เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 691 หญิงสาวปริศนา
หัวหน้าเหลิ่งพ่ายแพ้อย่างราบคาบ หากเทียบความแข็งแกร่งของทั้งสองแล้ว ผู้ที่พ่ายแพ้ควรเป็นเจียงอี้ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็น่าจะเสมอกัน
ความเร็วของเจียงอี้ช้ากว่าหัวหน้าเหลิ่งนัก หากเจียงอี้ไม่มีเปลวเพลิงอัสนีและหากหัวหน้าเหลิ่งเข้าใกล้เจียงอี้ได้ง่ายๆ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสู้กันเลย เพราะหัวหน้าเหลิ่งบดขยี้เจียงอี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่มันเป็นเพราะเปลวเพลิงอัสนีที่ถูกพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งมันทำให้หัวหน้าเหลิ่งหวาดกลัวต่อเปลวเพลิงอัสนี เขาคอยระวังอยู่ตลอดเพราะหากโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกทำลาย เขาก็จะถูกเผาทั้งเป็น มันจึงทำให้หัวหน้าเหลิ่งประหม่าอย่างยิ่ง แต่หากหัวหน้าเหลิ่งตั้งใจโจมตีออกมา เจียงอี้ก็คงจะตายไปแล้ว
และเมื่อการต่อสู้จบลง หัวหน้าเหลิ่งก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงพ่ายแพ้ได้ เขาถูกเจียงอี้กดดันในช่วงหลังของการต่อสู้ได้อย่างไรในเมื่อตอนเริ่มต้นมันเห็นได้ชัดว่าเขาได้เปรียบ? ทำไมเขาถึงได้ประมาทเลินเล่อที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ของเขากัน?
แต่อย่างไรก็ตาม…
ชนะก็คือชนะ แพ้ก็คือแพ้ หลังจากการต่อสู้นี้ ผู้คนในเมืองยอมรับความแข็งแกร่งของเจียงอี้แล้ว พี่เหิงก็ตายไปแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานแล้ว ใครจะกล้าแหย่หนวดเสือของเจียงอี้ได้อีก?
ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดทั้งในเมืองและนอกเมืองต่างก็ตื่นเต้นอย่างลับๆ ด้วยการตายของหัวหน้าทั้งสาม เจียงอี้ได้ครองตำแหน่งไปแล้วหนึ่งตำแหน่งและเหลืออีกสองตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ซึ่งมันทำให้พวกเขาสามารถคว้าโอกาสและแต่งตั้งตัวเองขึ้นมาได้
ผู้คนพูดคุยกันมากมายแต่เจียงอี้ไม่ได้สนใจมันและนำคนของเขาตรงไปยังลานบ้านของตัวเอง จากนั้นเขาก็โบกมือให้หนิวเติงและคนอื่นๆพร้อมกับพูดว่า “พวกเจ้าทุกคนกลับไปก่อน หนิวเติงไปจัดการเรื่องต่างๆและไปแจ้งให้สิบหกคนนั้นติดตามข้าในภายภาคหน้าซะ”
เจียงอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องการพักฟื้น วันนี้เขาต่อสู้มามากแล้วและรู้สึกเหนื่อยล้า เขาจึงต้องการพักผ่อนและไม่อยากให้ผู้ใดรบกวน
“หัวหน้าเจียงพักผ่อนให้เต็มที่เถิดขอรับ ข้าจะไปจัดการเรื่องต่างๆและจะมารับท่านไปงานเลี้ยงตอนดึกนะขอรับ” หนิวเติงเป็นคนฉลาดและรอยยิ้มของเขาไม่ได้ประจบอีกแล้ว แต่มันดูเหมือนรอยยิ้มที่ยิ้มให้กับคนที่มีสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน
“อื้ม!”
เจียงอี้ตบไหล่หนิวเติงและเดินเข้าไปในลานบ้าน หนิวเติงให้คนสองคนยืนเฝ้าอยู่นอกลานบ้านและจากไปพร้อมกับผู้คนที่เหลือ เขาไปหาคนของป้าเตาและหัวหน้าหลงก่อนและจากนั้นก็ไปหาลูกน้องทั้งสิบหกคนของพี่เหิงต่อเพื่อปลุกใจกองทัพขณะที่ไปจัดการเรื่องงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้
“ฮู่ ฮู่….”
เจียงอี้เดินเข้าไปในลานบ้านและปิดประตูขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้หินในลานบ้าน จากนั้นเขาก็หลับตาเพื่อพักหายใจ
วันนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน เขาไม่ได้สังหารผู้คนมากมาย แต่ทุกคนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุน ซึ่งพวกเขาคนใดคนหนึ่งสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในทวีปเทียนชิงได้ เขาไม่ได้ยินดีเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะสังหารยอดฝีมือที่น่าเหลือเชื่อไปมากมายและยังบังคับให้หัวหน้าเหลิ่งยอมรับความพ่ายอีก ในตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวจริงๆ
หากเขาแพ้ในการต่อสู้ใดในวันนี้ เขาจะต้องสูญสลายไปชั่วนิรันดร์ ขณะที่เจียงเสี่ยวนู๋, เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆจะอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเป็นอย่างยิ่ง เขาได้เอาชีวิตของทุกๆคนมาเสี่ยงหมด
เขาอาจดูน่าเกรงขามที่สังหารหัวหน้าไปสามคน, ปราบปรามหัวหน้าเหลิ่ง, รับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมาและกลายเป็นหัวหน้า แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าเขาต้องทนกับความกดดันมากเพียงใดและใจของเขาต้องทนทุกข์เพียงใด
“ข้าชนะแล้ว ในที่สุดข้าก็ชนะเสียที!”
เจียงอี้หลับตาพึมพำขณะที่ฝืนยิ้มออกมา เขาพยายามลุกขึ้นและและลากสังขารไปที่ลานบ้าน เขาอยากจะอาบน้ำชำระกายให้สบายตัวและนอนหลับอย่างสบายใจเพื่อให้จิตใจที่ตึงเครียดได้ผ่อนคลายลง
“หืม?”
แต่ทว่า!
ในขณะที่เขาเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ ร่างกายและใจของเขาก็ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขาแผ่ความเยือกเย็นและกลิ่นอายสังหารออกมา
มีใครบางคนอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งคนผู้นั้นคือสาวงามนางหนึ่ง
นางดูไม่แก่มากนัก แต่ก็โตเต็มที่แล้ว นางสวมชุดสีเขียวมรกตที่ปักลายดอกไม้ขณะที่นางห้อยกระดิ่งสีชมพูไว้ที่หน้าอกของนาง ซึ่งเนินทั้งสองข้างของนางน่าดึงดูดใจนัก
หญิงผู้นั้นกำลังจิบชาอยู่และเมื่อเจียงอี้เข้ามา นางก็หันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่งดงามและมีเสน่ห์ขณะพูดว่า “หัวหน้าเจียง ท่านกลับมาแล้วหรือ? สาวใช้ผู้นี้รอท่านอยู่นานแล้วนะ”
สีหน้าของเจียงอี้ยิ่งเย็นชามากขึ้นเมื่อเขาจ้องมองไปที่หญิงสาวที่งดงามและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในลานบ้านของข้า?”
ฮิฮิ!
หญิงงามยืนขึ้นมาขณะที่มีแสงสุกสกาวอยู่ในดวงตาของนาง ดวงตาของนางมีเสน่ห์มากและนางก็มองไปที่เจียงอี้และกล่าวว่า “หัวหน้าเจียง ข้าน้อยมีนามว่าฉี่หลิง ข้าเข้ามาที่ลานบ้านของหัวหน้าเจียงเพื่อจะมาอ้อนวอนท่าน ตราบใดที่หัวหน้าเจียงเต็มใจปกป้องข้าในภายภาคหน้า ฉี่หลิงจะเป็นของท่านและท่านจะทำอะไรกับข้าก็ได้”
นางมอบกายให้เจียงอี้?
มีนักสู้หญิงอยู่ในเมืองมากมายและหลายคนก็ถูกหัวหน้าต่างๆซ่อนเอาไว้ ซึ่งเจียงอี้ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าและยังปราบผู้เชี่ยวชาญอันดับสองอย่างหัวหน้าเหลิ่งอีก ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องปกติหรือที่สาวงามทั้งหลายจะวิ่งเข้าหาเขา?.ไอลีนโนเวล.
ในขณะนั้นเอง เจียงอี้ก็รู้สึกว่าคำอธิบายของหญิงผู้นี้มีเหตุผลมาก เขาถอนกลิ่นอายของตัวเองกลับมาพร้อมกับเหลือบมองหญิงงามและถามด้วยความสงสัย “ข้าทำอะไรก็ได้?”
นางยกเอวขึ้นเล็กน้อยขณะที่ยื่นหน้าอกออกมาพร้อมพูดว่า “หัวหน้าเจียงทำได้ทุกสิ่ง….ที่ท่านต้องการเลยเจ้าค่ะ”
“ก็ได้!”
เจียงอี้พยักหน้าและเดินไปที่ห้องและโบกมือของเขา “อันดับแรก ช่วยข้าอาบน้ำที”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องและหยิบถังน้ำจากแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาและเทน้ำสะอาดลงไป เมื่อเห็นว่าสาวงามยังไม่เข้ามา เขาก็พูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อยว่า “เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ? นี่คือวิธีที่เจ้าปรนนิบัติกับผู้อื่นหรือ?”
ดวงตาของหญิงงามสั่นไหว นางกัดริมฝีปากของนางและเดินบิดก้นเข้าไปพร้อมกับยิ้มหวานและพูดกับเจียงอี้ว่า “มาเถอะ หัวหน้าเจียง ให้ข้าช่วยท่านถอดเสื้อผ้านะเจ้าคะ”
“อื้ม!”
เจียงอี้หลับตาลงอย่างไม่มีความกังวลใดๆ เมื่อหญิงสาวผู้นั้นเดิมตามหลังเจียงอี้มาและถอดเสื้อผ้าชั้นนอกของเขาออก, จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าอีกชั้นออก มันก็เผยร่างส่วนบนที่ไร้ที่ติของเขา เมื่อเหลือกางเกงอยู่เพียงตัวเดียว หญิงสาวผู้นั้นไม่ขยับและหน้าแดงระเรื่อขณะที่นางเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย
“หืม?”
เจียงอี้รออยู่ครู่หนึ่งและเมื่อสังเกตว่านางไม่ขยับเขยื้อนใดๆ เขาจึงเอนหัวและพูดว่า “เจ้านี่งุ่มง่ามจริง แล้วยังจะอยากมารับใช้คนอื่นอีก? แล้วแบบนี้ข้าจะใช้อะไรเจ้าได้?”
นางมีสีหน้าที่อับอายขณะที่กัดฟันและดึงกางเกงของเจียงอี้ลง นางปิดตาสนิทและใบหน้าของนางก็แดงและร้อนฉ่า
ป๋อม!
เจียงอี้กระโดดลงไปในน้ำและล้างตัวเอง เขาหันไปมองสาวงามนั้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคย “เจ้านี่แปลกคนจริง เมื่อเจ้าอยากจะติดตามหัวหน้าผู้นี้ เจ้าก็ต้องคอยปรนนิบัติข้าสิ มัวรออะไรอยู่ล่ะ?”
“อ๊ะ?”
นางค่อยๆลืมตาขึ้นมาและเห็นว่าร่างครึ่งล่างของเจียงอี้อยู่ในน้ำ จากนั้นนางก็ถอนใจอย่างโล่งอกและถามว่า “หัวหน้าเจียง ท่านต้องการให้ข้าน้อยผู้นี้ทำสิ่งใดเจ้าคะ?”
เจียงอี้จ้องและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าบอกให้ช่วยอาบน้ำให้ข้าหรือ? มาถูหลังให้ข้าเร็ว”
“โอ้”
สาวงามมุ่ยริมฝีปากของนางแล้วเดินมาด้านหลังเจียงอี้ นางยื่นมืออันขาวเนียนออกมาถูและล้างหลังของเจียงอี้เบาๆ ก่อนที่เจียงอี้จะหันหัวมองออกไปด้านข้างแล้วพูดว่า “ดูเหมือนเจ้าจะไม่เคยเป็นสาวใช้มาก่อนสินะ? เจ้าไม่รู้หรือว่าการอาบน้ำมีกฎข้อหนึ่งคือ สาวใช้จะต้องเปลือยกายออกให้หมดด้วย”
“อ๊ะ?”
หญิงงามร้องออกมาด้วยความประหลาดใจขณะที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าของนางร้อนผ่าวอีกครั้งขณะที่ดวงตาของนางสั่นไหว นางกัดริมฝีปากของนางและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“เฮ้อ…”
เจียงอี้ไม่ได้มองนางอีกต่อไป เขาใช้มือทำความสะอาดร่างกายของเขาและถอนหายใจยาวๆก่อนจะพูดว่า “ฉี่หลิง การแสดงของเจ้าด้อยนักและเจ้าก็ไม่น่าเล่นด้วยเอาซะเลย ในเมื่อเจ้าอยากจะเล่นละคร เช่นนั้นเจ้าก็ต้องแสดงให้สมจริงกว่านี้หน่อยไหม? เจ้าคิดว่าข้าจะกล้าหยาบคายต่อเจ้าหรือ? ในบรรดาผู้คนที่ทำเช่นนั้นคงตายไปหมดแล้วใช่ไหมล่ะ? ข้าพูดถูกหรือเปล่า….เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน?”
….