เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 658 หยกฟ้า
“ลองดูแล้วกัน!”
เจียงอี้เฝ้ามองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกัดฟันแน่นและตัดสินใจลองทำในที่สุด เมื่อตอนที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาแผ่ออกไปเจอเปลวเพลิงอัสนีครั้งก่อน สายสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกทำลายลงไปหลังจากที่มันอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสามร้อยเมตร ดังนั้นหากครั้งนี้เขาระมัดระวังมากขึ้น เขาก็คงจะไม่เป็นอะไร
เจียงอี้แผ่สัมผัสของเขาออกไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เปลวเพลิงอัสนีลอยไปที่ภูเขาลูกอื่น เขาก็รีบแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังภูเขาที่ใกล้ที่สุด
“น่ะ…นี่คือหินอัสนีหรือ?”
ดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้สั่นสะท้านเมื่อเขาเห็นหยกขนาดเล็กที่ส่องประกายอยู่ในหินในภูเขาลูกเล็ก หยกนั้นมีขนาดเท่าเม็ดข้าวและเป็นสีฟ้า มันเหมือนกับว่าหยกฟ้านั้นเกิดขึ้นมาใจกลางหินเลย มันใสและมีพลังงานและกลิ่นอายที่เจียงอี้ไม่รู้จักแผ่ออกมาซึ่งมันให้ความรู้สึกน่าพิศวงมาก
“เปลวเพลิงอัสนีกำลังมา!”
เมื่อเปลวเพลิงอัสนีวนเวียนมาแต่ไกล เจียงอี้ก็ถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับคืนมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขามั่นใจว่ามันปลอดภัยแล้ว เขาก็เริ่มตรวจสอบภายในภูเขาที่อยู่ใกล้ๆอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเจอหินสีดำมากมายนับไม่ถ้วนที่ห้อมล้อมหยกฟ้าอยู่ แต่เขาก็ไม่เห็นหยกฟ้าที่ฝังอยู่ในหินสีดำเหล่านี้เลย หลังจากที่เปลวเพลิงอัสนีลอยไปแล้ว เขาก็รีบตรวจสอบภูเขาอีกห้าลูกทันที
อย่างที่คิดเอาไว้!
มีหินหยกฟ้าอยู่ในภูเขาทั้งห้าลูกและไม่มีในภูเขาใกล้ๆลูกอื่นเลย เขาไม่จำเป็นต้องมองใกล้ๆก็รู้ว่ามันคือสมบัติ แต่ว่ามันจะใช่หินอัสนีไหม เจียงอี้ก็ไม่รู้เช่นกัน
“เริ่มขุดกันเลยดีกว่า!”
เจียงอี้พยายามอย่างมากที่จะขุดหยกออกมาไม่ว่ามันจะเป็นหินอัสนีจริงๆหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เขาสามารถนำมันออกมาได้ในพริบตาและหินอัสนีนี้ก็ไม่ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้
เขาสังเกตอีกเล็กน้อยก่อนที่จะรอจังหวะให้เปลวเพลิงอัสนีแล่นไปอีกรอบ จากนั้นเขาก็ย้ายร่างฉับพลันไปยังภูเขาลูกที่ห้า ดาบมังกรเพลิงปรากฏขึ้นในมือของเขาพร้อมกับแทงดาบไปด้านหน้า ในเวลาเดียวกัน เขาก็บินไปด้วยและในไม่ช้าเขาก็ไปถึงหยกฟ้า เมื่อเขากำลังจะเอื้อมมือไปคว้าหยกนั้น
“ฟุ่บ ฟั่บ!”
ทันทีที่เขาสัมผัสกับหยก ร่างของเจียงอี้ก็สั่นไม่หยุดราวกับว่าถูกฟ้าฟาดมาที่เขา กระแสไฟออกมาจากหยกฟ้าแต่โชคดีที่กำลังไฟฟ้ามันอ่อนมากและเจียงอี้ก็ยังรับมือไหว ดังนั้นเขาจึงย้ายร่างฉับพลันไปหลังจากที่หยุดนิ่งไปชั่วขณะ
“หินอัสนี นี่จะต้องเป็นหินอัสนีแน่ๆ!”
เจียงอี้กลับไปที่ภูเขาลูกเดิม เขาถือหยกนั้นเอาไว้ในมือและดูมีความสุขมาก และตอนนั้นเองหยกบนมือของเขาก็ปล่อยพลังสายฟ้าออกมาและเปลวเพลิงอัสนีก็แหวกว่ายไปรอบๆซึ่งมันเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นหินอัสนี
เขามองไปที่มันซ้ำๆและตระหนักได้ว่าหยกฟ้านี้ไม่ได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาอีกต่อไป เขาไม่เสี่ยงที่จะขัดเกลามันด้วยแก่นแท้พลังของตัวเองและนำมันเข้าไปไว้ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณทันที เขาไม่กล้านำไข่มุกวิญญาณเพลิงออกมาในตอนนี้เพราะหากมีคนตามมา มันอาจจะเกิดปัญหามากขึ้นก็ได้
“หืม? เปลวเพลิงอัสนีจะไม่มาป้วนเปี้ยนที่นี่หลังจากที่หยกฟ้าถูกขุดออกมา?”
เจียงอี้สำรวจดูและพบว่าเปลวเพลิงอัสนีวนเวียนอยู่แค่ภูเขาอีกสี่ลูกที่เหลือเท่านั้น จากนั้นเขาก็ย้ายร่างฉับพลันไปที่ภูเขาอีกครั้งหลังจากที่เปลวเพลิงอัสนีเคลื่อนย้ายไปแล้ว
บรึฟ!
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงอี้ก็กลับมาพร้อมกับหยกสีฟ้าเล็กๆในมือของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะถูกฟ้าผ่าอีกครั้ง
“อืมม! เปลวเพลิงอัสนียังอยู่อีกไกลนัก ข้าน่าจะไปเอาหยกฟ้าอีกอันมาได้”
เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจเสี่ยงย้ายร่างฉับพลันอีกครั้ง คราวนี้เขาได้หยกสีฟ้ามาอีกชิ้นและเปลวเพลิงอัสนีก็ลอยไปมาระหว่างภูเขาเพียงสองลูกเท่านั้น
ครั้งนี้เขาไม่กล้าเสี่ยง เปลวเพลิงอัสนีอยู่ใกล้เกินไป หากพลังไฟฟ้าในเปลวเพลิงอัสนียิงมาที่เขา เขาก็ไม่อยากจะนึกถึงผลที่จะตามมาเลย กระแสไฟฟ้าภายในเปลวเพลิงอัสนีนั้นมีพลังมากกว่าหยกฟ้ามาก
“ใช่แล้ว! เปลวเพลิงอัสนีพุ่งออกมาจากภูเขาลูกนั้นด้วย มันมีหยกฟ้าอยู่ด้วยหรือ?”
เจียงอี้นึกถึงตอนที่เปลวเพลิงอัสนีพุ่งขึ้นมาจากภูเขาตอนที่เขาถูกคนพวกนั้นไล่ล่า เขาจึงนั่งขัดสมาธิและปลดปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อตรวจสอบว่าคนเหล่านั้นยังตามเขามาอยู่หรือไม่
“ไม่มีแล้ว ไปกันเถอะ!”…ไอรีนโนเวล
เมื่อเขาตรวจสอบพื้นที่ไปหลายกิโลเมตรและมั่นใจว่าไม่มีใครตามหลังเขามา เขาจึงรีบพุ่งออกไปทันทีและมุ่งหน้ากลับไปยังเส้นทางเดิมและตรงไปยังภูเขาที่มีเปลวเพลิงนั่น
ภูเขายักษ์ลูกนั้นอยู่ไม่ไกลซึ่งเจียงอี้ก็มาถึงภายในพริบตา เมื่อเขาลองสำรวจดูคร่าวๆก็ต้องตาสว่างขึ้นมา เพราะว่ามันมีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ราวๆเจ็ดแปดลูกที่วนเวียนอยู่รอบๆภูเขาเล็กๆนับสิบลูก
“อะไรกัน? มีหินหยกฟ้าอยู่ในภูเขาทั้งสามสิบกว่าแห่งนี้เลยหรือ?”
ร่างของเจียงอี้สั่นสะท้าน หากมันเป็นเช่นนั้นจริงและหยกนั้นเป็นหินอัสนี เขาก็จะมีหินอัสนีหลายสิบก้อนและไม่ต้องกังวลกับเรื่องการหาหินอัสนีไปได้หลายวัน
เขาแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างระมัดระวังและในไม่ช้าดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นอีกครั้ง มีหินหยกฟ้าอยู่ในภูเขาทั้งหมดนี้จริงๆ และภูเขาที่ใหญ่ที่สุดมีหยกฟ้าถึงกว่าสามสิบก้อน!
“เริ่มขุดกันเลยดีกว่า!”
เจียงอี้กัดฟันแน่น เขาย้ายร่างฉับพลันไปอย่างต่อเนื่องและขุดหยกฟ้าออกมาทีละก้อนในขณะที่เปลวเพลิงอัสนีกำลังวนเวียนไปทางอื่น
เจียงอี้เริ่มขุดมันอย่างพิถีพิถันและเริ่มขุดจากภูเขาเล็กๆทางด้านซ้ายก่อนเพื่อไม่ให้เปลวเพลิงอัสนีลอยมาฝั่งซ้าย
“เอาล่ะ! ตอนนี้ข้าไปขุดตรงกลางได้แล้ว”
เขาได้หินหยกฟ้ามาประมาณเจ็ดก้อนและเปลี่ยนเป้าหมายไปยังภูเขาลูกใหญ่ตรงกลางซึ่งมีหินหยกฟ้าอยู่ในนั้นกว่าสามสิบก้อน หากเขาได้มันมาทั้งหมด มันจะทำให้เขาอยู่ได้อีกหลายวันเลย
บรึฟ!
เมื่อเปลวเพลิงอัสนีลอยไปทางอื่น เจียงอี้ก็รีบย้ายร่างฉับพลันเข้าไปในภูเขายักษ์ทันที เขาฟาดดาบมังกรเพลิงลงไป จากนั้นเขาก็รีบเอื้อมมือไปหยิบหินหยกฟ้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าร่างของเขาจะสั่นสะท้านไปด้วยกระแสไฟฟ้าแต่มันก็ไม่ทำให้เขาหยุดเอาหินเหล่านี้เข้าไปไว้ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณได้
“ไปดีกว่า!”
เขาหยิบหินหยกฟ้ามาได้มากกว่าสิบสองก้อนก่อนที่จะหยุด เขาคิดว่ามันอาจจะมีเปลวเพลิงอัสนีหลงเหลืออยู่แถวๆนี้ก็ได้ ซึ่งความปลอดภัยนั้นต้องมาก่อนเสมอ เขาค่อยมาเก็บมันครั้งหน้าก็ได้
อย่างที่คาดไว้!
ในขณะที่เขากำลังจะย้ายร่างฉับพลันกลับไป เปลวเพลิงอัสนีก็ส่งเสียงออกมาและกลับมาวนเวียนอยู่รอบๆภูเขายักษ์ก่อนที่จะย้ายไปยังภูเขาลูกต่อไป
เขารอให้เปลวเพลิงเหล่านั้นผ่านไปก่อนที่จะเก็บหินหยกฟ้าที่เหลือ และในเวลาเพียงห้านาที เขาก็ขุดหินหยกฟ้าออกมาเกือบทั้งหมด ซึ่งเขาไม่กล้าจะเอาที่เหลือออกมาอีกเนื่องจากเปลวเพลิงยังคงวนเวียนอยู่แถวๆนี้
“ไปก่อนดีกว่า!”
เจียงอี้ได้หยกฟ้ามาเกือบห้าสิบก้อน หากพวกมันเป็นหินอัสนีจริงๆ เขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกสังหารจากการส่งหินอัสนีได้หลายวันอยู่ แต่เพราะเขาไม่รู้ว่ามันใช่หินอัสนีหรือไม่ เขาจึงบินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะตามหาคนที่ขุดหินอัสนีเพื่อบอกว่ามันใช่หินอัสนีหรือไม่
“คนเป็นหมื่นนั่นอยู่ที่ไหนกันเนี่ย? เกาะอัสนีฟ้ากระจ่างใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?”
เจียงอี้รู้สึกประหลาดใจอยู่เงียบๆ ระหว่างทางไปข้างหน้า เขาก็แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อคอยดูลาดเลาอยู่ตลอด หลังจากที่บินไปได้ห้ากิโลเมตร เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากำลังตรวจพื้นที่ตรงภูเขาลูกไกลๆอยู่นั้น เขาก็ถูกฟ้าผ่าอีกครั้ง!
มีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ที่ภูเขาลูกนั้น เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้ผ่านมา กระแสไฟฟ้าก็พุ่งออกมากะทันหันซึ่งมันทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาสลายไป ดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้ก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงตกลงไปที่พื้นและจับหัวตัวเองอีกครั้งและเกือบหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดทรมานนี้
“นรกนี่อันตรายชะมัด!”
เจียงอี้ใช้เวลาห้านาทีกว่าที่จะลุกขึ้นมานั่งได้ เหงื่ออันเย็นเยียบหยดลงมาจากหน้าผากของเขาและกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็สั่นกระตุกเบาๆ
ดวงจิตวิญญาณที่บอบช้ำของเขายังไม่ได้ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และตอนนี้มันก็แย่ลงอีก ซึ่งการที่ดวงจิตวิญญาณบาดเจ็บนั้นไม่สามารถใช้ยาอายุวัฒนะฟื้นฟูได้ เขาจึงต้องรอให้มันค่อยๆฟื้นฟูเอง