เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 700 ข้าจะ....คิดดู
ในบรรดายอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนเหล่านี้ มีขอบเขตเทียนจุนระดับกลางอยู่คนหนึ่งซึ่งเป็นนักสู้มือหนึ่งของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน ผู้มีนามว่าหยางตง!
หยางตงมักไม่ทำตัวโดดเด่นและภักดีต่อเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมาก เดิมที เจียงอี้และเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานวางแผนที่จะให้หยางตงขึ้นเป็นหัวหน้าอีกคนหนึ่ง ด้วยการสนับสนุนจากพวกเขาทั้งสองคนแล้ว หัวหน้าเหลิ่งและคนอื่นๆก็คงไม่กล้าแม้แต่จะผายลมออกมา แต่หยางตงกลับปฏิเสธและกล่าวว่าการคอยติดตามเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานนั้นง่ายกว่ามากเพราะเขาไม่ต้องคิดอะไรเลยและแค่สังหารผู้ใดก็ตามที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานสั่งให้เขาไปฆ่าเท่านั้น
คนของเจียงอี้กลับไปที่เมืองอย่างเงียบๆและไปหาเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน เมื่อนางได้ยินว่าเป็นคำขอจากเจียงอี้ เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานก็ไม่ลังเลเลย นางสั่งให้หยางตงรวบรวมคนทั้งหมดและตามหนิวเติงไปที่นั่น
เมื่อหนิวเติงเพิ่งจะมาถึงแถบทะเลทรายและเห็นว่าปู้เหอและคนของเขากำลังจะเริ่มต่อสู้กับเจียงอี้ เขาก็ไม่สนใจอะไรและเตรียมสู้เช่นกัน ทันทีที่เขาได้รับข้อความเสียงจากเจียงอี้ เขาก็ปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์ทันทีและชักศาสตราวุธพร้อมกับคำรามออกมา
เจียงอี้มีผู้ใต้บัญชาขอบเขตเทียนจุนมากกว่าสามสิบคน และยังมีหยางตงและทหารอีกกว่าหกสิบคน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับร้อยก็บินมาอย่างสง่า ทุกคนเริ่มโจมตีหลังจากสิ้นเสียงคำรามของหนิวเติง
จี๊! จี๊!
ตูม! ตูม!
ปึ้ง! ปัง!
มันน่ากลัวเพียงใดที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าเก้าสิบคนปลดปล่อยการโจมตีออกมาพร้อมกัน? ผลลัพธ์ในสนามรบนี้ชัดเจนมาก หลังจากที่ปลดปล่อยการโจมตีไปกว่าเก้าสิบครั้ง แม้แต่สีหน้าเจียงอี้ก็ยังเปลี่ยนไปขณะที่เกราะเมฆาอัคคีของเขาปรากฏขึ้นมาและรีบถอยกลับไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหกที่อยู่ข้างหลังเจียงอี้ได้ล่าถอยไปนานแล้ว
ท้องฟ้าอีกด้านสว่างไสวด้วยแสงหลากสีภายใต้ดวงอาทิตย์ ลำแสงกว่าเก้าสิบสายแล่นผ่านมาจนห้วงอากาศสั่นสะเทือนขณะที่ปล่อยเสียงแสบหู การโจมตีทั้งหลายนี้มีทั้งรูปแบบเต๋าและรูปร่างที่หลากหลาย อย่างเช่นหอกที่แหลมคมเลื้อยไปมาราวกับงู, บางพื้นที่ถูกควบแน่นจนเกิดเป็นกะโหลกสัตว์ร้ายขึ้นมาและมันแผดเสียงคำรามที่ดังสนั่นออกมา บ้างก็ตั้งค่ายกลรูปหน้าปีศาจยักษ์ ซึ่งมันทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหวแล้ว
“รีบถอยเร็ว….”
สีหน้าของปู้เหอเปลี่ยนไปทันที ตอนแรกเขาต้องการโจมตีเจียงอี้ แต่เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่น่ากลัวมากมายเช่นนี้ เขาจะกล้าโจมตีเจียงอี้ต่อได้อย่างไร? เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคำรามออกมาและหลบไปด้านข้างในเวลาเดียวกัน ง้าวของเขาปล่อยแสงสีเงินออกมาซึ่งมันมีพลังที่แข็งแกร่งมากขณะที่มันพุ่งไปยังการโจมตีนับสิบสายอย่างไม่เกรงกลัว
ผู้ใต้บัญชาขอบเขตเทียนจุนของปู้เหอหน้าซีดเผือดเนื่องจากศัตรูมีจำนวนมากกว่าสองเท่า ตอนแรกพวกเขาคิดว่าหัวหน้าหนุ่มผู้นี้ไม่มีความแข็งแกร่งใดๆเลย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะดุดันยิ่งกว่าหัวหน้าหลี่, หัวหน้าอิงและคนอื่นๆที่พวกเขาเคยยั่วยุมาก่อนหน้านี้เสียอีก การที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนได้มากเช่นนี้นั้นก็นับว่าเป็นความแข็งแกร่งแบบหนึ่งแล้ว และหากเขาไม่ได้แข็งแกร่งอะไร ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเหล่านี้จะฟังคำสั่งของเขาหรือ?
แน่นอนว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องพวกนี้ พวกเขาโจมตีออกมาอย่างสิ้นหวังขณะที่เทแก่นแท้พลังลงในโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาและหลบไปด้านข้างอย่างเร็วที่สุด
“พี่ปู้ ช่วยพวกเราด้วย….”
“ยอมแล้ว เรายอมแพ้แล้ว!”
“ช่วยเราด้วย เราไม่อยากตาย…..”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเหล่านั้นมีโล่ศักดิ์สิทธิ์และเร็วมาก แต่เหล่าขอบเขตจินกังทั้งสามร้อยคนนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า พวกเขาทั้งหมดก็เผยความสิ้นหวังและโหยหวนออกมาอย่างน่าสังเวช
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังทั้งสามร้อยคนกลายเป็นเนื้อสับในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนจำนวนมากที่หลบไม่ทันและโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างของพวกเขากลายเป็นหมอกโลหิตและฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า มีการระเบิดอยู่ทั่วทุกหนแห่งและห้วงอากาศก็บิดเบี้ยวไป ในขณะที่เสียงระเบิดก็ดังก้องไม่หยุด มันดังมากจนแม้แต่เสียงฟ้าร้องจากท้องฟ้ายังถูกกลบไป
ในการโจมตีเพียงแค่รอบเดียว
ผู้ใต้บัญชาขอบเขตจินกังทั้งสามร้อยคนถูกขจัดไปอย่างสิ้นซากขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนถูกสังหารไปอย่างน้อยสิบในสี่สิบคน มีบางคนที่โล่ศักดิ์สิทธิ์แตกสลายไปแต่ก็ยังหลบหนีได้ แต่พวกเขาทั้งหมดมีอาการบาดเจ็บ ในทางตรงข้าม ฝ่ายของเจียงอี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โล่ศักดิ์สิทธิ์แตกสลายไปและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
“เอ่อ….”
เจียงอี้ถอยร่นกลับไปอย่างรวดเร็วและเขามีเกราะเมฆาอัคคีซึ่งมีการป้องกันพอๆกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลาง ลูกหลงจากการโจมตีเหล่านี้ทำร้ายเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงถูกผลักให้ถอยหลังกลับไปหลายร้อยเมตรในขณะที่เขารู้สึกอึดอัดที่หน้าอก
เจียงอี้มองตะลึงกับเลือดและเนื้อที่สาดกระเซ็นอยู่เงียบๆ หากเขาถูกโจมตีจากคนหลายๆคนพร้อมกัน ตัวเขาเองก็คงจะถูกบดขยี้ตายถึงแม้ว่าเขาจะมีเกราะเมฆาอัคคีก็ตาม โชคดีที่เขามีเปลวเพลิงอัสนีและไม่กลัวถูกล้อมรอบและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนธรรมดาก็ไม่มีโอกาสได้ล้อมรอบเขาเช่นกัน
ฟรึ่บ!
ด้านผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหกคนของฝั่งเจียงอี้ที่ล่าถอยไปก่อนหน้านี้ต่างพากันบินมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไปได้ มีกฏของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในการต่อสู้กันเป็นกลุ่มคือนอกเหนือจากสมบัติล้ำค่า ผู้ใดก็ตามที่ฉกสมบัติของศัตรูได้ มันจะตกเป็นของผู้นั้นไป
ด้านเจียงอี้ไม่ได้เคลื่อนไหวและยืนอยู่กลางอากาศอย่างภาคภูมิ ไอลีนโนเวล
ทุกคนพุ่งมาราวกับหมาป่าที่ดุร้ายและรวมกลุ่มสังหารกัน หลังจากผ่านการสู้รบมานับไม่ถ้วน ใจของเจียงอี้ก็เย็นชาไปแล้ว อย่าว่าแต่นักสู้ไม่กี่ร้อยคนเลย ถึงจะเป็นหมื่นหรือแสนคนที่ตายต่อหน้าเขา เขาก็จะไม่ใจอ่อน
“พวกเรายอมจำนนแล้ว! หัวหน้าเจียง….เรายอมจำนนและเต็มใจภักดีต่อท่านแล้ว!”
ปู้เหอขวัญเสียขึ้นมาเมื่อเขาเห็นหยางตง, หนิวเติงและคนอื่นๆกระโจนเข้ามาราวกับเสือที่ดุร้าย เขาได้กลิ่นของความตายคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ เขาขจัดการโจมตีจากหยางตงและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนอีกสองคนอย่างหมดท่าขณะที่วิงวอนเจียงอี้
“ใช่แล้ว เรายอมจำนน หัวหน้าเจียง เราจะเป็นสุนัขของท่านในภายภาคหน้า เราจะกัดผู้ใดก็ตามที่ท่านอยากให้เราไปกัดตราบใดที่ท่านไว้ชีวิตเรา!”
“หัวหน้าเจียงโปรดเมตตา!”
ปู้เหอคำรามออกมาขณะที่ลูกน้องที่กำลังดิ้นรนก็คำรามออกมาเช่นกัน หากพวกเขาไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ พวกเขาจะถูกกำจัดไปจนหมด เดิมทีโจรภูเขาเหล่านี้เป็นวายร้าย อย่าว่าแต่การยอมจำนนเลย แม้แต่คุกเข่าร้องขอชีวิตพวกเขาก็ทำได้อย่างไม่ลังเล
ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ!
หลายสายตามองไปที่เจียงอี้ ส่วนหนิวเติง, หยางตงและคนอื่นๆก็มองไปที่เจียงอี้เพื่อรอการตัดสินใจของเขาเช่นกัน
เจียงอี้หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับลูบจมูกและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ข้าจะ….คิดดูแล้วกัน”
“อั๊ก….”
ปู้เหอและคนอื่นๆต่างก็กระอักเลือดออกมาเพราะความกดดัน เจียงอี้กำลังไตร่ตรองอยู่แต่ลูกน้องของเขาไม่ได้ทำเช่นนั้นด้วย พวกเขาโจมตีอย่างดุเดือดมากขึ้นและเพียงไม่กี่พริบตา คนอีกสี่ถึงห้าคนจะถูกสังหารไป
“หัวหน้าเจียง!”
ปู้เหอตะโกนออกมาอีกครั้ง ซึ่งทำให้ใบหน้าของเจียงอี้เกิดความลังเลขึ้นมาขณะที่เขาค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ แต่…..เขาไม่ได้บ่งบอกว่าให้หยุดโจมตี
“อ๊าก อ๊ากก อ๊ากก….”
คนอีกห้าคนถูกสังหารไป ปู้เหอและคนอื่นๆต่างก็คอยเฝ้ามองไปที่มือของเจียงอี้อย่างหมดหนทางและแทบอยากจะร้องออกมา เจียงอี้ยังคงคิดอยู่และมือของเขาก็ยังคงอยู่ที่เดิม!
เมื่อเวลาล่วงเลยไป ปู้เหอและคนอื่นๆรอคอยเขามากกว่าสิบลมหายใจ ส่วนเจียงอี้ยังคงไม่มีข้อสรุป ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าเจียงอี้เพียงแค่หลอกลวงพวกเขา เขาไม่เคยคิดจะไว้ชีวิตพวกเขาและพยายามทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลง
“ฆ่าไอ้หมาชั่วนั่นซะ!”
ปู้เหอคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและปล่อยแสงสีเงินออกมา ทำให้หยางตงและคนอื่นๆถอยหนีไปขณะที่เขาพุ่งไปทางเจียงอี้ราวกับมังกรคลั่งและยังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนอีกเจ็ดคนที่เตรียมจะสละตัวเองและพุ่งไปที่เจียงอี้โดยไม่คิดชีวิต แม้ว่าพวกเขาจะต้องตาย….พวกเขาก็จะลากเจียงอี้ไปกับพวกเขาด้วย
“ถอย!”
หนิวเติงและคนอื่นๆเห็นว่าดาบมังกรเพลิงของเจียงอี้ปรากฏขึ้นมาเงียบๆขณะที่ไข่มุกวิญญาณเพลิงกำลังเปล่งแสงสีแดงออกมา ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปมากและพากันถอยหนีไป หยางตงและคนอื่นๆอาจไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็สัมผัสถึงอันตรายได้โดยสัญชาตญาณและรีบถอยกลับไปด้วยความกลัว
“ฮึฮึ พวกเจ้ากำลังปฏิบัติกับข้าเหมือนลูกพลับนุ่มๆรึ? พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนอ่อนแอรึ?”
เจียงอี้หัวเราะเบาๆขณะที่เขาหายไปกลางอากาศและปรากฏตัวที่ด้านบนทางซ้ายของฝ่ายศัตรูในวินาทีถัดมา ไข่มุกวิญญาณเพลิงของเขาสว่างไสวและเปลวเพลิงอัสนีมากมายก็หลั่งไหลออกมาทำให้อุณหภูมิรอบๆสูงขึ้นหลายร้อยเท่าอย่างกะทันหัน คลื่นความร้อนอันน่าสะพรึงได้กลืนกินทุกสิ่งรอบๆนั้นไว้จนหมด
….