เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 729 ชุดคลื่นคนึง
ในปราสาทมีกลุ่มร้านค้าอย่างน้อยกว่าหนึ่งพันแห่งและยังมีร้านเล็กๆอีกมากมายที่ไม่ได้ตั้งขายเป็นร้าน แต่เป็นเพียงคนที่นั่งอยู่กับของบางชิ้น
ปราสาทมีสองชั้นแต่เจียงอี้ไม่ได้ขึ้นไปและแค่ชี้ไปที่คนที่นั่งอยู่ที่พื้นและถามอย่างสงสัยว่า “นี่คือที่เขาเรียกว่าการทำการซื้อขายในตลาดมืดหรือ?”
“ใช่แล้วล่ะ!”
เฉียนว่านก้วนก้มหัวลงและตอบว่า “ใครก็สามารถเสียศิลาสวรรค์หนึ่งพันก้อนและได้เช่าร้านเล็กๆเป็นเวลาสามวันได้ ซึ่งเจ้าจะวางขายสมบัติหรือของล้ำค่าทั้งหมดที่ต้องการจะขายได้ ส่วนร้านค้าที่ชั้นสองนั้นราคาแพงกว่ามาก และจะต้องจ่ายค่าเช่าร้านเล็กๆด้วยศิลาสวรรค์หมื่นก้อน แน่นอนว่า…ถ้าเราต้องการซื้ออะไรที่ชั้นบนนั้น เราจะต้องเสียศิลาสวรรค์มากกว่าพันก้อน…”
“ธุรกิจมืดจริงๆ…” เจียงอี้บ่นอุบในใจ เพียงแค่การจ่ายค่าเช่าที่ สมาคมการค้าทิวาอรุณก็จะได้ศิลาสวรรค์มาราวๆหลายแสนก้อนต่อวันแน่ เขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่าคนมากมายมาที่นี่เพื่อซื้อสมบัติ มีคนอยู่ที่ชั้นหนึ่งอย่างน้อยก็หลายพันคนและโชคดีที่ปราสาทนั้นใหญ่พอตัวจึงไม่ได้แออัดมากนัก
“ไปเดินดูรอบๆเถอะ กลับมาหาข้าเมื่อพวกเจ้าเจอสิ่งที่ต้องการแล้วกัน”
เจียงอี้โบกมือขณะที่ใจของทุกคนพองโต ที่นี่มีของที่ยอดเยี่ยมและแปลกประหลาดอยู่มากมาย ดวงตาของเฟิ่งหลวนและชิงหยีเป็นประกายเนื่องจากผู้หญิงชอบซื้อข้าวของกันเป็นประจำอยู่แล้ว แม้แต่ดวงตาของเจียงเสี่ยวนู๋เองก็มองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นายน้อย เราจะไปดูตรงนั้นนะเจ้าคะ หากท่านรู้สึกหน่าย เช่นนั้นก็ไปดูของที่อื่นได้เลย พวกเราจะมาหาท่านทีหลังเจ้าค่ะ”
เมื่อชิงหยีเห็นร้านขายเสื้อผ้า ดวงตาของนางก็สว่างขึ้นทันที ส่วนเฟิ่งหลวนก็หยุดนิ่งไปและส่งสายตาไปยังเจียงอี้ ขณะที่เจียงอี้มองไปรอบๆด้วยคิ้วที่ขมวดและถามเฉียนว่าก้วน “ว่านก้วน ที่นี่ปลอดภัยใช่ไหม?”
เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและส่งข้อความเสียงกลับมา “ปลอดภัย มีข้อห้ามในการใช้ความรุนแรงในปราสาทนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม แม้แต่สมาชิกตระกูลลู่เองก็ยังไม่กล้ามาทำตัวกร่างที่นี่ ใครก็ตามที่กล้าลงมือที่นี่จะถูกผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในปราสาทสังหารทันที ที่นี่เป็นตลาดมืดที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นของสมาคมการค้าทิวาอรุณ”
“เข้าใจแล้ว!”
เจียงอี้พยักหน้าและยิ้มให้เฟิ่งหลวนกับสาวน้อยอีกสองคน “พวกเจ้าไปซื้อผ้าผ่อนกันเถอะ เฟิ่งเอ๋อร์ เจ้าเลือกเสื้อผ้าให้เสี่ยวนู๋สักหน่อยสิและไม่ต้องกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะ”
มันเป็นร้านขายของผู้ใหญ่ซึ่งผลิตเสื้อผ้าสตรีเป็นพิเศษและมันไม่เหมาะกับเจียงอี้ที่จะเข้าไปในนั้น เขาจึงให้มังกรวารีสีทองรอหญิงสาวทั้งสามอยู่ด้านนอกขณะที่เขากับเฉียนว่านก้วนพากันไปที่ร้านข้างๆ
“เอ๋?” หลังจากเดินผ่านร้านค้ากว่าสิบร้าน เจียงอี้ก็หยุดนิ่งไปขณะที่เขาเห็นแท่งโลหะสีดำที่วางอยู่ตรงหน้าเข่าของชายผู้หนึ่ง มันมีกลิ่นอายที่โบราณและเก่าแก่ซึ่งมีลายลึกลับบนพื้นผิวที่ดูไม่ธรรมดาเลย
“ศิลาสวรรค์แสนก้อน?”
เมื่อเจียงอี้เห็นป้ายราคาที่ด้านหน้าแท่งนั้น เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเนื่องจากดูเหมือนว่าสินค้าชิ้นนี้จะเป็นสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์ แต่มันกลับขายเพียงศิลาสวรรค์หนึ่งแสนก้อน?
“นายน้อย ท่านหลงใหลในแท่งปราบเจ้าแห่งมังกรนี่หรือ?”
เมื่อชายชรารู้สึกว่าเจียงอี้หยุดนิ่ง ดวงตาที่ปิดสนิทของเขาก็เปิดขึ้นมา เขาถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าวว่า “แท่งปราบเจ้าแห่งมังกรนี้เป็นมรดกตกทอดของตระกูลข้า แต่น่าเสียดายที่ตระกูลข้าเสื่อมถอยลงและสมาชิกตระกูลก็แทบจะอยู่ไม่รอดอีกต่อไป ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขายมัน ดูเหมือนว่านายน้อยจะมาจากตระกูลที่ร่ำรวยนะขอรับ ได้โปรดดูแลรักษามันให้ดีด้วยนะขอรับ” ไอรีนโนเวล
“เอ่อ…”
เจียงอี้ถูกล่อลวงเล็กน้อย ศิลาสวรรค์หนึ่งแสนก้อนนั้นไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลยและชายชราผู้นี้ก็ดูค่อนข้างน่าสงสาร เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณในมือของเขาสว่างขึ้น ขณะที่เขากำลังจะนำศิลาสวรรค์ออกมา ก็มีเสียงของเฉียนว่านก้วนดังก้องอยู่ในจิตใจของเขา “ลูกพี่ อย่าซื้อมัน! มันน่าจะเป็นของปลอม!”
ปลอม?
เจียงอี้กระพริบตาและถามด้วยความงงงวยว่า “ของชิ้นนี้เหมือนจะเป็นของเก่าและดูเหมือนว่าจะอยู่มาได้สักพักหนึ่งแล้ว ลวดลายบนนั้นเองก็ดูลึกลับมากด้วยและเหมือนว่ามันจะมีกลิ่นอายบางอย่างอยู่ด้วยนะ มันจะเป็นของปลอมได้อย่างไรกัน?”
“ฮึฮึ…”
เฉียนว่านก้วนส่ายหัวและส่งข้อความกลับมา “ลูกพี่ เจ้ากำลังดูถูกพ่อค้าใจดำพวกนี้อยู่นะ ทักษะการปลอมแปลงของพวกเขาสูงมาก หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองถามเขาสิว่าเจ้าขอดูมันใกล้ๆได้ไหม และเมื่อเทแก่นแท้พลังเข้าไป เจ้าก็จะรู้ว่าสมบัติชิ้นนี้มันเป็นพลังของสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์หรือเปล่า ใช่ไหมล่ะ?”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เจียงอี้มองชายชราและถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ขอข้าดูสมบัติของท่านใกล้ๆหน่อยได้หรือไม่?”
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปทันทีขณะที่เขาส่ายหัวและตอบว่า “ไม่ได้ ท่านสามารถตรวจสอบได้เช่นนี้เท่านั้นและท่านสามารถใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบมันก็ได้ แต่ท่านจะจับมันเล่นๆไม่ได้ ไม่เช่นนั้นหากนายน้อยมีความสามารถและสลับเปลี่ยนสมบัติของข้าได้ ข้าก็คงจะสูญเสียหนัก”
“ฮึฮึ!”
เจียงอี้หัวเราะเบาๆและหลับตาเพื่อเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ แท่งโลหะนี้มีอาคมที่ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบภายในนั้นไม่ได้ แต่ในสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาจะเพิ่มขึ้นและเขาก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แท่งโลหะปล่อยออกมาได้ เขาเผยรอยยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นและนำเฉียนว่านก้วนเดินออกไป
เมื่อชายชราเห็นว่าเจียงอี้กำลังจะจากไป เขาก็ตื่นตระหนกขึ้นและรีบร้องออกมา “เอ๊ะ? นายน้อย ทำไมท่านถึงไปเสียแล้วล่ะ ท่านคิดว่ามันแพงหรือ? แล้วถ้าแปดหมื่นล่ะ? ถ้าไม่เช่นนั้นห้าหมื่นก็ได้….”
เจียงอี้เพิกเฉยต่อเสียงนั้นไปอย่างสิ้นเชิง แต่เขาก็ค่อนข้างประทับใจในทักษะการปลอมแปลงของชายชราผู้นี้ หากเขาไม่ได้ใช้สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์มองดูมัน เขาก็จะมองไม่เห็นเลยว่ากลิ่นอายนั้นไม่ได้มาจากแท่งโลหะ….แต่มันมาจากหินเล็กๆข้างในนั้น หากเขาไม่ตรวจสอบมันดีๆ เขาก็คงจะถูกหลอกไปแล้ว
หลังจากที่เดินไปรอบๆชั้นนี้ เจียงอี้ก็พบของปลอมมากมายและยังมีแม้กระทั่ง…สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงปลอมด้วย แม้ว่าทักษะของการปลอมแปลงจะสูงมาก แต่มันก็มีความต่างกับสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงของจริง
เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆออกมาจากร้านเสื้อผ้า ขณะที่เฟิ่งหลวนส่งข้อความมาจากที่ไกลๆว่า “นายน้อย เสื้อผ้าที่นี่ค่อนข้างประดับประดามากไปหน่อยและไม่เข้ากับน้องเสี่ยวนู๋เลย ทำไมไม่ไปดูที่ชั้นสองกันหน่อยล่ะเจ้าคะ?”
“ดี ไปเถอะ!”
ชั้นสองก็มีพื้นที่กว้างขวางเหมือนชั้นแรก แต่มีคนน้อยกว่าและคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่คือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนและนายน้อยและคุณหนูที่พากันแต่งกายอย่างเกลี้ยงเกลา เจียงอี้มองไปและดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นมา เขาชี้ไปที่ร้านทางด้านซ้ายและพูดว่า “มีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ทางนั้นซึ่งมันดูดีทีเดียวเลยล่ะ”
ทุกคนมองไปที่นั่นและพยักหน้าเงียบๆ ที่นั่นมีร้านขนาดใหญ่และขายเสื้อผ้าที่งดงามหลากหลายชนิด
“ชุดนี้ดูดีนักและมันเหมาะกับน้องเสี่ยวนู๋มาก!”
ก่อนที่พวกนางจะเดินเข้าไปในร้าน เฟิ่งหลวนก็ชี้ไปทางชุดที่งดงามขณะที่เจียงอี้ก็พยักหน้าเงียบๆ มันเป็นชุดยาวสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอด้วยขนนกสีขาวที่ประกายแสงสีขาวจางๆซึ่งทำให้ชุดนั้นดูบริสุทธิ์, ศักดิ์สิทธิ์และงดงาม มีไข่มุกแปลกๆฝังอยู่บนชุดนั้นซึ่งมันเปล่งแสงสีเหลืองนวลออกมาและทำให้ชุดนั้นยิ่งน่ามองเข้าไปอีก
เจียงอี้หันกลับมามองเจียงเสี่ยวนู๋และเห็นดวงตาของนางเป็นประกาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่านางชอบมันมาก เขาโบกมือและพูดกับเจ้าของร้านวัยกลางคนว่า “เถ้าแก่ ชุดนี้เท่าไหร่?”
“ฮึฮึ!”
หญิงวัยกลางคนสวมชุดสีฟ้าอ่อนและมีกลิ่นอายที่เรียบง่ายและสง่างามเดินออกมาอย่างสบายๆและยิ้มพร้อมกับตอบว่า “ท่านตาถึงมาก นี่เป็นชุดที่ดีที่สุดในร้านของเรา มันคือชุดคลื่นคนึงและเป็นสินค้าแนะนำของทางร้านเรา ส่วนราคานั้นก็ไม่ได้แพงมากนัก เพียงแค่ศิลาสวรรค์สามสิบล้านก้อนเจ้าค่ะ” “สามสิบล้าน!”
เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่ปากของเฉียนว่านก้วนกระตุกไม่หยุด ดวงตาที่สดใสของเสี่ยวนู๋ก็หมองลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ดวงตาของเจียงอี้เองก็ยังหดลง ชุดนี้ราคาสามสิบล้าน? เฟิ่งหลวนและสาวๆซื้อชุดกันเพียงไม่กี่ร้อยที่ชั้นหนึ่งเท่านั้นและพวกนางทั้งสองก็ใช้ศิลาสวรรค์ไปไม่เกินหมื่นก้อน
เจียงเสี่ยวนู๋พึมพำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะละสายตาจากชุดยาวนั้นไปและหัวของนางสั่นราวกับกลองที่ถูกตีและพูดว่า “นายน้อย เราไม่ซื้อชุดนี้หรอก ข้าไม่ได้ชอบชุดนี้เจ้าค่ะ!”