เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 714 ยิงหินนัดเดียวได้นกสี่ตัว
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 714 ยิงหินนัดเดียวได้นกสี่ตัว
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานยิ้มอย่างงดงาม นางไม่ได้พูดอะไรเลยและเดินหันหลังไปทางทิศตะวันตกของเมือง
“พี่ใหญ่!”
ในที่สุดเจียงอี้ก็ตะโกนออกมาและส่งข้อความเสียงให้นาง “ไม่ว่าท่านจะออกไปทำอะไรข้างนอกนั่น โปรดจำไว้เสมอว่ายังมีคนคนหนึ่งรอท่านอยู่ที่เมืองอัสนีฟ้ากระจ่าง และหากท่านพบเจออันตรายข้างนอก มาหาข้าได้ทันที ตราบใดที่ค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพยังไม่ทำงาน ข้าจะพาท่านหนีไปไม่ว่าใครจะไล่ล่าท่านก็ตาม พี่ใหญ่ ข้าลืมบอกท่านไปว่า…ข้ามีนามว่าเจียงอี้”
“เจียงอี้?”
ร่างของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานสั่นเทาเล็กน้อย คนธรรมดาอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่มันดังก้องอยู่ในหูของนาง เมื่อก่อน เจ้าเมืองลู่ผิงพูดถึงชื่อนี้แทบทุกวัน เขาเป็นที่เลื่องชื่อมากในเผ่าเทพประทาน
เผ่าเทพประทานเป็นศัตรูกับเก้าจักรพรรดิแห่งทวีปจักรพรรดิบูรพา ดังนั้นเผ่าเทพประทานจึงยินดีที่จะได้เห็นสิ่งที่ทำให้เก้าตระกูลจักรพรรดิเหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมาน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเป็นศัตรูกัน แต่พวกเขาก็รู้ข้อมูลเป็นอย่างดี เหล่าพ่อค้ามากมายที่เดินทางไปทั่วเองก็แพร่ข่าวสำคัญเกี่ยวกับทวีปจักรพรรดิบูรพาไปทั่วเผ่าเทพประทาน
ที่เจียงอี้เอาชนะนายน้อยและคุณหนูเก้าตระกูลจักรพรรดิและได้สมบัติในราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับมาครอง จากนั้นเขาก็ถูกตระกูลเสียและตระกูลเจี้ยนร่วมกันไล่ล่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากในทวีปจักรพรรดิบูรพา หลังจากนั้น ความล้มเหลวในการไล่ล่าของเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงก็ยิ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนมากขึ้น และเรื่องเช่นนี้ก็คงกระจายไปทั่วทั้งเกาะแห่งบาปอย่างแน่นอน
“ชุดเกราะเมฆาอัคคี, วิชาหลีกสวรรค์ ข้าน่าจะคิดเรื่องนี้ได้ตั้งนานแล้ว”
นางถอนหายใจเบาๆอยู่ในใจ และสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด นางส่งข้อความเสียงให้เจียงอี้โดยไม่หันกลับมามอง “น้องชาย ข้าจะจำคำเจ้าไว้ ข้าไม่ได้หลอกเจ้า ข้ามีนามว่าฉี่หลิงจริงๆ แต่แซ่ของข้าไม่ใช่ฉี่แต่เป็นหนานกง น้องเล็ก ดูแลตัวเองด้วย หากข้ารอด ข้าจะกลับมาหาเจ้าแน่นอน”
หลังจากที่นางส่งข้อความเสียงเสร็จ นางก็เดินตรงไปยังประตูเมืองตะวันตก ฝีเท้าของนางไม่ได้เร็วมากนัก และมีอาการสั่นเล็กน้อยแทน
นางไม่ได้หันกลับมามองเลยเพราะนางกลัวว่านางจะไม่อยากจากไปเมื่อนางหันหลังกลับมา
เจียงอี้ไม่ได้ตามนางออกไปนอกเมืองและเห็นนางจากไป เขารู้สึกเป็นมิตรกับนางอย่างบอกไม่ถูก มันไม่ได้เกี่ยวกับความกตัญญูหรือความรักใคร่แต่เป็นความรักและเคารพอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาไม่ได้รั้งให้นางอยู่ต่อเพราะเขาเคารพนาง และเขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของนางเช่นกัน
“หนานกง ฉีหลิง? แซ่นี้มีความหมายพิเศษอะไรหรือเปล่านะ?”
ความสงสัยผุดขึ้นมาในใจเขา แต่ในไม่ช้าเขาก็จมอยู่กับความเศร้าที่ต้องลาจาก เขาหลับตาและยืนนิ่งอยู่นาน และเมื่อเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานออกจากเกาะไปแล้ว เขาก็ลืมตาขึ้นและโบกมือให้คนอื่นลุกขึ้น
“ว่านก้วน ไปหาอะไรดื่มกันเถอะ”
เจียงอี้โบกมือให้เฉียนว่านก้วนที่หันไปมองหยางตงและหนิวเติงเพื่อส่งสัญญาณให้พวกเขาจัดการเรื่องในเมืองต่อ ส่วนเขา, เจียงอี้, เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆก็กลับมายังลานบ้านของพวกเขา
หลังจากกลับมาถึงแล้ว เฟิ่งหลวนและชิงหยีเห็นว่าเจียงอี้กำลังไม่สบอารมณ์จึงไม่รบกวนเขา เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนไปที่ลานบ้านของจ้านอู๋ซวงแต่ก็พบว่าเขาเข้าสู่สันโดษอยู่ พวกเขาจึงไม่ได้เรียกเขาออกมา
เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนดื่มกันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พวกเขาเมามากและเฟิ่งหลวนและชิงหยีก็พาพวกเขากลับไปที่ห้องพักในยามดึก
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงอี้ตื่นมาทานอาหารกับทุกๆคน จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาว่า “เฟิ่งเอ๋อร์ ว่านก้วน แผนการตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เฟิ่งหลวนมองไปที่เฉียนว่านก้วนและพูดว่า “ว่านก้วน เจ้าบอกเขาเลย”
เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและพูดว่า “การค้าของเรากำลังไปได้ด้วยดี เราซื้อขายกันไปสองครั้ง ข้าให้มังกรวารีสีทองนำกลุ่มคนเดียว และเราก็มีประสบการณ์ที่ดีกับตำหนักเจ้าเมือง เจ้าเมืองเองก็ซื่อตรงและแบ่งสัดส่วนที่ยุติธรรมแก่เรา และแน่นอนว่า…ข้าแบ่งส่วนเล็กๆน้อยๆแจกจ่ายให้กับผู้บังคับบัญชาทั้งสิบ จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
เจียงอี้พยักหน้าเล็กน้อย
เฉียนว่านก้วนนิ่งไปพักหนึ่งและพูดต่อว่า “ข้าได้คุยกับแม่นางหลวนไว้ เราคิดว่ามันยังไม่ปลอดภัยถึงจะแจกจ่ายเงินให้กับผู้บัญชาการทั้งสิบ ท้ายที่สุดแล้ว ศิลาสวรรค์ที่ถูกกระจายออกไปก็ยังน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการค้าขนาดใหญ่ หากพวกเขามีแผนการอื่น เราก็จะมีปัญหาไม่รู้จบ” Aileen-novel
“อืม”
เจียงอี้พยักหน้าและเหลือบมองพวกเขาพร้อมกับพูดว่า “ข้าพนันได้เลยว่าพวกเจ้ามีแผนการดีๆบ้างแล้ว”
“ใช่แล้ว”
เฟิ่งหลวนพูดต่อ “ว่านก้วนหลักแหลมมาก เขามีความคิดที่จะให้ผู้บัญชาการเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา พวกเขาก็จะไม่รอดเช่นกัน และแผนการใหม่นี้ดำเนินไปสองครั้งแล้ว และผลก็ถือว่าดีอยู่”
“โอ้?”
เจียงอี้มองไปที่เฉียนว่านก้วนอย่างประหลาดใจ เขายิ้มและพูดว่า “เจ้านี่มันเจ้าแผนการจริงๆ บอกรายละเอียดให้ข้าฟังที”
“ฮ่าฮ่า ถ้าไม่มีลูกพี่หนุนหลังข้าอยู่ ข้าก็คงไม่ทำแผนการใดๆ ไม่ว่าจะคิดอะไรได้มากแค่ไหนก็ตาม”
เฉียนว่านก้วนยิ้มออกมาและเริ่มอธิบายรายละเอียดต่างๆ
แผนการนี้ง่ายมากจริงๆ ในตอนที่เฉียนว่านก้วนไปทำการค้าครั้งแรก เฟิ่งหลวนได้แพร่ข่าวลือว่าเขานำคนทั้งห้าสิบไปสังหารกองทัพโจร
และเมื่อเฉียนว่านก้วนกลับมา เขาก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนให้ข่าวลือเป็นเรื่องจริง
มีจอมยุทธอยู่ในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างมากมาย และเมื่อทั้งเมืองรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนก็แทบจะไร้ประโยชน์ มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะส่งให้พวกเขาออกไปหาเงินดีกว่าปล่อยให้พวกเขาอยู่เฉยๆในเมือง
ผู้บังคัญบัญชาในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างเองก็ไม่ใช่คนใหญ่โตอะไรในตระกูลลู่ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงเป็นสมาชิกตระกูลลู่และมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเหล่าสมาชิกตระกูลลู่ระดับสูง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะขอให้พวกเขาไปสังหารกองโจร แต่มันง่ายมากที่จะขอให้พวกเขาหาข้อมูลว่ากองโจรที่ทรงพลังและอ่อนแออยู่แถบไหนบ้าง
และแผนการบ้าบิ่นจึงเริ่มต้นขึ้น
ทาสหลายคนในเมืองนี้ทำงานใกล้จะเสร็จมากแล้ว ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมากมายก็ทำงานส่วนของพวกเขาเสร็จนานแล้วด้วย พวกเขาสามารถเข้า-ออกจากเกาะอัสนีฟ้ากระจ่างได้ตลอดเวลา ส่วนผู้บัญชาการตระกูลลู่ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย พวกเขาเพียงรวบรวมสติปัญญาและจากนั้นพวกเขาก็จะได้สมบัติและศิลาสวรรค์มากมาย แล้วทำไมพวกเขาจะไม่เข้ามามีเอี่ยวในธุรกิจอันยอดเยี่ยมเช่นนี้?
บทบาทที่สำคัญที่สุดของแผนการนี้คือการปกปิดแผนการขายหินอัสนี ทุกคนในเมืองคิดว่าเจียงอี้ร่วมมือกับผู้บัญชาการในการสังหารเหล่ากองโจรเท่านั้น แม้แต่คนที่สงสัยเขา ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เข้ามามีส่วนในแผนการเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนประมาณเจ็ดสิบคนและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังเกือบพันคนจะร่วมกันดำเนินการในแต่ละครั้ง ซึ่งทำให้เหล่ากองโจรในแถบใกล้เคียงสองเกาะถูกกวาดล้างไปอย่างรวดเร็ว
เฉียนว่านก้วนแบ่งสมบัติออกเป็นสิบส่วน ครึ่งหนึ่งเขามอบให้กับผู้บัญชาการคนอื่นๆ อีกสี่ส่วนแจกจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ตามจำนวนโจรที่พวกเขาสังหารได้ และเขาก็เก็บมันเอาไว้เพียงส่วนเดียว
ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ตื่นเต้นกับผลตอบแทนที่ดี ผู้บัญชาการเองก็พยายามสืบหาเบาะแสและค้นหาเป้าหมายต่อไปอย่างกระตือรือร้น ส่วนจอมยุทธในเมืองก็ฝึกฝนอย่างแข็งขันและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป
ด้วยแผนการที่พิถีพิถัน พวกเขาต่อสู้กับกองโจรที่ไม่ทันตั้งตัวโดยเหล่าจอมยุทธในเมือง
และทุกๆครั้ง คนผู้หนึ่งจะได้สมบัติและศิลาสวรรค์มากมายและเป็นส่วนร่วมในการต่อสู้อันน่าตื่นเต้น มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ไม่เข้าร่วมกับเรื่องนี้
“ดีมาก แผนการของว่านก้วนยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เพียงแต่ดึงให้ผู้บัญชาการมาอยู่ข้างเรา แต่ยังปกปิดธุรกิจการค้าจริงและสร้างรายได้เพิ่มด้วย นี่มันยิงหินนัดเดียวได้นกสามตัวเลย!”
เจียงอี้ปรบมือยกย่องเขา ส่วนเฉียนว่านก้วนก็ยิ้มและพูดว่า “อันที่จริงแล้วได้นกสี่ตัว เพราะในเมืองมีคนมากเกินไป สงครามจะบั่นทอนผู้คนบางส่วนไป และเราก็จะได้หินอัสนีมามากขึ้น….”