เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 668 พระแม่ธรณีคำราม
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! พรึ่บ!
ที่สันเขาอัสนีด้านหลังภูเขาอัสนี ร่างสองร่างกำลังบินข้ามสันเขาด้วยความเร็วสูง พวกเขาสองคนไม่กล้าปลดปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาและใช้แค่สายตาคอยสอดส่องรอบๆเพื่อมองหาเจียงอี้
แต่น่าเสียดายที่สันเขานี้เป็นสันเขาที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมันใหญ่กว่าสันเขาอัสนีทั้งสองแห่งนอกเมืองรวมกัน พวกเขาจึงวนอยู่รอบๆที่นี่เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังหาเจียงอี้ไม่พบ
“แยกกันหาเถอะ!”
ดวงตาของหัวหน้าหลงเผยความเย็นชาออกมา ร่างกายของเขามีชุดเกราะสีเขียวซึ่งถูกปกคลุมด้วยโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องแสงสีทองอีกชั้นและมีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงนัก พวกเขาทั้งสองจะปลอดภัยกว่าแน่นอนหากไปด้วยกัน แต่มันก็จะทำให้พวกเขาใช้เวลาค้นหานาน
เขาอาจมีเกราะวายุภักษ์ที่กันความร้อนได้ แต่มันก็ใช้แก่นพลังมหาศาลนัก ซึ่งเขาจะอยู่ที่สันเขาได้เพียงครึ่งวันและหากยังหาไม่เจอเช่นนี้ พวกเขาอาจจะคว้าน้ำเหลวกลับไป
ป้าเตาพยักหน้าและคว้าไข่มุกสีฟ้าที่แผ่กลิ่นอายอันเยือกเย็นออกมาซึ่งทำให้ร่างกายของเขาสามารถทนความร้อนได้นาน ร่างที่คล้ายหมีของเขาบินไปทางซ้ายขณะที่หัวหน้าหลงบินไปทางขวา พวกเขาทั้งสองคนนั้นรวดเร็วมากและค่อนข้างปลอดภัยเมื่ออยู่ในสันเขาอัสนี หากมีเปลวเพลิงอัสนีใกล้เข้ามา พวกเขาก็จะหลบได้ทันที
ป้าเตานั้นมีดวงตาที่แหลมคมซึ่งสอดส่องไปครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อค้นหาที่ซ่อนที่เป็นไปได้ทั้งหมด เขาบินสูงขึ้นไปและค้นหาบริเวณใกล้เคียงนั้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา มันมีป่ายอดเขาหินอยู่ข้างหน้า รอบๆแถบนั้นเต็มไปด้วยยอดเขาหินมากมายซึ่งมองไม่เห็นพรมแดนของมันเลย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งเพราะยอดเขาหินนั้นร้อนมากและมันจะต้องมีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ในนั้นแน่ๆ
“เข้าไปเถอะ!”
หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เข้าไปในนั้น และเมื่อเขาเข้าไปได้เพียงชั่วขณะ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายเมื่อเขาเห็นเงาดำ!
“หมาป่าเดียวดาย!”
เพียงครู่เดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเจียงอี้ เจียงอี้อาจถูกหุ้มด้วยเกราะสีแดง และแม้ว่าศีรษะของเขาจะมีหมวกคลุมอยู่ แต่ป้าเตาก็เคยใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบเจียงอี้มาก่อน เขาจึงสามารถจับกลิ่นอายดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้ได้ในทันที
ฟรึ่บ!
เขาถลึงตาอย่างบ้าคลั่งราวกับมังกรที่ดุร้ายขณะที่ดวงตาเป็นประกายและจับจ้องไปที่ชุดเกราะของเจียงอี้ เขาส่งเสียงคำรามออกมาว่า “สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงรึ? มันคือสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงจริงๆรึ? มันต้องใช่แน่ๆ กลิ่นอายนี้จะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงแน่นอน…”
ร่างของป้าเตาสั่นสะท้าน สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงนั้นหายากมากและหัวหน้าทั้งหลายก็ไม่มีใครมีมันแม้แต่คนเดียว และนี่ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงประเภทป้องกันซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่ามาก มันจะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงที่ทำให้เจียงอี้ฝ่าสันเขาอัสนีได้เหมือนกับเดินทางอยู่ในอากาศปกติแน่ๆ
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
เขาคำรามออกมาในขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านและแผ่ไปด้วยกลิ่นอายของเขา ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้งขณะที่เขาไล่ตามเจียงอี้อย่างรวดเร็ว
“บ้าเอ้ย ป้าเตาต้านทานความร้อนขนาดนี้ได้จริงๆหรือเนี่ย? สงสัยจะต้องไม่ประเมินหัวหน้าทั้งสิบเหล่านี้ต่ำเสียแล้วล่ะ…”
เจียงอี้รีบบินไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง เขาหันกลับไปมองและเห็นว่าป้าเตาอยู่ข้างหลังเขาห่างไปหลายสิบกิโลเมตรและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังของป้าเตาซึ่งมันทำให้กล้ามเนื้อและดวงจิตวิญญาณของเขาตึงเครียดขึ้นมาก
หลังจากที่เจียงอี้เข้าไปในสันเขาอัสนี เขาก็ไม่กล้าจะอยู่รอบๆด้านนอกสันเขาอัสนีเพื่อเป็นการกันเอาไว้ก่อน เขาตรงลึกเข้ามาในสันเขาอัสนีเพื่อไม่ให้ป้าเตาและหัวหน้าหลงตามมาได้ แต่เขาไม่คิดว่าป้าเตาจะตามเขามายังส่วนลึกของสันเขาอัสนีได้
“ฟรึ่บ!”
มีเสียงอากาศทะลุมาจากข้างหลังเจียงอี้และเมื่อเขาหันไปมอง ดวงตาของเขาก็หดลงทันทีเพราะป้าเตาโจมตีจากระยะที่ไกลกว่าสิบกิโลเมตร ป้าเตาปล่อยหมัดออกมาซึ่งทำให้พื้นที่สั่นสะเทือนและมันก็ทะลุอากาศมา ความเร็วนั้นเร็วเกินไป ก่อนที่เจียงอี้จะทันได้หลบ หมัดก็พุ่งเข้าใส่เขาแล้ว
ปัง!
ร่างของเจียงอี้ถูกส่งปลิวออกไปและกระแทกเข้ากับยอดหินและทะลุไป กลิ่นอายที่น่าสะพรึงนั้นทำให้ยอดหินรอบๆสั่นสะเทือนและเศษหินก็ร่วงหล่นลงมา เสียงสะท้อนนั้นดังก้องขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ
“อั๊ก!”.ไอลีนโนเวล.
ร่างของเจียงอี้ยังคงบินไปข้างหน้าขณะที่เขากระอักเลือดคำโตออกมา แต่เขาก็ยังสงบนิ่งอยู่ เขารู้ดีว่าหากเขาไม่ใจเย็นเขาอาจจะตกตายอยู่ที่นี่ก็ได้ ความแข็งแกร่งของหัวหน้าทั้งสิบอาจจะดูน่าเกรงขาม แต่มันก็ยังมีระยะห่างระหว่างพวกเขามากกว่าสิบกิโลเมตร หากเจียงอี้ยอมให้ป้าเตาเข้ามาใกล้เขาจริงๆ เขาจะมีโอกาสรอดไหมนะ?
ดวงตาของเขาสั่นไหวขณะที่ความคิดของเขาแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขานั้นด้อยกว่าป้าเตาและหากเขาเริ่มสู้ เขาอาจจะตายได้แม้ว่าจะนำเฟิ่งหลวน, เจียงเสี่ยวนู๋และคนอื่นๆออกมา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหนีและคอยมองหาเปลวเพลิงอัสนีใกล้ๆ เขาจะต้องพึ่งพาความร้อนของเปลวเพลิงอัสนีเหล่านั้นเพื่อสู้กับป้าเตา และหากเจียงอี้เข้าใกล้เปลวเพลิงอัสนีแล้วป้าเตายังกล้าไล่ตามเขามา เจียงอี้ก็คงไม่มีทางอื่นนอกจากเสี่ยงเพื่อต่อสู้แล้ว!
ฟรึ่บ!
เขาไม่ได้สนใจเรื่องอาการบาดเจ็บภายในและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ในขณะที่ร่างของเขาลอยไปมาราวกับสายลม
จี๊! จี๊!
พื้นที่ห้วงอากาศด้านหลังเจียงอี้ผันผวนขึ้นขณะที่ป้าเตาปลดปล่อยการโจมตีอีกครั้ง คราวนี้เจียงอี้เตรียมตัวไว้แล้วและย้ายร่างฉับพลันไปทันที
ตูม! ตูม! ตูม!
เงากำปั้นของป้าเตาพุ่งออกมายังอากาศอย่างต่อเนื่องและทำให้ยอดผาหินแตกสลายเป็นผุยผง แต่เจียงอี้ก็ย้ายร่างฉับพลันหลบการโจมตีได้ทุกครั้ง ในการโจมตีครั้งแรก เขาประมาทไปหน่อย แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์แล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่การโจมตีระยะไกลจะเข้าประชิดตัวเขาได้
ตูม! ตูม! ตูม!
ฟรึ่บ! พรึบ! ฟรั่บ!
ทุกครั้งที่ป้าเตาจู่โจม เจียงอี้ก็จะหลบตลอด และเมื่อระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้เข้ามามากขึ้น เจียงอี้ก็สบถอยู่ในใจ ภาพด้านนอกนั้นปรากฏขึ้นในความคิดของเขาขณะที่เขาคอยตรวจสอบรอบๆนี้และหาเปลวเพลิงอัสนี
“ตรงนั้นไง…”
ป้าเตาโจมตีอีกครั้งและปะทะเข้ากับยอดผาหินอีกก้อนด้านหน้า ร่างของเจียงอี้สั่นสะท้านในทันทีเมื่อเขาเจอยอดผาหินที่อยู่ห่างออกไปซึ่งมันมีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ราวๆเจ็ดแปดก้อนที่วนเวียนไปมา
“ไปดีกว่า!”
เจียงอี้ยังคงพยายามจับการโจมตีของป้าเตาเอาไว้ขณะที่เขาก็เริ่มเข้าใกล้เปลวเพลิงอัสนีแล้ว ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเข้าไปใกล้เปลวเพลิงอัสนีได้หรือไม่
“ให้ตายเถอะ เด็กนี่ไม่กลัวอุณหภูมิที่สูงเช่นนี้เลยรึไง? แล้วมันเป็นไปได้เช่นไรที่เด็กนี่จะหลบการโจมตีของข้าได้ทุกครั้ง? พอข้าเริ่มปล่อยการโจมตีมันก็เริ่มย้ายร่างฉับพลันไปแล้ว…”
ป้าเตาบ่นอยู่เงียบๆ เมื่อเขารู้สึกถึงความร้อนที่เกินบรรยายภายในป่ายอดผาหิน เขาก็รู้ว่ามันจะต้องมีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ที่นี่ เขาคิดว่าจะสังหารเจียงอี้ได้ทันที แต่นอกจากการโจมตีครั้งแรกแล้ว เจียงอี้ก็หลบการโจมตีครั้งอื่นๆได้หมดเลย
ขณะที่พวกเขาค่อยๆเข้าใกล้เปลวเพลิงอัสนี ป้าเตาก็เริ่มต้านทานความร้อนไม่ไหว เขามีไข่มุกมังกรวารีที่สามารถลดความร้อนได้และแก่นแท้พลังของเขาก็ยังมีพอ แต่มันร้อนเกินไป ซึ่งแก่นพลังของเขาก็เริ่มจะกลายเป็นเหมือนไอน้ำแล้วและหากเขาไล่ตามต่อไป โล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาอาจพังทลายลงและเขาก็จะตายอยู่ที่นี่เป็นแน่
“ย๊ากก!”
เขากัดฟันและสร้างผนึกขึ้นมาที่ฝ่ามือของเขา ฝ่ามือของเขาหมุนเวียนไปด้วยแก่นแท้พลังสีเหลืองและใช้กำปั้นทั้งสองทุบลงไป
ตูม! ตูม! ตูม! ตูมม!
ก่อนที่กำปั้นทั้งสองจะถูกปลดปล่อยออกมา มันก็มีรอยแตกอยู่ตรงพื้นที่นั้นและเกิดเสียงที่แหลมเสียดหูขึ้น เมื่อกำปั้นทั้งสองฟาดลงบนพื้นมันก็เกิดกลิ่นอายที่น่าสะพรึงขึ้น
พื้นผิวดินทั้งหมดสั่นสะเทือนขณะที่มันแผ่กระจายคลื่นออกไปทั่วทุกสารทิศ ยอดหินรอบๆพังทลายลงและพื้นดินก็ระเบิดออกจนฝุ่นคลุ้งไปทั่ว ทุกที่ที่ระลอกคลื่นนั้นแผ่ไป พื้นที่อากาศจะสั่นสะเทือนและไม่มีผู้ใดจะยังคงลอยอยู่กลางอากาศได้
“มันคือรูปแบบเต๋าอะไรกัน? พระแม่ธรณีคำราม?”
เจียงอี้หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจขณะที่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้และร่วงลงมา เขากระแทกเข้ากับหินยักษ์นับไม่ถ้วนและหากไม่ใช่เพราะเกราะเมฆาอัคคี ป่านนี้เขาคงจะบาดเจ็บสาหัสแล้ว
“ป้าเตามาแล้ว!”
เจียงอี้ไม่มีเวลาคิดต่อแล้วว่ามันคือรูปแบบเต๋าอะไร ป้าเตากลายเป็นภาพหลังและรีบบินมาที่นี่แล้ว หากเจียงอี้ยังหนีไปไม่ได้ การโจมตีครั้งหน้าของป้าเตาจะทำให้เขาถึงแก่ชีวิตแน่ๆ
แต่ปัญหาคือ….เขาไม่สามารถแม้แต่จะยืนอยู่นิ่งๆบนอากาศได้เลย แล้วจะให้เขาบินหนีไปได้อย่างไรล่ะ?