เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 677 ผู้ถูกไฟคลอก
ป้าเตาและคนอื่นที่เหลือยืนอยู่ห่างจากเจียงอี้ไปสิบห้ากิโลเมตร หากพวกเขาเริ่มไล่ล่าเจียงอี้ด้วยความเร็วที่สูงที่สุดมันก็มีโอกาสที่จะจับเจียงอี้ได้ แต่ในสันเขาอัสนีมีเปลวเพลิงอัสนีมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นหากว่ามีเปลวเพลิงอัสนีอยู่หลบอยู่หลังเจียงอี้?
ดังนั้นทั้งป้าเตาและหัวหน้าหลงจึงหยุดอยู่ตรงนั้น พวกเขามองหน้ากันและเกิดความประหลาดใจขึ้นในดวงตาของพวกเขา ไอ้เด็กสารเลวนี่จะขอทำข้อตกลงหรือ? พวกเขากลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไปแล้ว และจะเหลืออะไรให้ต้องเจรจาอีก? เขาต้องการเข้าไปในเมืองงั้นหรือ? แล้วเจียงอี้มีอำนาจจะมาต่อรองอะไรล่ะ?
ดวงตาเล็กๆของหัวหน้าหลงเป็นประกายด้วยความเย็นชา จากนั้นเขาก็ส่งข้อความเสียงไปว่า “ป้าเตา เจ้าไปตรงนั้นก่อน และเมื่อเจ้าไปใกล้ตัวมัน เจ้าก็ปล่อยวิชาพระแม่ธรณีคำรามออกมาเลย ไม่ต้องกังวลว่ามันจะฆ่าข้าไปด้วยหรือไม่ เราแค่ต้องทำให้มันจนมุมให้ได้”
“ได้!”
กล้ามเนื้อของป้าเตาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เขาดูโกรธเกรี้ยวมาก เมื่อเขาปล่อยพระแม่ธรณีคำรามออกมา พื้นที่แถวๆนั้นจะสั่นสะเทือนและเจียงอี้จะไม่มีวันหนีไปได้ และผู้คนทั้งหมดนั้นก็จะรีบพุ่งมาที่เขา เขาจะรอดหรือไม่? ส่วนเรื่องที่เจียงอี้อยากจะเจรจา ป้าเตาโยนมันทิ้งไปแล้ว ยังจะมีสิ่งใดสำคัญกว่าการได้ฆ่าเจียงอี้อีก?
และในตอนนั้นเอง เขาก็แสยะยิ้มออกมาและพูดว่า “ไอ้หนู ข้าไปตรงนั้นก็ได้ แต่ถ้าหากว่าเจ้ากล้าเล่นตุกติก ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆซะ”
กลิ่นอายของเขาพุ่งพล่านออกมาทันที ป้าเตากลายเป็นพายุและบินพุ่งไปด้านหน้า เขาไม่ได้ช้าหรือเร็วเกินไปพร้อมกับเพ่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังเจียงอี้ มักจะมีคนพูดเสมอว่าผู้ที่มีร่างกำยำมักจะมีสมองที่น้อยนิด แต่หากว่าป้าเตาเป็นหมูไร้สมองอย่างที่เขาแสดงออกมา เขาจะมีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้และกลายเป็นหนึ่งในสิบหัวหน้าในเมืองได้งั้นหรือ?
สิบห้ากิโลเมตร, สิบกิโลเมตร…..ห้ากิโลเมตร!
เจียงอี้ไม่ได้แสดงพฤติกรรมแปลกๆออกมาเลย แม้แต่ชุดเกราะสีแดงของเขาก็ยังไม่ปรากฏออกมา เขาไม่ได้ปลดปล่อยกลิ่นอายใดๆออกมาด้วยเช่นกัน มันดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะเจรจาอย่างใจจริง
“ป้าเตา มาข้างหน้าอีกห้ากิโลเมตร บอกหัวหน้าหลงและคนของพวกเจ้าด้วยว่าหากพวกนั้นกล้าทำอะไรตุกติก ข้าจะกลับไปยังสันเขาอัสนีทันที”
ในตอนนั้นเอง เจียงอี้ก็เคลื่อนไหวและบินไปยังภูเขา เขาเชื่องช้ามากและดูเหมือนจะแสดงความจริงใจออกมา ป้าเตากระพริบตาและคิดว่า หากเขาปลดปล่อยพระแม่ธรณีคำรามออกมาจากระยะห่างเท่านี้ ผลกระทบของมันก็จะอ่อนลงและคงจะกลายเป็นการเตือนเจียงอี้ก็เท่านั้น เขาจึงกัดฟันแน่นและตะโกนว่า “เราจะไปยังสันเขาอัสนีอีกห้ากิโลเมตร พวกเจ้าอยู่ที่เดิมซะ”
หัวหน้าหลงหรี่ตาของเขาลงมา ห้ากิโลเมตรนั้นไม่ได้ไกลแต่มันจะเต็มไปด้วยภูเขามากมายและจะไม่มีใครเสี่ยงปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพราะกลัวเปลวเพลิงอัสนีที่ซ่อนอยู่ในภูเขาเหล่านั้น
หัวหน้าหลงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเพราะความสำเร็จของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว เขาทำได้เพียงส่งข้อความเสียงไปยังป้าเตาว่า “ไปแค่ห้ากิโลเมตรเท่านั้น ไม่ไกลกว่านี้ โจมตีมันให้เร็วที่สุด และเมื่อเจ้าโจมตีมันแล้ว เราจะไปที่นั่นทันที”
ป้าเตายังสงบนิ่งและค่อยๆตามเจียงอี้ไปยังสันเขาอัสนี เจียงอี้นั้นอยู่ใกล้พื้นดินมาก และไม่นานพวกเขาก็หายไปจากสายตาของฝูงชน
พวกเขาเดินทางห้ากิโลเมตรในเวลาสั้นๆ และจู่ๆเจียงอี้ก็บินลงไปบนก้อนหินขนาดยักษ์ที่อยู่ในหุบเขา เขามองไปที่ป้าเตาที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างเงียบๆ
ป้าเตาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา แต่ใจของเขาเต็มไปด้วยความสำราญใจ เขาคอยตามเจียงอี้อยู่ห่างๆ และเมื่อเขาอยู่ห่างจากเจียงอี้เพียงสองกิโลเมตร จู่ๆเขาก็เร่งความเร็วและพุ่งเข้าหาเจียงอี้อย่างรวดเร็ว พลังแก่นแท้สีเหลืองที่เขาแอบสร้างเอาไว้ส่องแสงออกมาและกำลังจะปลดปล่อยพระแม่ธรณีคำราม
“เหอะ เหอะ!”
เจียงอี้ยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆแต่เขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา “ป้าเตา หากเจ้าไม่ต้องการหญ้ามังกรยาจกล่ะก็ เช่นนั้นก็โจมตีข้าได้เลย”
จี๊! จี๊!
ป้าเตาพยายามเรียกคืนรูปแบบเต๋าจากมือของเขากลับมา ดวงตาของเขาหดลงและร้องออกมาว่า “เจ้าว่ายังไงนะ? หญ้ามังกรยาจก? เจ้ามีมันอย่างนั้นหรือ?”
หญ้ามังกรยาจกเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่วิเศษที่สุดในโลก มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่ทุกคนเสาะหา
“ไร้สาระ!”
เจียงอี้แสยะยิ้มและพูดต่อว่า “ข้าเรียกเจ้ามาเพื่อเจรจา หากข้าไม่มีสมบัติใดๆ เหตุใดข้าจะต้องทำข้อตกลงกับเจ้าด้วย? ตอนนี้ตัวข้าไม่มีหญ้ามังกรยาจกหรอก แต่ข้าพาเจ้าไปหามันได้ มันอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของสันเขาอัสนี ตราบใดที่เจ้าให้ข้าเข้าไปในเมืองและไม่ให้หัวหน้าคนอื่นโจมตีข้า ข้าจะพาเจ้าไปหาหญ้ามังกรยาจก ว่ายังไงล่ะ?”
“ข้อตกลง? ส่วนที่ลึกที่สุดของสันเขาอัสนี? เข้าไปในเมือง?”
ป้าเตาหยุดนิ่งไปชั่วขณะและตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว ปกติแล้วไม่มีคนเข้าไปในส่วนลึกของสันเขาอัสนี แต่เจียงอี้ถูกคนไล่ล่าและมันเป็นธรรมดาที่เขาจะไปที่นั่นและเจอหญ้ามังกรยาจก มันก็มีเหตุผลที่เขาต้องการจะทำข้อตกลงและขอให้เขาได้เข้าไปในเมืองทั้งที่ยังเป็นๆอยู่ แต่ว่าหญ้ามังกรยาจกจะอยู่ที่นั่นจริงๆหรือ?
ดวงตาของป้าเตากลับกลายเป็นเย็นชาขณะที่ถามว่า “เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นเป็นหญ้ามังกรยาจก? มันมีลักษณะเช่นไร?”
นอกจากผู้สืบทอดตระกูลที่มีชื่อเสียงบางตระกูลแล้ว คนอื่นๆก็ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของหญ้ามังกรยาจก แม้ว่าเจียงอี้จะมีสมบัติติดตัวอยู่บ้าง แต่เขาจะมาลงเอยอยู่ในเกาะแห่งบาปได้อย่างไรหากเขาเป็นนายน้อยของตระกูลสูงศักดิ์? คนที่มายังเกาะแห่งบาปคือคนที่ไม่สามารถอยู่บนทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ ดังนั้นป้าเตาจึงสรุปได้ว่าเจียงอี้จะไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับหญ้ามังกรยาจกแน่นอน แต่….ป้าเตาเคยเห็นแบบร่างตำราที่ฉีกขาดของสมบัติหลายๆชิ้นพร้อมคำแนะนำของสมบัติเหล่านั้น ซึ่งมันรวมถึงหญ้ามังกรยาจกด้วย
เจียงอี้ยิ้มและพูดว่า “มันคือหญ้ามังกรยาจกแน่นอน มันเป็นสีขาวทั้งหมดและส่องแสงไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาว มันยังเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต….”
เห็นได้ชัดว่าเจียงอี้เคยเห็นหญ้ามังกรยาจกมาก่อน เขายังขัดเกลามันมาแล้วด้วยซ้ำ มันจึงง่ายมากที่จะให้เขาอธิบายในตอนนี้ ก่อนที่เขาจะพูดจบ ป้าเตาก็เริ่มสั่นระริกไปด้วยความตื่นเต้นเนื่องจากคำอธิบายของเจียงอี้นั้นเหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในแบบร่างตำราที่หลุดรุ่ยนั้น
บัดซบ!
เมื่อป้าเตากำลังจะทำการตัดสินใจ เจียงอี้ก็สบถออกมาและมองไปที่ด้านหลังป้าเตาพร้อมกับตะโกนว่า “ป้าเตา เจ้าไม่รักษาคำพูดของเจ้าและให้หัวหน้าหลงแอบเข้ามารึ? ฮึ่ม!…..ข้อตกลงของเราเป็นอันจบสิ้นกัน ข้าจะไปคุยกับหัวหน้าหลงแทน!”.Aileen-novel.
ฟรึ่บ!
เจียงอี้มองด้วยความไม่พอใจ เขาบินขึ้นไปบนฟ้าซึ่งป้าเตาตกตะลึงและหันกลับไปมองอย่างโกรธแค้นทันที เขา…นึกว่าหัวหน้าหลงจะแอบตามเขามา
แต่ใครจะรู้….?
ไม่มีใครอยู่ด้านหลังเขาเลย หัวหน้าหลงไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ดวงจิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้านไปด้วยความเดือดดาลก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ไอ้เด็กชั่ว เจ้าหลอกข้า!”
บรึฟ!
ทันใดนั้นก็มีร่างร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากทางซ้ายของป้าเตาสามร้อยเมตรพร้อมกับเปลวเพลิงสีฟ้าที่พวยพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน
ป้าเตารวบรวมแก่นแท้พลังสีเหลืองเอาไว้ในมือและกำลังจะโจมตีออกมา แต่ทันทีที่เขาเห็นไฟนั่น เขาก็กลัวจนสติกระเจิงและปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์ออกมาทันที เขาบินหนีไปด้วยความหวาดผวาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะหนีได้
“อ๊ากก อ๊ากกกก!”
อย่างไรก็ตาม…นี่มิใช่เปลวเพลิงอัสนีธรรมดา แต่มันเป็นเปลวเพลิงอัสนีที่ถูกปรับแต่งแล้วซึ่งอุณหภูมิของมันสูงขึ้นหลายเท่า แล้วป้าเตาจะรับมือกับความร้อนที่รุนแรงเช่นนี้ได้อย่างไร?
โล่ศักดิ์สิทธิ์ของป้าเตาแตกสลายไปในทันที ร่างกายของเขาเริ่มมอดไหม้ด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ เขากลายเป็นผู้ที่ถูกไฟคลอก
“เรียบร้อย!”
ดวงตาของเจียงอี้เป็นประกาย เขาเผชิญกับนรกมาเป็นเวลาสองเดือนและต้องเผชิญกับความทรมานทุกรูปแบบ เปลวเพลิงอัสนีทำให้เขาต้องผ่านอะไรมามากมายซึ่งมันไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ ความร้อนนี้สูงมากจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางก็ยังต้านไม่อยู่!
แต่ก็แน่นอนว่ามันเป็นเพราะการเตรียมการที่ดีของเจียงอี้ด้วยที่ทำให้แผนการนี้สำเร็จได้ ป้าเตาอยู่ใกล้เขามาก หากเขาอยู่ห่างกับป้าเตามากกว่านี้ ป้าเตาก็จะหนีไปได้อย่างแน่นอนและอย่างมากก็แค่ถูกแผดเผาไปเล็กน้อย
“อ๊ากก อ๊ากกกก!”
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาซึ่งมันเต็มไปด้วยความทรมานและสิ้นหวัง ดวงตาของเขายังคงสับสนและคิดไม่ออกมาเหตุใดเจียงอี้ถึงปลดปล่อยเปลวเพลิงอัสนีได้ แล้วเหตุใดอุณหภูมิของเปลวเพลิงอัสนีถึงได้สูงเช่นนี้
“ไม่ได้การล่ะ!”
อีกด้านหนึ่งของภูเขาอัสนี หัวหน้าหลงและคนอื่นๆตัวสั่นเทา และหัวหน้าอีกสี่คนที่เพิ่งมาถึงก็รู้สึกหนาววูบไปทั่วสันหลังและมีลางสังหรณ์ที่ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด
“ไปกันเถอะ!”
แสงอันหนาวเหน็บส่องสว่างในดวงตาของหัวหน้าหลง เขาโบกมือและนำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสิบคนที่เป็นลูกน้องของเขาและป้าเตาวิ่งตรงไปยังสันเขาอัสนี
…