เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 731 เสื้อคลุมเงาวายุ
“ฮึฮึ!”
เจียงอี้ส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่คนอวดดี ตราบใดที่เขาไม่ใช่ตระกูลลู่ ทำไมเราถึงต้องกลัวเขาด้วย? ข้าล่ะรังเกียจ…พวกขอบเขตเทียนจุนระดับกลางที่รับใช้เขาจริงๆ”
ตระกูลหงเป็นตระกูลอันดับสามในเมืองพยัคฆ์ขาว ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ใช่หนึ่งในสิบสามตระกูลของเกาะแห่งบาป ตราบใดที่ไม่ใช่ผู้ปกครองของเผ่าเทพประทาน ตระกูลนี้ก็ไม่น่ากลัวมากนัก จะบาดหมางกันก็คงไม่เป็นอะไร
ที่สำคัญที่สุดคือเขาเป็นเพียงแค่คุณชายเจ้าสำอางที่สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญมาได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ตระกูลของเขาไม่น่าจะส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดมาเพียงเพราะคำพูดของนายน้อยหงคนนี้
แต่แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดจะมาจริงๆแต่เจียงอี้ก็คงไม่มีวันถอยให้ เจียงเสี่ยวนู๋เป็นเหมือนดั่งย้อนเกล็ดมังกรของเขา เขาจะสังหารผู้ใดก็ตามที่ทำให้เจียงเสี่ยวนู๋เป็นทุกข์ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจัง ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เขาก็จะพาคนของเขาใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไป
เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและบอกเฉียนว่านก้วนว่า “ว่านก้วน เอาศิลาสวรรค์ไปหาข้อมูลของอู๋ซวงและหยุนเฟยที”
“ลูกพี่ วางใจได้เลย”
เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจัดการให้แล้ว พวกเขาน่าจะไปถึงเมืองมังกรฟ้าแล้ว ข้าจัดการเรียบร้อยแล้วแอม…ข่าวของพวกเขากำลังกลับมา”
“อื้อ!”
เจียงอี้ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีกและพาคนอื่นๆวนเวียนไปรอบๆ เขาไม่ได้ทำมันเพื่อความสนุกแต่เพราะเขาคิดว่ามันเป็นไปได้สูงที่นายน้อยหงจะกำลังรอเขาอยู่นอกปราสาท เมื่อเป็นเช่นนั้น เจียงอี้ก็จะปล่อยให้เขารอไปอีกสักหน่อย เจียงอี้เดินเล่นไปรอบๆอย่างมีความสุข แต่เจียงอี้และคนอื่นๆไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนเขาและค่อนข้างกังวล หลังจากเดินไปรอบหนึ่ง เจียงอี้ก็หยุดที่ร้านเล็กๆที่มีชายวัยกลางคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ มีสมบัติประหลาดอยู่ตรงหน้าชายผู้นั้น มันเป็นกุญแจทองแดงที่ขึ้นสนิมและแผ่กลิ่นอายความเก่าแก่ออกมา ลวดลายบนกุญแจนั้นค่อนข้างลึกลับซับซ้อน กุญแจนั้นแปะราคาอยู่ที่ศิลาสวรรค์สามล้านก้อน
“ลูกพี่ ไปกันเถอะ มันต้องเป็นของปลอมอีกแน่ ถึงไม่ใช่ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรต้องใช้ มันไม่ใช่สมบัติ”
เฉียนว่านก้วนบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ ในทางกลับกัน เจียงอี้กลับยิ้มและและส่ายหัวขณะที่เขาหลับตาลงและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์เพื่อตรวจสอบอย่างรอบคอบ เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ลืมตาขึ้นมาและถามว่า “ท่านได้กุญแจนี้มาจากที่ไหนหรือ?”
ดวงตาของชายผู้นั้นปิดสนิท เขาไม่ได้ลืมตาขึ้นตอนที่เจียงอี้และกลุ่มของเขาหยุดดูอยู่ที่นอกร้านของเขา จนกระทั่งเขาถูกถาม จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “หากเจ้าอยากได้มัน ก็เอาศิลาสวรรค์มาให้ข้า ทำไมถึงต้องถามมากความด้วย?”
“ฮึ่ม!”
เฉียนว่านก้วนเริ่มหงุดหงิดและดึงแขนเจียงอี้มาและกำลังจะไปจากที่นี่ แต่เจียงอี้โบกมือของเขาและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าซื้อสินค้าของท่านได้ แต่ท่านต้องบอกข้าบางอย่างเกี่ยวกับมัน”
“เอ่อ…”
เฉียนว่านก้วน, เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆมองเจียงอี้อย่างสับสน แม้ว่ากุญแจนี้จะเป็นของจริง แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สมบัติป้องกันหรือโจมตีอะไร มันอาจเอาไว้ใช้เปิดหีบสมบัติ แต่กุญแจจะไปมีประโยชน์อะไรหากพวกมันไม่มีกล่องสมบัติ? ศิลาสวรรค์สามล้านก้อนนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย
“เจ้าจะซื้อมันจริงๆหรือ?” ชายคนนั้นมองไปที่เจียงอี้อย่างสงสัย เมื่อเห็นเจียงอี้พยักหน้า เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าเจอมันแถวๆซากปรักหักพังที่ทวีปจักรพรรดิบูรพา ข้าจะไม่ปิดบังอะไรเจ้าทั้งนั้น ข้าเคยสงสัยว่ากุญแจดอกนี้เคยเอาไว้ใช้เปิดบ้านสมบัติ แต่ข้าค้นหามันมานานกว่าสิบปีและเตร็ดเตร่ไปยังซากปรักหักพังโบราณมากมายแต่ก็ไม่พบอะไรเลย กุญแจดอกนี้ไม่มีอะไรเลย หากเจ้าต้องการมันจริงๆ….ข้าให้เจ้าแค่ศิลาสวรรค์ล้านก้อนก็ได้”
“ได้ ตกลง!”
เจียงอี้พยักหน้าและหยินศิลาสวรรค์ล้านก้อนออกมาก่อนที่จะเก็บกุญแจดอกนั้นและจากไป
เมื่อเขาเห็นเฉียนว่านก้วนกำลังจะเปิดปากพูดออกมา เขาก็โบกมืออย่างรวดเร็วและพูดอย่างเงียบๆ “ว่านก้วน ไม่ต้องพูดอะไรอีก กุญแจนี่เป็นของจริง นอกจากนี้อาคมและข้อจำกัดข้างในนั้นวิเศษมาก ศิลาสวรรค์ล้านก้อนนั้นก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่หากข้าบังเอิญเปิดบ้านสมบัติเจอในอนาคต เราจะทำกำไรได้มหาศาลเลยนะ”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เฉียนว่านก้วนหยุดพูดทุกสิ่ง และพวกเขาก็เดินไปรอบๆและไปหยุดอยู่ที่ร้านใหญ่ๆ มันมีคำว่าทิวาอรุณอยู่เหนือร้าน เห็นได้ชัดว่าเป็นร้านของสมาคมการค้าทิวาอรุณแห่งนี้
ร้านนั้นใหญ่มากและความยาวกับความกว้างแผ่ขยายออกไปราวๆสามกิโลเมตร มันถูกแบ่งออกเป็นห้องโถงเล็กๆและสมบัติมากมาย มันอุดมไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์และสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์ เจียงอี้มีเกราะเมฆาอัคคีไว้ป้องกันและหม้อเวหาสลาตันเพื่อโจมตีแล้ว จริงๆเขาไม่ได้ขาดแคลนสมบัติอะไรอยู่แล้ว แต่เขาเข้ามาหาดูสมบัติหายาก เขาชำเลืองมองเฟิ่งหลวนและชิงหยีแล้วพูดว่า “พวกเจ้าลองไปดูรอบๆสิ หากพวกเจ้าชอบอะไรก็บอกข้าได้และข้าจะซื้อให้เอง”
ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ใช้ศิลาสวรรค์ของเจียงอี้ไปสามสิบล้านก้อนแล้วและไม่กล้าที่จะไปดูอะไรอีก นางเพียงแค่ตามเจียงอี้ไปเท่านั้น ส่วนเฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างก็พากันรู้สึกตื่นเต้นมาก ทุกคนเดินและถามสินค้าไปรอบๆตลอดทาง
“นายน้อยไม่อยากได้สมบัติเหล่านี้บ้างหรือเจ้าคะ?”
หญิงรับใช้ที่คอยปรนนิบัติเจียงอี้และคนอื่นๆเห็นว่าเจียงอี้เพียงแค่ถามมาเรื่อยๆระหว่างทางโดยไม่มีเจตนาที่จะซื้อสมบัติใดๆ ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า “นายน้อย เรามีสินค้าพิเศษอยู่ในร้านของเราซึ่งมัน…เป็นสมบัติที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับสมบัติที่นี่หากนายน้อยมีศิลาสวรรค์มากพอ ข้าน้อยจะนำสมบัติมาให้ท่านดูเจ้าค่ะ”
“ที่นี่มีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงจริงหรือ?”
เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนตกใจ สมาคมการค้าทิวาอรุณไม่เก็บสมบัตินี้ไว้ให้คนของพวกเขาและยังขายมันอีกด้วย?! เจียงอี้นิ่งไปชั่วขณะและถามว่า “ต้องใช้ศิลาสวรรค์เท่าไหร่?”
หญิงรับใช้ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “ห้าสิบล้านเจ้าค่ะ!” Aileen-novel
“เอ่อ…” เจียงอี้แสดงท่าทางอับอาย ส่วนปากของเฉียนว่านก้วนกระตุกมาก เจียงอี้โบกมือและพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าจ่ายไม่ไหวหรอก”
“นายน้อยถ่อมตัวไปแล้วเจ้าค่ะ”
หญิงรับใช้สุภาพมาก นางหันมามองและเริ่มแนะนำเจียงอี้ “ยังมีสมบัติพิเศษอื่นๆให้ท่านชมอีกมากมาย อย่างสิ่งประดิษฐ์ป้องกันดวงจิตวิญญาณ, ไข่มุกหลีกอัสนี, เสื้อคลุมที่เพิ่มความเร็ว….”
ก่อนที่หญิงรับใช้จะพูดจบ เจียงอี้ก็เลิกคิ้วและขัดจังหวะนาง “มันมีเสื้อคลุมที่เพิ่มความเร็วด้วยหรือ?”
“ใช่เจ้าค่ะ!”
นางพยักหน้ายืนยันและกล่าวว่า “มันเป็นของตระกูลถังที่ทวีปจักรพรรดิบูรพา ด้านในนั้นมีรูปแบบเต๋าวายุอยู่ ซึ่งสามารถรวมพลังลมเพื่อเพิ่มความเร็วให้แก่จอมยุทธได้”
ดวงตาของเจียงอี้เป็นประกายและเริ่มสนใจ ขอบเขตของแก่นแท้พลังเขาต่ำกินไป แม้ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพจะเพิ่มความเร็วของเขาไปมาก แต่เขาก็ยังเร็วพอๆกับขอบเขตจินกังขั้นสูงสุดเท่านั้น หากเขาเร็วได้มากกว่านี้ มันจะทำให้เขาสังหารผู้อื่นด้วยเปลวเพลิงอัสนีได้ง่ายกว่าเดิมด้วย
เขาถามอย่างรวดเร็วว่า “มันสามารถเพิ่มความเร็วได้เพียงใด?”
หญิงรับใช้ไม่ได้ตอบ แต่นางทำท่าทางเชิญเขาเข้าไปด้านในแทน นางพูดขณะที่เดินข้างๆเจียงอี้ “นายน้อยเชิญทางนี้เจ้าค่ะ ข้าจะอธิบายอย่างละเอียดเมื่อเราเข้าไปด้านใน”
เจียงอี้, เฉียนว่านก้วนและมังกรวารีสีทองเดินตามหญิงรับใช้ไปที่ห้องโถงข้างๆ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ หญิงรับใช้ชี้ไปที่กล่องสมบัติทั้งสองกล่องที่อยู่บนโต๊ะสีทองและพูดว่า “ชื่อของผ้าคลุมทั้งสองนี้คือ “เมฆาวายุ” และ “เงาวายุ” ตามลำดับเลยเจ้าค่ะ ข้าขอเรียนถามความเร็วที่เร็วที่สุดของนายน้อยได้หรือไม่เจ้าคะ?”
เจียงอี้พยักหน้าและตอบว่า “จินกังขั้นสูงสุด”
หญิงรับใช้พยักหน้าและกล่าวว่า “หากนายน้อยขัดเกลาเสื้อคลุมเมฆาวายุ ความเร็วของท่านจะขึ้นไปถึงขอบเขตเทียนจุนขั้นแรก แต่หากท่านขัดเกลาเสื้อคลุมเงาวายุ ความเร็วของท่านจะขึ้นไปถึงขอบเขตเทียนจุนขั้นที่สามเจ้าค่ะ!”
“ขอบเขตเทียนจุนขั้นที่สาม!”
ดวงตาของเจียงอี้เบิกกว้างทันที เสื้อคลุมนี้น่าอัศจรรย์จริงๆ มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดโดยใช้รูปแบบเต๋าวายุระดับสูงหรือเปล่า? ความเร็วของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นที่สามรวมกับเปลวเพลิงอัสนีของเขาจะกลายเป็นอาวุธร้ายแรงทันที
เขากลืนน้ำลายก่อนที่จะถามว่า “เสื้อคลุมเงาวายุต้องจ่ายศิลาสวรรค์เท่าไหร่?”
หญิงรับใช้จึงยิ้มจางๆและชูสองนิ้วขึ้นมา เฉียนว่านก้วนจึงพยักหน้าและพูดว่า “ยี่สิบล้าน? ลูกพี่ ดีเลย เราซื้อมันได้!”
หญิงรับใช้ยิ้มเบาๆ “นายน้อย ไม่ใช่ยี่สิบล้านแต่เป็นสองร้อยล้านเจ้าค่ะ!”
พรึ่บ!
ร่างของเจ้าอ้วนเฉียนสั่นเทา เขาล้มลงไปกองกับพื้นและตากลับกลอกไปมาและหมดสติไป