เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 687 หมาป่าเดียวดาย ยอมรับความตายของเจ้าซะ
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 687 หมาป่าเดียวดาย ยอมรับความตายของเจ้าซะ
ฟรึ่บ!
ภายในสันเขาอัสนี ร่างสองร่างพุ่งผ่านอากาศไป ทั้งสองเข้าไปในสันเขาอัสนีแล้วหนึ่งร้อยกิโลเมตรและอุณหภูมิรอบๆก็สูงขึ้นเนื่องจากเปลวเพลิงอัสนีที่อยู่รอบๆ
ระยะห่างของพวกเขาเริ่มใกล้กันมากขึ้น จากที่ห่างกันหลายสิบกิโลเมตรก็เหลือเพียงไม่กี่กิโลเมตรแล้ว ทั้งคู่ยังไม่มีความตั้งใจที่จะปลดปล่อยวิชาออกมาและบินด้วยความเร็วสูงอย่างเดียว
ร่างของหัวหน้าเหลิ่งเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าขณะที่เสื้อคลุมของเขากระพือไม่หยุด ใบหน้าที่เย็นชาและเคร่งขรึมของเขาจับจ้องไปที่เจียงอี้ที่อยู่ใกล้เขามากขึ้นด้วยแววตาประหลาดใจ ทั้งสองคนบินผ่านพื้นที่มามากมายและมีเปลวเพลิงอัสนีอยู่ใกล้พวกเขาหลายก้อน แต่เจียงอี้ไม่มีเหงื่อเลยแม้แต่หยดเดียว เขาจะต้องมีกลลวงหรือวิธีการบางอย่างที่สังหารป้าเตาและหัวหน้าหลงได้เป็นแน่
เมื่อด้านหน้าอุณหภูมิสูงขึ้นอีก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีเปลวเพลิงอัสนีมากขึ้นและเจียงอี้ก็เปลี่ยนทิศและรีบพุ่งตรงไปยังเปลวเพลิงอัสนีทันที คิ้วของหัวหน้าเหลิ่งเลิกขึ้นมาและตัดสินใจที่จะลงมือ เขาตะโกนออกมาว่า “หัวหน้าเจียง ข้าจะลงมือแล้ว ระวังตัวด้วย”
บรึฟ!
มือของหัวหน้าเหลิ่งสว่างขึ้นด้วยแสงสีดำขณะที่เขาปล่อยฝ่ามือออกมาทันที เงาฝ่ามือของเขาแบ่งออกมาเป็นสอง, สี่ , แปด และเพิ่มเป็นนับพันฝ่ามือ พวกมันทั้งหมดพุ่งกระแทกไปยังเจียงอี้ ไม่เพียงแต่แสงสีดำ แต่ยังมีแสงสีทองไหลผ่านขอบฝ่ามือด้วย
เมื่อฝ่ามือเหล่านั้นถูกฟาดออกมา พื้นที่รอบๆก็สั่นสะเทือนซึ่งส่งเสียงที่เสียดหูออกมา หากเป็นยอดฝีมือที่ไม่ได้มีพลังต้านทานสูง พวกนั้นคงจะตกใจตายไปเพราะเสียงและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝ่ามือแล้ว
“รูปแบบเต๋าวายุคณานับ? ไม่….ลวดลายของฝ่ามือนี้มีแสงสีทองด้วยและมันน่าจะมีรูปแบบเต๋าธาตุทองผสานเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน ลายฝ่ามือนั้นยังมีแสงสีดำและมีกลิ่นอายทำลายล้างอยู่ด้วย มันน่าจะต้องมีรูปแบบเต๋าแห่งการทำลายอยู่ด้วย นี่คือพลังของรูปแบบเต๋าระดับสูงงั้นหรือ?”
เจียงอี้ตกตะลึงอยู่เงียบๆ นี่เป็นวิธีการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง พระแม่ธรณีคำรามของป้าเตาอาจเป็นการผสานระหว่างรูปแบบเต๋าธรณีและรูปแบบเต๋าห้วงมิติ แต่ในแง่ของความรุนแรง มันด้อยกว่าฝ่ามือนี้มาก!
“วายุคณานับ? ข้ารู้วิธีใช้มันเหมือนกัน!”
ดวงตาของเจียงอี้สั่นไหว ร่างของเขาค่อยๆแยกออกเป็นสอง, สี่ แปด…ในเวลาเดียวกันเขาก็เข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ ร่างแยกเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดวงตาและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถแยกแยะได้ แม้ว่าเจียงอี้จะมีความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ แต่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์นั้นต่างกัน เมื่ออยู่ในสภาวะนี้ เขาจะสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพื้นที่รอบๆซึ่งจะทำให้เขาค้นพบฝ่ามือที่แท้จริงท่ามกลางฝ่ามือนับพันเหล่านี้
ฟรึ่บ ฟรั่บ…..
เขาแยกร่างออกเป็นร้อยๆร่าง บางร่างก็บินขึ้นไป บางร่างก็ลงไปที่พื้น และเจียงอี้ก็พบรอยฝ่ามือที่แท้จริงของหัวหน้าเหลิ่งอย่างรวดเร็ว ขณะที่ร่างที่แท้จริงของเขาเองก็ลงไปข้างล่างทันทีและเข้าไปใกล้ๆหัวหน้าเหลิ่งเงียบๆ
“ร่างจำแลงคณานับ? เด็กนี่ฉลาดนัก เหอะ”
ดวงตาของหัวหน้าเหลิ่งเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ แต่ปากของเขาเผยร่องรอยเย้ยหยันอยู่ เขาสามารถแยกออกมาได้เป็นพัน แต่เจียงอี้แยกร่างออกมาได้เพียงร้อยกว่าร่างเท่านั้น หัวหน้าเหลิ่งค่อยๆหลับตาลงเพื่อที่จะใช้สัมผัสของเขาจับจ้องร่างที่แท้จริงของเจียงอี้
แต่เขายังคงสงบนิ่งและควบคุมฝ่ามือนับพันให้ทำลายร่างแยกของเจียงอี้
“ห้ากิโลเมตร, สามกิโลเมตร…..สองกิโลเมตร!”
ร่างแยกมากกว่าครึ่งของเจียงอี้ถูกทำลายลงไปและเหลือร่างแยกเพียงยี่สิบร่างเท่านั้น เจียงอี้ควบคุมร่างแยกทั้งหกพุ่งไปยังหัวหน้าเหลิ่งซึ่งทุกร่างยกดาบมังกรเพลิงและฟาดมันลงมาพร้อมกับปลดปล่อยมังกรเพลิงจิ๋วออกมาขณะที่พวกมันคาบเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์ออกมาทำให้อากาศร้อนขึ้นมาก ร่างที่แท้จริงของเจียงอี้พุ่งไปยังหัวหน้าเหลิ่งด้วยความเร็วสูง
เมื่อต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ แน่นอนว่าเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์และการโจมตีของดาบมังกรเพลิงนั้นไม่ได้ผล มีเพียงดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มหรือเปลวเพลิงอัสนีเท่านั้นที่จะเป็นประโยชน์และทั้งสองสิ่งนี้จะต้องให้เจียงอี้อยู่ในระยะประชิดเท่านั้น
“ฮึฮึ!”
หัวหน้าเหลิ่งยืนอย่างภาคภูมิอยู่กลางอากาศและไม่ได้ทำลายร่างแยกที่กำลังเข้าใกล้เข้ามา อันที่จริงแล้วเขารอให้เจียงอี้เข้ามาใกล้อยู่เช่นกัน ปากของหัวหน้าเหลิ่งเผยร่องรอยเย้ยหยันขณะที่เขาหัวเราะเบาๆและพูดว่า “สวรรค์หลีกทางให้เจ้าแล้ว แต่เจ้าก็ยังกลับเข้าไปยังนรกที่ไร้ประตู ได้เวลาที่เจ้าต้องตายแล้ว!”
จู่ๆเขาก็ฟาดฝ่ามือออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้แยกออกเป็นหลายๆฝ่ามือและพุ่งตรงไปยังร่างที่แท้จริงของเจียงอี้ทันที เมื่อฝ่ามือนี้ถูกปลดปล่อยออกมา พื้นที่รอบๆก็กระเพื่อมราวกับน้ำซึ่งทำให้การโจมตีของดาบมังกรเพลิงของเจียงอี้สลายไปทันที.Aileen-novel.
ในขณะนั้น ร่างของเจียงอี้ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน อากาศนั้นหมุนวนไปมาและขึ้นๆลงๆราวกับคนธรรมดากำลังตกลงไปในแม่น้ำสายใหญ่ และทำให้เจียงอี้ลอยอยู่ที่เดิมอย่างนั้น
“ลายฝ่ามือนี้ผสานกับรูปแบบเต๋าห้วงมิติซึ่งมันยิ่งกว่ารูปแบบเต๋าห้วงมิติของพระแม่ธรณีคำรามเสียอีก!” เจียงอี้ตกตะลึงมากและไม่คิดว่าหัวหน้าเหลิ่งจะรู้ถึงร่างที่แท้จริงของเขาและกำลังรอให้เจียงอี้เข้ามาโดยสมัครใจ
ระยะห่างพวกเขายังไกลกันอยู่และหากเจียงอี้เริ่มใช้การโจมตีดวงจิตวิญญาณในตอนนี้ มันก็คงจะเป็นเพียงการนับเวลารอวันตายของเขาเลย เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เกราะเมฆาอัคคีปรากฏออกมาบนร่างกายของเขาขณะที่ไข่มุกวิญญาณเพลิงของเขาสว่างขึ้นและเปลวเพลิงอัสนีสีฟ้าก็ห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัดออกมาและปลดปล่อยการโจมตีผสานของเขา มังกรเพลิงพุ่งเข้าหาหัวหน้าเหลิ่งนับแสนตัวและท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงอัสนี
“เอ่อ….”
ดวงตาของหัวหน้าเหลิ่งหดลง ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก เขารู้สึกถึงความแตกต่างทันทีเมื่อเปลวเพลิงอัสนีปรากฏขึ้นในขณะที่เขาตระหนักคิดได้ในทันที เจียงอี้มีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตจินกังจริงๆและเขาพึ่งพาเปลวเพลิงอัสนีเพื่อกำจัดป้าเตาและหัวหน้าหลง
อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างน่ากลัว และร่างของหัวหน้าเหลิ่งก็กลายเป็นเหมือนเหยี่ยวและหลบไปด้านข้าง เสื้อคลุมสีดำของเขาสว่างไสวด้วยแสงสีดำขณะที่อักขระสีดำนับไม่ถ้วนแผ่ออกมาจากเสื้อคลุมของเขา จากนั้นพวกมันก็เข้าไปในโล่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งแต่เดิมที่โล่กำลังจะทลายลง มันกลับเรืองรองไปด้วยแสงสีทองอีกครั้ง
“นี่ไม่ใช่เปลวเพลิงอัสนี เพราะเปลวเพลิงอัสนีไม่ร้อนเช่นนี้แน่นอน!”
ขณะที่หัวหน้าเหลิ่งกำลังถอยหนีไป ใจของเขาก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก เขาสัมผัสได้ถึงแก่นแท้พลังที่ระเหยไปราวกับน้ำ ขณะที่โล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาสว่างและสลัววูบวาบเป็นระยะราวกับว่ามันจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ มุมปากของเขากระตุกอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาแอบชื่นชมอยู่เงียบๆเพราะเจียงอี้อยู่ห่างจากเขาไปสองกิโลเมตร หากเจียงอี้อยู่ใกล้เขามากกว่านี้ แม้แต่การป้องกันที่ทรงพลังของเขาก็คงไม่สามารถต้านทานเปลวเพลิงอัสนีนี้ได้
เจียงอี้เองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ฝ่ามือยักษ์ของหัวหน้าเหลิ่งน่ากลัวเกินไปซึ่งมันทำให้การโจมตีของมังกรเพลิงสลายไปอีกครั้งและยังผลักเปลวเพลิงอัสนีออกไปมากมาย โชคดีที่กระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากเปลวเพลิงอัสนีค่อยๆกัดกินพลังงานจากฝ่ามือยักษ์อยู่เรื่อยๆและทำให้มันมีขนาดเล็กลงมาก
เมื่อห้วงพื้นอากาศสั่นสะเทือน เจียงอี้ไม่สามารถแม้แต่จะยืนตรงๆได้และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมองฝ่ามือที่กระแทกมาที่เขา ขณะที่เขาเฝ้ามองมันอยู่ เขาจะตวัดดาบมังกรเพลิงออกมาและปลดปล่อยเปลวเพลิงอัสนีออกมาให้กระแสไฟฟ้าคอยลดพลังของฝ่ามือยักษ์ต่อไปเรื่อยๆ
บูมม!
อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือยังคงอยู่กับเปลวเพลิงอัสนีที่นอกร่างกายของเขาอย่างคงทน และในที่สุดมันก็กระแทกเข้ากับร่างของเจียงอี้ จากนั้นก็มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นมาขณะที่ร่างของเจียงอี้ปลิวไปและพุ่งชนเข้ากับยอดเขาซึ่งทำให้เกิดหลุมลึก
“อั๊กก!”
ภายในภูเขา, เจียงอี้กระอักเลือดออกมาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ ฝ่ามือยักษ์นี้อ่อนกำลังลงแล้วและขนาดของมันเหลือเพียงหนึ่งในสามส่วนของขนาดเดิม ทั้งๆที่เจียงอี้มีเกราะเมฆาอัคคีก็แล้ว แต่เขาก็ยังกระอักเป็นเลือดออกมา เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของหัวหน้าเหลิ่งรุนแรงมาก
เขาสมควรครองอันดับสองของเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างจริงๆ!
“หัวหน้าเหลิ่งมาแล้ว!”
เขาเพิ่งจะหอบไปไม่กี่เฮือกและได้ยินเสียงอากาศที่ทะลวงมาแล้ว เจียงอี้ไม่ลังเลที่จะตวัดดาบมังกรเพลิงและพุ่งออกไปอีกฟากของภูเขาเลย
บูม!
ขณะที่เจียงอี้วิ่งออกจากภูเขามา มีฝ่ามือขนาดยักษ์อยู่บนท้องฟ้าซึ่งมันกระแทกลงมาจากยอดเขา มันสลายยอดเขาทั้งหมดออกทันที ทำให้หินแตกออกมาและควันก็คลุ้งไปทั่ว ยอดเขาที่สูงหลายร้อยเมตรถูกทำลายลงไปด้วยฝ่ามือเดียวของหัวหน้าเหลิ่งจริงๆ
“หมาป่าเดียวดาย ยอมรับความตายของเจ้าซะ!”
หัวหน้าเหลิ่งบินไปไกลพร้อมกับกลิ่นอายที่น่าสะพรึง ดวงตาของเขาดุร้ายราวกับสัตว์เดรัจฉานและร่างของเขาก็เปล่งแสงสีทองเจิดจรัสราวกับเทพอสูรผู้คงกระพันซึ่งทำให้หัวใจและจิตวิญญาณต่างหวาดหวั่นไปหมด