันทำให้ปีศาจทะเลนับไม่ถ้วนพากันว่ายหนีไปทั่วทุกสารทิศ
…
“ผู้อาวุโสชวีซักถามเขาให้หมด!”
เจียงอี้มาทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลราตรีสีเลือดและพวกเขาก็อยู่ใกล้กับทวีปจักรพรรดิบูรพาแล้วเขาไม่กล้าเดินทางไปยังตะวันตกเพราะไม่ต้องการให้ทวีปเฟิ่งหมิงเข้ามามีเอี่ยวไปด้วย ส่วนทางใต้นั้นเป็นศูนย์กลางของทะเลราตรีสีเลือดและอาจมีสิ่งมีชีวิตที่เทียบเท่ากับเก้าจักรพรรดิของทวีปจักรพรรดิบูรพา ซึ่งเขาคงจะไม่ไปที่นั่นอยู่แล้ว มันจึงเป็นทางเลือกเดียวที่จะหนีมาทางตะวันออก
หลังจากที่เจียงอี้ตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีจักรพรรดิอสูรอยู่ใกล้ๆเขาก็ไปยังทะเลลึกที่สุดและเข้าไปในราชวังจักรพรรดิทันที
ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเสียที่เขาจับมาได้บอกว่าฝ่ายนั้นสามารถจับตำแหน่งกลิ่นอายของเขาและติดตามเขาได้เมื่อเขาเข้าไปอยู่ในราชวังจักรพรรดิ กลิ่นอายของเขาจะถูกตัดออกจากพื้นที่ภายนอกและพวกเขาจะไม่สามารถตามล่าตัวเขาได้นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องค้นหาตามพื้นที่ไปอย่างช้าๆ
หลังจากที่เข้าไปในราชวังจักรพรรดิแล้วเจียงอี้ก็ขอให้ผู้อาวุโสชวีสอบสวนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลเสียเพื่อเค้นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับนักโหราศาสตร์และปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่เจียงอี้ยังหาข้อมูลไม่ได้ เขาก็คงไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสงบ
ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อตรวจดูรอบๆว่ามีความวุ่นวายหรือไม่ จากนั้นเขาจะได้ใช้วิชาหลีกสวรรค์อีกครั้ง
เสียเฟยเดาถูกแล้วหากเป็นเจียงอี้ก่อนหน้านี้ เขาคงไม่สามารถใช้วิชาหลีกสวรรค์ต่อกันได้ แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว หลังจากที่ได้ขัดเกลาหญ้ามังกรยาจก ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า เขาอาจจะยังไม่ได้ฝึกฝนเพิ่มขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาหากว่าเขาจะใช้วิชาหลีกสวรรค์ต่อกันสองครั้ง
“เหอะเหอะเสียเฟย หากเจ้ากล้าไล่ล่าข้าต่ออีกล่ะก็ ข้าจะทำให้เจ้าและคนของเจ้าต้องตกตายอยู่ในทะเลราตรีสีเลือดนี้ซะ!”
หลังจากมั่นใจแล้วว่ารอบๆไม่มีอะไรผิดปกติเจียงอี้ก็ลืมตาขึ้นมาซึ่งมันเย็นชาราวกับธารน้ำแข็งหมื่นปี เขาอาจจะยังไม่ได้คิดอะไรได้มากนัก แต่เขาก็คิดบางสิ่งขึ้นมาได้บ้างแล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้วิชาหลีกสวรรค์ได้สองครั้งติดต่อกัน และเขาก็มีความสามารถที่จะเล่นงานผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเสียได้!