เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 722 รูปแบบเต๋าผสาน
จี๊! จี๊!
เมื่อสายฟ้าพุ่งออกมาล้อมรอบเจียงอี้และแตกออกเป็นแสงมากมายในทันที ในที่สุด ร่างของเขาก็ปลิวลอยไปโดยแก่นแท้พลังที่ถูกควบแน่นเป็นกะโหลกสัตว์ หากไม่ใช่เพราะเปลวเพลิงอัสนีที่ทำให้พลังของกะโหลกสัตว์อ่อนลง เจียงอี้ก็คงถูกสังหารไปแล้วแม้ว่าเขาจะมีเกราะเมฆาอัคคีก็ตาม
หากไม่ใช่เพราะสายฟ้าในเปลวเพลิงอัสนี, เกราะเมฆาอัคคีและร่างกายที่แข็งแกร่งของเจียงอี้ เขาก็คงจะตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว
สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอย่างเกราะเมฆาอัคคีจะไม่ถูกการโจมตีระดับนี้ทำลายไป แต่เปลวเพลิงอัสนีไม่ได้ไร้ขีดจำกัดในขณะที่เจียงอี้เองก็ไม่ได้คงกะพัน ทุกครั้งที่อวัยวะภายในของเจียงอี้ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก ความเร็วของเขาจะลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาการบาดเจ็บของเขาก็จะรุนแรงและสุดท้ายเขาจะต้องพินาศไปในที่สุด
จี๊! จี๊!
ลำแสงพุ่งทะลุพื้นดินออกมา พื้นผิวของพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องขณะที่เสียงระเบิดไม่หยุดดังก้องในหูเลย เจียงอี้อยู่ในสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงสัมผัสระลอกคลื่นจากพื้นดินได้ล่วงหน้า ทำให้เขาเปลี่ยนทิศทางไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด
เจียงอี้เลือกที่จะลงมาใต้ดินเนื่องจากศัตรูไม่กล้าใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจึงไม่สามารถระบุตำแหน่งเจียงอี้ได้อย่างแม่นยำนัก การโจมตีของฝ่ายศัตรูอาจรุนแรงมาก แต่การโจมตีเหล่านี้ก็ถูกลดกำลังลงจึงทำให้เจียงอี้สามารถต้านทานมันได้นานขึ้น
แต่แน่นอนว่า….
ช่วงเวลาที่ยาวนานนี้ก็ยังสั้นอย่างน่าสังเวช ความเร็วของศัตรูทุกคนเร็วกว่าเขาซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อเขาถูกล้อมแล้ว การโจมตีจะมาจากทั่วทุกสารทิศและเขาก็ยังคงต้องตายอยู่ดี “ข้าควรทำอย่างไรดี?”
ขณะที่เขาคอยหนีอย่างสิ้นหวัง เขาก็หลบหลีกการโจมตีอย่างสิ้นหวังไปด้วยและคิดหาทางแก้ไขไปด้วย มีเสียงกลองดังสะท้อนมาจากด้านหลังอย่างต่อเนื่อง และดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มของเจียงอี้ก็จะบินวนอยู่รอบๆทะเลแห่งดวงจิตของเขาเพื่อทำลายพลังงานที่เข้ามา โชคดีที่เจียงอี้มีดาบวิญญาณ ไม่เช่นนั้น การโจมตีดวงจิตวิญญาณของกุ่ยอิ่งก็เพียงพอที่จะสังหารเขาได้แล้ว
เจียงอี้ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้และเขาก็ไม่สามารถพึ่งพาหยางตงและคนอื่นๆได้ ตราบใดที่กุ่ยอิ่งยังอยู่ มันก็จะเป็นการทิ้งชีวิตของหยางตงและคนอื่นๆไป การโจมตีของเสี่ยวนู๋ก็ดุร้ายมากแต่ฝ่ายศัตรูมีขอบเขตเทียนจุนระดับกลางถึงห้าคน เขาไม่ต้องการให้เสี่ยวนู๋ออกมาเสี่ยงเพราะนางเป็นผู้ที่โจมตีระยะประชิดตัวและหากนางไม่สามารถสังหารศัตรูได้หลังจากที่เข้าใกล้พวกนั้น นางก็จะตกตายไปอย่างแน่นอน เฟิ่งหลวนล่ะ? มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะรูปแบบเต๋าราตรีของนางจะถูกสลายไปในทันที
ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ เขาจึงต้องคิดหาทางตอบโต้ศัตรูและสังหารพวกนั้นซะ!
น่าเสียดายที่การฝึกปรือของเขายังด้อยเกินไปและการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือเปลวเพลิงอัสนี แต่หากฝ่ายศัตรูไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ เช่นนั้นเขาก็สังหารใครไม่ได้เลยในขณะที่พลังอื่นๆของเขาก็ไม่มีพลังมากพอที่จะสังหารผู้ใดได้ ส่วนดาบวิญญาณนั้นสามารถสังหารผู้คนได้ แต่มันต้องเป็นระยะใกล้เพื่อลอบโจมตีเท่านั้น
เข้าถึงรูปแบบเต๋าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง?
มันคงเป็นไปไม่ได้ หากเขาสามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋าระดับสูงในภูเขาอัสนีได้สำเร็จ พลังนั้นน่าจะเหลือล้นอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถเข้าถึงมันได้อย่างสมบูรณ์และมันยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะผสานกันได้ในตอนนี้ แล้วถ้าหากว่าเขาสามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋าได้หนึ่งถึงสองประเภททันทีล่ะ? แต่รูปแบบเต๋าระดับต่ำก็ยังไม่สามารถสังหารใครได้ ความเร็ว?
เขาก็ไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้ในเวลาสั้นๆเช่นนี้ และถึงแม้เขาจะทำได้มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาหลบหนีไปจากที่นี่ได้
การป้องกัน?
หากเจียงอี้เพิ่มการป้องกันได้ เขาอาจจะอยู่ได้นานขึ้นและอาจมีโอกาสไปถึงเมือง แต่น่าเสียดายนักที่เขาไม่สามารถเข้าถึงรูปแบบเต๋าประเภทป้องกันที่ทรงพลังได้ในเวลานี้ Aileen-novel
“มันไม่มีทางอื่นแล้วหรือ?”
จิตใจของเจียงอี้หมุนเร็วขึ้นนับร้อยเท่า เมื่อเขาวิเคราะห์ถึงความสามารถและสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่เขามีอยู่ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาจนปัญญาแล้วและสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือรอให้เปลวเพลิงอัสนีหมดลงก่อนที่จะถูกสังหาร
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
การโจมตีนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศด้วยความเร็วสูง และแม้ว่าเจียงอี้จะสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีที่มากมายเช่นนี้ได้
เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากตวัดดาบออกไปหลายครั้งและใช้สายฟ้าในเปลวเพลิงอัสนีเพื่อทำให้การโจมตีอ่อนลง จากนั้นเขาจะใช้เปลวเพลิงอัสนีที่อยู่รอบๆตัวลดการโจมตีที่เข้ามาก่อนที่จะปลิวลอยไปจากแรงกระแทกของการโจมตี!
ทุกครั้งที่เขาถูกกระแทก เขาจะลุกขึ้นมาอีกครั้งและหนีต่อไป เปลวเพลิงอัสนีของเขาเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งในไข่มุกวิญญาณเพลิงแล้วและอาการบาดเจ็บของเขาก็แย่ลงทุกที มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาและหยดกระจายไปทั่วพื้นเต็มไปหมด
“โจมตี? ไม่! ความเร็ว? ไม่! การป้องกัน? ไม่! ไม่สิ….เหมือนว่าข้าจะพอมีทางเพิ่มการป้องกันได้บ้างหรือเปล่านะ?”
จิตใจของเจียงอี้นึกบางอย่างขึ้นได้ลางๆ แต่เมื่อเขาพยายามนึกถึงมัน เขาก็นึกไม่ออก จิตใจของเขาสับสนอย่างรวดเร็วขณะที่เขานึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับการเสริมความแข็งแกร่งให้การป้องกันของเขา หลังจากที่ผ่านไปสิบลมหายใจ เขาก็ตบหัวตัวเองและตะโกนว่า “ใช่แล้ว…การป้องกัน! ข้ามีวิธีเพิ่มการป้องกัน! แผนเส้นทางการไหลเวียนในเปลือกของมนุษย์มด! ตราบใดที่ข้าผสานมันเข้ากับเปลวเพลิงอัสนีได้ การป้องกันของข้าก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ๆ”
เมื่อเขาเข้าไปในทวีปกลายพันธุ์ เขาเคยพบสิ่งที่แปลกมาก นั่นคือมนุษย์มด!
เมื่อการโจมตีของทุกคนปะทะเข้ามา เปลือกของมนุษย์มดจะหลุดออกมาราวกับก้อนหินที่ตกลงไปในพื้นผิวน้ำ ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดถึงมันนักและถ่ายทอดมันให้หยุนเฟยเพื่อให้นางเพิ่มพลังป้องกันของอาคมและข้อจำกัดเท่านั้น
หากควบคุมเปลวเพลิงอัสนีให้เป็นไปตามรอยเส้นทางเดียวกับที่อยู่บนเปลือกมนุษย์มด มันจะเพิ่มการป้องกันจากภายนอกร่างกายได้อย่างแน่นอนและจะทำให้เขาสามารถรอดไปได้นานพอและอาจไปถึงบริเวณใกล้เมืองได้
ความคิดนั้นยอดเยี่ยมมากขณะที่ทฤษฎีนี้ก็มีความเป็นไปได้ด้วย แต่เขาจะผสานมันภายในสิบห้านาทีได้ไหม? มันจะน่าเกรงขามอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้หรือเปล่า?
เขาไม่รู้!
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องทุ่มสุดตัวเพื่อคอยหลบหลีกการโจมตีแล้ว เขายังต้องมุ่งความสนใจไปยังการผสานนั้นด้วย!
“ไม่สิ…..เปลวเพลิงอัสนีไม่ใช่แก่นแท้พลัง แล้วข้าจะควบคุมการเคลื่อนไหวของมันได้เช่นไร?”
เมื่อเจียงอี้กำลังจะผสานมัน เขาก็ตระหนักได้ถึงปัญหาใหญ่ เขาไม่มีทางควบคุมการเคลื่อนไหวของเปลวเพลิงอัสนีได้ ก่อนหน้านี้ การโจมตีของเปลวเพลิงอัสนีทั้งหมดถูกควบคุมโดยมังกรวายุที่สร้างขึ้นจากรูปแบบเต๋าพันธนาการสายลม มันทำให้เปลวเพลิงอัสนีเคลื่อนไหวได้และไม่ใช่พลังแก่นแท้ แล้วเขาจะควบคุมพวกมันให้เคลื่อนไหวรอบๆร่างกายเขาได้อย่างไร?
หลังจากที่คิดเรื่องนี้ เจียงอี้ก็ตบหัวตัวเองอีกครั้งและตะโกนว่า “ไม่สิ! เมื่อพันธนาการสายลมสามารถนำทางการโจมตีเปลวเพลิงอัสนีได้ ทำไมมันจะใช้พันธนาการสายลมเพื่อนำทางเปลวเพลิงอัสนีในทางอื่นไม่ได้ล่ะ?”
เขาปลดปล่อยพันธนาการสายลมเพื่อรวมให้มันเข้ามาหาตัวเขาขณะที่พัดให้เปลวเพลิงอัสนีไปด้านหน้า เจียงอี้พยายามควบคุมลมรอบๆอย่างรวดเร็วและใช้เปลวเพลิงอัสนีหลายสิบสายให้เริ่มไหลเวียนอยู่รอบๆร่างกายของเขา
“มันยังมีบางอย่างไม่ถูกต้อง พันธนาการสายลมนี้ยังควบคุมเปลวเพลิงอัสนีได้ไม่กี่สิบสายเท่านั้น หากข้าต้องการรวมเส้นทางเข้ากับเปลวเพลิงอัสนี เปลวเพลิงอัสนีรอบตัวข้าทั้งหมดจะต้องเคลื่อนไหวไปตามเส้นทางนั้นเพื่อให้ได้ผล มันจะไปมีผลอะไรหากเปลวเพลิงอัสนีเพียงไม่กี่สายเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางเปลือกมด?”
เจียงอี้ขมวดคิ้วและคิดอีกครั้ง
ตูม!
มีการโจมตีถูกยิงมาจากทางด้านขวาและเจียงอี้ไม่มีทางที่จะเลี่ยงมันได้ ร่างของเขาถูกส่งปลิวไปอีกครั้งและหลุมก็ถล่มลงมาซึ่งมันฝังร่างเขาเอาไว้ทั้งเป็น ครั้งนี้เขาไม่ได้หนีไปและอยู่ที่เดิมแทน ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีและมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่เขาตะโกนว่า “พันธนาการสายลมควบคุมเปลวเพลิงอัสนีได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่ข้าเข้าถึงวายุคณานับได้ซึ่งมันสามารถแยกมังกรเพลิงออกมาได้นับหมื่นตัว ซึ่งมันหมายความว่าข้าสามารถแยกมังกรวายุหนึ่งตัวออกเป็นหมื่นตัวได้ ตราบใดที่ข้าผสานพันธนาการสายลมเข้ากับวายุคณานับได้ข้าจะควบคุมเปลวเพลิงอัสนีได้ทั้งหมดใช่หรือเปล่านะ? ใช่แล้ว ต้องใช่แน่ๆ!”